ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 555 ข้าต้องการกินเนื้อ ตอนที่ 556 ในตัวข้ามีเจ้า
ตอนที่ 555 ข้าต้องการกินเนื้อ
ฮั่วเจ้ายวนรู้สึกว่าบางทีเป็นเขาที่เข้าใจความหมายผิดไปแล้ว ดังนั้นจึงถามขึ้นมาอีกครั้ง “เจ้าว่ามีคนมาแสดงตนเป็นญาติหรือ บอกว่าเป็นญาติของฮั่วหรง?”
“ก็ใช่น่ะสิเจ้าคะ มารดาแท้ๆ ของฮั่วหรง ภรรยาของฮั่วจางตง เพราะไม่รู้สถานการณ์ของสามีตนว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร จึงแต่งงานใหม่กับน้องชายของสามีแล้วให้กำเนิดลูกอีกสามคน ตอนนี้ทั้งหมดมาหาถึงที่แล้ว ข้าก็นับถือเขาเป็นแม่แท้ๆ แล้วด้วย!” ซ่งอิงเผยสีหน้าจริงจัง
“เป็นไปมิได้ ฮั่วหรงไม่มีญาติ ต้องเป็นพวกหลอกลวงแน่” ฮั่วเจ้ายวนบอกกล่าวทันควัน
“ท่านอาใต้เท้าแน่ชัดใช่หรือไม่” ซ่งอิงกล่าว
ฮั่วเจ้ายวนจ้องมองนาง “แม้ว่าฮั่วหรงเป็นหลานชายข้า แต่ข้าก็รู้เรื่องราวของเขาอย่างกระจ่างแจ้งแน่นอน ข้าล้วนรู้จักบิดา ปู่และทวดของเขาเป็นอย่างดี จะเป็นเรื่องโกหกได้อย่างไร เจ้าถูกคนเหล่านั้นหลอกแล้ว…”
“ช่างเถิด ไว้เดี๋ยวให้ซื่อเซี่ยงกลับไปพร้อมเจ้าสักครั้ง จากนั้นจะได้จับตัวคนไปลงโทษ!” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวขึ้นอีกครั้ง
สวมรอยเป็นมารดาเขาหรือ เหอะ
นี่จะจับตัวไปแล้ว? พวกเขาเพิ่งมาเองนี่!
ซ่งอิงถอนหายใจ ความสนุกดีๆ จะหายไปแล้วหรือ
“เหตุใดคนเหล่านี้จึงมาหาเจ้า เจ้าลองคิดดูสิว่ามีคนบงการหรือไม่” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวขึ้นกะทันหัน
ร้านชุ่ยเหยียนไจผุดขึ้นมาในสมองซ่งอิงทันที “ก็มีรายชื่ออยู่บ้างเช่นกัน ทว่าตัวข้าเองจัดการได้เจ้าค่ะ แต่…ท่านอาใต้เท้า ข้าขอร้องท่านเรื่องหนึ่งได้หรือไม่”
ซ่งอิงสับสนว่าควรเอ่ยปากอย่างไร
หากพลาดโอกาสนี้ไปก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว!
“ขอร้อง?” ฮั่วเจ้ายวนพลันรู้สึกประหลาดใจมาก
“ใช่เจ้าค่ะ” ซ่งอิงพยักหน้าภายใต้สีหน้าจริงจัง
“เจ้าลองพูดมาสิ” ฮั่วเจ้ายวนมองนางอย่างประหลาดใจมาก
เห็นเพียงซ่งอิงพลันคุกเข่าลงบนพื้นเกิดเสียงดัง ‘ปึก’ จากนั้นเอื้อมมือมากอดขาของฮั่วเจ้ายวน เอ่ยปากแล้วกล่าว “ท่านอาใต้เท้า! ท่านให้ข้ากัดเนื้อท่านสักคำได้หรือไม่! ไม่ขอมากมาย แค่ทำเดียวเท่านั้น!”
“…” ฮั่วเจ้ายวนตะลึงงัน
“ข้าบังเอิญได้ยาวิเศษรักษาบาดแผลมาหนึ่งชนิด หลังจากข้ากัดแล้วหนึ่งคำก็จะมอบให้ท่านทันที รับประกันได้ว่าเลือดไหลไม่เยอะเจ้าค่ะ!” ซ่งอิงชักสีหน้าจริงจัง แสร้งทำทีล้วงเอาแขนเสื้อทั้งที่ความจริงกลับเป็นการนำมีดหนึ่งเล่มออกมาจากช่องว่างระหว่างมิติ “ไม่กัดโดยตรงก็ได้ หั่นสักชิ้นให้ข้าเอาไปย่าง น่าจะกินได้รสชาติอร่อยกว่าหน่อย…มีดนี้ก็คมกว่าฟันข้าด้วย ไม่เจ็บมากหรอกเจ้าค่ะ!”
นางรู้ดีว่าตอนนี้ตนเองไร้ยางอายอย่างยิ่ง
แต่ไร้ยางอายแล้วอย่างไร…
หนทางเป็นเซียนอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ ทุกสิ่งจึงไม่เพียงพอให้ต้องรู้สึกหวั่นเกรง
ปีศาจกบถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก
ท่านอาจารย์ต้องการกินเนื้อหรือ
เนื้อของเซียนสวรรค์…ปีศาจกบเขียวครุ่นคิด รู้สึกว่า บางที…อาจได้ผลจริงๆ เล่า?
พูดตามจริง มันก็อยากลิ้มรสเช่นกัน แต่อยู่ตรงหน้าใต้เท้าฮั่วผู้นี้ก็ไม่กล้าพูดเช่นกันว่า…ขอเพิ่มชิ้นหนึ่ง
ฮั่วเจ้ายวนยื่นมือไปลูบหน้าผากของนาง “เจ้าถูกคนครอบครัวที่สวมรอยนั่นยั่วโมโหจนเสียสติไปแล้วหรือ ไฉนเริ่มพูดจาเหลวไหลขึ้นมาเสียแล้ว”
“ข้าจริงจังนะเจ้าคะ” ซ่งอิงกะพริบตาปริบๆ จากนั้นกอดอก “ท่านอาใต้เท้า ตามจริงข้า…แค่กๆ ข้าป่วยโรคร้าย เพียงแต่หมอทั่วไปตรวจไม่เจอ…เมื่อวานมานักบวชลัทธิเต๋าผู้หนึ่งมาเยือน นักบวชกล่าวว่าจำเป็นต้องนำเนื้อของคนที่สูงศักดิ์สักชิ้นมาทำยา…”
“เหลวไหล” ใต้หล้านี้มีเรื่องไร้สาระเช่นนี้ที่ไหนกัน
“เจ้าถูกคนเขาหลอกอีกแล้ว เมื่อก่อนข้าก็เคยพบเจอนักบวชไม่น้อยเช่นกัน พวกเขาไม่เคยมีพฤติกรรมน่าตลกเช่นนี้ รักษาอาการป่วยให้ผู้คนก็ใช้ยาสมุนไพรทั่วไปทั้งนั้น” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวอย่างจริงจัง
“เป็นไปมิได้! นักบวชผู้นั้นมีความเป็นเซียนจากภพชาติก่อนติดตัว แตกต่างกับคนธรรมดาทั่วไป…ท่านอาใต้เท้า…ชะตาชีวิตน้อยๆ ของหลานสาวล้วนอยู่ในกำมือท่านนะเจ้าคะ!” ซ่งอิงรู้สึกว่าควรมอบรางวัลสักอย่างให้ตัวเอง
ฮั่วเจ้ายวนรู้สึกว่ามีเรื่องราวบางอย่างปิดบังอยู่ด้วย
เนื้อหนึ่งชิ้นเท่านั้นเอง เขาไม่ใช่สละให้ไม่ได้ เพียงแต่สาวน้อยผู้นี้…กระทำการอย่างกะทันหันอย่างยิ่ง
หนึ่งเค่อก่อนยังดีๆ อยู่เลย แต่แล้วก็เริ่มปั้นหน้าเศร้าสร้อยเกินจริง ด้วยการกระทำลักษณะนี้เหมือนพวกอันธพาลเร่ร่อนที่ใช้เล่ห์กลหลอกลวงเอาเงินและทรัพย์สินผู้อื่นเสียเหลือเกิน
ตอนที่ 556 ในตัวข้ามีเจ้า
ซ่งอิงมือหนึ่งปาดน้ำตามือหนึ่งเช็ดน้ำมูก ลืมความเป็นตัวเอง ไม่สนใจภาพลักษณ์อย่างสิ้นเชิง
ฮั่วเจ้ายวนถอนหายใจ อีกทั้งไม่ค่อยกล้าเชื่อสักเท่าไร “ต้องการเนื้อของข้าจริงหรือ”
“แน่นอนเจ้าค่ะ” ซ่งอิงพยักหน้าทันที
ฮั่วเจ้ายวนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
“แม้ว่าเจ้าเป็นหลานสะใภ้ของข้า แต่ก็ไม่อาจเอาเนื้อนี้ให้เจ้าโดยเปล่าๆ ได้เช่นกัน หากเจ้าอยากจะได้ก็ต้องทำให้ข้ามีความสุข ทำให้ข้าไม่รู้สึกเจ็บปวด เช่นนั้นยกเนื้อนี้ให้เจ้าก็ไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ซ่งอิงเลิกคิ้ว จากนั้นปีนป่ายขึ้นมาจากพื้น
ทั้งสองคนสบตามองกันอย่างไม่ลดละ ตรงกลางคล้ายว่าจะปรากฏประกายไฟออกมาก็ไม่ปาน
ท่านอาใต้เท้าผู้นี้คิดจะฉวยโอกาสตอนที่นางร้องขอความต้องการเพื่อกดขี่ข่มเหงนางสักครั้งหรือ
“ข้าผู้นี้ในฐานะเด็กรุ่นหลัง ต่อให้เป็นการใช้ความนึกคิดทั้งหมดก็สมควรทำให้ท่านผู้เป็นญาติผู้ใหญ่มีความสุขเจ้าค่ะ! ท่านแค่บอกมาก็พอ ท่านอยากกินขาหมูของภัตตาคารเย่ว์เฟิงหรืออยากกินนางคณิกาของหอนางโลมช่างฮวา ข้าจะไปสรรหามาให้ท่านเดี๋ยวนี้ รับประกันได้ว่าจะปรนนิบัติท่านให้สุขสบายอย่างยิ่งเจ้าค่ะ!” ซ่งอิงคลี่ยิ้มกว้าง
“…” ปีศาจกบพลันรู้สึกว่าตนไม่อาจเอาแต่ปิดปากเงียบอยู่ได้แล้ว
ในเมื่อที่เขาบอกกล่าวกับท่านอาจารย์ ความหมายของตนคือให้นางมีอะไรกับใต้เท้า ท่านอาจารย์ก็จะครอบครองเขาได้?
อุตส่าห์ขายหน้าแล้ว อีกทั้งคนเขายังเป็นอาหลาน เหล่ามนุษย์ให้ความสำคัญกับการมีเหตุผลและความมีคุณธรรม เรื่องประเภทนี้…เป็นไปไม่ได้นี่!
ปีศาจกบถอนหายใจ
หากไม่ดำเนินการแลกเปลี่ยนอย่างที่ว่าในตัวข้ามีเจ้า ในตัวเจ้ามีข้า เกรงว่าจะไม่เป็นผลมากนัก อย่างไรเสียว่ากันตามความเข้าใจของเขา หลังจากเซียนสวรรค์กลับชาติมาเกิดบนโลกมนุษย์ ก็จะมีบิดามารดาและญาติพี่น้องไม่น้อยเช่นกัน แต่ที่จะมีสิทธิ์ติดสอยห้อยตามกลายเป็นเซียนด้วย ก็ยังคงเป็นคู่ชีวิตที่ทำให้เซียนสวรรค์ผู้นี้ลืมไม่ลง!
แต่ทว่า…
ปีศาจกบเขียวใจลอย ขบคิดอย่างหนักครู่หนึ่ง ดูเหมือนการกินเนื้อก็เป็นการทำให้ในตัวข้ามีเจ้าเช่นกัน…
เป็นการใช้วิธีการที่แตกต่างกันแต่ท้ายที่สุดก็ถึงเป้าหมายเดียวกัน?
เขาไม่เคยกลายเป็นเซียนสวรรค์เช่นกัน เรื่องประเภทนี้เขาเองก็ไม่เข้าใจ ท่านอาจารย์มีสัญชาตญาณที่แม่นยำมากมาโดยตลอด ไม่แน่ว่าจะรู้สึกได้ถึงความรู้สึกก่อนการกลายเป็นเซียนแล้ว?!
เมื่อคิดได้อย่างนี้ ปีศาจกบก็เริ่มสนับสนุนซ่งอิงอีกครั้ง
ฮั่วเจ้ายวนทำได้เพียงมองซ่งอิง ตลอดจนคนที่นางพามาด้วยต่างก็จับจ้องเขาด้วยสีหน้ากระตือรือร้น ลักษณะที่ดูตื่นตัวเป็นพิเศษก็เหมือนกับกำลังมองหลานชายผู้ว่านอนสอนง่าย อยากจะนำทุกสิ่งดีๆ ที่อยู่ใต้หล้านี้ยัดเข้าไปในปากของเขาทั้งหมด
ช่วงขณะหนึ่งนี้เอง ฮั่วเจ้ายวนไม่ค่อยเข้าใจ จึงเอ่ยถาม “คำพูดเหล่านี้เจ้าไม่ได้ล้อเล่นใช่หรือไม่”
“ท่านอาใต้เท้าไม่ลองคิดดูล่ะว่ามีการล้อเล่นที่สิ้นเปลืองเงินขนาดนี้ด้วยหรือ นางคณิกาของหอช่างฮวา มองเห็นแวบเดียวก็ต้องจ่ายตั้งหลายตำลึงเงินแล้ว หากได้ฟังนางขับขานสักบทเพลงแล้วค่อยร่วมหลับนอนด้วยกันหนึ่งคืน อย่างน้อยๆ ก็ตั้งสองสามร้อยตำลึงเงิน เรื่องประเภทนี้ข้าเอามาพูดเรื่อยเปื่อยได้หรือ” ซ่งอิงกล่าวอย่างเป็นจริงเป็นจัง
ในยุคสมัยนี้ ผู้ชายซื้อผู้หญิงขายถือเป็นเรื่องถูกกฎหมาย พอรู้สึกสุขใจก็ยังซื้อสัญญาซื้อขายตัวนางคณิกาแล้วแอบเอากลับบ้านมาได้ด้วย อีกทั้งการได้เป็นหญิงคณิกา นั่นจำเป็นต้องมีรูปร่างหน้าตาที่งดงามและมีเสน่ห์อย่างยิ่ง แล้วบุรุษผู้ใดจะไม่ตกหลุมหลงใหลได้หรือ
“ใครสอนให้เจ้าพูดจาเลอะเทอะเช่นนี้” ฮั่วเจ้ายวนขมวดคิ้ว โมโหจนแทบจากคว้าแมลงวันบีบให้ตายได้แล้ว
“เหตุใดต้องให้ผู้อื่นบอกกล่าวด้วย ข้ามาในตัวอำเภอบ่อยครั้ง เจอะเจอนางคณิกาอยู่ในร้านขายเครื่องประทินโฉมตั้งหลายรอบ ท่านอา แม่นางเหล่านั้นหน้าตางดงามอย่างยิ่งจริงๆ แม้แต่ข้าก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าอยากจะไปสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง รับประกันได้ว่าท่านจะต้องพึงพอใจ” ซ่งอิงกล่าว
“…” ฮั่วเจ้ายวนในเวลานี้ออกจะให้ความรู้สึกอย่างเมฆครึ้มฝนเล็กน้อย
ตลอดที่ผ่านมา แม้ว่าเขารู้สึกว่าซ่งอิงค่อนข้างดื้อรั้นและพิลึกพิลั่น แต่ก็คิดเพียงแค่แม่นางสาวน้อยผู้นี้ยังอายุน้อย จึงอดไม่ได้ที่จะมีนิสัยเหล่านี้…
แต่ตอนนี้เห็นทีว่าจะแตกต่างกับคุณหนูที่เขาเคยพบเห็นมาก่อนอย่างสิ้นเชิง!
บุตรสาวบ้านใครกล้าไปลิ้มลองนางคณิกากันเล่า
ฮั่วเจ้ายวนถอนหายใจ พยายามอย่างหนักเพื่อสงบสติให้มั่นคง “เจ้าบอกกับข้ามาดีกว่าว่าเจ้าไม่สบายเป็นอะไร มีอาการป่วยอย่างไร ทางด้านเมืองหลวงนั่นมีหมอมากด้วยชื่อเสียงไม่น้อย ข้าให้พวกเขาไปเชิญมาตรวจอาการเจ้าดูแล้วกัน