ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 605 วางแผนงานให้ปีศาจน้อย ตอนที่ 606 ของขวัญ
ตอนที่ 605 วางแผนงานให้ปีศาจน้อย / ตอนที่ 606 ของขวัญ
ตอนที่ 605 วางแผนงานให้ปีศาจน้อย
ปีศาจกลุ่มหนึ่งล้อมวงอยู่ด้วยกัน จากนั้นจึงเริ่มปรึกษารือเกี่ยวกับการตั้งชื่อ
ซ่งอิงค้นพบว่า แม้ว่าร่างเดิมของพวกมันส่วนใหญ่ล้วนเป็นปฏิปักษ์กัน แต่หลังเปลี่ยนเป็นปีศาจ ต่างฝ่ายก็ไม่ได้มีความเคียดแค้นเกลียดชังกันแต่อย่างใด
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง พวกมันก็เดินเรียงแถวมารายงานชื่อกับซ่งอิง นอกจากนั้นยังต้องแนะนำความสามารถของตัวเองอีกด้วย
ต้าหวงและต้าไป๋มีความสัมพันธ์อันดีงามต่อกัน ปีศาจทั้งสองตัวนี้ยังถือว่ามีความถ่อมตัวและเอื้อเฟื้ออีกด้วย
“เถ้าแก่เหนียง ข้าอยากชื่อว่าหวงเฟยเฟิ่ง!” ต้าหวงกล่าวอย่างมั่นใจ
“…” ซ่งอิงส่งเสียงกระแอมไปสองครั้ง แม้ว่าชื่อนี้ค่อนข้างเชยไปหน่อย แต่สุดท้ายก็ทำใจทำลายความหวังของอีกฝ่ายไม่ได้
คนเขาเป็นไก่สีน้ำตาลทองตัวหนึ่ง กลับมีความนึกคิดที่จะเป็นหงส์[1] ความองอาจกล้าหาญอย่างนี้ ควรค่าแก่การตกรางวัล!
“ข้าไป๋เย่ว์” ต้าไป๋คลี่ยิ้มกว้าง
ซ่งอิงเกรงกลัวจริงๆ ว่าลาขาววัยหนุ่มน้อยตัวนี้จะหัวเราะดังลั่นขึ้นมากะทันหัน เช่นนั้นจะสร้างความแตกตื่นเกินไป จึงพยักหน้าตอบรับทันที “ชื่อฟังดูดีทีเดียว!”
ต้าไป๋เชิดหน้าเล็กน้อยอย่างภาคภูมิใจ
นกยูงตัวผู้แสนภูมิใจในความหล่อเหลาของตัวเอง ตอนนี้ยืนต่อแถวเป็นลำดับที่สาม ในมือถือพัดขนนกยูง แล้วยังคลี่ยิ้มทรงเสน่ห์ให้ซ่งอิง “เถ้าแก่เหนียง วิวทิวทัศน์ตอนนี้เต็มไปด้วยทัศนียภาพของใบไม้สีแดงและจันทร์ทรงกลดสาดแสงเคลือบผืนหญ้าเขียวขวจี…ข้า…นามว่าจิ่งเช่ว์ก็แล้วกัน หลังจากนี้หวังว่าข้าจะเป็นเหมือนจันทร์ทรงกลดที่คอยอยู่เคียงข้างเถ้าแก่เหนียงไปตลอด คอยพูดคุยเกี่ยวกับบทกวีและภาพวาด รวมไปถึงเต้นรำและชมทัศนียภาพอันสวยงาม…”
“…” ไม่มีใครบอกกล่าวนางว่าปีศาจก็รู้จักขับขานบทกวีเป็นกับเขาด้วย
เมื่อคิดดูอีกที ก็จริง ในเมื่อนี่คือ…นกยูงที่ถูกเลี้ยงมาในบ้านของฮั่วเจ้ายวน คนเขาเคยเห็นอะไรมานักต่อนัก จะรู้จักขับขานโคลงกลอนหรือบทกวีสักนิดก็เป็นเรื่องธรรมดาเช่นกัน“เจ้ามีความสามารถอะไร” ซ่งอิงเอ่ยถาม
นกยูงเจ้าสำราญนิ่งอึ้งไป จากนั้นก็เล่นหูเล่นตาใส่นาง “เถ้าแก่เหนียง ข้าหน้าตาดีขอรับ”
ซ่งอิงถอนหายใจ
นี่น่าจะเป็นปีศาจตัวหนึ่งที่ให้กินดื่มสูญเปล่าแล้วแน่ๆ
“เดี๋ยวนะขอรับ…” จิ่งเช่ว์รีบส่งเสียงขึ้น จากนั้นครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างซื่อตรง “ข้า…เนื้อข้าขจัดพิษงูได้ เลือดขจัดพิษแมลงได้ รูปลักษณ์…ออกจะมีศักยภาพของการชวนให้ผู้อื่นลุ่มหลง นอกจากนั้น…สำหรับที่นาแห่งนี้ ข้าช่วยป้องกันปลวกได้…”
เมื่อเขาบอกกล่าวเช่นนี้ ซ่งอิงก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ
ใช่แล้ว นี่ค่อยสมกับเป็นปีศาจอย่างดีที่ฉลาดเฉลียว
มัวพูดพร่ำเพ้อเหล่านั้นไปทำไมกัน ต้องทำงานได้จริงต่างหากเล่าจึงจะดี
“เยี่ยม หลังจากนี้ให้เงินค่าแรงเจ้าเดือนละสิบตำลึงเงิน รับผิดชอบกำจัดปลวกตามบ้านเรือน หากมีความจำเป็นต้องให้เจ้าขจัดพิษ ค่อยคิดเงินให้ต่างหาก” ซ่งอิงกล่าว
ครั้นนางเอ่ยพูดเช่นนี้ จิ่งเช่ว์ก็พยักหน้าตอบรับและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ต่อจากนั้น ป้าเพียงพอนเหลืองเดินขึ้นมาเบื้องหน้า “ข้านามว่าหวงเมี่ยน ได้ยินเสียงแม้เป็นระยะไกลๆ ปล่อยกลิ่นเหม็นเพื่อปกป้องนายจ้างได้ จับหนูจับแมลงล้วนไม่ใช่ปัญหา แม้จะกระหายเลือดอยู่บ้าง แต่ตอนนี้บรรลุแล้ว ข้าจะควบคุมปากของตัวเองให้ดีๆ อย่างแน่นอน จะไม่สร้างความวุ่นวายให้เถ้าแก่เหนียงเด็ดขาด! จริงสิ เถ้าแก่เหนียง ข้าเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้รวดเร็วเช่นกัน ช่วยเถ้าแก่เหนียงทำงานต่างๆ ได้ ท่านแค่สั่งการมาเป็นพอเจ้าค่ะ!”
นางมองออกว่าการติดตามเถ้าแก่เหนียงจะช่วยให้มีชีวิตที่สุขสบายได้
อีกทั้ง เมื่อวานแสงประกายสีทองบนตัวเถ้าแก่เหนียง มองดูแล้วไม่เพียงแค่เก่งกาจจนชวนให้ตกใจกลัว นางนั่งเปลี่ยนร่างอยู่ข้างๆ รู้สึกเพียงวิญญาณแทบจะหลุดลอยออกไปแล้ว!
“ดี” ซ่งอิงค่อนข้างพึงพอใจในตัวเพียงพอนเหลืองจริงๆ แม้ว่าสหายตนนี้หน้าตาค่อนข้างเจ้าเล่ห์ แต่มีความขยันขันแข็งมากจริงๆ และมีความเข้าใจในแง่ทัศคติและอารมณ์ได้จากการมองสีหน้าค่าตา จะช่วยงานได้ดีเป็นแน่
ต่อจากนั้น ปีศาจกระต่าย ปีศาจงูตัวน้อย ปีศาจกบเขียว ตลอดจนไก่ป่า หมูป่า รวมไปถึงลูกหมาป่าก็พากันมาแนะนำตัว
เทียบกับสามสี่ตัวก่อนหน้านี้ พวกเขาด้อยกว่าหน่อย แต่อย่างไรเสียก็บรรลุแล้ว และยังพอเรียนรู้ได้
ปีศาจหมูป่าร่างกำยำที่สุด แล้วยังเป็นหนุ่มใหญ่อีกด้วย มันตั้งชื่อให้ตัวเองว่าจูต้าจ้วง ลูกหมาป่าตั้งชื่อว่าอวี้หลาง ซ่งอิงให้เขาและลูกหมาป่ารับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของหมู่บ้าน ทั้งสองคนนี้น่าจะรับมือกับสัตว์ป่าดุร้ายจำนวนมากในขุนเขาได้
ส่วนปีศาจกระต่ายน้อยและไก่ป่าที่ไม่มีความสามารถด้านการทำให้บาดเจ็บ หรือถึงขั้นปลิดชีพอะไรทำนองนี้เลย ซ่งอิงให้พวกนางรับผิดชอบงานบ้านงานเรือน
ปีศาจไก่ป่าเรียนรู้กับต้าหวงได้ ส่วนกระต่ายน้อย จะอย่างไรความสามารถอย่างการรดน้ำดอกไม้ พรรณไม้ต่างๆ ก็ยังพอมีอยู่บ้าง
ตอนที่ 606 ของขวัญ
เมื่อก่อนรู้สึกว่ามีปีศาจน้อย ซ่งอิงคิดไม่ถึงเช่นกันว่าเพียงชั่วเวลาข้ามคืน จู่ๆ ก็สลัดคราบกันหมดแล้ว
ปีศาจเยอะ คนช่วยทำงานก็เยอะขึ้นแล้ว
คนในหมู่บ้านรู้สึกประหลาดใจเช่นกัน นับแต่ซ่งอิงมากับกำดูแลในฐานะเจ้าของคนใหม่ของหมู่บ้านแห่งนี้ ก็ยังคงพบเห็นสัตว์ป่าดุร้ายจำนวนไม่น้อย แต่ที่มีชีวิตเดินรอดออกไปกลับไม่มีให้เห็น ขุนเขาลูกโตที่ทำให้พวกเขาเกรงกลัวในอดีตจู่ ๆ ก็เปลี่ยนไปเป็นไม่มีอันตรายใดๆ ทั้งสิ้น!
ไม่เพียงเท่านี้ ในหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีคนที่ดูไม่เหมือนธรรมดาทั่วไปเพิ่มขึ้นมาไม่น้อย
ตัวอย่างเช่นคุณชายจิ่งเช่ว์ผู้นั้น รูปลักษณ์หล่อเหลาดุจเซียนสวรรค์ แม้ว่าสวมอาภรณ์สีสันสดใสไปสักหน่อย แต่ต้องขอกล่าวว่ามองเขาพริบตาเดียวก็รู้สึกว่าความเหน็ดเหนื่อยตลอดทั้งวันล้วนหายเป็นปลิดทิ้ง และทำงานได้มากขึ้นไม่น้อยเชียวละ!
นอกจากนั้น เด็กน้อยที่นามว่าอวี้หลาง เขาเพิ่งรูปลักษณ์เหมือนอายุสิบขวบเห็นจะได้ แต่กลับมีความห้าวหาญกว่าใครๆ ครั้นดวงตาคู่คมเฉี่ยวนั่นจับจ้องผู้ใดเป็นต้องรู้สึกเย็นเยียบไปทั้งตัว
ปีศาจเหล่านี้ที่อยู่กับซ่งอิงล้วนถูกซ่งอิงทำสัญลักษณ์เอาไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ นางกำชับพวกเขาไว้แล้วเช่นกันว่าห้ามไม่ให้ทำร้ายผู้คน หากมีเรื่องอย่างการจงใจทำร้ายคน นางจะฆ่าให้ตายทันที ไม่ให้อภัยโดยง่ายเด็ดขาด
สำหรับคำพูดของซ่งอิง พวกเขาปีศาจเหล่านี้ล้วนพร้อมใจกันน้อมรับคำสั่ง แม้ว่าพวกเขาไม่ชอบมนุษย์ ทว่ามองเห็นแต่ละคนในหมู่บ้านแห่งนี้ถือว่าเป็นคนซื่อตรง พวกเขาจึงไม่กล้าแม้แต่จะชักสีหน้าใส่เลยด้วยซ้ำ
ซ่งอิงรู้ว่าปีศาจที่นางพอจะเลี้ยงได้ไม่ใช่แค่พวกเขาเหล่านี้เท่านั้นเป็นแน่
ภายภาคหน้าจะต้องมีมากขึ้นเรื่อยๆ
ณ ตอนนี้ ผลผลิตของหมู่บ้านไร่สวนแห่งนี้เพียงพอแล้วสำหรับให้ปีศาจเหล่านี้ใช้กินดื่ม แต่ก็ยังคงจำเป็นต้องเตรียมการล่วงหน้าไว้ด้วย
หาเงินให้ได้มากๆ แล้วซื้อหมู่บ้านไร่สวนเอาไว้เยอะๆ
นอกจากนั้น การเปิดร้านค้าอีกสี่ห้าแห่งก็เป็นเรื่องที่ต้องเร่งลงมือด้วยเช่นกัน
สามเดือนต่อมา ซ่งสวินมุ่งหน้าไปเมืองยงเพื่อเข้าร่วมการสอบระดับสถาบัน หากสอบได้ก็จะถือว่าเป็นเกียรติคุณซิ่วฉาย เช่นนี้จึงจะมีคุณสมบัติของการสอบคัดเลือกขุนนางโดยแท้จริง
ช่วงเวลาสามเดือนนี้ ซ่งอิงไม่ต้องคอยอยู่แต่ในหมู่บ้านตลอดแล้วเช่นกัน ทิ้งน้ำผ่านจิตที่มีปริมาณมากพอเอาไว้แล้วไปอยู่ที่หมู่บ้านซิ่งฮวา คอยสั่งสอนเด็กๆ พลางบำเพ็ญตนไปด้วย
นางพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว
พื้นที่ในช่องว่างระหว่างมิติเวลานี้ก็ไม่เพียงแค่หนึ่งพันหมู่แล้ว มองยาวออกไปไกล คาดว่ามีพื้นที่เกินกว่าหนึ่งพันหมู่แล้ว!
สำหรับที่ดินเหล่านี้ ซ่งอิงไม่ได้ลังเลใจ นางเลือกปลูกสิ่งต่างๆ เอาไว้ ครั้งนี้…นอกจากข้าวสารธัญพืช ก็ยังมีเมล็ดพืชพันธุ์หนึ่งถุงที่ฮั่วเจ้ายวนให้ไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นนางยังลองเคลื่อนย้ายพืชสมุนไพรตามเขาเข้าไปปลูกเอาไว้ด้วย
ระยะนี้มีปีศาจบรรลุเพิ่มขึ้นอีกหลายตน แต่นับไปนับมา ปีศาจจากพืชยังคงไม่มีปรากฏให้เห็นเช่นเดิม
จะเห็นได้ว่า ต่อให้พลังหลิงชี่ที่อยู่ภายนอกมากมายสักเท่าไรก็ยังไม่เพียงพอสำหรับพืชอยู่ดี
นอกจากนี้ ซ่งอิงลองนำลูกเจี๊ยบสองตัวที่ไม่มีสติปัญญาเฉียบแหลมปล่อยเข้าไปเลี้ยงในช่องว่างระหว่างมิติสามสี่วัน
ลูกเจี๊ยบทั้งสองตัวอยู่รอดปลอดภัยดี ก็หมายความว่าปล่อยสิ่งมีชีวิตเข้าไปได้ไม่มีปัญหา
อีกทั้งภายภาคหน้า พื้นที่จะกว้างใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ สิ่งมีชีวิตก็จะอยู่ในนั้นได้อย่างสบายกายสบายใจเช่นกัน
และช่วงนี้ฮั่วหรงก็ยังคงส่งของขวัญมาให้อีกสามครั้ง ทว่าไม่ใช่สิ่งของที่แปลกประหลาดเกินไปอีก หลักๆ เป็นพวกของแห้งและของทะเล คาดว่าคงมองออกว่านางชอบกินของจำพวกนี้
เพียงแต่ว่าที่ควรค่าก็การชมเชยคือ ฮั่วหรงให้คนเอาหอยทะเลมาให้หนึ่งถัง แต่นึกไม่ถึงเลยว่าในถังยังมีตัวหนึ่งที่ถูกนางเลี้ยงจนเปลี่ยนร่างเป็นคนอีกด้วย!
หอยที่ว่านี้ยอดเยี่ยมเชียวละ มันคายไข่มุกได้…
ซ่งอิงได้รับแรงบันดาลใจอันยิ่งใหญ่จากปีศาจหอยตัวนี้
แต่ละด้านของโลกในยุคสมัยนี้ล้วนพัฒนาไปได้ไม่เลวทั้งสิ้น โดยเฉพาะด้านเกษตรกรรม ไม่ว่ามันฝรั่งหรือมันเทศล้วนมีครบครันมานานแล้ว ฉะนั้นการที่นางคิดจะหาผลประโยชน์จากของเหล่านี้จึงเป็นไปไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม นางยังคงมีโอกาสด้านไข่มุก
ไข่มุกของยุคสมัยต้าติ้งส่วนใหญ่ล้วนอาศัยคนลงไปงมหาในทะเล แต่งานประเภทนี้อันตรายเป็นพิเศษ ดังนั้นย่อมมีคนที่ทำงานเช่นนี้ไม่มากแต่อย่างใด
ถึงขั้นว่าคนหาไข่มุกส่วนใหญ่ล้วนเป็นข้าทาสทั้งสิ้น หนึ่งชะตาชีวิตน้อยๆ ผูกติดไว้กับเงื้อมมือผู้ทำการค้า วิธีการที่ว่านี้คือการเอาชีวิตไปเดิมพัน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไข่มุกจึงเป็นของที่ค่อนข้างหายากเช่นกัน
เพียงแต่ว่า…
นางเลี้ยงไข่มุกน้ำจืดได้นี่!
[1] คำว่าเฟิ่ง ในชื่อเฟยเฟิ่ง แปลว่าหงส์