ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 531ตอนที่ 532 คนในครอบครัวของผู้ที่ตายไปแล้ว
ตอนที่ 531 เป็นสามีภรรยากันวันเดียวก็มีรักอันลึกซึ้งเกิดขึ้นได้
หญิงผู้นั้นร้องห่มร้องไห้อยู่พักหนึ่งจึงเงียบลง จากนั้นพยุงตัวขึ้นมาแล้วเริ่มแนะนำตัวอย่างคล่องแคล่ว
“นี่คือแม่สามีข้า ย่าแท้ๆ ของลูกชายคนโตข้า นี่เป็นน้องชายสามีข้า…ภายหลังต่อมาสมาชิกทั้งครอบครัวเราดำรงชีวิตกันไม่ไหวแล้ว เห็นเขาใกล้จะแต่งภรรยาไม่ทันแล้วเช่นกัน ตอนนั้นมีการพูดต่อๆ กันว่าสามีข้าตายแล้ว ข้าก็เลยแต่งงานใหม่กับเขา หลายปีมานี้ให้กำเนิดน้องชายน้องสาวแก่ลูกชายคนโตอีกสามคน…”
“…” บรรดาชาวบ้านรู้สึกเพียงเหมือนถูกเคาะปางจื่ออยู่เหนือศีรษะหลายครั้ง!
พอเลย นี่มันชวนอึดอัดใจเกินไปแล้ว
เมื่อก่อนคิดว่าแม้เอ้อร์ยาแต่งงานกับคนที่ตายไปแล้ว แต่อย่างน้อยก็ไม่มีแม่สามีข่มเหง ทว่าตอนนี้…
มีญาติผู้ใหญ่อย่างแม่สามีและย่าเพิ่มมาก็ว่าแย่แล้ว มิหนำซ้ำยังมีอาซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงรวมไปถึง…เหล่าน้องชาย น้องสาว…ต่างพ่อเพิ่มมาอีกด้วย?
ช่างวุ่นวายจริงๆ เลย!
แต่ในทะเบียนสำมะโนครัว มีฮั่วจางตงผู้นี้อยู่จริงและในนั้นก็เขียนไว้เช่นกันว่า ภรรยา…เหมียวซื่อ
เพียงแต่ชื่อของฮั่วหรงซึ่งเป็นบุตรชายคนโตกลับไม่มีอยู่
แต่ก็เข้าใจได้เช่นกัน อย่างไรเสียยามนั้นฮั่วหรงก็ยังเป็นเพียงทารกคนหนึ่ง
นอกจากนี้ ฮั่วจางตงที่เสียชีวิตไปแต่แรกๆ แล้วก็เป็นคนที่มาจากต่างถิ่นจริงๆ ตอนนั้นทั่วสารทิศโกลาหลมาก ฮั่วจางตงอุ้มเด็กเดินมา ซึ่งก็เป็นเพราะหัวหน้าหมู่บ้านใจดีจึงรับคนเขาให้อยู่ที่นี่…
“สามีข้าผู้นั้นมีทักษะล้ำเลิศในการล่าสัตว์มาแต่ไหนแต่ไร ตอนแรกก็อาศัยฝีมือที่เก่งกาจจึงได้กล้าไปเป็นตัวล่อโจรผู้ร้าย!” เหมียวซื่อกล่าวเสริมอีกประโยค “ตอนนี้ข้าทำผิดต่อสามีข้า แต่งงานไปกับน้องชายเขา แต่…คนเราเป็นสามีภรรยากันวันเดียวก็มีรักอันลึกซึ้งเกิดขึ้นได้ จะร้ายจะดีก็ให้ข้าไปคารวะหลุมศพหน่อยเถิด!”
ทุกคนไม่รู้จริงๆ ว่าควรทำอย่างไร
แม้แต่หัวหน้าหมู่บ้านซ่งยังรู้สึกว่าไม่ง่ายต่อการจัดการ
จริยธรรมค้ำคออยู่น่ะสิ เหมียวซื่อผู้นี้ หากเป็นมารดาของฮั่วหรงและคู่ครองของฮั่วจางตงจริง เช่นนั้นใครก็ไม่อาจขัดขวางได้!
“เรื่องนี้…จะว่าไปตามที่พวกเจ้าพูดเลยก็ไม่เหมาะนักเช่นกัน ใต้หล้ากว้างใหญ่ไพศาล มีความเป็นไปได้เช่นกันที่จะชื่อซ้ำกัน ฮั่วจางตงผู้นี้ของหมู่บ้านเราไม่แน่ว่าจะเป็นคนที่พวกเจ้าตามหาก็เป็นได้ ดังนั้นเรื่องคารวะหลุมศพ อย่าเพิ่งรีบร้อนไปเลย…” หัวหน้าหมู่บ้านซ่งกล่าวขึ้นอีกครั้ง
หยั่งเชิงและตรวจสอบดูอีกหน่อยจะดีกว่า
หากมีหลักฐานที่ไม่อาจปฏิเสธได้ แม้กระทั่งเขาที่เป็นหัวหน้าหมู่บ้านก็ขัดขวางไม่ได้เช่นกัน
คนเขาเป็นสามีภรรยา เป็นแม่ลูก จะขัดขวางไม่ให้คารวะหลุมศพ ไม่ให้พวกเขาได้รู้จักกับซ่งอิงรวมไปถึงฮั่วหลิน เช่นนั้นมันไม่สมเหตุสมผลน่ะสิ
“พวกเจ้าหมายความว่าอันใด มีสิทธิ์อะไรไม่ให้ข้าไปคารวะหลุมศพสามีข้า คิดว่าข้าเข้าใจผิดแล้วหรือ” เหมียวซื่อไม่ร้อนรนใจเช่นกัน นางส่งเสียงตะโกนขึ้นมาแล้วกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ตอนนั้นหลังจากสามีข้าหายตัวไป ข้าหาคนวาดภาพเหมือนเขาเอาไว้ด้วย พวกเจ้าดูสิว่าสรุปแล้วใช่หรือไม่!”
พูดจบ ก็คว้ากระดาษใบเก่าที่ออกสีเหลืองใบหนึ่งออกมาจากอ้อมอก
ครั้นเปิดออกดู
หัวหน้าหมู่บ้านซ่งเบิกตาโตขึ้นเล็กน้อย
แม้ว่าภาพเหมือนนี้ค่อนข้างเรียบง่าย แต่โดยรวมแล้วไม่ผิดเพี้ยน
คนในภาพเหมือนเป็นตอนที่ฮั่วจางตงยังหนุ่มจริงๆ คิ้วหนาตาโต และมีไฝสีดำขนาดใหญ่อยู่บนมืออีกด้วย
ไม่เพียงเขามองออก ผู้คนในหมู่บ้านที่ยังพอจดจำฮั่วจางตงได้บ้างต่างก็มองออกเช่นกัน
เช่นนี้…
ยังจะปฏิเสธได้อย่างไรหรือ
“เอ่อ…มิใช่พวกเราไม่ให้พวกเจ้าเข้าไป แต่ว่า…” เหล่าชาวบ้านถอนหายใจในใจ “แม้ว่าฮั่วหรงไม่อยู่แล้ว แต่ก็ยังมีภรรยาม่าย นอกจากนี้ยังเลี้ยงเด็กเอาไว้คนหนึ่งซึ่งจดอยู่ภายใต้นามฮั่วหรง ช่วยสืบทอดสกุลให้แก่เขา”
“ลูกชายข้ามีลูกด้วยหรือ!” เหมียวซื่อเผยสีหน้าตกตะลึงปนดีใจ “ไอ้หยา! เช่นนั้นก็ดีเหลือเกินจริงๆ! พวกเจ้าวางใจได้ ข้าจะดีต่อลูกสะใภ้คนนั้นเป็นแน่!”
“พวกเราก็มิได้สงสัยว่าพวกเจ้าจะไม่ดีต่อนาง เพียงแต่…สาวน้อยผู้นั้นเลี้ยงดูลูกมาตามลำพังจนเคยชินแล้ว จู่ๆ มีคนเพิ่มมาตั้งมากมายขนาดนี้ เกรงว่านางจะไม่คุ้นชิน หรือ…หลังจากพวกเจ้าคารวะหลุมศพแล้วก็กลับไปเถอะ พวกเราจะบอกกล่าวเด็กสาวผู้นั้นเอาไว้ให้” ที่เอ่ยปากก็เป็นผู้อาวุโสที่ได้รับความนับหน้าถือตาในหมู่บ้านเช่นกัน
มีผู้อาวุโสเพิ่มมาอีกหนึ่งไม่ใช่เรื่องแย่ แต่ปัญหาคือ คนตระกูลฮั่วนี้ดูวุ่นวายสับสนเกินไปแล้ว
พ่อเลี้ยงไม่ถือเป็นพ่อเลี้ยง อาไม่ถือเป็นอา บรรยากาศที่เลวร้าย ภรรยาฮั่วหรงผู้นั้นเป็นคนที่อ่อนโยนและสูงส่งระดับนั้นจะแบกรับไหวได้อย่างไรกันเล่า!
ตอนที่ 532 คนในครอบครัวของผู้ที่ตายไปแล้ว
คนอื่นๆ ก็คิดอย่างนี้เช่นกัน จะตอบรับโดยง่ายไม่ได้เด็ดขาด!
ซ่งอิงมีบุญคุณต่อพวกเขา ตอนนี้ต่อให้ไม่อาจขับไล่คนเขาไปได้ แต่ก็ไม่อาจสร้างปัญหาวุ่นวายให้ได้เช่นกัน ไม่อาจให้ซ่งอิงพาคนเขากลับบ้านไปภายใต้ฝีปากของทุกคน
ทางด้านนั้น มีคนไปเชิญซ่งอิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่น่าเสียดาย ซ่งอิงไม่อยู่บ้าน ตัวนางอยู่ในอำเภอ
ด้วยความจนปัญญา จึงให้คนทางด้านตระกูลซ่งเข้าตัวอำเภอไปเรียกซ่งอิงกลับมา
จะจัดการอย่างไรกันแน่ ดูความเห็นของตัวซ่งอิงจะดีกว่า
เหมียวซื่อพร้อมพวกได้ยินความหมายของทุกคนที่สื่อออกมาก็ไม่ได้โมโหแต่อย่างใด เพียงแค่ก้มหน้าเศร้าสร้อยคุกเข่าอยู่หน้าทางเข้าออกหมู่บ้าน เหมียวซื่อหน้าตาผ่านโลกมาโชกโชน คนชราที่อยู่ด้านหลังมองดูเหมือนจะขาดลมหายใจได้ทุกเมื่อ น่าเวทน่าอย่างยิ่ง
สามีใหม่ของเหมียวซื่อก็เป็นพวกลักษณะพาซื่อ เด็กสามคนข้างหลัง แม้คนโตก็ไม่เด็กแล้ว แต่มองดูรูปลักษณ์แต่ละคนล้วนขาดแคลนเสื้อผ้าและอาหารการกิน แล้วยังมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวติดตามเนื้อตัวอีกด้วย
ปีนี้ เหล่าชาวบ้านได้รับผลผลิตจากเก็บเกี่ยวดีงาม ดังนั้นแต่ละตระกูลแต่ละครอบครัวล้วนได้จัดหาเสื้อผ้าใหม่ๆ และได้กินดี จึงดูมีน้ำมีนวลขึ้นมาหน่อย
เทียบกันแล้ว หมู่บ้านซิ่งฮวาเปรียบเสมือนเจ้าของพื้นที่แข็งแกร่งกำลังทารุณคนงานที่น่าสงสาร
บริเวณปากทางเข้าออกหมู่บ้านก็มีคนเดินผ่านไปผ่านมาเช่นกัน
หัวหน้าหมู่บ้านซ่งและคนอื่นๆ กัดฟันยื้อสถานการณ์ไว้
ไม่ถึงสองชั่วยาม ซ่งอิงก็มาเยือนเสียที
จากบริเวณไกลๆ มองเห็นนางควบรถเกวียนลาทะยานมาอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดฝุ่นตลบไปชั่วขณะหนึ่ง ท่ามกลางควันฝุ่น เป็นเงาเรือนร่างที่ล่ำสันของลาขาวตัวนั้น
หัวหน้าหมู่บ้านซ่งถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“นั่น…ก็คือภรรยาของลูกข้าหรือ” เหมียวซื่อมองไปอย่างใสสื่อ
ดูเป็นคนหนึ่งที่ว่านอนสอนง่าย แม้ยังอยู่ค่อนข้างไกลแต่กลับมองออกได้ ลูกสะใภ้คนนี้มือขาวผิวเนียนละเอียด มองเห็นลักษณะไม่ชัดเจน แต่เรือนร่างสง่างามมาก
ไม่เหมือนกับหญิงชาวบ้านทั่วไปจริงๆ ด้วย
เหมียวซื่อตาลุกวาว
“หยุด…” เมื่อถึงตรงหน้าฝูงชน ซ่งอิงส่งเสียงตะโกนให้ต้าไป๋หยุดลง
กีบลาตัวนั้นหยุดลงตรงหน้าเหมียวซื่ออย่างเฉียดชิว อีกนิดเดียวก็กะแทกเข้าที่ใบหน้าของเหมียวซื่อ เป็นผลให้เหมียวซื่อตระหนกตกใจ ท่าทีที่ปรี่เข้ามาต้อนรับอย่างดีอกดีใจในเดิมทีก็เลือนหายไปเล็กน้อย จากนั้นร่นถอยหลังไปสามสี่ก้าว
เห็นผู้อาวุโสในหมู่บ้าน ซ่งอิงจึงไม่อาจนั่งอยู่บนรถลาได้อีกเช่นกัน
นางคลี่แย้มแล้วกระโดดลงมา
“ท่านปู่หัวหน้าหมู่บ้าน ได้ยินว่ามีพ่อเลี้ยงและแม่แท้ๆ ของสามีผู้ล่วงลับในครอบครัวข้าผู้นั้นโผล่มาแล้วหรือเจ้าคะ ท่านอย่าหลอกข้าเชียวนะ สามีข้าผู้นั้นและพ่อสามีที่ล่วงลับไปแล้วหากมีญาติจริง หลายปีขนาดนี้ไม่ได้บอกกล่าวกับท่านไว้บ้างเลยหรือเจ้าคะ” ตอนอยู่ระหว่างทาง ซ่งอิงก็ได้ยินเรื่องราวมาแล้ว ดังนั้นหลังกลับมาถึงและมองเห็นคนเหล่านี้ ในใจก็ไม่ต่างกับกระจกใส
คนเหล่านี้จำผิดหรือไม่กันแน่ นางไม่รู้แน่ชัด
แต่ทว่า ต่อให้เข้าใจถูกแล้วก็ไม่อาจพาคนเขากลับไปได้โดยง่ายดายเช่นกัน
ถึงขั้นว่า…จะให้อยู่ร่วมชายคาเดียวกันไม่ได้โดยเด็ดขาด
หัวหน้าหมู่บ้านซ่งนำภาพเหมือนยื่นให้ซ่งอิง “ดูนี่…เหมือนคนตระกูลฮั่วผู้นั้นจริงๆ”
หัวหน้าหมู่บ้านซ่งพูดถึงขั้นนี้แล้ว จะเห็นได้ว่าเหล่าชาวบ้านล้วนเชื่อไปแล้ว
ซ่งอิงขมวดคิ้วเล็กน้อย กวาดตามองเหมียวซื่อพร้อมพวก
“เป็นคนในครอบครัวสามีผู้ล่วงลับของข้าผู้นั้นจริงๆ หรือ” ซ่งอิงเลิกคิ้ว “แม้ว่าหน้าตาไม่เหมือนนัก แต่…ช่างเถิด ไม่ใช่เรื่องแย่เช่นกัน ไหนๆ ก็มากันแล้ว เข้ามานั่งในหมู่บ้านเถอะ เพียงแต่บ้านข้ามีพื้นที่น้อยนิด ไม่อาจรองรับคนมากเกินไปได้ หากพวกท่านไม่มีที่ไปก็เช่าบ้านกับท่านปู่หัวหน้าหมู่บ้านแล้วกัน หมู่บ้านเรามีเรือนหลังเก่าค่อนข้างมาก โดยทั่วไปหากเป็นคนนอกมาเยือนล้วนไม่ได้ให้อยู่อาศัยกันโดยง่ายๆ หรอกนะ!”
จริงหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล คนอื่นหลงเชื่อแล้ว นั่นต่างหากคือความจริง
หากเป็นคนซื่อตรง ให้บ้านเก่าๆ สักหลังและแบ่งพื้นที่รกร้างให้สักส่วน เห็นแก่ความดีที่ฮั่วหรงทำมาหลายปีขนาดนั้น หัวหน้าหมู่บ้านซ่งย่อมไม่ปฏิเสธแน่
หากก่อปัญหาขึ้นมา…
ซ่งอิงคลี่ยิ้มเล็กน้อย ไม่ว่าลูกชายของคนเหล่านี้เป็นใคร สามีเป็นใคร หากอยู่ในถิ่นนาง นางจะทำให้อีกฝ่ายเข้าใจความหมายที่แท้จริงของชีวิตอย่างแน่นอน