ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน - ตอนที่ 773 ฉีเล่อร ์(3)
นั่นหมายความว่าเขาสามารถบรรลุขอบเขตเหนือสูงสุดโดยไม่ ต้องกังวลว่าจะต้องเดินทางไปยังความโกลาหล
ในสถานการณ์ปัจจุบัน โลกตะวันสวรรค์ขาดหยินและความ โกลาหลขาดหยาง มวลสารปราณหยินหยางของเขาถือเป็ นสมบัติที่ ยิ่งใหญ่ที่สุด
ด้วยหยินและหยาง เขาดูเหมือนตกอยู่ในอาการงุนงง แต่ใน ความเป็ นจริง เขามีความเข้าใจที่ไม่ธรรมดา
แม้จะอายุยังน้อยเขาก็ได้แสดงให้เห็นแล้ว
ตระกูลของฉีเล่อร ์ต้องตามืดบอดจึงได้ละทิ้งเขา พวกเขาอาจไม่ มียอดฝีมือขอบเขตเหนือสูงสุดในอนาคตอีกต่อไป
ฉู่เซวียนถอนหายใจ
จากมุมมองของฉู่เซวียน ปราณหยินและหยางจ านวนมหาศาล ของฉีเล่อร ์จะทาให้เขาบรรลุขอบเขตได้ง่ายกว่าอัจฉริยะคนอื่น ๆ
เขาจะสร ้างโลกได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
อี้หลิงหลิงและเสวี่ยผิงต่างก็มีความสามารถอย่างมาก ดังนั้นจึง หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พวกเขาจะบรรลุขอบเขตเหนือสูงสุดได้ในอนาคต แต่มันก็ยากสาหรับพวกเขาที่จะบรรลุขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุด
แน่นอนว่าด้วยค าแนะน าของฉู่เซวียนและรากฐานของส านักเร ้น ลับ มันจึงเป็ นไปได้ที่จะทาเช่นนั้น
อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะต้องพบกับคอขวด ทว่าฉีเล่อร ์จะไม่ เผชิญกับคอขวดเช่นนั้น
ฉู่เซวียนลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปที่ฉีเล่อร ์เขายื่นมือไปลูบหัว เล็ก ๆ ของอีกฝ่าย
“ตั้งแต่ขอบเขตเต๋าปฐมกาลไปจนถึงขอบเขตเหนือสูงสุด หยิน และหยางของคนเราต้องสมบูรณ์แบบ ร่างและพรสวรรค์พิเศษนานา ประเภทไม่สามารถหลีกหนีการทาเช่นนี้ได้”
“ยิ่งกว่านั้น ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถทาเช่นนี้ได้ หากทาได้ พวก เขาก็คงจะไม่สามารถบรรลุได้ แม้ว่าพวกเขาจะฝึ กฝนในความ โกลาหลมาหลายร ้อยล้านปี แต่นั่นก็ยังไร ้ประโยชน์”
เลี่ยเทียนและชุนหลานต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย
ความสมบูรณ์แบบของหยินและหยางไม่ใช่สิ่งที่สามารถทาได้ โดยเพียงแค่เข้าสู่ความโกลาหล และแม้กระทั่งหลังจากทาเรื่องนี้ ส าเร็จแล้ว ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถบรรลุขอบเขตเหนือสูงสุดได้
“ในทางกลับกัน ฉีเล่อร์มีมวลสารปราณหยินหยาง ไม่มี พรสวรรค์ใดเทียบได้กับเขาอีก”
ดวงตาของเลี่ยเทียนเบิกกว้างด้วยความเหลือเชื่อ และชุนหลาน ก็ตกใจไม่แพ้กัน
“ข้ารู ้อยู่แล้ว พรสวรร ์ของเสี่ยวเล่อร ์เอ๋อร ์จะธรรมดาได้ อย่างไร?” ซูเซียนเอ๋อร์หัวเราะอย่างมีความสุข
แม้ว่าฉีเล่อร์จะไม่รู้ว่ามวลสารปราณหยินหยางหมายถึงอะไร แต่ เขาก็เข้าใจว่าตนไม่ใช่ขยะและเป็ นอัจฉริยะ
ทันทีที่เขาผ่อนคลายจิตใจ เขาก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป
ซูเซียนเอ๋อร ์อุ้มเขาขึ้น “หากเหนื่อยก็นอนเถอะ…”
หลังจากนั้นไม่นาน ฉีเล่อร ์ก็ผล็อยหลับไป
“เขามีปราณหยินและหยางที่สมบูรณ์แบบหหรือ?”
ใบหน้าของเลี่ยเทียนเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
ไม่ว่าเขาจะมองดูอย่างไร พรสวรรค์ของฉีเล่อร์ก็อยู่ในระดับปาน กลาง แน่นอนว่าเขาไม่สงสัยค าพูดของฉู่เซวียน
“โลกตะวันสวรรค์ยังขาดหยิน เหตุใดจึงมีคนที่เกิดมาพร ้อม ปราณหยินและหยางที่สมูบรณ์แบบที่นี่”
ฉู่เซวียนหัวเราะ
“กาลเวลาก่อให้เกิดวีรบุรุษและมาร ตอนนี้โชคชะตากาลังผัน เปลี่ยน ไม่แปลกที่จะเกิดเรื่องเช่นนี้”
ฉีเล่อร ์ได้รับพรจากกฎเหนือลิขิตและเกิดมาพร ้อมกับมวลสาร ปราณหยินหยาง
โลกตะวันสวรรค์และความโกลาหลกาลังหลอมรวมกันเป็ นโลกที่ สมบูรณ์และไร ้ที่ติ ฉีเล่อร ์เกิดมาด้วยเหตุผลนี้
เมื่อมองไปที่ฉีเล่อร ์ซึ่งอยู่ในอ้อมแขนของซูเซียนเอ๋อร ์แล้ว ฉู่เซ วียนก็พูดต่อว่า “ฉีเล่อร ์เป็ นคนที่มีความสามารถมากที่สุดในบรรดา ศิษย์ของข้า เขาจะบรรลุขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุด แต่นั่นก็ไม่ใช่ ขีดจ ากัดของเขา”
เลี่ยเทียนและชุนหลานต่างก็ตกตะลึง ขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุดยังไม่สิ้นสุดใช่หรือไม่ พวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับขอบเขตที่สูงกว่านั้นมาก่อน ผู้ฝึกยุทธ ์ขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุดเป็ นตัวตนในต านาน ฉีเล่อร ์สามารถบรรลุขอบเขตที่เหนือกว่าขอบเขตจ้าวเหนือ
สูงสุด และเปิดเส้นทางใหม่ได้จริงหรือ? จากนั้น เลี่ยเทียนก็มองไปที่ฉู่เซวียน จ้าวสานักของสานักเร ้นลับนั้นลึกลับและไม่อาจหยั่งรู ้ได้ แล้ว
ศักยภาพของเขาเป็ นเช่นไร? เขาสามารถก้าวข้ามขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุดได้หรือไม่?
ซูเซียนเอ๋อร ์รู ้สึกประหลาดใจมากเช่นกันที่ฉู่เซวียนประเมินฉี
เล่อร ์ไว้สูงเช่นนี้ นางรู ้ดีว่าก่อนหน้านี้ ในบรรดาลูกศิษย์ของฉู่เซวียน คนที่เขาให้
ความสาคัญมากที่สุดคือเฮยเยว่ แม้แต่ฉู่เอ๋อร ์ก็ยังไม่เทียบเท่ากับเฮยเยว่ ฉีเล่อร ์เหนือกว่าเฮยเยว่จริง ๆ หรือ? “นายน้อย เสี่ยวเล่อร ์เอ๋อร์แข็งแกร่งกว่าน้องสาวเฮยเยว่หรือไม่?”
เลี่ยเทียนและชุนหลานเงี่ยหูฟัง เฮยเยว่? ศิษย์ของฉู่เซวียนอีกคนหรือ?
พวกเขาทั้งสองรู ้ว่านอกจากอี้หลิงหลิงและเสวี่ยผิงแล้ว ฉู่เซวียน
ยังมีศิษย์อีกเก้าคน เลี่ยเทียนเดาว่าศิษย์ทั้งเก้าของเขาน่าจะอยู่ในความโกลาหล ฉู่เซวียนพยักหน้า “เฮยเยว่จ าเป็ นต้องท าให้หยินและหยางของนางสมบูรณ์ แม้ว่า
นางจะมีความพิเศษ แต่นางก็ยังอ่อนด้วยกว่าฉีเล่อร์เล็กน้อยในแง่ ของพรสวรรค์”
วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเฮยเยว่ถูกสร ้างขึ้นจากกฎเหนือลิขิต จากมหายุคแห่งความโกลาหล บางทีมันอาจกฎเหนือลิขิตใหม่ที่ เกิดขึ้นหลังจากความโกลาหลครั้งก่อนและกฎเหนือลิขิตพังทลายลง
มันแข็งแกร่งและพิเศษกว่าพรสวรรค์อื่น ๆ
ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็ นกฎที่ใหม่ และจะทาให้นางการกลายเป็ นผู้ ฝึกยุทธ ์ขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุดได้อย่างไร ้ซึ่งปัญหา
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับมวลสารปราณหยินหยางโดย ก าเนิดของฉีเล่อร ์แล้ว มันก็ยังอ่อนด้วยอยู่
แน่นอนว่านี่เป็ นเพียงความแตกต่างในด้านพรสวรรค์เท่านั้น
แม้ว่าพรสวรรค์จะเป็ นปัจจัยที่สาคัญที่สุดในความสาเร็จของผู้ ฝึกยุทธ ์ แต่ก็ไม่ใช่ปัจจัยเดียว
เฮยเยว่มีประสบการณ์ในการด าเนินการตามแผนการยันต์หยก เต๋าสวรรค์ นางเป็ นคนที่มีวิสัยทัศน์และความฉลาดที่ไม่ธรรมดา แม้ว่าพรสวรรค์ของนางจะไม่ดีนัก แต่ความส าเร็จของนางอาจไม่ เลวร ้ายไปกว่าของฉีเล่อร ์
ในขณะนี้ ฉู่เซวียนมองเฮยเยว่อย่างชื่มชมมากขึ้น เนื่องจากนาง เป็ นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในแง่ของความคิดและประสบการณ์
“นี่เป็ นเพียงความแตกต่างของพรสวรรค์ ในแง่ของความสาเร็จ เฮยเยว่ยังเหนือกว่า” ฉู่เซวียนหยุดชั่วคราวและพูดต่อ
“ติงเยว่ก็คงจะไม่ตามหลังมากนักเช่นกัน”
เต๋าแห่งกระบี่ของติงเยว่นั้นบริสุทธิ์อย่างมาก!
ความบริสุทธิ์ของมันทาให้มันพิเศษยิ่งขึ้นไปอีก
หลังจากยอมรับฉีเล่อร ์เป็ นศิษย์ เนื่องจากเขายังเด็ก ฉีเล่อร ์จึง ถูกเลี้ยงดูโดยซูเซียนเอ๋อร ์และชุนหลาน
ฉู่เซวียนไม่ได้สอนวิชายุทธ ์ใด ๆ ให้เขา
พวกเขาได้รับรู ้สิ่งที่เกิดขึ้นกับฉีเล่อร ์
เมื่อเวลาผ่านไป ฉีเล่อร ์ค่อย ๆ ก้าวข้ามความโศกเศร ้า แต่ความ เกลียดชังของเขานั้นไม่อาจจางหายไปได้
เขามักจะตัวติดกับซูเซียนเอ๋อร ์และชุนหลาน แต่ก็ยังหวาดกลัว การเลี่ยเทียน
อีกฝ่ายเป็ นหัวที่ลอยได้… ใครกันจะไม่กลัว?
ฉู่เซวียนไม่คิดว่านี่จะเป็ นเรื่องที่ยอมรับได้ ศิษย์ของเขาไม่ควร หวาดกลัวเลี่ยเทียน หากความกลัวนี้คงอยู่จนกระทั่งเขาอายุมากขึ้น คงเป็ นเรื่องยากที่จะกาจัด
ด้วยเหตุนี้ ฉู่เซวียนจึงจับเลี่ยเทียนมาในทันที
“เล่อร ์เอ๋อร ์มานี่”
ฉีเล่อร ์วิ่งเข้ามา
“ท่านอาจารย์”
ฉู่เซวียนวางเลี่ยเทียนลงบนพื้นแล้วพูดว่า “เล่อร ์เอ๋อร ์อาจารย์จะ มอบลูกหนังให้เจ้าเล่น”
ดวงตาของฉีเล่อร ์เบิกกว้างขณะที่เขามองไปยังเลี่ยเทียน ซึ่งอยู่ บนพื้นด้วยสีหน้าสิ้นหวัง
“ลูกหนัง?” “ใช่ เจ้าสามารถเตะเขาได้เหมือนลูกหนัง” “ข้าท าได้จริง ๆ หรือ?”
ฉีเล่อร ์ไม่กล้าทาเช่นนั้น “แน่นอนว่าเจ้าทาได้ นี่คือลูกหนังของเจ้า” ฉู่เซวียนมองเขาอย่างให้ก าลังใจ
ฉีเล่อร ์ยกเท้าเล็ก ๆ ของเขาขึ้นและเตะเลี่ยเทียนเบา ๆ เลี่ยเทียนไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย ฉีเล่อร ์กลัวมากจนเขาซ่อนตัวอยู่ข้างหลังฉู่เซวียน “เล่อร ์เอ๋อร ์ เจ้าต้องเรียนรู ้จากข้าและเตะแรงกว่านี้”
ฉู่เซวียนเตะเลี่ยเทียนลอยไปบนท้องฟ้ า ดวงตาของฉีเล่อร ์เบิกกว้างและเขาดูกระตือรือร ้นที่จะริลอง เลี่ยเทียนบินกลับพร ้อมกับร ้องไห้
“ดูนั่น ลูกหนังบินกระเด็นออกไปแล้ว แต่มันก็ยังกลับมาเองได้ ลองใหม่อีกครั้ง”
ฉีเล่อร ์เดินไปหาเลี่ยเทียนอย่างระมัดระวัง เขายกเท้าเล็ก ๆ ขึ้น และเตะเหมือนฉู่เซวียน
เลี่ยเทียนกระเด็นออกไปในทันที
สักพักเขาก็บินกลับมา
“มันสนุกใช่หรือไม่?” ฉู่เซวียนถามด้วยรอยยิ้ม
ใบหน้าเล็ก ๆ ของฉีเล่อร ์แดงก่า เขากังวลและตื่นเต้นเล็กน้อย
“ขอรับ มันสนุกมาก!” เขาพยักหน้า
“หากมันสนุกก็เล่นให้มากกว่านี้เถอะ ข้าจะให้เลี่ยเทียนไปกับ เจ้าเมื่อเจ้าต้องการ”
ฉู่เซวียนลูบหัวเล็ก ๆ ของเขา
ฉีเล่อร ์ไม่ได้หวาดกลัวเลี่ยเทียนอีกต่อไป เขาสนุกสนานมากขึ้น ในทุกวัน
เลี่ยเทียนเหน็ดเหนื่อยอย่างมาก
โชคดีที่หลังจากที่ฉีเล่อร ์เตะเขาสองสามครั้ง อีกฝ่ายก็รู ้ขีดจ ากัด ของตนเองและหยุดเตะ แต่เขากลับชอบขึ้นขี่หัวของเลี่ยเทียนและบิน ไปรอบหุบเขา
ฉีเล่อร ์อายุห้าขวบแล้ว
เขาอยู่ในหุบเขามาสองปีแล้ว และกินสมบัติสวรรค์ทุกวันท าให้ เขาดูงดงามเหมือนรูปปั้นหยกที่ถูกแกะสลักโดยเทพเจ้า
อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้เริ่มฝึ กฝน ทว่าร่างกายของเขาได้ เหนือกว่าขอบเขตจักรพรรดิไปแล้ว