ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 257 เชื้อเชิญ ตอนที่ 258 ความโดดเด่นเฉพาะตัวของใต้เท้า
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 257 เชื้อเชิญ ตอนที่ 258 ความโดดเด่นเฉพาะตัวของใต้เท้า
ตอนที่ 257 เชื้อเชิญ
ฮั่วเจ้ายวนเห็นว่าเกลี้ยกล่อมไม่ได้ผลจึงไม่เอ่ยพูดให้มากความอีก เพียงแต่หลังนึกถึงเรื่องราวที่หมู่บ้านสือโถวแห่งนั้นจึงเชื้อเชิญซ่งอิงนั่งลง
“แม่นางซ่ง วันนั้น…ได้เห็นอะไรที่แปลกประหลาดเป็นพิเศษหรือไม่” ฮั่วเจ้ายวนกล่าว
“ไม่เจ้าคะ” ซ่งอิงโต้ตอบอย่างสงบเยือกเย็น
ฮั่วเจ้ายวนจ้องมองนาง ขบคิดแล้วกล่าวขึ้นอีกครั้ง “วันเทศกาลจงหยวน[1] ข้าอยากเชิญแม่นางมาเมืองยงพบปะกันที่วัดผู่หัว จะได้หรือไม่”
“นั่นไม่ดีกระมัง เมื่อครู่ข้าพูดชัดเจนมากแล้วนะเจ้าคะ…”
“ไม่ใช่อย่างที่แม่นางคิด ถึงเวลาแม่นางชวนคนร่วมทางมาด้วยก็ย่อมได้ ตัวข้าจะรับผิดชอบค่ารถม้าเอง วันเทศกาลจงหยวนวัดผู่หัวต้องดำเนินพิธีการหนึ่ง ท่านอาจารย์ที่นั่นกล่าวว่าอยากเชิญแม่นางไปเจอะเจอกันเสียหน่อยเท่านั้นเอง” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ความจริงคือ…
วันนั้นหลังซ่งอิงจากไป เขาก็ให้คนนำปลาดุกมาตรวจดูอย่างละเอียด ผลการตรวจสอบพบว่าปลาดุกตัวนั้นมีรอยแยกที่ท้องอย่างสาหัส และยังดูเหมือนขาดสิ่งหนึ่งไปอีกด้วย ประหลาดมาก เขาไม่คิดจะเชื่อเรื่องลี้ลับเหนือธรรมชาติ แต่เพื่อหาความสมเหตุสมผลจึงไปวัดผู่หัวถามไถ่นักบวชที่มีสมณศักดิ์สูง
นักบวชสมณศักดิ์สูงกล่าวว่า นั่นคือสัตว์ที่เหนือธรรมดาทั่วไป
สภาพในท้อง น่าจะเป็นผลที่เกิดจากผลึกพลังงานที่ปลูกฝังโดยปีศาจ นอกจากนั้นเขายังได้ถามไถ่คนในสถานการณ์วันนั้นและพบว่าวมีเพียงแม่นางผู้นี้ที่ดูผิดปกติ
มีคนพูดว่า วันนั้นแม่นางผู้นี้คล้ายมีแสงสว่างเหนือศีรษะ ทั้งเนื้อตัวเหมือนทอประกายความน่าเกรงขามไม่ควรรุกล้ำก็ไม่ปาน
นักบวชสมณศักดิ์สูงกล่าวเช่นกันว่า บนโลกนี้มีคนบางส่วนที่มีพลังความสามารถติดตัวอยู่จริง ปีศาจชั่วร้ายไม่กล้าเข้าใกล้ แต่…ที่สามารถกำจัดผลึกพลังงานของปีศาจได้กลับไม่เคยได้ยินมาก่อน
คำพูดเหล่านั้น เขาย่อมไม่ค่อยเชื่อเท่าไรนัก
แต่ในเมื่อได้ยินแล้วก็ต้องพิสูจน์ความจริงสักครั้ง
ในวันเทศกาลจงหยวน วัดผู่หัวต้องจัดพิธีทุกปี นักบวชสมณศักดิ์สูงเอ่ยว่า วันนั้นเสียงบทสวดจะผลักดันสิ่งชั่วร้ายข้ามแดน จะปกปักษ์บ้านเมืองให้สงบสุขร่มเย็น แน่นอนว่าหากตัวนักบวชสมณศักดิ์สูงมีคุณธรรมอันดีงามล้ำเลิศ ก็จะสามารถขับไล่วิญญาณและกำจัดพลังงานของวิญญาณได้ด้วย
ลึกลับอย่างยิ่ง ดังนั้นจำเป็นต้องเห็นชัดๆ สักครั้ง
วัดผู่หัวจะมีนักบวชสมณศักดิ์สูงสักเท่าใด? ก็แค่รูปเดียวเท่านั้นเอง ดังนั้นเพื่อพิสูจน์คำพูดของนักบวช เขาจึงส่งจดหมายหนึ่งฉบับเพื่อเชิญนักบวชสมณศักดิ์สูงจากแต่ละพื้นที่อีกด้วย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการเดินทางทั้งหมด
ดูซิว่าจะมีเรื่องเหนือธรรมชาติเช่นนั้นอยู่จริงหรือไม่
ซ่งอิงคิดว่า ใต้เท้าท่านนี้บทจะชักสีหน้าก็ชักสีหน้าเสียดื้อๆ แววตานั่นคล้ายว่าไม่อยากให้นางปฏิเสธ
ถึงอย่างไรนางก็ไม่ใช่ปีศาจไม่ใช่ผี ยิ่งไปกว่านั้นคือไม่ใช่ตัวประหลาดอะไร ไปๆ ก็ไม่เป็นไรเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นนางเตรียมจะทำกิจการที่ทางด้านเมืองยงอยู่พอดี ถือเสียว่าไปเยี่ยมชมเมืองก็ได้เช่นกัน
“เช่นนั้นก็ได้เจ้าค่ะ ถึงเวลาข้าจะไปเจ้าค่ะ” ซ่งอิงพยักหน้าตกลง
“เช่นนี้ก็ดี” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวด้วยความพอใจ
ใต้เท้าผู้นี้มองดูเย็นชาขึ้นกว่าเดิมมาก
ซ่งอิงค่อนข้างอ่อนใจ ผู้ชายเป็นพวกนิสัยใจแคบ แค่สารภาพรักแล้วถูกปฏิเสธเท่านั้นเอง คิดไม่ถึงว่าจะชักสีหน้าใส่กันเสียแล้ว
นางกลับไม่รู้เลยว่านี่ต่างหากเป็นอากัปกิริยาปกติของฮั่วเจ้ายวน
ใต้เท้าผู้นี้หลังบอกกล่าวอย่างง่ายๆ แล้วก็จากไป เมื่อเขาเดินไปแล้ว ซ่งหม่านซานถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
“ใต้เท้าท่านนี้เป็นใครมาจากไหน ดูค่อนข้างน่ากลัวทีเดียวเชียว” ซ่งหม่านซานขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยเกรงกลัวสิ่งใดและเคยเห็นท่านนายอำเภอมาแล้วเช่นกัน กับนายอำเภอ หลังเขายกยอปอปั้นไม่กี่ประโยคก็พูดคุยได้อย่างสนุกสนานแล้ว แต่สำหรับท่านผู้นี้กลับรู้สึกต่างออกไป
แววตาลึกล้ำนั่นไม่อาจมองออกได้ ไม่มีความร่าเริงเลยแม้แต่น้อย เหมือนมองดูคนตายอยู่อย่างไรอย่างนั้น ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่บ้าง อีกทั้งแม้พูดจากับเอ้อร์ยาด้วยคำพูดที่ฟังดูชื่นชม แต่มักรู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่มีความเป็นหนุ่มเลยสักนิดและไม่จริงใจเลยสักนิดเช่นกัน ไม่รู้ว่าเกลียดกันหรือไม่…
“ข้าไม่รู้เช่นกัน น่าจะเป็นขุนนางทางเมืองยงนั่น แวะเวียนมาอำเภอหลี่พวกเราบ่อยครั้ง ทว่ารูปลักษณ์แม้เย็นชาดุดันไปหน่อย แต่กลับจิตใจดีไม่น้อย” ซ่งอิงกล่าว
ขุนนางน้ำดีที่รู้จักมอบเงินให้ นับเป็นขุนนางที่ซื่อสัตย์และจิตใจดีงามของปวงประชา!
“คนระดับนี้ไม่ใช่ผู้ที่พวกเราจะสร้างความบาดหมางด้วยได้ เอ้อร์ยา ข้ารู้ว่าเจ้ามีใจเคืองแค้นตระกูลนั้น แต่อย่าได้จึงขายตัวเองเพื่อแก้แค้นเชียวนะ” ซ่งหม่านซานกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ตอนที่ 258 ความโดดเด่นเฉพาะตัวของใต้เท้า
ซ่งอิงหัวเราะอย่างจนปัญญากับสิ่งที่ซ่งหม่านซานพูด
เคียดแค้น?
ความรู้สึกตลอดจนความทรงจำของนางหลอมรวมกับเจ้าของร่างเดิมแล้วก็ถือว่าเป็นคนคนเดียวกัน แต่ต่อให้เป็นเจ้าของร่างก็ไม่ถือว่ารู้สึกเคียดแค้นตระกูลนั้นแต่อย่างใด
เจ้าของร่างเป็นเด็กสาวที่ซื่อบื้อคนหนึ่ง ไร้เดียงสาเจียมเนื้อเจียมตัว นางมีความเคืองโกรธจวนโหว แต่ที่มากกว่านั้นคือความผิดหวังและความกลัว เพราะจวนโหวฐานะสูงส่งเกินไป สูงส่งจนทำให้เจ้าของร่างตัวเล็กๆ ไม่กล้าหาเรื่องด้วย หนีรอดมาจากสถานที่เช่นนั้นได้นางก็ดีใจแทบแย่แล้ว ยังจะเคียดแค้นอะไรอีกได้ที่ไหนกันเล่า
นางแตกต่างกับเจ้าของร่างตรงที่นางมีความรังเกียจจวนโหว
อย่างไรก็ตามนางรู้เช่นกันว่ายังห่างชั้นกันมาก ย่อมไม่หาเรื่องใส่ตัวอยู่แล้ว
ส่วนที่ว่าขายตัวเพื่อแก้แค้น…
ไม่เคยแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำไป ได้มีชีวิตอีกภพชาติไม่ใช่เรื่องง่าย ทำชีวิตของตัวเองให้สุขสบายก็ใช้ได้แล้ว ตอนมีชีวิตอยู่ไม่ขาดแคลนเงินไว้จับจ่าย ตอนตายได้จากไปอย่างสงบ จากนั้นอดทนไปอีกสามสี่ชั่วชีวิต พยายามใช้ชีวิตไปวันๆ เพื่อจะได้เป็นเซียนตัวน้อยๆ แค่นี้ก็สมบูรณ์แบบแล้ว การใช้ผู้อื่นเป็นเครื่องมือแก้แค้นนั่นเป็นเรื่องที่ขาดคุณธรรม
“อาสี่ ใครบ้างมีเส้นทางชีวิตที่ดีแล้วไม่เลือกเดิน แต่กลับเดินไปหาความตายกันล่ะ? ข้ากลับมาโดยเกือบเอาชีวิตไม่รอด แล้วจะโง่เง่ากลับไปหาความตายอีกหรือ ข้าไม่โง่ขนาดนั้นหรอกน่า!” ซ่งอิงยิ้มกล่าว
เมื่อเอ่ยพูดเช่นนี้ ซ่งหม่านซานมองนางแวบหนึ่ง
เรื่องราวของตระกูลนั้นเขาเองไม่ทราบแน่ชัด รู้เพียงแค่ตอนเด็กคนนี้กลับมา นิ้วเท้าก็หายไปหนึ่งนิ้วและใบหน้าเสียโฉมแล้ว
นิ้วเท้า…
สิบนิ้วเชื่อมกับหัวใจกระมัง?
เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าแค่นิ้วเท้าเกินมาเท่านั้นเอง ถือเป็นความผิดปกติอะไรใหญ่โตหรือ เด็กผู้หญิงดีๆ คลอดออกมาได้ปลอดภัยก็นับว่าเป็นบุญใหญ่หลวงแล้ว ไยจึงไม่ต้องการอีกล่ะ คนตระกูลร่ำรวยสูงศักดิ์เป็นพวกประสาทกลับ!
“เช่นนั้นก็ดี เจ้ารู้จักตริตรองในใจก็ดี ข้าไปก่อนละ เจ้ากินข้าวไปเยอะๆ แล้วก็กลับเถอะ” ขณะพูด ซ่งหม่านซานก็เดินจากไปสบายๆ
หลังซ่งหม่านซานเดินไป ซ่งอิงเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าอาสี่ไม่ได้จ่ายเงิน!
อาสี่ใจดำ นางประมาทเขาไปแล้ว!
ดีที่นางยังเหลือเงินอยู่บ้าง แม้จะให้ตั๋วเงินแก่อาสี่ไปแล้วก็ยังเหลือติดตัวอยู่
แต่ตอนจ่ายเงิน ซ่งอิงถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก
เพราะ…
รายการอาหารของใต้เท้าฮั่วก็ยังไม่ได้จ่ายเงิน นางกับอาสี่นั่งพูดคุยกับใต้เท้าฮั่วอยู่ที่โต๊ะเขาพักหนึ่ง ดังนั้นบัญชีนี้จึงตกมาอยู่ที่นาง!
ใต้เท้าผู้นี้…มีความโดดเด่นเฉพาะตัวดีนี่
ชายที่สารภาพรักไม่สำเร็จจึงมีความตระหนี่ถี่เหนียวเพิ่มขึ้นมา
“แย่แล้ว…” ฮั่วซื่อเซี่ยงเพิ่งติดตามนายท่านกลับมายังจวนอำเภอหลี่พลันนึกบางอย่างขึ้นได้ มองเจ้านายตนเองอย่างประหม่า “เมื่อครู่…ข้าน้อยลืมจ่ายเงินขอรับ”
“…” ฮั่วซื่อเซี่ยงขมวดหว่างคิ้ว
“ข้าน้อยก็แค่ตกตะลึงเล็กน้อย ดังนั้นจึง…ลืมเอาเงินวางไว้บนโต๊ะ ทว่าต้าเหริน…แม่นางซ่งผู้นั้น บางทีอาจมีน้ำใจก็ได้นะขอรับ…” ฮั่วซื่อเซี่ยงกล่าวหน้าสลด
“นำเงินไปจ่ายเสีย หากแม่นางซ่งจ่ายแล้ว เช่นนั้นเจ้าก็นำเงินไปคืนให้ในหมู่บ้าน” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวอย่างสั้นง่ายได้ใจความ
จะติดค้างคนอื่นได้อย่างไรกัน
“ถือโอกาสเสาะถามดูซิว่าสามีของแม่นางซ่งนิสัยใจคอเป็นอย่างไร หากไม่ใช่คนซื่อสัตย์ก็จัดการสั่งสอนสักหน่อย” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวเสริมอีกประโยค
ฮั่วซื่อเซี่ยงพยักหน้าอย่างระแวดระวัง
ฝั่งซ่งอิงเดินเล่นซื้อสิ่งของที่จำเป็นจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็ไปทางเข้าออกเมือง จูงลาตัวน้อยของนางออกเดินทาง
อำเภอหลี่มีการจัดการค่อนข้างเข้มงวด อย่างเช่นสัตว์ประเภทนี้ จะมีสถานที่ช่วยดูแลให้เป็นการเฉพาะ แน่นอนว่าหากมีสัมภาระมากมาย จะจูงสัตว์ร่วมทางเข้าเมืองไปด้วยก็ได้เช่นกัน แต่ต้องจ่ายเงินหนึ่งติ้ง[2] ใช้เป็นค่าทำความสะอาดถนนหนทาง
วิธีการนี้เหมือนการเก็บค่าจอดรถในภพชาติก่อน ค่อนข้างเหมาะสมกับวิถีชีวิตของผู้คนไม่น้อยทีเดียว
ทว่านางยินดีที่จะนำต้าไป๋ฝากไว้บริเวณประตูเมือง เพราะที่นั่นมีสัตว์มากมาย มันจะได้พูดคุยกัน
ซ่งอิงพาต้าไป๋กลับไปยังหมู่บ้าน แต่ยังไม่ทันพ้นปากทางเข้าหมู่บ้านก็มองเห็นมารดานางปรี่เข้ามาพร้อมดวงตาแดงก่ำ “ลูกแม่! เจ้ากลับมาเสียที! ชีวิตของเจ้าหลังจากนี้จะดำเนินไปเช่นไร?! หลานหลิน บิดามารดาแท้ๆ ของหลานหลินมาหาแม่ มิหนำซ้ำยังพาคนมาด้วยหลายคนก่อนจะพาตัวเขาไป! แม่ไม่เอาไหน ไม่อาจรั้งไว้ได้จริงๆ..”
——————————–
[1] เทศกาลจงหยวน (中元节) คือ วันสารทจีน ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 7 ตามปฏิทินทางจันทรคติ
[2] ติ้ง (锭) คือสกุลเงินชนิดหนึ่งในจีนยุคโบราณ ลักษณะเป็นแท่งโลหะเงินขนาดใหญ่ จัดเป็นเศษเงิน มีน้ำหนักแตกต่างกันออกไป