ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน - ตอนที่ 745 เสวี่ยผิง(1)
มันเป็ นร่างชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยเลือด เขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
ชายหนุ่มคนนี้เป็ นผู้ฝึกยุทธ ์ขอบเขตสวรรค์ขั้นที่สาม
เมื่อเขากาลังจะไปถึงท้องฟ้ าเหนือหุบเขา เขาก็เกือบจะตายแล้ว
บนท้องฟ้ าเหนือหุบเขา เขากระอักเลือดออกมาค าโต และหมด สติจนล้มลงในหุบเขาโดยทันที
ผู้ที่มีโชคชะตาอีกคนหนึ่ง…
ดวงตาของฉู่เซวียนเป็ นประกาย ในที่สุดเขาก็จะมีศิษย์ใหม่
เห็นได้ว่าปราณโชคชะตาของชายหนุ่มนั้นเปรียบเสมือนมวล เมฆที่อบอวลอยู่รอบตัวเขา นอกจากนี้ ดูเหมือนว่ามันจะไร ้ที่สิ้นสุด
ฉู่เซวียนไม่สนใจชายหนุ่ม
ถึงอย่างไรเขาก็คงไม่ตายอยู่แล้ว
เมื่อเขาตื่นขึ้นมา เขาก็จะหาทางมาที่ลานเล็ก ๆ อย่างแน่นอน
ชายหนุ่มตกลงไปในสวนสมุนไพร และได้บดขยี้พืชวิญญาณ บางส่วน
แก่นแท้ของสมุนไพรและผลไม้วิญญาณที่ถูกบดได้ซึมเข้าไปใน ร่างกายของชายหนุ่ม มันช่วยรักษาอาการบาดเจ็บ และยังท าให้เขา แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย
เสวี่ยผิงรู ้สึกว่าร่างกายของเขาร ้อนผ่าว ราวกับว่ามีปราณที่ไร ้ จ ากัด เขารู ้สึกว่าร่างกายไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไป ราวกับว่า ปราณมากมายมหาศาลก าลังจะปะทุออกมา
ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นนั่งและมองไปรอบ ๆ ด้วยความตกตะลึง อย่างสมบูรณ์
ไม่เพียงแต่อาการบาดเจ็บสาหัสของเขาจะได้รับการรักษา แต่ เขายังทะลวงขั้นอีกด้วย
สิ่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่านั้นคือมีพลังวิญญาณจานวนมหาศาล อัดแน่นอยู่ในร่างกายของเขา
เขาไม่สนใจที่จะตรวจสอบว่าเขาอยู่ที่ไหน และรีบใช ้วิชายุทธ ์ ของเขาเพื่อขัดเกลาพลังวิญญาณในร่างกายโดยทันที
หากเขาตื่นขึ้นมาช ้าอีกสักนิด เขาคงจะตัวระเบิดตายไปแล้ว ขณะที่เขาขัดเกลาพลังวิญญาณ เขาก็เริ่มทะลวงขั้นอีกครั้ง ภายในเวลาไม่นาน เขาก็ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ขั้นที่ห้า เสวี่ยผิงไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีพลังวิญญาณเหลืออยู่มากมายในร่างกายของ เขา
ในขณะนี้ เสวี่ยผิงเกลียดความจริงที่ว่าวิชายุทธ ์ของเขาไม่ได้ แข็งแกร่งมากเพียงพอ ซึ่งทาให้ความเร็วที่เขากลั่นกรองพลัง วิญญาณต้องช ้าลง
เขากัดฟันผลักดันวิชายุทธ ์ของเขาจนถึงขีดจากัดอย่างบ้าคลั่ง
หนึ่งวันต่อมา เขาได้บรรลุขอบเขตสวรรค์ชั้นที่เจ็ด
อย่างไรก็ตาม เสวี่ยผิงไม่ตื่นเต้นอีกต่อไป
พลังวิญญาณในร่างกายของเขายังคงสะสมในอัตราที่น่ า สะพรึงกลัว และร่างกายของเขารู ้สึกเหมือนก าลังขยายตัว
โชคดีที่หลังจากบรรลุขอบเขตสวรรค์ขั้นเจ็ด ร่างกายของเขาไม่ ตกอยู่ในอันตรายจากการระเบิดอีกต่อไป
เขาฝึกฝนต่อไป!
ผ่านไปอีกหนึ่งวัน เขาก็ทะลวงเข้าสู่ขอบเขตสวรรค์ขั้นที่แปด
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มสูงขึ้น แต่เสวี่ยผิง ไม่ได้มีความสุขนัก
เขารู ้สึกได้ว่ารากฐานการฝึ กฝนของเขาอ่อนแอหลังจากการ ทะลวงขั้นครั้งนี้ และความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาไม่สามรถ ทัดเทียมกับผู้ฝึกยุทธ ์ขอบเขตสวรรค์ขั้นที่ 8 ที่แท้จริงได้
เขามีเพียงความแข็งแกร่งเช่นเดียวกับผู้ฝึกยุทธ ์ขอบเขตสวรรค์ ขั้นที่ห้าธรรมดา ๆ เท่านั้น
ต่อไป เขาจะต้องใช ้เวลาสักพักเพื่อสร ้างรากฐานการฝึกฝนของ เขาให้แข็งแกร่ง และทาความเข้าใจกับสิ่งที่เพิ่งค้นพบ
ในที่สุดเขาก็มีเวลาสังเกตสภาพแวดล้อม มันทาเขาก็ตกใจเป็ น อย่างมาก
เขามาถึงดินแดนแห่งสมบัติหรือ?
เท่าที่ตาของเขามองเห็น มีสมบัติฟ้ าดิน ใบไม้ของพืชวิญญาณ แต่ละชนิดล้วนเปล่งเต๋าอวิ้นออกมา
แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตเต๋านิรมิตก็ยังต้องอิจฉาการค้นพบของ เขา
การหายใจของเสวี่ยผิงถี่หนักขึ้น
จากนั้นเขาก็มองดูผลไม้และสมุนไพรวิญญาณที่เขานั่งทับ มัน ได้ซึมเข้าสู่ร่างกายของเขา ซึ่งเป็ นสิ่งที่ทาให้เขาทะลวงขั้นได้อย่าง รวดเร็ว
ช่างเป็ นโอกาสที่ดีอะไรเช่นนี้!
เสวี่ยผิงตื่นเต้นมากจนแทบจะสงบสติอารมณ์ไม่ได้
ด้วยสมบัติจากสวรรค์มากมายเหล่านี้ เขาจะไม่มีปัญหาในการ บรรลุขอบเขตเต๋านิรมิต
“รอข้าก่อนเถอะ!”
จากนั้นสีหน้าของเสวี่ยผิงก็เปลี่ยนเป็ นความเกลียดชัง ไม่ช ้าก็ เร็ว เขาก็จะกู้คืนศักดิ์ศรีที่สูญเสียไปกลับคืนมา!
ทันใดนั้น เขามองดูสมบัติที่อยู่รอบตัวและหัวใจของเขาก็เต้นรัว
พืชวิญญาณเหล่านี้ถูกปลูกโดยใครบางคน!
นี่คือสวนโอสถของใครบางคน!
เป็ นของส านักใหญ่หรือไม่?
สานักที่สามารถเพาะปลูกสวนสมุนโอสถอันล้าค่าเช่นนี้จะ ธรรมดาได้อย่างไร?
สานักนี้ต้องทรงพลังไม่น้อยอย่างแน่นอน
เสวี่ยผิงเริ่มกังวล
เขาได้ท าลายพืชวิญญาณบางส่วนและดูดซับแก่นแท้ของพวก มัน
เมื่ออีกฝ่ายพบเขาแล้ว เขาจะต้องจ่ายค่าชดเชยใช่หรือไม่?
เขาจะจ่ายได้อย่างไร
เขาจะต้องจ่ายด้วยชีวิตหรือ?
เสวี่ยผิงรู ้สึกว่าระดับพรสวรรค์ของเขานั้นเป็ นเพียงค่าเฉลี่ย ดังนั้นเขาจึงไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็ นศิษย์ของสานักใหญ่เช่นนี้อย่าง แน่นอน
หลบหนีหรือ? เสวี่ยผิงดิ้นรน แต่สุดท้ายเขาก็กัดฟันและเดินเข้าไปในหุบเขา มันเป็ นไปไม่ได้ที่จะหลบหนี! เขายังมีศักดิ์ศรีหลงเหลือเช่นกัน!
หลังจากผ่านป่าโบราณ เขาเห็นลานเล็ก ๆ ซึ่งมีบ้านไม้ธรรมดา อยู่สองสามหลัง
ไม่ใช่ส านักใหญ่หรือ?
เป็ นสถานที่ที่ยอดฝีมือใช ้ปิดด่านหรือไม่?
เสวี่ยผิงเดินเข้าไปในลานบ้านและเห็นร่างหนึ่งนอนเอนกายอยู่ บนเก้าอี้
“ผู้น้อยเสวี่ยผิงขอคารวะผู้อาวุโส!”
เสวี่ยผิงโค้งคานับด้วยความเคารพนอกลานบ้าน
“มีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น และข้าได้เผลอทาลายพืช วิญญาณของผู้อาวุโส…”
“เข้ามา” ฉู่เซวียนพูดพร้อมกับหาววอด
เสวี่ยผิงเดินเข้าไปในลานบ้านอย่างประหม่า
เขาแอบมองคนที่อยู่บนเก้าอี้ อีกฝ่ายเป็ นชายหนุ่มรูปงาม
แน่นอนว่าเขาไม่คิดว่าคนผู้นี้จะเป็ นชายหนุ่มจริง ๆ เขาอาจจะ เป็ นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่แปลงรูปลักษณ์
“โปรดยกโทษให้ข้าด้วยผู้อาวุโส ข้ายินดีที่จะชดเชยพืช วิญญาณของท่าน!”
เสวี่ยผิงรู ้สึกว่าผมของเขาตั้งชันขณะที่ฉู่เซวียนเหลือบมองเขา
ฉู่เซวียนสับสนเล็กน้อย
โชคชะตาของเสวี่ยผิงนั้นแข็งแกร่ง เขาดูเหมือนตัวเอก
อย่างไรก็ตาม ระดับความสามารถของเขานั้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด จะพบว่ามีบางอย่างที่ พิเศษเกี่ยวกับเขา
กายาพิเศษอีกร่างหรือไม่?
นั่นดูเหมือนจะไม่ถูกต้อง
สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับเขาคือวิญญาณ
อย่างไรก็ตาม ระดับความสามารถในปัจจุบันของเขานั้นสูงกว่า ค่าเฉลี่ยเท่านั้น
ขอบเขตสวรรค์ขั้นที่เจ็ด… มันไม่มีอะไรพิเศษ
นอกจากนี้ ความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเขายังคงต่ากว่าฐานพลัง ยุทธ ์
ฉู่เซวียนไม่แปลกใจเลย
ท้ายที่สุด เขาได้รับหล่อเลี้ยงด้วยผลไม้และสมุนไพรวิญญาณ ทาให้ฐานพลังยุทธ ์ของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็ นเรื่องปกติที่เขา จะอ่อนแอ
เสวี่ยผิงก็ใช่ไม่เด็กแล้ว
เขามีอายุมากกว่า 300 ปี
ศักยภาพของเสวี่ยผิงนั้นแย่กว่าของอี้หลิงหลิงเมื่ออายุ 300 ปี ด้วยซ้า เมื่อตอนนั้น อี้หลิงหลิงบรรลุขอบเขตเต๋าขั้นที่ 16 แล้ว
เมื่อเทียบกับอัจฉริยะอย่างอี้หลิงหลิงแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เสวี่ยผิงเป็ นเพียงขยะ
อย่างไรก็ตาม ในโลกตะวันสวรรค์ เขาถูกมองว่าเป็ นอัจฉริยะ ระดับกลาง
ไม่ว่าในกรณีใด โชคชะตาได้นาพาเขามาที่นี่ ดังนั้น ฉู่เซวียนจึง รู ้ว่าเสวี่ยผิงมีคุณสมบัติที่จะเป็ นศิษย์ของเขา แต่เขาแค่ไม่รู ้ว่า คุณสมบัติเหล่านั้นคืออะไร
นี่เป็ นข้อเสียเปรียบของเขาที่ไม่ค่อยมีความรู ้เกี่ยวกับโลกตะวัน สวรรค์มากนัก เขามีจุดบอดมากเกินไปในแง่ของความรู ้ เขาทาอะไรไม่ถูก ทาได้เพียงเรียกหาเลี่ยเทียนเท่านั้น เลี่ยเทียนตกตะลึง เขาหลับไหลและกาลังคิดว่าตนจะฟื้นตัวได้อย่างไร แต่จู่ ๆ ก็ถูก ฉู่เซวียนเรียกและน าออกไปโดยไม่พูดอะไรสักค า ในขณะที่เสวี่ยผิงจมอยู่ในความหวาดกลัว ทันใดนั้นเขาก็เห็น หัวบินออกมา เขาหวาดกลัวมากจนหน้าซีดเซียวและถอยหลังไปสองก้าว เลี่ยเทียนยังสังเกตเห็นเสวี่ยผิงและเข้าใจทันทีว่าเหตุใดฉู่เซวียน จึงตามหาเขา เขาบินวนไปรอบ ๆ เสวี่ยผิงและตรวจดูสิ่งหลังอย่างใกล้ชิด
ฉู่เซวียนเลิกคิ้ว เป็ นไปได้หรือไม่ที่เลี่ยเทียน สัตว์ประหลาดเฒ่า ผู้นี้จะไม่รู ้ว่าเสวี่ยผิงมีความสามารถพิเศษแบบใด?
นั่นจะทาให้เรื่องนี้ค่อนข้างลาบาก
“เสวี่ยผิง เจ้าค่อนข้างพิเศษ เจ้ามีความสามารถที่ไร ้เทียมทาน แต่เจ้าแค่ยังไม่ตระหนักถึงมัน”
ฉู่เซวียนใช ้ประโยชน์จากช่องว่างในความคิดของเลี่ยเทียนและ พูดว่า “โชคชะตาได้นาพาเจ้ามาที่นี่ ดังนั้น เจ้ายินดีที่จะเป็ นศิษย์ ของข้าหรือไม่”
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเขาก็ต้องรับศิษย์คนนี้ เสวี่ยผิงตกตะลึง ผู้อาวุโสคนนี้ต้องการรับเขาเป็ นศิษย์หรือ? นอกจากนี้พวกเขาบอกว่าเขาเป็ นอัจฉริยะหรือ? หลังจากดูที่หัวนั้นแล้ว เสวี่ยผิงก็คุกเข่าลง “ศิษย์เสวี่ยผิงคารวะท่านอาจารย์!” เขาคานับสามครั้งอย่างเข้มแข็ง เขากลัวว่าหากไม่ยอมรับผู้อาวุโสคนนี้เป็ นอาจารย์ เขาจะต้อง ตาย ไม่ว่าเขาจะมองอย่างไร หัวนั่นก็น่าสะพรึงกลัว!
ซูเซียนเอ๋อร์ออกมาจากบ้านไม้และยืนอยู่ข้าง ๆ ฉู่เซวียน “นายน้อย ท่านรับศิษย์อีกแล้วหรือ?”
เสวี่ยผิงมองไปที่ซูเซียนเอ๋อร ์ และโค้งคานับอีกครั้งทันที “ศิษย์ เสวี่ยผิงคารวะนายหญิง!”
ซูเซียนเอ๋อร์สะดุ้ง แต่ก็แอบมีความสุขเช่นกัน นางมอบกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ให้เขาอย่างพอใจ
มุมปากของฉู่เซวียนกระตุก
เสวี่ยผิงดูเหมือนจะค่อนข้างเก่งกาจในการใช ้ประโยชน์จาก สถานการณ์
หลังจากมอบกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ให้เขาแล้ว ซูเซียนเอ๋อร ์ก็รีบแก้ต่าง “ข้าไม่ใช่นายหญิงของเจ้า ข้าเป็ นคนรับใช ้ของเขา เจ้าเรียกข้าว่า พี่สาวซูก็ได้”
“ขอบคุณสาหรับของขวัญขอรับพี่สาวซู!”
เมื่อเสวี่ยผิงได้รับกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วย ความตกใจ
สมควรแล้วที่จะเรียกนางว่า ‘นายหญิง’!
“เจ้าลุกขึ้นได้แล้ว” ฉู่เซวียนกล่าว