ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 603 บรรลุกันหมดแล้วหรือ ตอนที่ 604 ได้รับความโปรดปรานอย่างใหญ่หลวง
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 603 บรรลุกันหมดแล้วหรือ ตอนที่ 604 ได้รับความโปรดปรานอย่างใหญ่หลวง
ตอนที่ 603 บรรลุกันหมดแล้วหรือ / ตอนที่ 604 ได้รับความโปรดปรานอย่างใหญ่หลวง
ตอนที่ 603 บรรลุกันหมดแล้วหรือ
ซ่งอิงจดจ้องแสงจันทร์นั่นอยู่เนิ่นนาน มองไปมองมา ท้ายที่สุด ในวันที่สามของการมองก็เห็นสีสันที่สวยงามขึ้นมาเล็กน้อย
ซึ่งก็หมายความว่า ในที่สุดการเดินจุดฝังเข็มของนางก็ถูกต้องเสียที
เมื่อซ่งอิงนั่งนิ่งเพื่อบำเพ็ญเพียร พวกหนิวต้าลี่ต่างก็งุนงงสับสน
เห็นเพียงวงแหวนสีเงินรอบดวงจันทร์ที่อยู่กลางอากาศดูเหมือนกำลังทอประกายสีทอง แสงจันทร์ทรงกลดดุจน้ำรินไหลลงมา แล้วถูกซ่งอิงดูดซับเข้าไป ไม่เพียงเท่านี้ หลังผ่านไปเพียงครู่เดียว ก็ได้ยินเพียงเสียงหอนของหมาป่าที่แว่วมาจากกลางเขาไม่ไกลออกไป และต่อจากนั้นก็มีนกนับร้อยตัวบินขึ้นมาจากในป่า แทบจะปกคลุมท้องนภากว่าครึ่งเอาไว้
“ข้า ข้าว่าแล้วว่าท่านพี่จะต้องเป็นปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ตนหนึ่งแน่นอน!” หนิวต้าลี่ใจเต้นระรัว
ชิงเหลียนก็รู้สึกตระหนกตกใจอย่างยิ่งเช่นกัน
มันจดจำตอนนั้นที่มันบรรลุได้ มันก็เริ่มเปลี่ยนแปลงขณะดูดซับแสงจันทร์ทรงกลดเช่นกัน เพียงแต่แสงจันทร์ทรงกลดตอนนั้นมองดูธรรมดามาก ไม่เหมือนเช่นตอนนี้ น่ากินเหลือเกิน
“เราก็…รีบบำเพ็ญตนด้วยเช่นกันเถอะ” ชิงเหลียนรีบดึงหนิวต้าลี่ให้นั่งลง
พูดจบ เขาก็นั่งขัดสมาธิเข้าสู่การบำเพ็ญตน
หนิวต้าลี่งุนงง บำเพ็ญเพียรอย่างไรล่ะ นางทำไม่เป็นน่ะสิ!
“พี่กบ ท่านช่วยอธิบายอย่างละเอียดให้ข้าฟังหน่อยได้หรือไม่” หนิวต้าลี่เผยสีหน้าใสซื่ออย่างยิ่ง
“เจ้าเป็นวัว ข้าเป็นกบเขียว เราสองไม่เหมือนกัน เจ้าก็ดูเองแล้วกันว่าควรทำอย่างไร อย่ารบกวนข้า” ปีศาจกบเขียวพูดอย่างสั้นง่ายได้ใจความ
“…” หนิวต้าลี่เบะปากจนคางสั่นเล็กน้อยด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ
รบกวนหรือ พวกเขาทั้งสองยังคงเป็นสามีภรรยาในนามกันอยู่เลย! ปรากฏว่าในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ก็ไม่คิดจะชี้แนะนางสักหน่อยหรือ นึกไม่ถึงเลยว่าต้องให้นางขบคิดด้วยตัวเอง
ด้วยความจนปัญญา หนิวต้าลี่ทำได้เพียงลองทำดู
เพียงแต่ไม่รู้เช่นกันว่าใช่ความสามารถของปีศาจหรือไม่ เมื่อนั่งลงตรงนั้นแล้วสงบจิตใจ หนิวต้าลี่ก็รู้สึกเหมือนตัวเองได้กินสิ่งดีๆ อย่างไรอย่างนั้น มีสิ่งที่ใสกระจ่างดุจน้ำไหลเข้าสู่ร่างกาย แต่ไม่ได้มากมายนัก ทว่ามีคุณประโยชน์ต่อร่างกายเป็นพิเศษ ทุกรูขุมขนเหมือนเปิดขึ้นมา ให้ความรู้สึกสบายอย่างยิ่ง
ณ ตอนนี้ ไม่เพียงแค่พวกเขาปีศาจสองตน ก็แม้แต่ภูตโสมที่อยู่หมู่บ้านซิ่งฮวาและพวกปีศาจงูดำทั้งสามที่อยู่ทางด้านตัวอำเภอก็รู้สึกได้เช่นกัน
เพียงแต่พวกมันอยู่ค่อนข้างห่างจากซ่งอิง ดังนั้นได้รับผลค่อนข้างน้อย
แต่ในหมู่บ้านแห่งนี้ เหล่าสัตว์ที่เกิดสติปัญญาอันฉลาดเฉียบแหลมที่ซ่งอิงเลี้ยงเอาไว้ก่อนหน้านี้ต่างก็ซื่อตรงอย่างถึงที่สุด
หนึ่งคืนผ่านพ้นไป
ยามที่ซ่งอิงลืมตาขึ้นมา รู้สึกเพียงอากาศถึงกับสดชื่นหอมหวานขึ้นเล็กน้อย เนื้อตัวเบาหวิว สมองปลอดโปร่ง พูดให้เข้าใจง่ายหน่อยก็คือเหมือนกับขอทานที่ผ่านการอาบน้ำชำระโคลนที่สะสมมาสามสิบปี คนทั้งคนรู้สึกสึกราวกับเกิดใหม่
เพียงแต่ว่าทันทีที่ลืมตา ก็ค้นพบภาพฉากในลานบ้านที่…ชวนตื่นเต้นเล็กน้อย
พวกเขานั่งล้อมรอบตัวนางสามชั้น
หนิวต้าลี่และชิงเหลียนเป็นผู้ที่นางรู้จัก แต่คนอื่น ไม่เคยเห็นมาก่อนจริงๆ…
โดยเฉพาะ ณ ที่นี้ยังมีชายหนุ่มที่อายุประมาณยี่สิบปีผู้หนึ่ง รูปลักษณ์หล่อเหลาอย่างยิ่ง มิหนำซ้ำยังสวมใส่อาภรณ์สีสันสดใสอีกด้วย!
ทั้งหมดนี้เป็นใครกัน!
“แค่ก!” ซ่งอิงส่งเสียงไอขึ้นมาหนึ่งครั้ง “พวกเจ้า… มาทำอะไรกันอยู่ตรงนี้…”
หลังเอ่ยถ้อยคำนี้จบ จู่ๆ ซ่งอิงก็งงจนทำอะไรไม่ถูก เมื่อจ้องมองดูดีๆ ผลปรากฏว่าคราวนี้ที่มองเห็นไม่ใช่คน หากแต่นางมองเห็นร่างเดิมของ ‘คน’ เหล่านี้…
ชายในอาภรณ์สีสันสดใส คือ…นกยูง!
มีป้าผู้หนึ่งที่ดวงตาดำขลับ อายุประมาณสามสิบปีเห็นจะได้ นั่นคือ…เพียงพอนเหลือง!
นางนึกว่าเพียงพอนเหลืองเป็นตัวผู้เสียอีก!
นอกจากนี้ ยังมีสาวน้อยผู้หนึ่งสวมใส่ชุดสีเงินเทา เป็นกระต่ายป่าตัวหนึ่ง แล้วยังมีเด็กชายคนหนึ่งที่อายุประมาณสิบขวบ หน้าตาองอาจอย่างยิ่ง เป็นลูกหมาป่าตัวหนึ่ง หญิงสาวที่ลักษณะอายุประมาณยี่สิบสองยี่สิบสาม มีขนไก่หลากสีสันประดับบนศีรษะ นั่นคือไก่ป่า หนุ่มน้อยทั้งสองในชุดสีเขียวอมฟ้าคืองู นอกจากนั้นยังมีปีศาจนกขมิ้น ตลอดจนหมูป่า หนู รวมไปถึงห่านขาวตัวใหญ่ที่จับมาได้ในภายหลัง แล้วยังมีเหล่ากบเขียวที่พามาด้วย…
ล้วนบรรลุหมดแล้วหรือ!
เมื่อก่อนซ่งอิงรู้สึกว่าสหายเหล่านี้เติบโตช้า แต่ก็ไม่เคยคิดเช่นกันว่าพวกเขาจะกลายเป็นคนทั้งหมดในเวลาชั่วข้ามคืน!
ตอนที่ 604 ได้รับความโปรดปรานอย่างใหญ่หลวง
ซ่งอิงมองพวกเขาอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
“เอ่อ…ทุกคนสบายดีนะ” ซ่งอิงยกมือน้อยๆ ขึ้นเหมือนแมวกวักพลางกล่าวทักทาย
“ลูกพี่!”
“ต้าเจี่ย[1]!”
“ท่านแม่!”
“…”
สถานการณ์ตรงหน้าวุ่นวายเล็กน้อยไปชั่วขณะ
ซ่งอิงรีบก้าวถอยหลังต่อเนื่องสามสี่ก้าว “เดี๋ยวก่อน ไก่ป่าน้อย เจ้า เจ้ามองดูอายุยี่สิบสามยี่สิบสี่แล้วเห็นจะได้ เรียกข้าต้าเจี่ยออกจะดูเกินไปหน่อยแล้วกระมัง! ตามจริงสำหรับเจ้าก็ไม่เท่าไร ข้ายังพอทนได้ แต่เจ้านกขมิ้นน้อย เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ! ข้ามีลูกแล้ว…”
จะได้ลูกเพิ่มแล้วหรือ
ลูกชายเลี้ยงได้เพียงคนเดียวเท่านั้น เกินกว่านี้ไม่ได้!
ไม่สิ…
สัตว์เล็กที่จับมาได้ในภายหลังล้วนบรรลุกันหมดแล้ว ไม่มีเหตุผลที่ต้าหวงและต้าไป๋ของบ้านนางจะไม่บรรลุบ้างนี่ หรือว่าสัตว์เลี้ยงตามบ้านมีความสามารถสู้สัตว์ที่เกิดในป่าไม่ได้
นั่นก็ไม่น่าเป็นไปได้เช่นกัน ห่านสีขาวขนาดใหญ่ที่นำฝูงตัวนั้นก็เป็นสัตว์เลี้ยงตามบ้าน…
ซ่งอิงรีบมองซ้ายมองขวา ท้ายที่สุดมีคนสองคนวิ่งออกมาจากในเรือน
ต้าหวงต่างไปจากที่นางคิด ให้ความรู้สึกอย่างหัวหน้าจอมเผด็จการเล็กน้อย เปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นคนอายุประมาณยี่สิบปีเห็นจะได้ ยังคงดูองอาจผึ่งผายเช่นเคย เรียกได้ว่ามีความหยิ่งผยองกว่าปีศาจทั้งหมด ณ ที่นี้
ส่วนต้าไป๋…
ซ่งอิงเคยคิดอยู่ในหัวว่าม้าขาวในวัยหนุ่มน้อยก็เป็นลักษณะเช่นเขานี้ ใบหน้าขาวสะอาดเกลี้ยงเกลาแต่งแต้มไว้ด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ น่าเสียดายทีมันไม่ใช่ม้า หากแต่เป็นลา แม้ว่าเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นคน มันก็ค่อนข้างเตี้ยและตัวเล็กกว่าหัวหน้าจอมเผด็จการ นอกจากนี้ไม่นึกเลยว่าส่วนเส้นผมนั้นจะมีแซมผมขาวๆ อีกด้วย ช่างดูนำสมัยไม่เหมือนใครดีจริงๆ
ปีศาจตั้งมากมายเพียงนี้ทำให้ซ่งอิงงุนงงจนทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย
“เช่นนั้นพวกเราเรียกท่านว่าต้าหวัง[2]ก็แล้วกัน?!”
“ไม่ได้!” ซ่งอิงส่ายหน้าทันที เดิมทีก็ค่อนข้างดีทีเดียว แต่ยามที่เป็นประโยคคำถามก็จะค่อนข้างไม่น่าฟังสักเท่าไร อีกอย่าง เกิดถูกคนอื่นได้ยินเข้า คงเป็นอันต้องหัวหลุดออกจากบ่ากันพอดี
“จากมุมมองข้า ควรจะเลียนแบบตามธรรมเนียมปฏิบัติของเหล่ามนุษย์ ซึ่งจะเรียกว่านายท่าน” ป้าเพียงพอนเหลืองเผยสีหน้าประจบสอพลอขึ้นมาทันที
ซ่งอิงเม้มปาก เดิมทีรู้สึกว่าก็ค่อนข้างดีเช่นกัน แต่เมื่อท่านป้าผู้นี้เผยท่าทีอย่างพร้อมประจบประแจงถึงเพียงนี้ ทำให้รู้สึกหวาดกลัวไม่น้อยทีเดียว
“เรียกว่าเถ้าแก่เหนียงก็แล้วกัน หลังจากนี้พวกเจ้าก็คือคนที่ข้าจ้างมาทำงาน” ซ่งอิงกล่าวตรงไปตรงมา
ครั้นเอ่ยพูดเช่นนี้ ป้าเพียงพอนเหลืองก็รีบพยักหน้าทันที “ใช่ๆๆ เรียกเถ้าแก่เหนียงจะดีหน่อย เรียกขานเช่นนี้เหมาะสมที่สุดแล้ว”
ต้าหวงเดินมาตรงหน้าซ่งอิง จากนั้นขึงตาใส่เพียงพอนเหลืองแวบหนึ่ง
ตั้งแต่โบราณ ไก่ล้วนกลัวเพียงพอนเหลืองทั้งนั้น ซ่งอิงเพิ่งเคยเห็นไก่ตัวผู้กล้าเดินเข้าไปวางมาดดุดันใส่เพียงพอนเหลืองก็คราวนี้
ด้วยเหตุนี้ นางจึงประหลาดใจมาก “พวกเจ้าจะทะเลาะเบาะแว้งกันขึ้นมาหรือไม่ ได้ยินว่าแม้เพียงพอนเหลืองไม่ชอบกินเนื้อไก่ แต่ก็ชอบดื่มเลือดมันมากเลยนี่”
“หนู งู กระต่าย กบเขียว…จุ๊ๆ…” ซ่งอิงแอบกลัวจนพูดไม่ออก
“เถ้าแก่เหนียงวางใจได้! ในเมื่อบรรลุแล้ว ขอเพียงนางไม่มาหาเรื่องข้า ข้าจะไม่จิกนางแน่นอน อีกอย่าง ก็แค่เพียงพอนเหลืองตัวหนึ่งเท่านั้นเอง หากมันกล้ามาดื่มเลือดของข้า ข้าจะก็ใช้ปีกหวดมันกลับไปร่างเดิมเลย!” ต้าหวงปรายตามองป้าเพียงพอนเหลืองตัวนั้นอย่างดูถูกสายตาหนึ่ง
มันติดตามนายท่านมาตั้งแต่ยังเล็ก นายท่านเป็นผู้ป้อนข้าวป้อนธัญพืชให้มันด้วยตัวเอง นอกจากภูตโสมแล้วก็ต้าไป๋ ยังมีใครเทียบมันได้อีกหรือ
อีกอย่าง มันเป็นไก่ที่อยู่ข้างกายนายท่านอย่างองอาจสง่าผ่าเผยที่สุด บินได้ วิ่งได้ ตะปบได้และจิกได้ มีทักษะการต่อสู้เพียบพร้อม แล้วเพียงพอนเหลืองเล่า ก็แค่ปีศาจที่ช่างประจบประแจงก็เท่านั้น!
ซ่งอิงเม้มปาก รู้สึกว่าต้าหวงทัศนคติและการแสดงออกเหมือนนางเป็นอย่างยิ่ง
ไก่โต้งตัวหนึ่งกลายเป็นเช่นนี้ได้ ถือว่าเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
“พวกเจ้าจัดการตามเห็นสมควรแล้วกัน นอกจากนั้นก็ตั้งชื่อน่าฟังให้ตัวเองกันด้วย ในช่วงเวลาอันสั้นนี้ข้าเองคงจำได้ไม่หมดเช่นกัน ทว่าไว้เวลาผ่านไปนานวันเข้าก็จะดีเอง ถึงอย่างไรสักวันหนึ่งก็ต้องคุ้นเคยกันอยู่ดี” ซ่งอิงกล่าว
เห็นซ่งอิงไม่ตำหนิต้าหวง ป้าเพียงพอนเหลืองก็เป็นอันเข้าใจอย่างชาญฉลาดขึ้นมาแล้วว่า ต้าหวง ไก่ตัวนี้เป็นผู้ที่ได้รับความโปรดปรานอย่างใหญ่หลวง
นางจำเป็นต้องประจบเอาใจเข้าไว้ ต่อให้มันเป็นเพียงไก่ตัวหนึ่งก็ตาม
[1] ต้าเจี่ย (大姐) ใช้เรียกผู้หญิงที่อายุมากกว่า คล้ายคำว่าพี่สาว
[2] ต้าหวัง (大王) หมายถึง ราชันผู้ยิ่งใหญ่