ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 561 ถูกห่านไล่จิกตา ตอนที่ 562 ปลอมตัว
ตอนที่ 561 ถูกห่านไล่จิกตา
ซ่งอิงยังไม่หยุดแต่เพียงเท่านั้น นางกล่าวขึ้นอีกครั้ง “พวกท่านลองคิดดูสิ หากข้าฆ่าคนแล้วใครจะได้ผลประโยชน์มากที่สุด”
เมื่อทุกคนได้ยิน ก็มองไปยังทิศทางเหมียวซื่อโดยไม่รู้ตัว
หากซ่งอิงมีความผิด เช่นนั้นทรัพย์สินของซ่งอิงรวมไปถึงลูกชายก็จะตกไปอยู่ที่ญาติของนาง ญาติจะกลายเป็นผู้ดูแลจัดการโดยปริยาย ถึงตอนนั้น ที่นา ทรัพย์สินและร้านค้าล้วนตกเป็นของคนเหล่านี้…
ความผิดในการฆ่าคน โดยเฉพาะการทำร้ายญาติ เป็นความผิดมหันต์ ถึงขั้นต้องประหารชีวิตเลยกระมัง ไม่อาจหวนกลับมาได้อีก
“ไม่ใช่! เป็นนางนั่นละที่ฆ่า! นี่เป็นแม่สามีข้าเชียวนะ ตลอดทางที่หนีความอดยากมาเผชิญความทุกข์ยากขนาดนี้ข้ายังไม่ทิ้งนางเลย ดูแลนางอย่างดีมาโดยตลอด แล้วจะลงมือกับนางได้อย่างไรกัน!” เหมียวซื่อรีบตะโกนบอก
“พวกเจ้าก็หยุดทะเลาะกันได้แล้ว เรื่องใหญ่โตขนาดนี้ พวกเราคาดเดาไปมาก็เปล่าประโยชน์” มีคนเอ่ยพูดอย่างมีเหตุมีผล
นั่นสิ ต้องรอให้หมอมาก่อน
ต้องมั่นใจเสียก่อนว่าคนผู้นี้เป็นหรือตาย หากมีชีวิตอยู่ไว้หลังหญิงชราฟื้นแล้วให้ชี้ผู้กระทำด้วยตัวเอง หากตายแล้วก็จำเป็นต้องแจ้งไปยังที่ว่าการอำเภอ ให้ทำการพิสูจน์ศพก่อนจะตัดสินคดีความโดยนายอำเภอ
หมอเดินมาอย่างเนิบช้า
“ยังมีลมหายใจ…” หลังทดสอบลมหายใจเรียบร้อย จากนั้นก็ให้คนย้ายนางไปนอนอยู่ในเรือนหลังใกล้ๆ
แม้ว่าซ่งอิงไม่เต็มใจนัก แต่ชีวิตคนคือสิ่งสำคัญยิ่ง ถึงอย่างไรตอนนี้ก็คงไม่ดีนักหากจะปฏิเสธไม่ให้แบกเข้ามา จึงทำได้เพียงอดทน
นางให้ใช้หนึ่งห้องทางเรือนปีกตะวันตก หยิบฟูกนอนเก่าๆ มาวางไว้แล้วจุดตะเกียงให้แค่นั้น
หมอเร่งรีบฝังเข็มให้
“อีกเดี๋ยวก็จะมีสติขึ้นมาได้ มีเรื่องอันใดต้องการถามก็รีบๆ หน่อย ฝืนอยู่ได้ไม่นานแล้ว!” หมอรีบบอกกล่าว
ผลปรากฏว่าหลังฝังเข็ม คนก็ลืมตาขึ้นและหายใจรวยริน
“ท่านแม่ ท่านก็เห็นว่าซ่งอิงทำร้ายท่านเช่นกันสินะ! ท่านรีบชี้นิ้วบอกว่าเป็นฝีมือนางสิ อย่าให้นางใส่ร้ายข้าเลย มิเช่นนั้นคนทั้งครอบครัวเราจะอยู่กันอย่างไร!” เหมียวซื่อรอเวลานี้มานานแล้ว เมื่อเอ่ยปากได้ก็เปล่งเสียงตะโกนทันควัน
ทุกคนมักรู้สึกถึง…ความผิดปกติ
“เหมียวซื่อ เจ้าอย่าได้จงใจชักนำคนเขาสิ!” คนที่ฉุกนึกขึ้นได้รีบกล่าวขึ้นทันที
เห็นเพียงหญิงชราโจวซื่อยกนิ้วมือสั่นระริกขึ้น จากนั้นชี้ไปยังทิศทางของซ่งอิง “นาง…นาง…”
เพิ่งพูดได้สองคำมือของนางก็ร่วงลง ก่อนจะสิ้นใจไป
ซ่งอิงถึงกับรู้สึกตะลึงงัน
ออกล่าห่านทุกวี่ทุกวัน วันนี้กลับถูกห่านไล่จิกตาเสียแล้ว[1]?!
เหมียวซื่อเล่นลูกไม้นี้ได้ร้ายกาจจริงเชียว! แต่ถึงอย่างไร โดยทั่วไปใครบ้างจะนึกถึงว่าเหมียวซื่อผู้นี้จะลงมือฆ่าคนเสียดื้อๆ อย่างง่ายดาบเช่นนี้!
ซ่งอิงพลันรู้ว่าทักษะความสามารถของตัวเองยังต่ำต้อยยิ่งนัก
คนผู้นี้ที่ถูกเงินล่อตาล่อใจจนไม่คิดพูดจาโดยมีเหตุมีผลด้วยซ้ำไป ไม่อาจประเมินนางต่ำเกินไปได้เลยจริงๆ!
“พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่! นางเป็นผู้ลงมือ! พวกเจ้าแจ้งเจ้าหน้าที่ขุนนางแล้วหรือยัง! ให้ทหารขุนนางมาจับตัวนางไปเลยสิ!” เหมียวซื่อตะโกน
สูตรสบู่หอม…
เมื่อซ่งอิงถูกจับตัวไป นางก็จะได้รู้แล้ว
ถึงเวลานั้น ร้านค้าก็จะตกเป็นของนาง แล้วมีหรือผู้ดูแลงานในร้านจะไม่เชื่อฟังนาง ไม่ยอมบอกวิธีการทำออกมา
หากไม่ใช่เพราะซ่งอิงรังแกกันเกินไป นางก็จะไม่ใช้วิธีการนี้
นี่ล้วนเป็นเพราะซ่งอิงรนหาเรื่องเอง!
เหมียวซื่อมีความเด็ดขาดแน่วแน่ในใจอย่างยิ่ง
ส่วนซ่งอิงถอนหายใจเฮือกใหญ่ “พรุ่งนี้ตรวจสอบศพอย่างละเอียดและไว้เจอนายอำเภอแล้วค่อยว่ากันเถอะ”
นางไม่มีคนเป็นพยาน แต่นางเห็นอะไรมานักต่อนัก หญิงชราผู้นี้บาดเจ็บที่ด้านหลังศีรษะ แต่นางอยู่ตรงกันข้ามกับหญิงชรา ไม่อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บประเภทนั้นได้ นอกจากนี้ ผู้คนมากมายขนาดนี้จับจ้องอยู่ นางและเหมียวซื่อต่างก็ไม่มีโอกาสลงมือทำอะไรตุกติกได้เลย พรุ่งนี้พิสูจน์หลักฐานก็จะตรวจเจอว่าในมือนางสะอาดสะอ้าน แม้แต่ทรายสักเม็ดก็ยังไม่มี ทว่าเหมียวซื่อ…
ซ่งอิงเหลือบมองไปยังมือนางตลอดจนเสื้อผ้าบริเวณหนึ่งที่เปื้อนโลหิตสีแดงสด ไม่ได้พูดจาอันใด
อาศัยสมองได้ นางจึงคร้านจะส่งเสียงเอะอะโวยวาย
เหมียวซื่อโวยวายตลอดคืน เหมือนระบายอารมณ์อยู่ก็ไม่ปาน ชี้นิ้วด่าทอซ่งอิงยกใหญ่ ยามนี้พวกฮั่วเสี่ยวเฉียวมาแล้วเช่นกัน จึงยิ่งโวยวายไม่จบไม่สิ้น คล้ายว่ามีความแค้นกับนางใหญ่หลวง
ตอนที่ 562 ปลอมตัว
ณ ตอนนี้ ในสมองของซ่งอิงพลันปรากฏคำที่ว่า ความหลากหลายของชีวิต
ต้องอนาถและไร้ความสามารถมากเพียงใดจึงได้ทำให้คนผู้หนึ่งมีอุปนิสัยประเภทนี้ได้ อุตส่าห์มีชีวิตทั้งที แต่ไม่ตั้งหน้าตั้งตาดำเนินชีวิตไป ไม่ทำสิ่งดีๆ เพื่อตัวเอง กลับต้องยืนอยู่บนหนทางความชั่วร้ายและโหดเหี้ยมอย่างไร้ที่ติ แต่ที่แท้แล้วกลับไม่แน่เสมอไปว่าจะได้ครอบครองผลประโยชน์อันใด นี่ล้วนทำไปเพื่ออะไรหรือ
บางคนทุกข์ยากลำบากซึ่งเป็นความทุกข์ยากลำบากโดยแท้จริง แต่เหมียวซื่อกับคนเหล่านี้ เดิมทีอาศัยตัวเองดิ้นรนบนเส้นทางที่ใสสะอาดได้
ล้วนมีมือมีเท้ากันทั้งนั้น เบิกพื้นที่รกร้างก็จะดำรงชีวิตต่อไปได้ กลับจ้องแต่จะเดินทางลัดให้จงได้
เดิมทีเป็นทางรอด แต่ดื้อดึงไปเดินทางตันอยู่ได้
ซ่งอิงสบถฮึเบาๆ
“เด็กสาวคนนี้คิดจะฆ่ายกครัว! ข้ารู้ว่านางมีชายอื่นอยู่ข้างนอก ดังนั้นไม่อยากให้พวกเราเข้ามาอยู่อาศัยด้วย เกรงกลัวว่าพวกเราจะทำลายเรื่องดีๆ ของนาง! น่าสงสารลูกชายผู้นั้นของข้า อายุยังน้อยก็สิ้นชีวาเสียแล้ว ตอนนี้กลับถูกสาวน้อยชั่วร้ายผู้นี้เอาเปรียบ! ไอ้หยา หลานชายที่น่าสงสารของข้า หลังจากนี้จะทำอย่างไร เห็นๆ อยู่ว่ามีแม่ที่ชั่วร้ายเยี่ยงนี้!”
ซ่งอิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะงอนิ้วมือเบาๆ แล้ววาดเป็นวงกลมหนึ่งรอบ แสงสีทองปิดปากของเหมียวซื่อเอาไว้ซ่งอิงนิ่งอึ้งไปเช่นกัน นางก็แค่รำคาญจึงอยากลองเล่นดูเท่านั้นเองคิดไม่ถึงว่า…จะใช้กับคนได้ด้วยเช่นกัน!เหมียวซื่อราวกับถูกผีสิงก็ไม่ปาน ถลึงตาโต ริมฝีปากกลับปิดสนิท! จะพูดอย่างไรก็พูดไม่ได้!
ซ่งอิงครุ่นคิด อยากรู้มากว่าตนจะกั้นขุนเขาสยบวัวและตวัดคนไปไกลๆ ด้วยฝ่ามือเดียวได้หรือไม่ ทว่าคนมากมายเพียงนี้ นางก็ไม่สะดวกจะลงมือเช่นกัน
เช้าตรู่ มีทหารขุนนางกลุ่มหนึ่งมาเยือน
เพียงแต่ทหารขุนนางกลุ่มนี้เดิมทีต้องมาจัดการสองปัญหา ผลสุดท้ายกลับประหลาดใจเมื่อพบว่า สองเรื่องที่ว่านี้มุ่งเป้าไปที่คนกลุ่มเดียวกัน
“แม่นางฮั่วฆ่าคนแล้วหรือ” ทหารขุนนางตกตะลึงเช่นกัน จากนั้นให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพไปลงมือพิสูจน์ศพ
“เป็นการตายจากอาวุธจริงๆ” เจ้าหน้าที่พิสูจน์ศพพยักหน้า
“พวกเขาล้วนมองเห็นว่าเมื่อวานนี้หญิงชราครอบครัวข้าฟื้นขึ้นมาชั่วครู่หนึ่ง ชี้นิ้วยืนยันด้วยตัวเองว่าซ่งอิงทำร้ายนาง! พวกท่านรีบจับนางไปเร็วเข้า! หญิงที่ชั่วร้ายระดับนี้ สมควรตาย!” เหมียวซื่อรีบส่งเสียงตะโกน
ทหารขุนนางขมวดคิ้ว “ยังมีประเด็นที่ชวนสงสัยหรือไม่” ทหารขุนนางสองสามคนถามไถ่อย่างละเอียดอีกครั้ง
หลังเกิดเรื่องขึ้น การแสดงออกของทั้งสองคนรวมไปถึงท่วงท่าที่คนผู้นี้ล้มอยู่ ตลอดจนตำแหน่ง ล้วนชัดเจนกระจ่างแจ้ง
เมื่อผู้พิสูจน์หลักฐานได้ฟังก็รู้สึกแปลก “ข้าสังเกตมือแม่นางฮั่วสะอาดเอี่ยมทั้งสองข้าง ไม่เหมือนคนที่กุมอาวุธ ในทางกลับกัน… ป้าผู้นี้ ฝุ่นดินที่เปรอะเปื้อนสองมือสอดคล้องกับบนก้อนหินนั่น อีกทั้ง… ปลายนิ้วมีคราบเลือดปรากฏอยู่ด้วย…”
เหมียวซื่อตระหนกตกใจ “หลังจากแม่สามีข้าล้มลง ข้าก็รีบนั่งยองลงไปประคองนาน ดังนั้นจึงได้เปื้อนเลือดอย่างไรเล่า!
“เพียงแต่…ว่ากันตามตำแหน่งที่เพื่อนบ้านรวมไปถึงเจ้าบรรยาย แม่นางฮั่วใช้มือขวา จะไม่มีทางเกิดบาดแผลลักษณะนี้ขึ้นมาได้อย่างเด็ดขาด…” ผู้พิสูจน์หลักฐานกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“เจ้าหมายความว่าอันใด! หมายความว่าข้าเป็นคนฆ่าเช่นนั้นหรือ! พวกเจ้ารวมหัวกับนาง! นางให้เงินพวกเจ้าแล้วใช่หรือไม่! สวรรค์ ท่านยังจะให้พวกข้ามีชีวิตอยู่ได้อย่างไรอีก!” เหมียวซื่อลงไปนอนกับพื้นเสียดื้อๆ ร้องห่มร้องไห้ขึ้นมายกใหญ่ “ทั้งที่ก่อนแม่สามีข้าตายก็ได้บอกไว้แล้วว่านางเป็นมือสังหาร นึกไม่ถึงว่าพวกเจ้ากลับดำเป็นขาว ไยจึงไม่กลัวฟ้าผ่าบ้างเลย…”
ทหารขุนนางขมวดคิ้ว “ก็จริง ในเมื่อผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนชี้ตัวกับมือก็ไม่อาจด่วนสรุปได้โดยง่ายเช่นกัน เช่นนั้นก็ขอเชิญแม่นางฮั่วร่วมทางไปที่ว่าการอำเภอด้วยขอรับ…”
“แม่นางฮั่ว พวกเขาแต่ละคนก็คือผู้ที่ปลอมตัวเป็นคนของครอบครัวแม่สามีท่านกระมัง!” ขุนนางทหารกล่าวขึ้นอีกครั้ง
เอาตัวไปด้วยในคราวเดียวก็สิ้นเรื่อง
ซ่งอิงพยักหน้า “ใช่แล้วเจ้าค่ะ เพียงแต่ว่ายังมีเด็กที่อายุสิบกว่าขวบอีกคน ยามนี้น่าจะถูกกักบริเวณอยู่ในบ้าน ก่อนหน้านี้เด็กผู้นั้นแอบมาลอบวางเพลิงหวังให้ข้าตาย จึงได้ถูกหัวหน้าหมู่บ้านลงโทษ”
เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนล้วนตกตะลึง
“หมายความว่านาง…นางปลอมตัวมาจริงๆ หรือ!” ชาวบ้านยังนึกว่าซ่งอิงพูดจาเหลวไหลเสียอีก!
[1] ออกล่าห่านทุกวี่ทุกวัน วันนี้กลับถูกห่านไล่จิกตา เป็นสำนวนจีน หมายถึง ผู้ที่มีความมั่นใจมากเกินไปจนประมาท จนทำผิดพลาดทั้งที่ไม่ควรเกิดขึ้น