ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน - ตอนที่ 714 ล้านปี(1)
ฉู่เซวียนยืนอยู่บนด้านหลังของสิ่งมีชีวิตโกลาหลและสังเกตการ ขยายตัวของความโกลาหล
เมื่อเปรียบเทียบกับปราณโกลาหลแห่งการสรรค์สร ้างทั้ง 3,000 ก้อนในร่างกายของเขา ความโกลาหลนั้นทรงพลังยิ่งกว่า
ยิ่งเขาสังเกตเห็นขอบของความโกลาหลมากเท่าใด เขาก็ยิ่ง ได้รับข้อมูลเชิงลึกมากขึ้นเท่านั้น
ในที่สุดเขาก็รู ้สึกว่าตนสามารถก้าวข้ามความโกลาหลได้
มันไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
เนื้อของสิ่งมีชีวิตโกลาหลต้องใช ้เวลากว่าสิบปี ในการเคี่ยว ก่อนที่จะพร ้อมทาน
ซูเซียนเอ๋อร ์กินเพียงชิ้นเล็ก ๆ ในไม่ช ้า นางก็รู ้สึกว่าเส้นทางเต๋า และร่างกายของตนแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางไม่สามารถทานมันได้อีกต่อไป
ฉู่เซวียนแบ่งเนื้อที่เหลือออกเป็ นสัดส่วนก่อนจะส่งไปให้ติงเยว่ และศิษย์คนอื่น ๆ
เขาทานส่วนที่เหลือด้วยตัวคนเดียว
เนื้อของสิ่งมีชีวิตโกลาหลสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้ ร่างกายของคน ๆ หนึ่งได้อย่างมาก ทั้งยังสามารถรักษาเส้นทางเต๋า ของยอดฝีมือขอบเขตเบิกโลกาอีกด้วย
แน่นอนว่ามันก็อร่อยมากเช่นกัน
บ้านหลังเล็ก ๆ อยู่บนหลังของสิ่งมีชีวิตโกลาหลและติดตามมัน ไปรอบ ๆ สิ่งมีชีวิตโกลาหลเหล่านี้มักจะอยู่รอบชายขอบของความ โกลาหล
ในบางครั้ง ฉู่เซวียนจะตัดเนื้อบางส่วนของเขาออก
ส่วนหนึ่งถูกปรุงเป็ นโอสถ
อีกส่วนหนึ่งถูกใช ้โดยซูเซียนเอ๋อร ์เพื่อทาเป็ นเนื้อแห้งนานา ประเภท
ส่วนที่เหลือจะถูกเก็บไว้เพื่อปรุงอาหาร ฉู่เซวียนไม่ได้ทาสิ่งนี้กับ สิ่งมีชีวิตโกลาหลเพียงตนเดียว เมื่อใดก็ตามที่บ้านพักของเขาผ่าน สิ่งมีชีวิตโกลาหล เขาจะตัดเนื้อของอีกฝ่ายออกมาเล็กน้อย
ผลลัพธ ์ของเนื้อเหล่านี้แตกต่างกัน มีบางชิ้นที่สามารถเสริม ความแข็งแกร่งให้กับวิญญาณได้เช่นกัน
มีสิ่งมีชีวิตโกลาหลที่มีเนื้อที่สามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับ วิญญาณได้
หลังจากผ่อนคลายมานับร ้อยปี ฉู่เซวียนเข้าสู่การปิดด่านอีก ครั้ง แม้ว่าตอนนี้เขาจะรู ้สึกว่าการก้าวข้ามความโกลาหลนั้นอยู่ไม่ ไกลเกินเอื้อม แต่เขาก็ยังต้องใช ้เวลาอีกนานกว่าจะท าส าเร็จ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในชั่วพริบตาก็ผ่านไปหนึ่งล้านปี
สาหรับสิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ มันเป็ นเวลาที่ยาวนานมาก
การเปลี่ยนแปลงมากมายเกิดขึ้นในโลกศักดิ์สิทธิ์ และอัจฉริยะ จากหลายเผ่าพันธุ์ก็เริ่มจะปรากฏตัว โดยเฉพาะเผ่าพันธุ์มนุษย์
เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้มาถึงยุคทองของพวกเขาแล้ว เมื่อเหล่า อัจฉริยะอยู่รวมกัน อัจฉริยะเผ่าพันธุ์มนุษย์นับว่าโดดเด่นที่สุด
เผ่าพันธุ์ที่ทรงพลังอื่น ๆ นั้นดูจืดจางลงเมื่อเทียบกับเผ่าพันธุ์ มนุษย์
มีผู้ฝึกยุทธ ์มารปรากฏตัวในเผ่าพันธุ์มนุษย์บ้างเช่นกัน อย่างไร ก็ตาม มันแตกต่างจากผู้ฝึ กยุทธ ์เผ่าพันธุ์มาร วิถีมารได้ผ่านการ เปลี่ยนแปลงหลายอย่างแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากการรวมตัวกันของอัจฉริยะเผ่าพันธุ์ มนุษย์ การปราบปรามวิถีมารก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น
ในโลกศักดิ์สิทธิ์ มีพันธมิตรสามกลุ่มซึ่งมีอยู่เพื่อควบคุมซึ่งกัน และกัน
โลกศักดิ์สิทธิ์ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ดูเหมือนว่ามันจะไร ้ขอบเขต
แม้จะผ่านการพัฒนามานับล้านปี แต่มันก็ยังไม่ถูกสารวจอย่าถี่ ถ้วน
นี่เป็ นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งสาหรับดินแดนสวรรค์ เนื่องจากมีผู้ฝึกยุทธ ์ขอบเขตเต๋านิรมิตไม่มากนัก
ดินแดนสวรรค์อันกว้างใหญ่และไร ้ขอบเขตเกือบจะดูเหมือนว่าง เปล่า ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากผู้ฝึกยุทธ ์ในขอบเขตเต๋านิรมิตส่วนใหญ่ อยู่ในการปิดด่าน
ในความเป็ นจริงไม่มีใครรู ้ว่าจะได้พบกับยอดฝีมือที่ปิดด่านได้ใน ที่ใด
ยมโลกเริ่มแข็งแกร่งขึ้นแล้ว
สังสารวัฏก็สมบูรณ์และแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีอัจฉริยะที่สามารถเข้าใจความหมายของ สังสารวัฏและยังใช ้มันเพื่อหลบหนีจากศัตรูของพวกเขาอีกด้วย หลังจากการเกิดใหม่โดยมีความทรงจาที่ครบถ้วนแล้ว พวกเขาจะ ทะยานขึ้นอีกครั้งและแก้แค้นได้สาเร็จ
ในที่สุดติงเยว่และคนอื่น ๆ ก็กลับมายังโลกศักดิ์สิทธิ์
หลังจากใช ้เวลาร่วมกันไม่กี่ปี พวกเขาก็เข้าสู่ความโกลาหลอีก ครั้ง พวกเขาทั้งหมดได้บรรลุขอบเขตเบิกโลกาแล้ว
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังคงไม่รู ้ว่าจะบรรลุขอบเขตเบิกฟ้ าแยก ปฐพีได้อย่างไร เนื่องจากการทาเช่นนี้ต้องการโอกาสที่เหมาะสมและ การฝึกฝนอย่างขยันขันแข็ง
แน่นอนว่าการทะลวงไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
พวกเขาต้องการเพียงเวลา
เมื่อหงหยวนชิวอท่องไปท่ามกลางความโกลาหล เขาได้พบกับ บรรพชนของเขา
หงได้บรรลุขอบเขตเบิกฟ้ าแยกปฐพีแล้ว
เผ่าพันธุ์มนุษย์ไม่ถือว่าอ่อนแออีกต่อไป
แม้ว่ารากฐานของพวกเขาจะไม่สามารถเทียบได้กับเทพเจ้า โกลาหลบรรพกาล แต่พวกเขามียอดฝีมือขอบเขตเบิกฟ้ าแยกปฐพีสี่ คน ได้แก่ ฉู่, เซี่ย, จี๋ และหง
ในหมู่พวกเขา ฉู่แข็งแกร่งที่สุด
นอกจากนี้ยังมีฉิน ซึ่งเป็ นถึงสิ่งมีชีวิตศักดิ์สิทธิ์แห่งเต๋าสวรรค์
มีข่าวลือว่าเขาได้บรรลุขอบเขตปฐมโกลาหลแล้ว
อาจกล่าวได้ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์กลายเป็ นเผ่าพันธุ์ที่ทรงพลัง ท่ามกลางความโกลาหลอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ ความโกลาหลทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็ น สองด้าน โดยมีเต๋าสวรรค์อยู่ด้านหนึ่ง และความโกลาหลอยู่อีกด้าน หนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็ นเผ่าพันธุ์มนุษย์, เผ่าพันธุ์เทพ, เผ่าพันธุ์เซียน หรือ เผ่าพันธุ์อื่นใดในเต๋าสวรรค์ พวกเขาทั้งหมดถูกเรียกรวมกันว่า เผ่าพันธุ์แห่งเต๋าสวรรค์
ผู้ที่อยู่นอกเหนือจากเต๋าสวรรค์เป็ นที่รู ้จักในนามเผ่าพันธุ์แห่ง ความโกลาหล
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายนั้นมีความไม่ลงรอยกันเล็กน้อย
ยอดฝี มือที่มาจากเต๋าสวรรค์จะยืนหยัดอยู่ฝ่ ายเดียวกันเมื่อ เผชิญกับเผ่าพันธุ์แห่งความโกลาหล
เช่นเดียวกันกับเผ่าพันธุ์แห่งโกลาหล
ในขณะนี้ยังไม่มีความขัดแย้งที่ชัดเจนมากนัก อย่างไรก็ตาม มี สัญญาณบ่งชี้ถึงความขัดแย้งที่ปะทุขึ้นในอนาคตแล้ว
บางทีในอนาคต เผ่าพันธุ์แห่งเต๋าสวรรค์และเผ่าพันธุ์แห่งความ โกลาหลอาจมีการต่อสู้ครั้งใหญ่เพื่อตัดสินว่าใครเป็ นผู้ปกครอง ความโกลาหลอย่างแท้จริง
ฉู่เซวียนลืมตาขึ้น ในที่สุดเขาก็ได้สัมผัสถึงการก้าวข้ามความ โกลาหลแล้ว