ข้าอยู่บ้านร้อยปีก็เข้าสู่วิถีไร้เทียมทาน - ตอนที่ 788 หินรองเท้า
ฉู่เซวียนใช ้เวลานับพันปีในการอ่านต าราจบหน้าแรก
จากนั้น เขาได้ปรับเปลี่ยนทิศทางการฝึกฝนของเขาเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะไม่ได้อ่านต าราตลอดเวลา แต่เขาต้องใช ้เวลานับพัน ปีกว่าจะอ่านจบหน้าหนึ่ง นี่แสดงให้เห็นว่าตาราเล่มนี้ลึกซึ้งเพียงใด
ฉู่เซวียนเพิ่มอีกชั้นหนึ่งของศาลาคัมภีร ์สานักเร ้นลับ เขา คัดลอกหน้าที่เขาอ่านจบแล้วลงในกระดาษสีทองและวางไว้ที่ชั้น บนสุด
อีกพันปีต่อมา ฉู่เซวียนอ่านหน้าสองจบ
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ท าส าเนาไว้
ตอนนี้หน้าเดียวก็เพียงพอแล้ว
ภายในสานักเร ้นลับไม่มีใครที่อยู่ใกล้เคียงกับขอบเขตสวรรค์ชั้น ฟ้ า กระดาษหน้าเดียวนี้ก็เป็ นเพียงสิ่งที่จะกระตุ้นให้พวกเขามุ่งมั่น และปรับปรุง
ในวันหนึ่ง ชุนหลานและเลี่ยเทียนกลับมา
สถานการณ์ในโลกตะวันสวรรค์เริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าพวก เขาจะไม่ได้รับผลกระทบจากพลังลึกลับ แต่มันก็เป็ นเรื่องง่ายสาหรับ พวกเขาที่จะถูกจับอยู่ภายในนั้น
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุม แต่คนอื่น ๆ ก็เป็ น เช่นนั้น
อี้หลิงหลิงและเสวี่ยผิงกาลังจะทะลวงขอบเขตเต๋าเหนือลิขิตแล้ว
ในโลกตะวันสวรรค์ในปัจจุบัน พวกเขายังเป็ นยอดฝีมือชั้นยอด อีกด้วย
การฝึกฝนของฉีเล่อร ์และฉู่หยู่ก็ดาเนินไปอย่างราบรื่นเช่นกัน
พวกเขาไม่ต้องการผู้พิทักษ์อีกต่อไป เนื่องจากไม่มีใครกล้าฝ่ า ฝืนกฎและโจมตีศิษย์ของส านักเร ้นลับ แม้แต่ยอดฝีมือขอบเขตเหนือ สูงสุดก็ตาม
พวกเขาระมัดระวังส านักเร ้นลับอย่างมาก
นอกจากนี้อี้หลิงหลิงและเสวี่ยผิงยังกลายเป็ นผู้คุมกฎอีกด้วย
ชุนหลานและเลี่ยเทียนกลับมาปิดด่าน
แม้ว่าพวกเขาจะเป็ นยอดฝีมือขอบเขตเหนือสูงสุด แต่พวกเขาก็ ยังอ่อนแอเกินไป
เฉพาะผู้ที่อยู่ในขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุดเท่านั้นที่มีโอกาส ต้านทานพายุที่กาลังจะมาถึง
ในอดีต เลี่ยเทียนไม่มีความหวังมากนักที่จะเข้าถึงขอบเขตเหนือ สูงสุด นับประสาอะไรกับขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุด
ชุนหลานเป็ นทายาทของต าหนักภูเขาเมฆา และสืบทอดมรดก ของยอดฝีมือขอบเขตเหนือสูงสุด นางมีความสามารถพิเศษและมี โอกาสที่จะเข้าถึงขอบเขตเหนือสูงสุด อย่างไรก็ตาม ขอบเขตจ้าว เหนือสูงสุดยังห่างไกลจากนางในตอนนั้น
ต อ น นี้พ ว ก เ ข า ทั้ง ส อ ง เ ต็ ม ไ ป ด้ว ย วิญ ญ า ณ แ ห่ ง ก า ร ต่อสู้ ขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุดอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป
แม้ว่ามันจะยังยืดเยื้ออยู่ แต่พวกเขาก็ยังมีเครื่องมือและวิธีการที่ จะไปถึงขอบเขตนี้
ศาลาคัมภีร ์ส านักเร ้นลับมีต าราลับส าหรับขอบเขตจ้าวเหนือ สูงสุด
“ข้าคิดว่าฉีเล่อร ์เป็ นอัจฉริยะที่ไร ้เทียมทานแล้ว ข้าไม่ได้ คาดหวังว่าจะมีอัจฉริยะคนอื่นที่ทัดเทียมเขามาปรากฏตัวอีก”
เลี่ยเทียนถอนหายใจ
ยิ่งเขานึกถึงเรื่องนี้มากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู ้สึกว่าสถานการณ์ในโลก ตะวันสวรรค์นั้นซับซ ้อนเกินไป
ชายชราอย่างเขาไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเกินไป ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะจมน้าตาย จนกว่าเขาจะมีก าลังเพียงพอ เป็ น การดีที่สุดสาหรับเขาที่จะอยู่ในหุบเขา
ฉู่เซวียนไม่แปลกใจเลย
การปรากฏตัวของฉีเล่อร ์ได้รับความสนใจเป็ นอย่างมาก คนที่ อยู่เบื้องหลังมักจะผลักดันอัจฉริยะในระดับเดียวกันออกมาเพื่อแก้ไข สิ่งต่าง ๆ
ตอนนี้ความโกลาหลและโลกตะวันสวรรค์เริ่มหลอมรวมเข้า ด้วยกัน ผู้คนที่เกิดในสถานที่ที่ทั้งสองมาบรรจบกันจะได้รับหยินห ยางที่สมบูรณ์
อัจฉริยะไม่กี่คนเหล่านั้นเกิดที่นั่น
แม้ว่าพวกเขาทั้งสองได้เสร็จสิ้นการหลอมรวมหยินหยางแล้ว แต่ พวกเขาก็ด้อยกว่าฉีเล่อร ์มาก ท้ายที่สุดแล้ว ฉีเล่อร ์มีมวลสาร ปราณหยินหยาง
กุญแจสาคัญคือมวลสารปราณหยินหยางในวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ของเขา
อัจฉริยะชั้นยอดทุกคนในปัจจุบันมีมรดกอยู่เบื้องหลังพวกเขา
แน่นอนว่าพวกเขามีความพิเศษมาก
“จ้าวสานักดูเหมือนว่าสานักเร ้นลับไม่ได้อยู่ที่ด้านบนสุดของ ห่วงโซ่อาหารอีกต่อไป” เลี่ยเทียนกล่าวอย่างกังวล
อัจฉริยะรุ่นแรกคืออี้หลิงหลิงและเสวี่ยผิง พวกเขาเก่งที่สุด เหนือกว่าอัจฉริยะคนอื่น ๆ มาก มีบางคนที่ไต่ระดับขึ้นมาในตอนแรก แต่ไม่นานก็ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
ฉีเล่อร ์และฉู่หยู่มีความโดดเด่นที่สุดในบรรดาอัจฉริยะรุ่นที่ สอง อย่างไรก็ตาม ในบรรดาอัจฉริยะรุ่นเยาว์ ไม่มีศิษย์ของส านักเร ้น ลับ
เมื่อเวลาผ่านไป รุ่นเยาว์เหล่านั้นอาจจะไล่ตามศิษย์ของสานัก เร ้นลับได้
ท้ายที่สุดแล้ว เมื่อใครก็ตามได้รับการฝึ กฝนจนถึงระดับหนึ่ง พวกเขาก็จะซบเซาและไม่สามารถทะลวงผ่านได้ เมื่อสิ่งนั้นเกิดขึ้น พวกเขาจะถูกแซงหน้าโดยผู้ที่มาทีหลัง
อัจฉริยะรุ่นใหม่หลายคนใช ้ยอดฝีมือคนรุ่นก่อนเป็ นก้าวส าคัญ
วงจรของประวัติศาสตร ์มักเป็ นเช่นนี้
ในบรรดายอดฝี มือที่อี้หลิงหลิงเอาชนะได้ หลายคนเคยเป็ น อัจฉริยะ แต่ในท้ายที่สุด พวกเขาทั้งหมดก็กลายเป็ นหินรองเท้าของ นาง
วันหนึ่ง อี้หลิงหลิงจะประสบปัญหาเดียวกันนี้หรือไม่?
ไม่มีใครรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่กลายเป็ นก้าวส าคัญของ อัจฉริยะรุ่นใหม่
ฉู่เซวียนหัวเราะเบา ๆ
“ความสามารถไม่ใช่สิ่งเดียว ไม่ใช่ศิษย์ทุกคนของส านักส านัก เร ้นลับที่จะอยู่ยงคงกระพัน”
เขาเป็ นคนใจกว้างมาก
มีศิษย์กี่คนในสานักเร ้นลับ?
เป็ นไปได้อย่างไรที่ทุกคนจะแข็งแกร่งที่สุด และไม่มีศัตรูที่ แข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะพวกเขาได้?
เขาเพียงต้องแน่ ใจว่าส านักเร ้นลับนั้นแข็งแกร่งที่สุด ซึ่ง หมายความว่าตัวเขาเองจะต้องแข็งแกร่งที่สุด
ตอนที่ 789 ไร ้ยางอาย(1)
“ไม่มีอานาจใดสั่นคลอนสานักเร ้นลับได้”
เลี่ยเทียนตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้
ฉู่เซวียนเทถ้วยชาให้ตนเองแล้วจิบ
“ตาเฒ่าเลี่ย มีอัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วน แต่ไม่ใช่ทั้งหมดที่จะ เข้ามาในส านักของเรา”
“สานักเร ้นลับเป็ นเรื่องเกี่ยวกับโชคชะตา ผู้ที่โชคชะตาจะเข้าสู่ ส านักของเราโดยธรรมชาติ”
“การเข้าสู่สานักเร ้นลับเป็ นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก แม้แต่ เศษขยะก็จะกลายเป็ นอัจฉริยะที่ไร้เทียมทานหากพวกเขาเข้าร่วม ส านักของเรา” ฉู่เซวียนกล่าวอย่างมีเลศนัย
“จ้าวส านัก ข้าเข้าใจแล้ว!”
เลี่ยเทียนพยักหน้า
“จ้าวสานัก ข้ามีข้อสงสัยบางอย่างเกี่ยวกับการฝึกฝนของข้า” ชุนหลานกล่าวในขณะนี้
เลี่ยเทียนก็เต็มไปด้วยความคาดหวังเช่นกัน
เขาก็มีข้อสงสัยเหมือนกัน ในความเป็ นจริง เขาไม่รู ้ด้วยซ้าว่าจะ ฝึกฝนต่อไปอย่างไร เมื่อเขาบรรลุขอบเขตเหนือสูงสุด เขารู ้สึกราว กับว่าเขาได้มาถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางแห่งการฝึกฝนแล้ว
“ทุกคาถามของเจ้าจะได้รับคาตอบที่นั่น” ฉู่เซวียนมองไปที่ ศาลาคัมภีร์
เขาไม่ได้ตั้งใจจะเทศนาเต๋าแก่พวกเขา
ท้ายที่สุดแล้ว คาตอบสาหรับคาถามการฝึกฝนทั้งหมดของพวก เขาสามารถพบได้ที่นั่น
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าเลี่ยเทียนและชุนหลานจะเป็ นส่วนหนึ่งของ ส านัก แต่พวกเขาไม่ใช่ศิษย์ของเขา
ชุนหลานและเลี่ยเทียนมองตามสายตาของเขา หลังจากนั้น พวกเขาต้องประหลาดใจเมื่อพบว่าศาลาคัมภีร ์มีชั้นเพิ่มขึ้น
มันอาจจะเป็ น?
ช่างเหลือเชื่อจริง ๆ
หากเป็ นเช่นนั้นจริง ๆ เช่นนั้นแล้ว จ้าวสานัก…
พวกเขาทั้งสองระงับความตกใจในใจ
“จ้าวส านัก ข้าจะปิดด่าน โปรดเรียกข้าหากมีภารกิจส าหรับข้า”
หลังจากที่เลี่ยเทียนพูดจบ เขาก็รีบวิ่งเข้าไปในศาลาคัมภีร ์โดย มีชุนหลานติดตามอยู่ข้างหลังอย่างใกล้ชิด
พวกเขาทั้งสองพยายามขึ้นไปชั้นบนสุดเพื่อดู แต่ตระหนักว่าไม่ สามารถเข้าถึงได้
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาสามารถอยู่บนชั้นรองลงมาได้เท่านั้น
พวกเขาดูตาราเล่มเล็กทั้งสามเล่ม
เลี่ยเทียนยกมือขึ้นและหยิบตาราเล่มเล็ก ทันทีที่เขาเปิ ดมัน ความตกใจก็ปรากฏทั่วใบหน้าของเขา
ตาราเล่มนี้ประกอบด้วยวิธีการฝึกฝนและรายละเอียดเกี่ยวกับ ขอบเขตจ้าวเหนือสูงสุด
ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนหน้านี้มีตาราเล่มเล็กเพียงเล่มเดียว แต่ตอนนี้ มีสามเล่มแล้ว
ในเวลานี้ พวกเขาได้ยินเสียงของฉู่เซวียน
“พวกเจ้าอยู่ไกลจากขอบเขตนี้มากเกินไป มันไม่มีประโยชน์ที่ จะศึกษาตาราเล่มเล็กนั้น กลับลงไป”
เลี่ยเทียนและชุนหลานวางตาราที่พวกเขาถืออยู่ลง
“ทราบแล้วจ้าวส านัก”
พวกเขาเชื่อคาพูดของฉู่เซวียนโดยธรรมชาติ
เมื่อลงไปที่ชั้นที่สามจากด้านบน พวกเขาพบว่าจานวนตารา ขอบเขตเหนือสูงสุดเพิ่มขึ้น หลังจากหยิบตาราเล่มเล็กขึ้นมาทีละ เล่ม ในไม่ช ้าพวกเขาก็ดื่มด่ากับการอ่านและฝึกฝน
ในความโกลาหล เฮยเยว่นั่งขัดสมาธิ และร่างกายของนางถูกปก คลุมไปด้วยแสงสีม่วงจาง ๆ
กลิ่นอายเหนือลิขิตเล็ดลอดออกมาจากร่างกายของนาง นางอยู่ ในสภาพพิเศษ และสามารถจินตนาการถึงกฎแห่งปฐมโกลาหลที่ พังทลายของความโกลาหลหลอมรวมเข้าด้วยกันก่อนที่จะถูกทาลาย ล้าง และในที่สุดก็ให้กาเนิดกฎแห่งปฐมโกลาหลในรูปแบบใหม่
ในช่วงเวลาหนึ่ง กฎแห่งปฐมโกลาหลก็โผล่ออกมาจากห้วงมิติ พิเศษ และแปรสภาพเป็ นรูปลักษณ์ของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
วิญญาณนี้ว่างเปล่า และไม่มีอะไรอยู่ภายในนั้น
เฮยเยว่เปิดตาของนาง
วิญญาณของนางเองคือรูปแบบตัวอ่อนของกฎแห่งปฐมโกลาหล
ความโกลาหลได้พังทลายลง และกฎแห่งปฐมโกลาหลก็ถูกตัด ขาด ทั้งหมดนี้หมายความว่าอย่างไร?
เกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น?
ในขณะนี้เฮยเยว่รู ้สึกสับสนเล็กน้อย
มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับการเกิดของนางหรือไม่?
นางมองไปที่เต๋าสวรรค์ ภายในนั้นมีตาราซึ่งเป็ นคลังคัมภีร ์ สานักเร ้นลับเมื่อนางถือมัน นางพูดว่า “อาจารย์ ข้ามีข้อสงสัย บางอย่าง”
หลังจากนั้นไม่นานก็มีเสียงมาจากตารา
“เจ้าสงสัยอะไรหรือ?”
ฉู่เซวียนอยากรู้อยากเห็น
มีหลายครั้งที่เฮยเยว่รู ้สึกสับสน
ด้วยคลังคัมภีร์ส านักเร้นลับในมือของนาง ความสงสัยของนาง ไม่เกี่ยวกับการฝึกฝนของนางโดยธรรมชาติ
“ท่านอาจารย์ ข้ามาจากที่ใด และทาไมข้าถึงมีชีวิตอยู่”
เฮยเยว่อธิบายฉากที่นางเพิ่งเห็น
“เจ้าคือเจ้า ทาไมเจ้าต้องสับสน แม้ว่าวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า จะถูกสร ้างขึ้นโดยกฎแห่งปฐมโกลาหล แต่เจ้าก็ยังเป็ นเจ้า นี่เป็ น เพียงโชคชะตาของเจ้า”
ฉู่เซวียนไม่คิดว่าเฮยเยว่จะสับสนเกี่ยวกับเรื่องนี้
“สิ่งมีชีวิตมาจากไหน? และเทพเจ้าโกลาหลบรรพกาลมาจาก ไหน? ทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชคชะตาของคน ๆ หนึ่ง”
“เมื่อเจ้าได้เห็นต้นกาเนิดโชคชะตาของเจ้าแล้ว เจ้าสามารถทา ความเข้าใจมัน และใช ้มันเพื่อวางรากฐานสาหรับการฝึ กฝนใน อนาคตของเจ้า” ฉู่เซวียนกล่าวต่อ
“นี่เป็ นโอกาสที่หาได้ยาก เจ้าต้องทาให้หัวใจเต๋าของเจ้ามั่นคง”
เฮยเยว่ฟังอย่างเงียบ ๆ
ฉู่เซวียนอธิบายกับนางว่า “ขอบเขตเต๋าปฐมกาลเป็ นเพียง จุดเริ่มต้น เหนือขอบเขตเต๋าปฐมกาลคือขอบเขตเหนือสูงสุด เจ้า สามารถเติมเต็มหยินและหยาง ของเจ้าได้ตอนนี้ และวางรากฐาน ของเจ้าเพื่อเตรียมพร ้อมที่จะก้าวไปสู่ขอบเขตเหนือสูงสุด”
เฮยเยว่หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ขอบคุณส าหรับการคลาย ข้อสงสัยของข้าท่าน อาจารย์ ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ”
“ท่านอาจารย์ เหตุใดความโกลาหลจึงแตกสลาย? มีอะไรพิเศษ เกี่ยวกับต้นกาเนิดของข้าหรือไม่”
ฉู่เซวียนยิ้มและกล่าวว่า “ความโกลาหลที่พังทลายนั้นเป็ นเพียง ผลจากแผนการของใครบางคน”
“ส าหรับต้นก าเนิดของเจ้า มันไม่ส าคัญว่าจะพิเศษหรือไม่ เนื่องจากเจ้าเป็ นลูกศิษย์ของข้า จึงไม่มีใครมีสิทธิ์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับ โชคชะตาของเจ้า”
“การหลอมรวมความโกลาหลและโลกตะวันสวรรค์เป็ นสิ่งที่ หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะสร ้างความสมดุลของหยินและหยาง เจ้ายัง สามารถเข้าร่วมต่อสู้กับคนเหล่านั้นได้”
เฮยเยว่เข้าใจแล้ว
ไม่สาคัญว่านางจะเกิดมาเป็ นเบี้ยหรือไม่
ตั้งแต่วันที่นางยอมรับฉู่เซวียนเป็ นอาจารย์ของนาง โชคชะตา ของนางก็ไม่ได้อยู่ในมือของใครอีกต่อไป
“ท่านอาจารย์ ศิษย์รู้แล้วว่าต้องท าอย่างไร”
“ดีแล้ว”
หลังจากนั้นเสียงของฉู่เซวียนก็หายไป
เฮยเยว่ยืนขึ้นและมองดูความโกลาหลและเต๋าสวรรค์
มหายุคแห่งความโกลาหล?
โลกตะวันสวรรค์กาลังหลอมรวมเข้ากับความโกลาหลเพื่อสร ้าง สมดุลหยินและหยาง?
นางจะพลาดสถานการณ์ที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้ได้อย่างไร?
หลังจากแก้ไขความสับสนของเฮยเยว่แล้ว ฉู่เซวียนก็สังเกต สถานการณ์ในความโกลาหล
เช่นเดียวกับโลกตะวันสวรรค์ อัจฉริยะจ านวนนับไม่ถ้วนก็ ปรากฏตัวออกมาทีละคน
เต๋าสวรรค์ยังผลิตอัจฉริยะที่ไร ้เทียมทาน และการแข่งขันระหว่าง พวกเขาทั้งหมดก็ทวีความรุนแรงมากขึ้น
ในสนามรบโบราณในโลกตะวันสวรรค์ อี้หลิงหลิงยืนอยู่บนยอด เขาที่ถล่มลงมา
นางมองดูร่างหลายสิบร่างรอบตัวนาง
คนเหล่านี้ล้วนเป็ นอัจฉริยะจากขุมอานาจอันทรงพลัง มากมาย บางคนได้เข้าร่วมกับผู้คุมกฎ ในขณะที่บางคนเป็ นคนที่ พ่ายแพ้นางไป
ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดมาเพื่อพยายามฆ่านาง โดยเชื่อว่าการทา เช่นนั้นจะทาให้พวกเขาสามารถทะลุพันธนาการและไปถึงขอบเขตที่ สูงขึ้นได้
สีหน้าของอี้หลิงหลิงสงบ ขณะที่กระบี่ไร ้ลักษณ์อยู่ข้างหลังนาง
ในอีกสถานที่หนึ่งใน โลกตะวันสวรรค์ นอกเมืองใหญ่ กลิ่นอาย ของเสวี่ยผิงเป็ นเหมือนสายรุ ้งขณะที่ดาบขนาดใหญ่ในมือของเขา สั่นไหว
เขามองดูผู้คนหลายสิบคนรอบตัวเขาอย่างเย่อหยิ่ง
“ก็แค่เศษขยะ!”
“ฆ่า!”
มหาสงครามปะทุขึ้น
ข่าวที่ว่าอัจฉริยะชั้นยอดได้ร่วมมือกันโจมตีอี้หลิงหลิงและเสวี่ย ผิง ซึ่งทาให้โลกตกตะลึง
แม้ว่าจะเป็ นเรื่องน่าอับอายที่ต้องรังแกด้วยตัวเลข แต่กับอี้หลิงห ลิงและเสวี่ยผิง พวกเขาไม่มีทางเลือก
ราวกับว่าทุกสิ่งเป็ นไปโดยตามธรรมชาติ อัจฉริยะทุกคนก็ตระหนักได้ทันทีว่าการฆ่าอัจฉริยะในรุ่นของ
พวกเขาจะทาให้พวกเขาได้รับโชควาสนา ซึ่งจะช่วยให้พวกเขา
ทะลวงและแข็งแกร่งขึ้นได้ ด้วยกฎที่บังคับใช ้ ส านักเร ้นลับย่อมไม่สามารถแทรกแซงได้ แน่นอนว่าพวกเขาสามารถส่งลูกศิษย์ไปเข้าช่วยเหลือได้ อย่างไรก็ตาม มีศิษย์เพียงไม่กี่คนในสานักเร ้นลับ ฉีเล่อร ์และฉู่หยู่ก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์เดียวกัน
ฉู่เซวียนนั่งบนเก้าอี้สบาย ๆ มองขึ้นไปบนท้องฟ้ า เขาพึมพ ากับตนเองว่า “คนผู้นี้ค่อนข้างไร ้ศีลธรรม และไม่
รังเกียจที่จะจัดการกับเหล่าศิษย์ของข้า” ฉู่เซวียนไม่แปลกใจกับเรื่องนี้