ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 33 ชนะได้ให้เงิน ตอนที่ 34 ขายหมดแล้ว
ตอนที่ 33 ชนะได้ให้เงิน
น้ำเสียงที่ไร้เดียงสาของนางทำให้คนผู้นั้นยิ้มเยาะ “น่าสนใจดีทีเดียว ได้สิ หากเจ้าแพ้แล้วเบี้ยวไม่ให้เงิน ข้าก็จะพังแผงลอยนี้ของเจ้าเสีย! ผลไม้ป่านี่ราคาจินละเท่าใดล่ะ”
“ห้าอีแปะ[1]” ซ่งอิงกล่าวทันควัน
อีกฝ่ายยิ้มทั้งที่โกรธจัด ส่วนชายชราที่อยู่แผงหนังสือจดหมายข้างๆ ส่ายหน้าเล็กน้อย
ห้าอีแปะ เหอะ ในตัวอำเภอนี้เงินห้าอีแปะเพียงพอสำหรับกินบะหมี่น้ำหยางชุน[2]สองชามและซื้อถังหูลู่[3]ได้อีกไม้หนึ่งด้วยซ้ำ
ที่ขายอยู่บนแผงนี้ เป็นเพียงผลไม้ป่าเท่านั้นนี่ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าขายจินละห้าอีแปะ ช่างกล่าวเกินจริงไปแล้ว!
ทว่าบุรุษผู้นี้ก็ไม่ได้พูดอะไร นำเหรียญทองแดงโยนให้ซ่งอิง จากนั้นก็กล่าว “มาเริ่มกันเถอะ?”
“น้องพี่ ให้พี่เล่นแทนหรือไม่…” ซ่งสวินกล่าวขึ้นทันที
ซ่งอิงกลับยิ้มเล็กน้อย ก่อนดันซ่งสวินถอยไปด้านหลัง “พี่ชายท่านนี้ ท่านเตรียมพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็เริ่มเลยแล้วกัน!”
เมื่อคำพูดสิ้นเสียง ซ่งอิงปรายตามองคนผู้นั้นแวบสายตาหนึ่ง ในเวลาเดียวกันนี้เอง ทั้งสองออกมือพร้อมกัน!
ความครึกครื้นนี้ทำให้ผู้คนสองสามคนที่เดินผ่านไปมาหยุดชะงักฝีก้าว อดเดินเข้ามามองดูไม่ได้ ครั้นเห็นดังกล่าว ล้วนแปลกใจกันถ้วนหน้า รอบแรกนี้ ชายผู้นั้นออกค้อน ซ่งอิงยื่นมือออกผ้า
“อีกครั้ง!” ชายคนดังกล่าวเร่งเร้า
รอบที่สอง เริ่มต้นขึ้น
ชายผู้นั้นยังคงออกค้อนเช่นเดิม ส่วนซ่งอิงก็ยังคงออกผ้าเช่นเดิม ระดับความเร็วที่ทั้งสองออกมือมองไม่ออกว่าใครก่อนใครหลัง แต่เห็นได้ชัดเจนว่า ซ่งอิงเป็นผู้ชนะ!
ชนะสองในสาม รอบที่สามจึงไม่ต้องเล่นแล้ว!
ฝ่ายชายขมวดคิ้ว ควักเหรียญทองแดงออกมาอีกห้าเหรียญ “เอามาอีกหนึ่งจิน!”
“ตกลง ท่านพี่ ท่านช่วยห่อของเอาไว้ให้พี่ชายท่านนี้ทีนะเจ้าคะ” ซ่งอิงขานรับอย่างสบายๆ
ผลไม้หนึ่งจินไม่ได้มากมายเช่นกัน ใช้กระดาษน้ำมันห่อและใช้เชือกป่านผูกไว้ ก่อนยื่นส่งให้อีกฝ่ายสองห่อเล็กๆ
อีกฝ่ายไม่ให้ความสนใจแต่อย่างใด รับเอามาไว้แล้ววางลง ก่อนเล่นเป็นจริงเป็นจังกับซ่งอิง
การเล่นเป่ายิ้งฉุบกับเขาครานี้ ส่งผลให้หน้าแผงของซ่งอิงมีผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเพิ่มขึ้นอีกหลายคน
อีกรอบหนึ่งเริ่มต้นขึ้น
ฝ่ายชายออกกรรไกร ทว่าซ่งอิงออกค้อน จากนั้น อีกฝ่ายออกผ้า ส่วนซ่งอิงออกกรรไกร
ชนะอีกแล้ว!
“บัดซบ แม่งเอ๊ย!” ชายคนดังกล่าวส่งเสียงสบถ รู้สึกขายหน้าเล็กน้อย จึงซื้ออีกหนึ่งจิน
ซ่งสวินทั้งตกใจทั้งดีใจ และประหลาดใจเล็กน้อยว่าสรุปแล้วซ่งอิงใช้วิธีการอะไร ทำไมซ่งอิงจึงเอาชนะได้ทุกครั้ง!
ความสามารถระดับนี้ เขาไม่มีหรอก!
ครั้งที่สาม ไม่เหนือจากความคาดหมาย ซ่งอิงชนะอีกแล้ว ดึงดูดผู้คนรอบข้างที่เดินผ่านไปมาจำนวนไม่น้อยพากันส่งเสียงว่าเยี่ยมๆ
ซ่งอิงคิดไม่ถึงเช่นกันว่าผลลัพธ์จะดีงามเพียงนี้ เมื่อครู่นางเพียงฉุกประกายความคิดชั่ววูบ คิดได้ว่าตนกินผลไม้ของช่องว่างระหว่างมิตินั้นเข้าไปแล้ว ร่างกายแต่ละส่วนล้วนมีสมรรถภาพที่ล้ำเลิศขึ้น ทักษะการมองน่าจะเพียงพอเล่นเกมนี้ได้ นี่จึงลองดูเสียหน่อย ผลปรากฎว่าเป็นเช่นนั้นจริงๆ
ชายผู้นั้นซื้อผลไม้ไปจำนวนสามจินแล้ว เห็นผู้คนมากขึ้นเรื่อยๆ ชักเริ่มรู้สึกไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนเสียแล้ว
“แม่นางสาวน้อย ฝีมือใช้ได้เลยนี่ คิดไม่ถึงว่าจะเอาชนะข้าติดต่อกันถึงสามครา ยอดเยี่ยม!” ชายผู้นั้นกล่าวจบ จงใจวางท่าทางองอาจเดินจากไป
ซ่งอิงมองคนกลุ่มนี้ ครุ่นคิดชั่วครู่ แล้วกล่าวอย่างแน่วแน่ “วันนี้ข้าและพี่ชายขายผลไม้กันที่นี่ แม้เป็นผลไม้ป่า แต่ข้าให้พวกท่านลองลิ้มชิมรสกันได้เลย รสชาตินี้ทั้งหอมทั้งหวานแน่นอน หรือหากมีความสนใจอยากเล่นเป่ายิ้งฉุบกับข้า ก็ดาหน้าเข้ามาได้เช่นกัน ซื้อผลไม้ครบทุกๆ สองจิน เล่นกับข้าได้หนึ่งรอบ หากเอาชนะได้ ไม่เพียงแต่ไม่ต้องจ่ายเงิน ข้ายังจะมอบเงินให้ด้วยอีกสิบอีแปะ”
คนเหล่านี้ไม่ได้ลิ้มชิมรส ดังนั้นแรงดึงดูดของผลไม้ป่านี้จึงไม่มีมากมายเท่ากับเหรียญทองแดง
ซ่งอิงเอ่ยพูดคำเหล่านี้จบ คว้าผลไม้ขึ้นมาจำนวนไม้น้อย แจกจ่ายให้ผู้คนที่อยู่รอบแผงขายคนละหนึ่งผล
ทุกคนต่างประหลาดใจมากเช่นกัน ทั้งที่เป็นลวี่โต้วกั่วทั่วไป จะทั้งหอมทั้งหวานได้อย่างไรกันหรือ
จากนั้นก็กัดกินเข้าไปหนึ่งคำ
ทันทีที่เข้าปาก แต่ละคนต่างตกตะลึงปนประหลาดใจ
“จริงหรือที่ว่าซื้อผลไม้แล้วเล่นเป่ายิ้งฉุบได้ เล่นชนะแล้วจะให้เงินด้วย?” มีคนอดเอ่ยถามไม่ได้
ตอนที่ 34 ขายหมดแล้ว
รสชาติของผลไม้ป่านี้ดีจริงๆ ด้วย!
โดยทั่วไปแล้วสิ่งที่ออกมาจากต้นผลไม้ป่า แม้มีความหอมหวาน แต่ก็ยังคงเลี่ยงไม่ได้ที่จะออกรสฝาดอยู่ไม่น้อย แต่ลวี่โต้วกั่วที่เพิ่งลิ้มรสเมื่อครู่ ทิ้งความหอมหวานเอาไว้หลังเข้าปาก ช่างเป็นรสชาติที่ยอดเยี่ยมจริงๆ!
“ทุกท่านแค่ลองลิ้มรสก็จะรู้เอง ข้ากับพี่ชายล้วนยืนกันอยู่ตรงนี้ แล้วจะหลอกลวงก่อนหนีเผ่นแน่บไปได้อีกหรือ อีกทั้งพวกท่านจำนวนมากมายเพียงนี้ ข้าก็หนีไปไหนไม่ได้เช่นกันนี่?” ซ่งอิงกล่าวอย่างไร้กังวล
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ปรากฏว่ามีคนซื้อของจริงๆ
ผลไม้ที่รสชาติอร่อยเพียงนี้ ต่อให้ไม่ชนะ ซื้อกลับไปซักสิบอีแปะก็ไม่ขาดทุน
ซ่งสวินรับหน้าที่ชั่งน้ำหนัก บรรจุลงห่อและรับเงิน ซ่งอิงคอยยืนอยู่ตรงนั้น รับหน้าที่เล่นเป่ายิ้งฉุบเป็นการเฉพาะ แข่งขันไปแล้วห้าคน ล้วนเอาชนะได้ทั้งหมด สภาพการณ์ที่ดูครึกครื้นเช่นนี้ ดึงดูดผู้คนมารับชมจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
ทว่าซ่งอิงก็พอรู้เช่นกันว่าจะเอาแต่ชนะอยู่ตลอดไม่ได้ เห็นผู้คนมาห้อมล้อมมากขึ้นเรื่อยๆ จึงยอมแพ้ติดๆ กันสองครา
ปรากฏว่าหลังมอบเงินออกไปเป็นจำนวนยี่สิบอีแปะ ระดับความเชื่อใจก็ทะยานขึ้นทันใด
บางคนเห็นแก่เงิน ครั้นเห็นดังกล่าวก็รีบลงมือซื้อทันที เพียงชั่วครู่เดียวก็เริ่มต่อแถวขึ้นมากันแล้ว
น่าเสียดาย หลังจากนั้นซ่งอิงก็แทบจะเอาชนะทั้งหมด นอกจากเห็นว่าลูกค้าเริ่มบางตาลง ถึงได้ยอมแพ้เพื่อจูงใจลูกค้ามาลิ้มชิมรสความหวาน
“ต้าเหริน[4] เจ้าของแผงร้านนี้น่าสนใจมากทีเดียวนะขอรับ เอาชนะเสียส่วนใหญ่ แพ้เป็นส่วนน้อยมาก ลวี่โต้วกั่วธรรมดาๆ คิดไม่ถึงว่าจะขายดิบขายดีเช่นนี้ นี่เพิ่งยามอู่[5] แต่ขายเกือบหมดแล้ว” ชั้นสองในบริเวณไม่ไกลออกไป นายบ่าวสองคนอดชะโงกหน้ามองดูไม่ได้เช่นกัน
“สายตาสตรีผู้นี้เลิศล้ำอย่างยิ่ง” บุรุษกล่าวด้วยเสียงราบเรียบ
สามารถควบคุมว่าจะเอาชนะหรือแพ้อย่างชาญฉลาด แสดงให้เห็นว่านางเข้าใจประจักษ์แจ้งว่าอีกฝ่ายต้องการออกมืออะไร ออกมือช้ากว่าอีกฝ่ายหนึ่งฝีก้าว แต่เพราะระดับความรวดเร็วที่ออกมือรวดเร็วเหลือเกิน ดังนั้นจึงมองจับผิดไม่ออก
เป็นแม่นางน้อยที่เจ้าเล่ห์คนหนึ่ง
ทว่า น้ำเสียงนี้กลับคุ้นหูเล็กน้อย คล้ายว่าเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
การขายลวี่โต้วกั่ววันแรกนี้ สองพี่น้องล้วนไม่รู้ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ดังนั้นจึงขนมาเพียงครึ่งเดียว ทั้งหมดมีเพียงหนึ่งร้อยยี่สิบกว่าจินเท่านั้น
ยามอู่เพิ่งล่วงเลยไป ลวี่โต้วกั่วที่นำมาก็เห็นส่วนล่างสุดประปรายเสียแล้ว
ซ่งอิงชั่งสองจิน ยื่นส่งให้ชายชราที่เขียนหนังสือจดหมายข้างๆ ยามที่ยุ่งสุดโต่งเมื่อครู่ ชายชราท่านนี้ก็มีน้ำใจยื่นมือมาช่วยเช่นกัน
ผลไม้ที่ให้ผู้คนลิ้มชิมรสโดยไม่คิดเงิน คร่าวๆ ประมาณยี่สิบจิน เงินเหรียญทองแดงที่จ่ายออกไปประมาณเก้าสิบอีแปะเห็นจะได้
ผลไม้หนึ่งจินราคาห้าอีแปะ ขายได้ทั้งหมดประมาณหนึ่งร้อยสองจิน จึงเป็นเงินห้าร้อยสิบอีแปะ กระดาษน้ำมันและเชือกป่านเอามาจากบ้าน ดังนั้นเพียงแค่ต้องหักลบจากกิจกรรมที่ละเล่นเป็นเงินเก้าสิบอีแปะ จะเท่ากับได้เงินสี่ร้อยยี่สิบอีแปะ
ซ่งสวินงงเป็นไก่ตาแตกมาพักใหญ่แล้ว มองดูตะกร้าที่ว่างเปล่า แล้วมองไปยังกล่องเงินนี่ ไม่รู้ควรพูดอะไรดี
ต้องเข้าใจว่า สองเค่อแรกที่เพิ่งเริ่มขาย เห็นๆ อยู่ว่าขายไม่ออกแม้แต่ผลเดียว
“ผลไม้ป่าล่ะ! ขายหมดแล้วหรือ” ขณะเตรียมเดินจากไป มีหนุ่มใหญ่คนหนึ่งวิ่งเข้ามา จับจ้องไปที่ตะกร้าเปล่าของทั้งสอง
“ท่านอา ข้าจำท่านได้ เมื่อครู่ท่านเพิ่งซื้อไปสองจินนี่เจ้าคะ” ซ่งอิงมองอีกฝ่ายขณะกล่าว
“แม่นางความจำดีจริงๆ” บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นยิ้มประหม่า “บอกเจ้าตามตรง ข้าซื้อผลไม้นี่กลับไป ถูกเมียอบรมเสียยกใหญ่ พอนางเดือดดาลก็เลยโยนผลไม้ทิ้งที่หน้าประตูบ้าน ใครจะรู้ว่าเด็กข้างบ้านจะมาเก็บเอาไป แล้วก็ประจวบเหมาะเสียยิ่งอะไรดี ลูกบ้านข้าไปเล่นบ้านเขา ให้ลูกชายข้ากินเพียงสามผลเท่านั้น ด้วยความอยากกินอีกเขาก็ร้องห่มร้องไห้โวยวายใหญ่โต นี่ก็เลย…เลยต้องมาซื้ออีกสองจิน…”
“ส่วนของวันนี้ขายหมดแล้วเจ้าค่ะ หากท่านอาต้องการซื้อ ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาซื้อแล้วกันนะเจ้าคะ ที่บ้านพวกข้ายังมีลวี่โต้วกั่วอยู่อีก” ซ่งอิงยิ้มเล็กน้อย คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ทว่าท่านอาจะต้องดูให้ดีด้วยละ มาซื้อร้านข้าเท่านั้น ข้ากล้ารับประกันได้เลยว่า มีเพียงผลไม้ของบ้านข้าเท่านั้นที่หวานถึงเพียงนี้ ที่คนอื่นๆ เด็ดจากภูเขามาเหล่านั้น รสชาติเทียบไม่ได้กับของบ้านข้าแน่นอนเจ้าค่ะ”
วันนี้นางอาศัยลวี่โต้วกั่วกอบโกยเงินได้หลายร้อยอีแปะ พรุ่งนี้ แน่นอนว่าจะมีคนเห็นแล้วอยากเอาอย่าง ไปเด็ดลวี่โต้วกั่วมาขายบ้างเช่นกัน
[1] อีแปะ (文 หรือ 文钱) เป็นสกุลเงินจีนโบราณ 1000 อีแปะ เท่ากับ 1 ตำลึงเงิน
[2] บะหมี่น้ำหยางชุน (阳春面) เป็นอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยวที่ขึ้นชื่อแห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
[3] ถังหูลู่ (糖葫芦) เป็นขนมของว่าง ทำจากผลไม้ที่นำไปเคลือบน้ำตาลแล้วเสียบไม้ขาย
[4] ต้าเหริน (大人) คำเรียกผู้ที่มีบรรดาศักดิ์ใหญ่โต หรือเรียกขานผู้ใหญ่ หรือที่รู้จักกันดีในคำเรียกว่า ใต้เท้า
[5] ยามอู่ (午时) คือเวลา 11.00 น. – 13.00 น.