ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 567 คุ้นตามาก ตอนที่ 568 มีเหตุการณ์ร้ายแต่ปลอดภัย
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 567 คุ้นตามาก ตอนที่ 568 มีเหตุการณ์ร้ายแต่ปลอดภัย
ตอนที่ 567 คุ้นตามาก
แต่ถ้อยคำเหล่านี้ นายอำเภอไม่กล้าพูดออกมาเช่นกัน
“เช่นนั้น…ก็จับกุมสองคนนี้เอาไว้ก่อน รอตรวจสอบความให้ชัดเจนแล้วค่อยตัดสินหรือขอรับ” นายอำเภอเอ่ยถาม
“ตกลง” ฮั่วเจ้ายวนเอ่ยประกาศิตด้วยคำเดียว
นายอำเภอพรูลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“เช่นนั้น…ถัดไปก็…ไต่สวนคดีฆาตกรรมหญิงชราโจวซื่อ…” นายอำเภอปาดเหงื่อ
ร่างหญิงชราโจวซื่อถูกแบกขึ้นห้องพิจารณาคดีความ
คนที่มาจากหมู่บ้านซิ่งฮวายามนี้อยู่ด้านนอกไม่ไกลออกไป คอยชะเง้อหน้ามองดูอย่างค่อนข้างวิตกกังวล โดยเฉพาะเมื่อครู่คนแล้วคนเล่าถูกจับตัวมาแล้วก็พาตัวไป มองดูน่ากลัวมากจริงๆ
“ดูเหมือนขุนนางใหญ่ท่านนี้เข้าข้างเอ้อร์ยาของเรา นางจะต้องไม่เป็นไรแน่นอนกระมัง…” เหยาซื่อสะใภ้ใหญ่ค่อนข้างกลัวเช่นกัน
ซ่งฝูซานเดิมทีคร้านจะมาด้วย แต่เขาเป็นคนครอบครัวฝั่งมารดาของซ่งอิง จะไม่มาในเวลาเช่นนี้ก็ออกจะดูไร้เหตุผลไปหน่อย อีกทั้งเกิดซ่งอิงถูกลงโทษ ตระกูลซ่งของเขาก็เสียหน้าเช่นกัน ยามนี้ทำได้เพียงยืนกรานเสียงแข็ง “เหมียวซื่อผู้นั้นไม่ใช่คนดี ต้องเป็นฝีมือนางแน่!”
ผู้เฒ่าซ่งอายุขนาดนี้แล้วตอนนี้ก็ยังอุตส่าห์ฝืนทนอยู่ได้เลย
อารมณ์ในเวลานี้ ณ ขณะนี้ คำว่าวิตกกังวลเกินกว่าจะเปรียบ
ว่ากันตามหลัก ก็แค่หลานสาวคนหนึ่ง มิหนำซ้ำยังเป็นคนที่ออกเรือนไปแล้วจึงไม่ถึงขั้นต้องทำให้เขาเป็นเช่นนี้ แต่ตอนนี้ภาพที่ตนถูกนางบังคับออกกำลังกายก่อนหน้านี้แวบผ่านสมองขึ้นมาไม่หยุดหย่อน
แม้ว่าเอ้อร์ยาดุมาก แต่หากกล่าวถึงความกตัญญู เกรงว่าลูกหลานทั้งครอบครัวรวมๆ กันแล้วยังสู้นางคนเดียวไม่ได้เลยน่ะสิ…
เกิดนายอำเภอผู้นี้ตาไม่ดี คิดว่าเอ้อร์ยาฆ่าคนแล้ว เช่นนั้นนี่ต้องชดใช้ด้วยชีวิตเชียวนะ…
ผู้เฒ่าซ่งจับจ้องเหมียวซื่อผู้นั้นเอาเป็นเอาตาย ในแววตาถึงขั้นแทบจะเกิดประกายไฟขึ้นมาก็ว่าได้!
ล้วนเป็นเพราะเงินชักนำภัยมาให้จริงๆ!
ไอ้พวกจิตใจชั่วร้าย ตัวเองไม่รู้จักเรียนรู้สิ่งดีๆ วันๆ คิดแต่จะฮุบทรัพย์สินของผู้อื่น ล้วนเป็นพวกที่สู้สัตว์เดรัจฉานไม่ได้ด้วยซ้ำ!
แล้วยังมีคนของร้านชุ่ยเหยียนไจนั่นอีก หากไม่ใช่เพราะพวกเขาจ้างเก๋อต้า ก็จะไม่มีเหมียวซื่อปรากฏตัวออกมา หลานสาวเขาก็ไม่ถึงขั้นต้องขึ้นโรงขึ้นศาล!
ส่วนอารมณ์ของหัวหน้าหมู่บ้านซ่งกลับค่อนข้างเลื่อนลอย จดจ้องไปที่ตัวฮั่วเจ้ายวนตลอดเวลา
เด็กผู้นี้…มองดูคุ้นตาอย่างยิ่ง จริงๆ แล้วค่อนข้างเหมือน…ฮั่วหรงนี่?เพียงแต่ฮั่วหรงจากหมู่บ้านไปตั้งแต่ตอนสิบกว่าขวบ ดังนั้นเขาก็ไม่กล้าฟันธงเช่นกัน อีกทั้งคนเขาเป็นถึงขุนนางใหญ่ แม้ไม่รู้ว่าบรรดาศักดิ์ใหญ่โตเพียงใด แต่จะอย่างไรพวกเขาก็ไม่กล้าแตะต้อง ฮั่วหรงเป็นบุตรชายนายพราน ไม่มีความสามารถขนาดนั้นหรอก
แต่ดูคล้ายคลึงเช่นนี้ หัวหน้าหมู่บ้านซ่งก็อดสงสัยไม่ได้ว่าคนผู้นี้เป็นญาติของฮั่วหรงหรือไม่…
มิเช่นนั้นจะเอาใจใส่แม่นางฮั่วถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกันเล่า
ในสมองหัวหน้าหมู่บ้านซ่งครุ่นคิดวุ่นวายไปหมด แต่เขาก็ไม่กล้าพูดจาออกมาเรื่อยเปื่อยเช่นกัน
ณ โถงพิจารณาคดีความ
ผู้พิสูจน์หลักฐานนำผลของการตรวจสอบก่อนหน้านี้รายงานอีกครั้ง
“ในเมื่อหลักฐานครบถ้วน ยังมีอะไรโต้แย้งอีกหรือ” ฮั่วเจ้ายวนสบถฮึ
นายอำเภอเบิกตาขึ้นเล็กน้อย “แต่ก่อนตายหญิงชราโจวซื่อผู้นั้น…”
“พูดโกหกเพื่อลูกหลานครอบครัวตัวเองก็ไม่แปลกนี่ เดิมทีทั้งครอบครัวเหมียวซื่อก็มีแรงจูงใจในการกระทำอยู่แล้ว คำพูดของพวกเขาเชื่อถือได้อย่างไรเล่า แน่นอนว่าต้องตัดสินไปตามหลักฐานสิ” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวอย่างหน้าตาเฉย
“พวกเราไม่ยอม! ท่าน ท่านขุนนางใหญ่ผู้นี้จะต้องเป็นชายชู้ของนางแน่! ท่านจึงได้เข้าข้างนางอยู่ตลอด พวกท่านคิดจะใส่ร้ายว่าข้าฆ่าคน!” เหมียวซื่อรีบบอกกล่าวทันที
“เป็นคนหาญกล้าดีนี่ กล้าดูถูกตัวเรา ลากเอาไปโบยให้ตายเสียเลย” ฮั่วเจ้ายวนยกยิ้มเย็นชามุมปาก
เหมียวซื่อถลึงตาโต
“คดีความนี้ตัดสินแล้ว หากพูดว่ายังมีส่วนใดต้องไต่สวนอีก เช่นนั้นก็คือ…เรื่องฆ่าคนครานี้เป็นเจ้าพร้อมพวกร่วมมือกัน หรือเหมียวซื่อเป็นผู้กระทำคนเดียว…” ฮั่วเจ้ายวนหัวเราะเบาๆ
ซ่งอิงยามนี้ไม่อยากถอนหายใจแล้ว
เมื่อก่อนนางรู้สึกว่าใต้เท้าท่านนี้เป็นคนดีและคุณธรรมสูงส่ง ถึงขั้นว่ามีความเป็นคนใสซื่อเล็กน้อยด้วยซ้ำ แต่ ณ ตอนนี้ ไม่หลงเหลือความนึกคิดประเภทเมื่อก่อนนั้นแล้วอย่างสิ้นเชิง
คนใสซื่อก็บ้าแล้ว เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ต่างหากเล่า!
คนเขายังไม่ได้สารภาพผิดเลย ก็เลือกที่จะไม่พูดถึงประเด็นสำคัญนี้แล้ว หันไปทำให้คนเหล่านี้เล่นงานกันเองเสียดื้อๆ แล้ว!
ตอนที่ 568 มีเหตุการณ์ร้ายแต่ปลอดภัย
ล้วนเป็นเล่ห์กลทั้งเพ!
ซ่งอิงพลันรู้สึกว่าที่ตนเองมีชีวิตรอดอยู่ได้ภายใต้เงื้อมมือฮั่วเจ้ายวนนั้นช่างเป็นโชคดีจริงๆ
ขณะนี้นางนึกถึงการเจรจาซื้อเนื้อเมื่อวานนี้ขึ้นมา ซ่งอิงเลียริมฝีปาก พลันรู้สึกขลาดกลัวเล็กน้อย
นางช่างชะตาชีวิตดีจริงๆ หลังเอ่ยยื่นความต้องการนี้ นึกไม่ถึงว่าฮั่วเจ้ายวนจะไม่ฆ่านางตาย ณ ตรงนั้น!
หนึ่งล้านตำลึงเงินเทียบกับชีวิตน้อยๆ เทียบกันได้ที่ไหนเล่า!
ซ่งอิงคลี่ยิ้มให้ฮั่วเจ้ายวน มองดูประจบสอพลอมากทีเดียวเชียว
ฮั่วเจ้ายวนเลิกคิ้ว นึกว่านางชื่นชมเขาว่าจัดการเรื่องราวได้อย่างเหมาะสม จึงรู้สึกเริงร่าเล็กน้อย
ส่วนฮั่วเฉียงพร้อมพวก ไม่ต้องเร่งรัดเลยด้วยซ้ำ ก็รีบชี้ตัวทันที
“ท่านแม่ทำคนเดียว! ไม่เกี่ยวกับพวกเรา…”
“นางเป็นคนฆ่าท่านแม่ข้า ขอใต้เท้าโปรดจัดการให้ด้วยขอรับ!” ฮั่วต้าหู่รีบพลักเหมียวซื่อไปด้านข้างทันที
ฮั่วเสี่ยวเฉียวก็เช่นเดียวกัน ก็แม้แต่ฮั่วผิงที่มีความใจกล้าเป็นพิเศษตอนนี้ยังตกใจจนเอาแต่ก้มหน้าก้มตา
ฮั่วเจ้ายวนพยักหน้า “ดีมาก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ตัดสินเลยเถอะ เหมียวซื่อฆ่าคน คนอื่นรู้เรื่องแต่ไม่แจ้งให้ทราบ จึงถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ส่วนฮั่วซ่งซื่อ ไร้ความผิดใดๆ รีบลุกขึ้นเถอะ!”
คุกเข่านานขนาดนี้ ไม่รู้เช่นกันว่าเจ็บเข่าหรือไม่
ก็เพราะสาวน้อยผู้นี้ดื้อรั้น หากไม่เลือกหนึ่งล้านตำลึงเงิน แต่เลือกอยู่เคียงกายเขา มีหรือจะเจอเรื่องยุ่งยากวุ่นวายเช่นนี้ ถึงขั้นว่านายอำเภอแห่งนี้เห็นนางก็ยังมาคุกเข่าให้ด้วยซ้ำไป!
“ขอบคุณบรรดา…ท่านขุนนางเจ้าค่ะ!” ซ่งอิงรู้งานอย่างยิ่ง
ตอนนี้นางไม่ใช่เซียนสวรรค์สักหน่อย ก็แค่สาวชาวไร่คนหนึ่ง ตอนที่สมควรคุกเข่าก็จำเป็นต้องคุก ก็แค่เข่าสองข้างแตะอยู่บนพื้นเท่านั้นเองนี่ สองเท้าของนางนี้ยังต้องเดินทุกวันก็ไม่เห็นจะโอดครวญด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจเลย แล้วจะเป็นไรไปหากให้เข่าสัมผัสพื้นบ้างเป็นครั้งคราว
ฮั่วเจ้ายวนสบถฮึ
‘บรรดา’ เป็นถ้อยคำที่เกินออกมาเห็นๆ
หากไม่มีเขา นายอำเภอคนโง่เขลาผู้นี้คงได้ขบคิดเรื่องนี้ไม่เลิก หลายวันกว่าจะได้บทสรุป ไม่แน่ว่าท้ายที่สุดยังจะตัดสินผิดพลาดอีกด้วย แค่การขอบคุณคนอื่นยังทำไม่ได้ ช่างแล้งน้ำใจจริงๆทั้งครอบครัวเหมียวซื่อล้วนงุนงงสับสนจนทำอะไรไม่ถูก
“พวกเราไม่รู้ ไม่รู้…เมื่อครู่พูดผิดไปแล้ว!” ฮั่วเฉียงและคนอื่นๆ กล่าวตะโกนขึ้นอีกครั้ง
“พูดกลับไปกลับมา เจ้าพร้อมพวกเห็นศาลพิจารณาคดีความเป็นสถานที่อันใด สมควรเฆี่ยนให้ตายไว้เป็นเยี่ยงอย่าง” ฮั่วเจ้ายวนไม่แม้แต่จะชายตามอง
บรรดาทหารองครักษ์ได้ยินดังกล่าว แต่ละคนพากันเผยสีหน้าพร้อมสังหาร
ทันใดนั้นทุกอย่างก็เงียบสงัด
นายอำเภอกลืนน้ำลาย มีท่าทีระแวดระวัง “เหมียวซื่อสังหารแม่สามีและใส่ร้ายฮั่วซ่งซื่อ จิตใจอำมหิตยิ่งนัก ตัดสินโทษประหาร คนในครอบครัวอย่างฮั่วต้าหู่ ฮั่วเฉียง ฮั่วเสี่ยวเฉียว รวมไปถึงฮั่วผิงรู้เห็นเป็นใจ รู้เรื่องราวแต่ไม่แจ้ง ปล่อยให้เหมียวซื่อทำร้ายญาติ ไร้คุณธรรมจริยธรรม โบยอย่างหนักคนละสามสิบไม้โบย…”
เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เขาก็ปรายตามองใต้เท้าฮั่วปราดหนึ่ง จากนั้นรีบกล่าวเสริม “เนรเทศ เนรเทศไปหย่วนโจว”
หย่วนโจวคือสถานที่ที่ห่างไกลจริงๆ ถิ่นทุรกันดารโดดเดี่ยว พื้นที่แถบนั้นแทบจะเต็มไปด้วยผู้กระทำผิดก็ว่าได้ ไม่มีคนปกติทั่วไปสักคน
“เลิก เลิกศาล” นายอำเภอหนังตากระตุก
ซ่งอิงคารวะให้เหล่าใต้เท้า จากนั้นก็ไปเจอครอบครัวอย่างดีอกดีใจ
ซ่งเหล่าเกินถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก “ดี! มีเหตุการณ์ร้ายแต่ปลอดภัยก็ดีแล้ว! รีบกลับบ้านเถอะ ให้ป้าใหญ่เจ้าต้มน้ำให้สักหม้อแล้วแช่อ้ายเฉ่าสักหน่อย จากนั้นค่อยข้ามอ่างไฟขับไล่ความชั่วร้าย!”
“ไม่ต้องหรอกเจ้าค่ะ ข้าได้มาในตัวอำเภอทั้งที ขอไปจัดการธุระสักหน่อยค่อยกลับไปแล้วกันเจ้าค่ะ” ซ่งอิงบอกกล่าวทันใด
“เรื่องอะไรจะสำคัญไปกว่าการขับไล่โชคร้าย สาวน้อยคนนี้ไม่รู้ประสีประสาเลย ดูเจ้าสิ ระยะนี้เจอแต่เรื่องโชคร้าย ไม่รู้เช่นกันว่าไปทำเวรทำกรรมอะไรไว้ ข้าว่าไม่เพียงแค่ต้องขับไล่ความชั่วร้าย แต่ยังต้องหาวัดสักแห่งไปสักการะเสียหน่อย ให้เทพต้าหลัวปกปักษ์ดูแลเจ้า” ผู้เฒ่าซ่งรู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง
“สักการะเทพหรือเจ้าคะ” ซ่งอิงครุ่นคิด “ตกลงเจ้าค่ะ หรือไม่ท่านปู่พักอยู่ในตัวอำเภอสักระยะ อยู่ที่บ้านพี่ชายข้าได้ ยังมีห้องว่างอยู่พอดีเจ้าค่ะ รอข้าจัดการธุระเสร็จแล้ว จะได้ให้ท่านกับพี่ชายข้าไปสักการะด้วยกัน”