ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน - ตอนที่ 703 ฉู่เซวียนออกบ้าน(2)
พลังของอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ได้สั่นคลอนความโกลาหล
ฉู่เซวียนนั่งอยู่ในรถม้า ทั่วร่างของเขาอาบไล้ไปด้วยกลิ่นอายอัน สง่างามจากอ านาจเทพเจ้าบรรพกาล
เฮยเยว่และคนอื่น ๆ ตกตะลึง
นี่คืออาจารย์ของพวกเขาหรือ?
ฉู่เซวียนก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน
ในที่สุดเขาก็สามารถออกไปข้างนอกเพื่ออวดโอ้ได้แล้ว!
ในที่สุดรถม้าดาราจตุวิญญาณก็ถูกน าไปใช ้ประโยชน์
อสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ปกป้ องแต่ละทิศของรถม้า และแต่ละตัวได้ บรรลุขอบเขตเบิกฟ้ าแยกปฐพีแล้ว
เขาไม่รู ้ว่าระบบจัดการให้ทั้งสี่ตนนี้กลายเป็ นราชรถได้อย่างไร แต่มันก็ไม่ส าคัญ
หลังจากตกตะลึงไปชั่วขณะ ซูเซียนเอ๋อร ์ก็ฟื้นคืนสติและก้าวเข้า สู่เส้นทางดวงดาราอย่างตื่นเต้นก่อนจะขึ้นรถม้าไป
นางยืนอยู่ข้างฉู่เซวียนอย่างเชื่อฟัง ท้ายที่สุดแล้ว นางเป็ นสาว ใช ้ของเขา ดังนั้นนางจึงมีหน้าที่ติดตามนายน้อยไป
ในช่วงเวลาต่อมา ฉู่อวิ๋นก็รีบวิ่งเข้าไปในรถม้า ศิษย์ของฉู่เซ วียนทุกคนรีบก้าวไปบนเส้นทางดวงดาราด้านหลังรถม้า
พวกเขาตื่นเต้นมาก
“วันนี้ข้าจะสังหารยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหล และเริ่มต้นยุค ใหม่ในความโกลาหล” ฉู่เซวียนกล่าวอย่างไม่แยแส
การที่ศิษย์ของเขาได้เห็นโลกก็เป็ นสิ่งที่ดีเช่นกัน
ในเวลาเดียวกัน เขาจะบอกกับยอดฝีมือในความโกลาหลว่าคน เหล่านี้เป็ นศิษย์ของเขาเพื่อข่มขู่ยอดฝีมือเหล่านั้น และป้ องกันไม่ให้ ศิษย์ของเขาถูกรังแกเมื่อพวกเขาออกไปสู่ความโกลาหล
ภายนอกโลกศักดิ์สิทธิ์ ยอดฝีมือทั้งสี่คนถูกปกคลุมไปด้วยเลือด พวกเขารีบมารวมตัวกัน
พวกเขาตื่นเต้นมาก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะซื้อเวลาให้ผู้อาวุโส ได้ส าเร็จ
ผู้อาวุโสคนนั้นกาลังจะลงมือแล้ว!
สีหน้าของเจวี๋ยกลายบูดบึ้ง ยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลที่เหลือก็ปรากฏเช่นกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาทั้งหมดอยู่ค่อนข้างห่างไกล โดยเฉพาะยอดฝีมือโบราณทั้งสองที่อยู่มาเนิ่นนานกว่าคนอื่น ๆ
ทั้งสองมองไปที่เต๋าสวรรค์ ไม่มีใครรู ้ว่าพวกเขากาลังคิดอะไรอยู่
เส้นทางดวงดาวแผ่ขยายไปสู่ความโกลาหลทาให้ผู้ที่เห็นต้องตื่น ตาตื่นใจ เสียงคารามของอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ดังขึ้น
ยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลคนใดที่มีศักดิ์ศรีและกลิ่นอาย ยิ่งใหญ่เช่นนี้?
เจวี๋ยมองไปที่คนอื่น ๆ
“มียอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลลึกลับ พวกเจ้าทุกคนอยากจะ เข้าร่วมกับเขาหรือไม่?”
เสียงโบราณดังขึ้น
“เขาเป็ นคนที่ไม่สามารถควบคุมได้ ไม่ต้องกังวล เราจะไม่นั่งดู เฉย ๆ เป็ นแน่”
เจวี๋ยตะคอกอย่างเย็นชาในใจ
คนเหล่านี้เพียงปล่อยให้เขาทดสอบความแข็งแกร่งของอีกฝ่ าย
เจวี๋ยรู ้ว่าคนเหล่านี้ล้วนกลัวการเติบโตและศักยภาพของเขา เช่นเดียวกับกฎแห่งการดับสูญของเขา
อีกฝ่ ายกลัวว่าเมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว เขาจะ สามารถขัดขวางไม่ให้พวกเขาพัฒนาต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม มันจะสาคัญอะไรหากเขามีศัตรูที่แข็งแกร่งมาก ขึ้นอีกหนึ่งคน?
เจวี๋ยมั่นใจว่าตนจะต้องกลายเป็ นยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหล ที่แข็งแกร่งที่สุด
รถม้าพุ่งขึ้นมาจากโลกศักดิ์สิทธิ์และลัดเลาะไปตามเส้นทาง ดวงดาวที่ดูเหมือนจะปรากฏอยู่ใต้วงล้อของมัน
บนรถม้านั้นมีสิ่งมีชีวิตอันสง่างามที่ไม่สามารถมองดูได้โดยตรง
แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลก็สามารถสัมผัสถึงความ ยิ่งใหญ่และพลังของยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลที่ลึกลับนั้นได้
แม้ว่าใบหน้าของเขาจะไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ เขาดูเหมือนเทพเจ้าที่ลงมาจากสรวงสวรรค์
ในขณะนี้ พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง รวมถึงยอดฝีมือทั้งสี่ที่เพิ่ง บรรลุขอบเขตปฐมโกลาหล
นี่คือผู้อาวุโสลึกลับคนนั้นหรือ?
เขายิ่งใหญ่และสง่างามมาก!
เมื่อเปรียบเทียบกับยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลคนอื่น ๆ นี่ มันแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด
นอกจากนี้ นั้นใช่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่หรือไม่?
ไม่แปลกใจเลยที่อสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่จะหายไป ปรากฎว่าพวกเขา ยอมจานนต่อสิ่งมีชีวิตที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้
จากนั้น พวกเขาก็มองดูผู้คนบนเส้นทางดวงดารา
นี่ใช่ผู้ฝึกยุทธ ์ที่โดดเด่นในลานประลองเต๋าสวรรค์หรือไม่?
ผู้อาวุโสคนนี้คือคนที่ฝึกฝนพวกเขาหรือ?
ไม่น่าแปลกใจเลยที่อีกฝ่ ายสามารถเอาชนะอวตารของพวกเขา ได้
เมื่อฉู่เซวียนปรากฏตัว ยอดฝี มือจานวนนับไม่ถ้วนที่ให้ความ สนใจเต๋าสวรรค์ก็ตกตะลึง
บรรพชนทั้งสามอดไม่ได้ที่จะโผล่ออกมาจากที่ซ่อนด้วยความ ตกใจ เช่นเดียวกับเทพเจ้าโกลาหลบรรพกาลอื่น ๆ อีกมากมาย
ช่างน่าสะพรึงกลัวอะไรเช่นนี้?
คนผู้นี้สง่างามมากจนไม่สามารถมองดูเขาโดยตรงได้
ฉู่เซวียนมีความสุขมาก
เส้นทางดวงดาราแผ่ขยายไปสู่ความโกลาหล ในขณะที่ราชรถ เคลื่อนผ่านเส้นทางดวงดาว อานาจเทพเจ้าบรรพกาลก็เปล่งประกาย ความยิ่งใหญ่ออกมา
เขากาลังมองดูยอดฝี มือขอบเขตปฐมโกลาหลคนอื่น ๆ จาก ด้านบน
หากไม่รวมยอดฝี มือสี่คนที่เพิ่งบรรลุขอบเขตปฐมโกลาหล มี ยอดฝีมือความโกลาหลสูงสุดเจ็ดคน ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก
ฉู่เซวียนเดาว่ามันเกี่ยวข้องกับเส้นทางสู่ขอบเขตปฐมโกลาหลที่ ถูกปิดกั้น
เขามองดูความโกลาหล
นี่เป็ นครั้งแรกที่ฉู่เซวียนสังเกตความโกลาหลจากภายนอกเต๋า สวรรค์ ราวกับว่าเขาสามารถมองเห็นความโกลาหลที่กว้างใหญ่ ทั้งหมดในระยะสายตาของเขา
อย่างไรก็ตาม มันเป็ นเพียงภาพมายาเท่านั้น แม้เขาจะเป็ นยอด ฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหล แต่ก็ไม่สามารถมองเห็นปลายขอบของ ความโกลาหลจากที่นี่ได้
เขามองเข้าไปในระยะไกล
มีหุบเหวโกลาหลที่น่าสะพรึงกลัวและมีกฎปฐมความโกลาหล เก่าแก่พันอยู่รอบ ๆ นอกจากนี้ ดูเหมือนจะมีบางอย่างซ่อนอยู่ใต้หุบ เหวนั้น
เขามองเห็นหุบเหวเล็ก ๆ อีกสองแห่งซึ่งไม่ได้ถูกล้อมรอบด้วย พลังของกฎปฐมโกลาหลเก่าแก่นั้น แต่กลับมีพลังแห่งการดับสูญ บรรจุอยู่ภายในนั้นอย่างชัดเจน
ที่จริงแล้วมียอดฝี มือขอบเขตปฐมโกลาหลสองคนที่ถูก ปราบปรามที่นั่น!
ส่วนคนที่ปราบปรามพวกเขานั้น…
เห็นได้ชัดว่าเป็ นเจวี๋ย
คนผู้นี้ไม่ใช่คนดีจริง ๆ
นอกจากนี้ ด้วยพลังกฎแห่งการดับสูญของเขา มันทาให้เขา แข็งแกร่งเป็ นอย่างมาก
ดวงตาของเจวี๋ยเป็ นประกายด้วยแสงเย็นในขณะที่เขาพูดว่า “ใน ความโกลาหล ไม่มีเคยมียอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลเช่นเจ้ามา ก่อน เจ้ามาจากที่ใด?”
“เจ้าได้เปลี่ยนมหาเต๋าแห่งเก้าดินแดน และรบกวนความโกลาหล เจ้าต้องให้คาอธิบายเรื่องนี้!”
ฉู่เซวียนมองดูเขา
“เจ้าปิดกั้นเส้นทางสู่ขอบเขตปฐมโกลาหล และทาให้การเติบโต ของความโกลาหลอ่อนแอลง เจ้าสมควรได้รับการลงโทษหรือไม่?”
“วันนี้ ข้าจะลบตัวตนของเจ้าออกจากความโกลาหล!”
กลิ่นอายของเจวี๋ยระเบิดออกมา ความโกลาหลสั่นสะเทือนและ ชั้นของมิติก็แตกสลาย ทันใดนั้น ชั้นสูงสุดแห่งความโกลาหลก็ถูก เปิดเผย
กฎแห่งปฐมโกลาหลล้อมรอบบริเวณโดยรอบ ปกป้ องชั้นสูงสุด แห่งความโกลาหล
ยอดฝีมือในความโกลาหลทั้งหมดหนีจากที่นี่
มันเป็ นการต่อสู้ระหว่างยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหล
แม้แต่คลื่นกระแทกเล็ก ๆ ก็เพียงพอที่จะทาให้พวกเขากลายเป็ น เถ้าถ่าน!
“นับตั้งแต่ข้าบรรลุขอบเขตปฐมโกลาหล ข้าก็ได้ปราบปราม ยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลมามากมาย ข้าเกรงว่าวันนี้เจ้าก็จะ กลายเป็ นหนึ่งในนั้น!”
การปรากฏตัวของฉู่เซวียนน่าตกตะลึง แต่เจวี๋ยรู ้สึกว่าอีกฝ่ าย เป็ นเพียงยอดฝีมือที่โดดเด่นคนหนึ่งและไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลัว
เทพเจ้ายักษ์โกลาหลและคนอื่น ๆ ก็ปล่อยกลิ่นอายของพวกเขา ให้มุ่งเป้ าไปที่เจวี๋ย นี่คือศัตรูที่พวกเขาเกลียดชัง
“พวกเจ้าเพิ่งทะลวงมาได้และยังไม่ทาให้การฝึ กฝนของเจ้า เสถียร อย่าเข้าไปยุ่งจะดีกว่า” เสียงโบราณดังขึ้น
กลิ่นอายของเขาระงับยอดฝีมือทั้งสี่คนไว้
ฉู่เซวียนเลิกคิ้ว แต่เขาไม่รีบร ้อนที่จะโจมตี เขามองไปที่ยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลอีกหกคน “เจ้าคิดอย่างไร?” เขากำลังพิจารณาว่าควรจะฆ่าพวกเขาทั้งหกคนหรือไม่ หลังจากนั้นเขาจะปล่อยยอดฝีมือทั้งสองที่ถูกกักขัง
จากนั้นยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลจะเป็ นหนี้เขาและจะรับ ฟังค าแนะน าของเขา
ในแง่หนึ่ง เขาคงจะรวมความโกลาหลให้เป็ นหนึ่งเดียวได้
“เจ้าต้องให้คาอธิบายแก่เรา เหตุใดเต๋าสวรรค์ถึงเกิดขึ้น? เจ้า ตั้งใจจะทาอะไร?”
ยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลกล่าว
“ค าอธิบาย? เจ้ามีค่าพอให้ข้าอธิบายหรือไม่?”
ฉู่เซวียนหัวเราะอย่างดูถูก
เขาลงจากรถม้าไปสู่เส้นทางแห่งดวงดานส
รูปร่างอันสง่างามอย่างไร ้ที่ใดเปรียบของเขาเกือบจะทาให้เขาดู เหมือนเป็ นจ้าวแห่งความโกลาหล
ในช่วงเวลาหนึ่ง หัวใจของยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลสั่น ไหวเล็กน้อย
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย
คาพูดที่เขากาลังจะพูดถูกกลืนกลับทันที
กลิ่นอายบนร่างกายของเขาก็ถูกยับยั้งเล็กน้อยเช่นกัน
เขาไม่พูดอะไรและถอยออกไปเล็กน้อย
การเคลื่อนไหวของเขาถูกปิดบังไว้ ความสนใจของยอดฝี มือ ขอบเขตปฐมโกลาหลที่เหลือมุ่งเน้นไปที่ฉู่เซวียน ดังนั้นพวกเขาจึง ไม่สังเกตเห็นสิ่งนี้
ฉู่เซวียนเลิกคิ้ว
สิ่งนี้เริ่มน่าสนใจ
นั่นคือยอดฝีมือโบราณในขอบเขตปฐมโกลาหลหรือไม่?
อีกฝ่ ายสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงรีบถอยออกไปทันที เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ข้องเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่กาลังจะเกิดขึ้น
สัญชาตญาณของคนผู้นี้ต้องไม่ธรรมดาเป็ นแน่
เป็ นไปได้ว่าเขาต้องพึ่งพาความสามารถนี้เพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย ครั้งแล้วครั้งเล่าก่อนจะบรรลุขอบเขตปฐมโกลาหลในที่สุด
‘ข้าจะไม่ฆ่าคนผู้นี้’
เขาคิดว่ามันคงจะน่าเบื่อหากยอดฝีมือขอบเขตปฐมโกลาหลใน ความโกลาหลทั้งหมดเป็ นคนของเขา
จะต้องมีการแข่งขันอยู่เสมอ
ส าหรับอีกห้าคนที่เหลือนั้นจะขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะเข้าใจ สถานการณ์ได้หรือไม่
แต่เหนือสิ่งอื่นใด เจวี๋ยจะต้องถูกฆ่า
มิฉะนั้น เมื่อฉู่เซวียนก้าวข้ามความโกลาหล คนผู้นี้จะตัด เส้นทางสู่ขอบเขตปฐมโกลาหลอีกครั้งอย่างแน่นอน และมันจะ คุกคามการเติบโตของเต๋าสวรรค์