ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 193 ปีศาจนี่ ตอนที่ 194 สิ่งของใต้น้ำ
ตอนที่ 193 ปีศาจนี่
เจ้าหน้าที่มือปราบกลับคิดว่านี่เป็นเรื่องดี
“นั่นก็เพราะน้ำนี้มีพิษสินะ เป็นเช่นนี้คงไม่ดีนักหากส่งคนลงไปงมของขึ้นมา…” เจ้าหน้าที่มือปราบหน้านิ่วคิ้วขมวด “เอาแบบนี้แล้วกัน คนอื่นๆ ทำพิธีให้ผู้เสียชีวิตไปก่อน หมอผู้เฒ่าทั้งสองท่านก็ตามข้าไปตรวจสอบสักหน่อยว่าสรุปแล้วในน้ำเป็นพิษประเภทใดกันแน่ พยายามหาวิธีการที่ถูกต้องโดยเร็วที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม…ช่วงเวลานี้ ชาวบ้านยังต้องใช้น้ำนี้รดพืชผล ไม่รู้เช่นกันว่าจะส่งผลมากมายหรือไม่”
หากส่งผลกระทบต่อพืชผลที่เพาะปลูกทั่วทั้งหมู่บ้านหนึ่ง เกรงว่านายอำเภอคงได้บ้าคลั่งแน่
ซ่งอิงรู้สึกใจกลางฝ่ามือร้อนผ่าว
ดวงตาจับจ้องไปที่ผิวน้ำไม่วางตา มักรู้สึกว่าในนั้นมีบางอย่างแหวกว่ายไปมา
น่าจะเป็นปลากระมัง?
แต่จากคลื่นที่เวียนวนคล้ายจะใหญ่โตไม่น้อย
หมอผู้เฒ่าทั้งสองคนเดินไปข้างหน้าอีกครั้งเพื่อเก็บตัวอย่างน้ำ คราวนี้ ยิ่งประหม่าเข้าไปใหญ่ เพราะถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็แค่ต้องมองดูหญ้าเท่านั้นซึ่งอยู่ระยะไกลพอใช้ได้ แต่ตอนนี้ต่างกัน เกิดไม่ระวังพลัดตกลงไป…
ตู้ม…
มีคนตกน้ำ!
บรรดาชาวบ้านมองไป เกิดความกลัวว่าจะถูกที่ทำการขุนนางจับตัวไปเป็นวีรบุรุษกู้ชีวิต ตกใจกลัวจนพากันวิ่งเตลิด
แม้แต่หัวหน้าหมู่บ้านยังถอยหลังกรูดไปหลายก้าว!
เจ้าหน้าที่มือปราบสี่ห้าคนใจสั่น รีบเข้าไปช่วยชีวิต แต่ก็เหมือนเจอผีเข้าแล้วอย่างไรอย่างนั้น ได้แต่ยืนตัวตรงดิ่ง มองดูคนที่อยู่ตรงหน้าคนแล้วคนเล่าร่วงหล่นลงไปทั้งหมด! นักบวชเห็นดังกล่าวสีหน้าเปลี่ยนไปทันที แต่ละคนนั่งลงขัดสมาธิแล้วต่างคนต่างเริ่มท่องบทสวด
ซ่งอิงสีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน
แปลกประหลาดเกินไปแล้ว!
หลังครุ่นคิด ซ่งอิงใช้ความนึกคิดลองตวัดแสงสีทองออกจากมือ และแล้วก็มีลำแสงหนึ่งปรากฏขึ้นมา แต่กลับไม่ใช่สีทอง หากแต่เป็นสีแดง พุ่งฟาดลงไปในทะเลสาบแห่งนั้น!
ซ่งอิงตาแดงระเรื่อ รู้สึกเพียงพละกำลังทั้งตัวแทบหมดลง จากนั้นไม่ทันไร แสงสีแดงนั้นราวกับเชือกเส้นหนึ่ง มัดเอาปลาดุกตัวใหญ่ตัวหนึ่งขึ้นมา ปลาดุกตัวนั้นทั้งตัวเคลือบไว้ด้วยสีน้ำเงินเข้ม หนวดริมปากยาวเฟื้อยเป็นพิเศษ มองดูน่าสยดสยองอย่างยิ่ง
ซ่งอิงอยากนำมันเข้าไปอยู่ในช่องว่างระหว่างมิติ
แต่ทุ่มเทพละกำลังทั้งหมดที่มีแล้วก็ไม่ขยับเขยื้อน ทำได้เพียงมัดตัวเอาไว้แล้วค่อยๆ ลากขึ้นฝั่งทีละนิด
ทว่าหลังปลาดุกถูกนางควบคุมเอาไว้ คนในน้ำก็ทยอยปีนป่ายกันขึ้นมาได้
“เมื่อครู่ข้ารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมาดันก้นข้า…ผลักเอาข้าขึ้นมา…” หนึ่งในนั้นรำพึงรำพันหลังปีนขึ้นฝั่งได้อย่างยากลำบาก
คนอื่นๆ ไม่ได้จดจ่อฟัง
แต่ละคนล้วนสำลักน้ำ เอาชีวิตรอดกลับมาได้ก็โชคดีแล้ว!
แต่…
แน่นอนว่าพวกเขาไม่อาจลืมเหตุการณ์ประหลาดคราวนี้ได้
พวกเขาคิดเพียงว่าแม่นางซ่งที่สวมหมวกท่านนั้นยืนอยู่ไม่ขยับเขยื้อน แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด มีความรู้สึกว่าไม่ควรทำให้นางไม่พอใจ แล้วยังมีทะเลสาบนั่นอีก ในน้ำมีปลาใหญ่ตัวหนึ่งกระโดดขึ้นมา!
ตัวใหญ่โตมากจริงๆ อย่างน้อยๆ ก็ความยาวประมาณหนึ่งเมตร ทั้งตัวอ้วนกลมหนาเตอะ มองดูน่ากลัวยิ่งนัก
คนอื่นมองไม่เห็นแสงสีแดงที่ซ่งอิงใช้มัดปลาดุกเอาไว้ ยามนี้จึงพากันมองไปข้างหน้าอย่างประหลาดใจ
ซ่งอิงรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย
เพราะนางรู้สึกว่าเรี่ยวแรงตัวเองใกล้จะหมดลง
แสงสีแดงนั่นเล็กลงเรื่อยๆ และแล้วครึ่งเค่อต่อมาก็หายไป ซ่งอิงอ่อนยวบไปทั้งตัว รีบคว้าต้นไม้ใหญ่พยุงตัวไว้
เห็นเพียงปลาดุกที่เดิมทีไม่ขยับเขยื้อนกระโดดดิ้นกะทันหัน และส่งเสียงร้องไห้อย่างเด็กทารกก็ไม่ปาน!
ผู้คนที่เดิมทีมองสำรวจอยู่ใกล้ๆ ต่างตระหนกตกใจ
“ไม่ใช่ว่า…มีปีศาจจริงๆ กระมัง!”
“นี่…เหตุใดจึงมีปลาประหลาดเช่นนี้อยู่ด้วยล่ะ หรือว่ากลายเป็นภูตปีศาจ?!”
“…”
ในขณะนั้นเอง เบื้องหน้าซ่งอิงปรากฏคนผู้หนึ่ง
ฮั่วเจ้ายวนขมวดคิ้ว มองเห็นซ่งอิงกลับไม่พูดจาใดๆ พุ่งไปยังปลาดุกที่อยู่บนพื้นนั้น ปลาดุกตัวนั้นเดิมทีร้องเสียงแหลม แต่ครั้นฮั่วเจ้ายวนมาถึงกลับกลายเป็นอ่อนแออย่างยิ่ง ท้ายที่สุดก็ดูไม่ต่างจากปลาดุกธรรมดา
เวลานั้นเอง ซ่งอิงใช้พละกำลังสุดท้ายที่พอเหลืออยู่ตวัดแสงสีแดง ปลาดุกกระตุกสองครั้ง ก่อนจะไม่ขยับเขยื้อนตัวอีกต่อไป
และทันใดนั้นนางก็รู้สึกคล้ายว่ามีอะไรบางอย่างบนตัวปลาดุกนั้นบุกรุกเข้ามายังช่องว่างระหว่างมิติของนาง…
ตอนที่ 194 สิ่งของใต้น้ำ
ซ่งอิงไม่รู้เช่นกันว่านั่นคืออะไร ขณะวางมือเท้าต้นไม้ใหญ่อยู่ก็ตั้งจิตควานหาดูในช่องว่างระหว่างมิติ
เป็นลูกปัดสีชมพูแดงเม็ดหนึ่ง
ด้านในลูกปัดนั้นยังมีเสียงแปลกประหลาดเหมือนเสียงร้องของเด็กทารก ราวกับผู้หญิงด่าทอด้วยความโกรธจัด เป็นอะไรที่พิเศษมาก ลูกปัดเคลื่อนที่ไปทั่ว ทำให้นางรู้สึกรำคาญ ทั้งยังหนวกหูเล็กน้อย จิตใต้สำนึกอยากให้ของสิ่งนี้กลิ้งออกไปเสีย อย่างไรก็ตามครั้นมีความคิดนี้ ลูกปัดสีแดงนั่นก็แตกกระจายกลางอากาศจริงๆ ระเบิดออกเป็นผงฝุ่นดุจปุ๋ยก็ไม่ปาน ตกลงสู่โคนต้นไม้ใหญ่ในช่องว่างระหว่างมิติแห่งนั้น
ไม่ทันไร นางสัมผัสได้ว่าต้นไม้ใหญ่คล้ายมีชีวิตชีวาขึ้นมาเล็กน้อย มัน ปรากฏยอดอ่อนงอกขึ้นมาสองใบ?
ซ่งอิงครุ่นคิดสับสนวุ่นวายไปหมด และในเวลานั้นเองฮั่วเจ้ายวนก็เดินไปอยู่เบื้องหน้าปลาดุกยักษ์ตัวนั้นแล้ว
“ต้าเหริน นี่ นี่เป็นปีศาจ…” มีคนตกใจกลัวไม่เบา
ฮั่วเจ้ายวนเตะปลาดุกด้วยเท้าเดียว “ปีศาจที่ตายแล้วน่ะหรือ เหอะ”
ก็แค่ปลาตัวหนึ่งที่มีอายุมากหน่อยเท่านั้นเอง หากเป็นปีศาจ ยามนี้จะตายทันทีที่ห่างจากน้ำได้อย่างไร
คนอื่นงุนงงนิ่งอึ้งไปเช่นกัน
โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่มือปราบเหล่านั้น เมื่อครู่เพิ่งเห็นปลาดุกยักษ์ที่เกรี้ยวกราดราวกับจะกินคน แต่พอใต้เท้าท่านนี้มาถึง ปลาตัวนี้กลับตายไปทันทีทันใด!
ต่อให้ปลาขึ้นจากน้ำมาแล้วจะตาย แต่ด้วยช่วงเวลาแค่นี้มันสั้นเกินไปหรือเปล่า
“สาเหตุที่ชาวบ้านตกน้ำตรวจสอบเจอแล้วหรือยัง” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยถาม
“เอ่อ…คล้ายว่าเป็นปัญหาจากน้ำขอรับ…เพียงแต่เมื่อครู่ตอนที่หมอทั้งสองท่านเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อเอามาตรวจสอบ กลับไม่ทันระวังพลัดตกลงไป พวกเราสี่ห้าคน…ก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นตอนนี้ ยังตรวจสอบไม่ได้ว่าสรุปแล้วมีอะไรในน้ำกันแน่ขอรับ…” เจ้าหน้าที่มือปราบกล่าวอย่างปวดใจ
ฮั่วเจ้ายวนขมวดคิ้วเล็กน้อย
พิลึกพิลั่นขนาดนี้เชียว?
เขาคว้าที่ตักน้ำมา แล้วเดินมุ่งไปริมทะเลสาบทันที ก้มหน้ามองดูน้ำในน้ำ กลับไม่รู้สึกว่าจะมีอะไรเป็นพิเศษ จากนั้นเอื้อมมือลงไปช้อนตักเอาน้ำมายังเบื้องหน้าหมอผู้เฒ่าอย่างง่ายดาย “ตรวจดูสิ”
เพียงแค่เรื่องราวการตกน้ำ วุ่นวายใหญ่โตกันมากี่วันแล้ว?
ตอนนี้เรื่องประหลาดของหมู่บ้านสือโถวแพร่สะพัดไปทั่วจนผู้คนต่างรับรู้กันถ้วนหน้า ใครๆ ต่างพูดกันว่ามีภูตปีศาจอาฆาตร้าย ข่าวเล่าข่าวลือเช่นนี้ไม่ดีเอาเสียเลย
บรรดาเจ้าหน้าที่มือปราบยังตั้งสติกันไม่ค่อยได้ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไร
หมอผู้เฒ่าทั้งสองคนรีบทำการตรวจสอบทันที หลังเวลาผ่านไปประมาณสองเค่อ สองคนนี้จึงได้เอ่ยปากพูด “เรียนต้าเหริน น้ำนี้…น่าจะไร้พิษใดๆ สูดดมดูมีกลิ่นคล้ายเมือกกบผสมอยู่เล็กน้อย เพียงแต่ไม่เข้าใจเหตุใดจึงมากขนาดนี้…แต่เพราะเมือกอยู่ในทะเลสาบ ดังนั้นคนทั่วไปจึงมองไม่ออกขอรับ”
“เพียงแค่นี้น่ะหรือ” ฮั่วเจ้ายวนกล่าว
“ใช่ขอรับ” หมอผู้เฒ่ามีสีหน้าประหม่า
“เมื่อครู่พวกท่านตกลงไปในน้ำกันแล้ว รู้สึกถึงอะไรเป็นพิเศษหรือไม่” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยถาม
สามสี่คนครั้นได้ยินดังกล่าวก็รีบนึกย้อนกลับไป นึกถึงความรู้สึกที่ใกล้จะขาดใจตายเช่นนั้นแต่ละคนต่างหน้าซีดเผือด
“ข้ารู้สึกว่าบริเวณเท้าเหมือนมีอะไรพันเอาไว้ขอรับ…”
“ข้าก็เช่นกันขอรับ เพิ่งจะลอยขึ้นมาได้ก็รู้สึกว่าเท้ามีแรงดึงดูดหนึ่งดึงข้าเอาไว้ ทว่า…หลังปลาดุกยักษ์ตัวนี้ถูกตวัดขึ้นมา แรงนั่นก็หายไปทันที กลายเป็นว่า…มีอะไรบางอย่างจ่อที่ก้นข้า ดันเอาข้าขึ้นฝั่งมาขอรับ”
“ข้าก็เป็นเช่นเดียวกันขอรับ…”
แต่ละคนล้วนให้การในทิศทางเดียวกัน
ฮั่วเจ้ายวนขมวดคิ้วแน่น
หากกล่าวเช่นนี้ ก็เป็นเพราะในน้ำมีบางอย่าง?
“จัดคนมา งมดูบ่อน้ำทะเลสาบแห่งนี้อย่างละเอียด ต่อให้เป็นก้อนหินก็ต้องเอาขึ้นมาให้ข้าให้จงได้!” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวเสียงเย็นชา
ฮั่วซื่อเซี่ยงขานรับทันควัน ครั้นยกมือโบกกวัก กลุ่มทหารอารักขาที่ติดตามมาก็ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมีระเบียบและไม่กลัวสิ่งที่เรียกว่าปีศาจแต่อย่างใด
พวกเขาติดตามผู้เป็นนายมาตั้งนานขนาดนี้แล้ว มีอะไรบนโลกบ้างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน?
เรื่องราวเช่นเดียวกันนี้ก็เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตัวอย่างเช่นปีที่แล้ว ในเขตเมืองยงมีชายอารักขาความปลอดภัยประจำเรือนในตระกูลร่ำรวยแห่งหนึ่งเสียชีวิตไปทีละคนทุกๆ เจ็ดวัน ชายเหล่านั้นที่ตายไป เนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกท้อ ฉะนั้นคนตระกูลนั้นจึงต้องการตัดดงต้นท้อที่อยู่ลานหลังบ้านทั้งหมดทิ้งเสีย แต่ใครจะรู้ว่า เพิ่งลงมือ ผู้อารักขาความปลอดภัยประจำเรือนก็ครั้นเนื้อครั้นตัว แต่ละส่วนอ่อนแรงไปหมด