ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 607 โรงงานใหญ่ ตอนที่ 608 กลืนท่านเข้าไปภายในคำเดียว
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 607 โรงงานใหญ่ ตอนที่ 608 กลืนท่านเข้าไปภายในคำเดียว
ตอนที่ 607 โรงงานใหญ่
นางยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการเลี้ยงไข่มุกน้ำจืดนี้ แต่นางมีเวลา จึงศึกษาวิจัยเพิ่มเติมได้
อย่างเช่นโดยทั่วไปแล้ว ไข่มุกน้ำจืดล้วนเป็นหอยแมลงภู่ทั้งสิ้น ประเด็นนี้นางรู้อยู่แล้ว ภพชาติก่อนนางเคยไปแหล่งเพาะพันธุ์หอยแมลงภู่ทะเลเพื่อแงะไข่มุกกับเพื่อนๆ ตอนนั้นจึงได้สอบถามถึงกระบวนการเลี้ยงเอาไว้เล็กๆ น้อยๆ ด้วยเช่นกัน
ตอนนั้นนางได้ยินว่าการเลี้ยงหอยแมลงภู่ทะเลยังจำเป็นต้องให้สารอาหารบำรุงอย่างอุดมสมบูรณ์ไม่ต่างกับการทำนาข้าว ด้วยความรู้สึกตกตะลึงปนประหลาดใจ นางจึงจดจำได้ค่อนข้างฝังใจ
เพียงแต่ว่าการเพาะเลี้ยงหอยมุกล้วนมีระยะเวลา โดยทั่วไปต้องประมาณสองสามปี อยากจะรวยระเบิดระเบ้อภายในระยะเวลาสั้นๆ คงเป็นไปไม่ได้
ณ ตอนนี้ยังจำเป็นต้องพึ่งพาสบู่หอมของนางไปก่อน
วิธีการหาเงินยังมีอีกไม่น้อย อย่างเช่นการรับซื้อขนแกะมาทำอาภรณ์ ตั้งแต่ถุงมือไปถึงกางเกงขนสัตว์ แต่ละสิ่งอย่างล้วนขายได้โดยไม่ต้องกังวล อย่างไรเสียฤดูหนาวในยุคสมัยนี้ก็หนาวเย็นอย่างยิ่ง อาภรณ์ที่ให้ความอบอุ่นต้องขายดีเป็นแน่
ทว่าแถบเมืองยงล้วนเป็นแกะภูเขาที่ให้ขนสั้น ขนแกะชนิดยาวประเภทนั้นไม่มีขายบริเวณใกล้เคียง หากอยากจะซื้อ จำเป็นต้องติดต่อพ่อค้าที่ขนส่งสินค้าเหล่านี้
พ่อค้าเหล่านี้ล้วนหัวหมอกันทั้งนั้น ใช่ว่าจะตักตวงกันได้ง่ายดายขนาดนั้นเสียที่ไหนเล่า
ถ้าหากนางเอ่ยปากว่าต้องการขนแกะ ไม่นานมากนัก ขนแกะพวกนี้ย่อมถูกคนอื่นกักตุนเอาไว้และขบคิดประโยชน์การใช้งานของมัน
นอกจากนั้น ไม่ใช่ว่าไม่เคยมีคนใช้ประโยชน์จากขนแกะมาก่อน หนังสัตว์ป่าก็เป็นของดีทั้งนั้น แล้วนับประสาอะไรกับขนแกะ
เพียงแต่คนเหล่านั้นไม่ได้นำขนแกะมาถักทอเสื้อผ้า เพียงแค่เอามาใช้เย็บทำเป็นพรมที่ค่อนข้างหนา หรือไม่ก็เอามาใช้เชื่อมกับหนังสัตว์
ซ่งอิงคิดไว้แล้วว่าหลังจากนางเก็บเงินได้มากหน่อยและมีกลุ่มพ่อค้าเป็นของตัวเอง ค่อยพิจารณาเรื่องประเภทรับซื้อขนสัตว์อีกครั้ง
นอกจากนี้ แม้ว่านางมีปีศาจช่วยงาน แต่ปีศาจเหล่านี้ต่างก็เพิ่งเปลี่ยนร่างกันทั้งนั้น ลำพังตัวพวกมันเองไปไหนมาไหนยังพอไหว แต่จะให้หอบสินค้าเร่ไปทั่วเช่นนั้นเป็นไปไม่ได้
ซ่งอิงวางเป้าหมายไว้ชัดเจน ยามที่ซ่งสวินสอบ นางก็ลงมือทำงานสารพัดอย่างอยู่ที่เมืองยง
กิจการร้านเซียนเส้อดำเนินไปอย่างดีเยี่ยม แค่ทำต่อไปเรื่อยๆ ก็พอ สิ่งที่ซ่งอิงต้องทำไม่ใช่การเปิดร้านค้า หากแต่เป็นโรงผลิตขนาดใหญ่สักแห่ง!
เมื่อมีโรงงานผลิตที่ใหญ่โตมโหฬารสักแห่ง นางอยากเปิดร้านค้าที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น หากร้านสาขาไม่มากพอ ในส่วนพื้นที่ที่ดูแลไม่ถึงก็นำสินค้ามอบให้พ่อค้าคนกลาง ขายไปในราคาขายส่งเช่นที่ผ่านมาก็จะทำเงินได้ไม่น้อยแล้ว!
ซ่งอิงขยันขันแข็งขึ้นมากะทันหัน แม้แต่ซ่งหม่านซานยังตระหนกตกใจไม่เบา แต่นอนแน่ว่าเขาเองก็สนับสนุนนางเช่นกัน
เขาโยกย้ายเงินทั้งหมดในบัญชีที่ใช้ได้มาให้นาง
ที่ตั้งของ ‘โรงงาน’ นางเลือกชานเมืองฝั่งตะวันตกที่ด้านนอกเมืองยง พื้นที่นี้มีหมู่บ้านสวนไร้ประโยชน์ อยู่แห่งหนึ่ง
ที่กล่าวว่าเป็นหมู่บ้านสวนไร้ประโยชน์ก็เพราะมีสาเหตุเช่นกัน เนื่องด้วยพื้นที่นี้มีเพียงที่นาดอน ไม่มีที่นาอุดมสมบูรณ์ ต่อมาถูกขุนนางละโมบโลภมากผู้หนึ่งซื้อแล้วสร้างเรือนพร้อมลานบ้านกว้างขวางใหญ่โตเอาไว้ หลังจากสร้างลานกว้างใหญ่โตเสร็จสิ้นก็ปูอิฐไว้บนพื้น นอกจากนั้นยังเติมเศษหินเล็กๆ อัดแน่นตามพื้นถนนรอบๆ ไว้อีกด้วย
ที่นาจึงถูกทำเป็นสถานที่ที่หญ้าไม่อาจเติบโตขึ้นมาได้
ว่ากันว่ายามที่ขุนนางโลภผู้นั้นยังอยู่ หมู่บ้านสวนแห่งนี้ก็รุ่งโรจน์ถึงที่สุด แต่น่าเสียดายดันมาเจอใต้เท้าฮั่วเข้าเสียแล้ว
หลังคนผู้นั้นถูกตัดหัว หมู่บ้านสวนแห่งนี้ก็ได้รับอนุญาตให้ขายในนามของสาธารณะ
สิ่งของในที่นี้ล้วนถูกอนุญาตให้เก็บเข้าสู่ห้องคลังเก็บของ เพราะที่นาก็ถูกทำลายไปแล้ว เหลือเพียงสิ่งที่ไม่ต่างจากเปลือกหอยว่างเปล่า ดังนั้นจึงไม่มีคนต้องการ
แต่ซ่งอิงพึงพอใจน่ะสิ!
ดูเรือนที่นี่สิ มีตั้งหลายห้องเพียงนี้ ลานบ้านก็กว้างขวางใหญ่โตขนาดนี้ หน้าพื้นที่ราบเรียบเยี่ยงนี้ และกำแพงล้อมรอบที่สูงลิ่วถึงเพียงนี้ ก็คือสิ่งที่เตรียมไว้เพื่อนางเห็นๆ มิใช่หรือ!
สถานที่แห่งนี้เอามาใช้ทำโรงงาน เรือนในพื้นที่ก็เหมาะแก่การเป็นที่พัก ล้วนเป็นอะไรที่ดียิ่ง!
แม้ว่าเป็นชานเมือง แต่ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีอันตราย เพราะบริเวณใกล้ๆ นี้คือเส้นทางสายหลัก ปลอดภัยอย่างยิ่ง อีกอย่าง หาปีศาจสักสองตัวมาคอยเฝ้าดูก็เป็นอันใช้ได้ รับประกันว่าไร้ข้อผิดผลาดใดๆ ทั้งนั้น!
แน่นอนว่าหมู่บ้านสวนแห่งนี้ก็ไม่ใช่ราคาถูกๆ เช่นกัน
ไม่มีพื้นที่สำหรับปลูกข้าวได้เลยสักนิด แต่กลับเป็นเงินตั้งสี่พันตำลึงเงิน
หลังซื้อหมู่บ้านสวนแห่งนี้แล้ว ในมือซ่งอิงก็ว่างเปล่าไปในชั่วพริบตา เหลือเพียงสี่ห้าร้อยตำลึงเงินเท่านั้น แน่นอนว่านี่ยังไม่รวมกับค่าเลี้ยงดูที่ฮั่วหรงส่งมาให้!
ดีที่ร้านค้าสองแห่งนั้นของนางล้วนมีรายรับเข้าทุกวัน มิเช่นนั้นคงแบกรับการที่นางใช้เงินฟุ่มเฟือยขนาดนี้ไม่ไหว
ตอนที่ 608 กลืนท่านเข้าไปภายในคำเดียว
หมู่บ้านส่วนตัวแห่งนี้แทบไม่ต้องปรับปรุงอะไรมากก็ใช้งานได้เลย ซ่งอิงจึงเอาเงินที่เหลือไปใช้ซื้อวัตถุดิบทั้งหมด
ลานกว้างทั้งสี่ลานในเรือนหลังโตมีลักษณะทอดยาว ตัดแบ่งที่พักอาศัยออกเป็นสี่ส่วน พร้อมมีทางเดินเข้าออกที่ทะลุหากันได้แต่ละชั้น แต่ละลานถูกซ่งอิงกำหนดให้ใช้เป็นสถานที่ผลิตแตกต่างกันไป ตั้งแต่ลานทำดอกไม้แห้ง ไปจนถึงลานสำหรับนำวัตถุดิบผสมเป็นของเหลว ตลอดจนลานสำหรับเอาสบู่เข้าแม่พิมพ์แล้วพักให้เย็นตัว ทุกกระบวนการ ซ่งอิงจัดการวางแผนไว้เรียบร้อย แม้แต่เรื่องจัดหาคนงานก็เช่นกันกิจการร้านว่านหลิงที่อยู่ทางด้านอำเภอหลี่มั่นคงแล้ว ปีศาจเม่นและปีศาจอีกาที่คอยเรียนรู้จากงูดำต่างก็ถือว่าชำนาญการแล้ว เพียงแต่เฮยยายาอุปนิสัยค่อนข้างใจร้อน ไม่เหมาะแก่การกำกับดูแลร้านค้า ดังนั้นซ่งอิงตัดสินใจให้อวิ๋นหลิงเป็นผู้ดูแลร้านว่านหลิงชั่วคราว
ส่วนงูดำ เขาค่อนข้างมากความสามารถ จึงรับผิดชอบดูแลการผลิตทั้งหมดทางด้านโรงงานได้
แน่นอนว่ายังจำเป็นต้องหาลูกมือมาช่วยเขาอีกด้วย
ปีศาจห่านขาว ปีศาจหอยแมลงภู่ ตลอดจนต้าหวง เป็นผู้ที่ค่อนข้างมีความสามารถโดดเด่นท่ามกลางเหล่าปีศาจทั้งหลาย สองคนแรกเป็นลูกมือช่วยทำงาน ส่วนต้าหวงเป็นผู้กำกับควบคุมปีศาจ
ปีศาจข้างต้นทั้งสี่ตนถือว่าอยู่ในระดับจัดการและควบคุม
นอกจากระดับการจัดการ ยังต้องมีหัวหน้ากลุ่มย่อยอีกด้วย
เหล่าปีศาจกบเขียวเด็กรุ่นหลังของชิงเหลียน ตลอดจนปีศาจหนู รวมไปถึงปีศาจงูตัวน้อยสองสามตัวที่อยู่ในบ้าน แม้ว่าไม่ได้ฉลาดมากนัก แต่เรื่องทำงานไม่มีปัญหาแน่นอน
ณ ปัจจุบัน ยังถือว่าค่อนข้างขาดแคลนแรงงานปีศาจ จึงจำเป็นต้องหาคนธรรมดามาด้วยสักหน่อย เดิมทีซ่งอิงคิดอยู่ว่าจะซื้อข้าทาสมาจำนวนหนึ่ง แต่ ณ ตอนนี้เห็นจำนวนปีศาจที่เปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นางจึงรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นแล้ว ฉะนั้นจะจ้างคนมาช่วยงานไม่กี่คนก็ย่อมได้ รอให้ปีศาจในครอบครัวเปลี่ยนรูปลักษณ์แล้ว ก็รับมาทำงานได้ทันที นี่ช่างยอดเยี่ยมจริงๆ!
ซ่งหม่านซานเดิมทียังตั้งใจว่าจะลงสนามช่วยงานเต็มกำลัง เพียงแต่ในเวลาไม่กี่วัน ซ่งอิงก็บอกกล่าวว่าจัดสรรปันส่วนหน้าที่ให้คนงานเรียบร้อยแล้ว
เขาค่อนข้างงุนงงจนทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน
มิหนำซ้ำยังมามองดูทางด้านหมู่บ้านนี้ด้วยตัวเองอีกด้วย
คนงานเหล่านี้…เอ่อ เขามักจะรู้สึกว่ามีตรงไหนแปลกๆ
“หมู่บ้านสวนแห่งนี้จะว่าไปก็ไม่เลว เพียงแต่…คนงานพวกนี้เจ้าจะวางใจได้หรือ คนที่นามว่าจินกวงผู้นี้ ดูไม่ใช่คนดีอะไรนัก หรือไม่เอาแบบนี้ดีไหม ข้าจะไปเลือกพี่ๆ น้องๆ ในร้านค้าส่งมาให้เจ้าสักสามสี่คน” ซ่งหม่านซานพูดอย่างลับๆ ล่อๆ
ไม่เพียงไม่ใช่คนดี แต่ยังรูปลักษณ์เจ้าเล่ห์เป็นพิเศษอีกด้วย ดวงตาคู่นั้นมองดูค่อนข้างร้ายกาจ คนทั้งคนถึงกับรู้สึกสะพรึงกลัวไปหมด
ไม่เพียงแค่เขา ด้านหลังยังมีคนที่ดูท่าทางเหมือนพวกหัวขโมยอีกสามสี่คน คงไม่ทำเรื่องอย่างการลักเล็กขโมยของขึ้นมากระมัง
“เขาก็คือผู้ที่คอยจัดการดูแลร้านว่านหลิง ความสามารถเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าอาสี่แต่อย่างใด ท่านอย่าได้ดูถูกเขาเชียวเจ้าค่ะ อีกทั้ง…ท่านอย่าได้พูดถ้อยคำที่ว่าจินกวงนิสัยไม่ค่อยดีต่อหน้าเขานะเจ้าคะ มิเช่นนั้นระวังเขาจะกลืนท่านลงไปในคำเดียว” ซ่งอิงเย้ากึ่งเล่นกึ่งจริง
ซ่งหม่านซานกลอกตามองบน
“เจ้าหาคนเหล่านี้มาจากไหนหรือ เชื่อถือได้หรือ หากวิธีการทำของเจ้าถูกพวกเขาขโมยไป ภายภาคหน้าจะร้องไห้ก็ไม่มีที่ให้ไปร้องไห้!” ซ่งหม่านซานกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“วางใจได้เจ้าค่ะ พวกเขาไม่กล้าหรอก” ซ่งอิงยิ้มเล็กน้อย
“ล้วนเป็นประเภทสัญญาชั่วชีวิตหรือ” ซ่งหม่านซานตระหนกตกใจ “เช่นนั้นก็ใช้เงินไปกับทางด้านคนงานไม่น้อยเลยกระมัง ทว่าในเมื่อเจ้าซื้อคนมาแล้ว ไฉนไม่ซื้อที่ดูน่าเชื่อถือมาหน่อย เจ้ามองตรงนั้นสิ ยังมีเด็กที่อายุสิบห้าปีอยู่ด้วย อายุแค่นี้จะทำงานได้เรื่องหรือ”
เขากังวลใจจริงๆ ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อซ่งอิง แต่หากวิธีการทำหลุดออกไปแล้ว เขาและบรรดาพี่ๆ น้องๆ ก็ไม่มีเงินกันพอดีน่ะสิ!“ท่านอาสี่ ท่านก็อย่าได้สนใจเรื่องนี้มากนักเลย ทางด้านพี่ชายข้าเป็นอย่างไรบ้างหรือ สอบเสร็จแล้วกระมัง” ซ่งอิงกล่าว
“เจ้ายังรู้ด้วยหรือว่าซ่งสวินกำลังสอบขุนนาง ข้านึกว่าในใจเจ้ามีเพียงเงิน ไม่มีหลานสวินเสียอีก!” ซ่งหม่านซานหัวเราะเยาะ “หลานสวินทำให้ข้าเบาใจกว่าเจ้าเยอะ นั่นเป็นหลานชายคนโตของข้าเชียวนะ ย่อมต้องไม่เลวอยู่แล้ว!”
“ก่อนหน้านี้เดิมทีข้ายังอยากจะลอบสืบถามดูสักหน่อย ต่อมาจึงรู้ว่าการสอบในหมู่ผู้เล่าเรียนหนังสือมีกฎเกณฑ์มากมาย แล้วยังต้องเก็บตัวอยู่แต่ในนั้นหลายวัน ช่างลำบากยากเข็ญจริงๆ เดิมทียังคิดว่าพี่ชายเจ้าร่างผอมบางขนาดนั้นจะทนไม่ไหว ใครจะรู้ว่าเขาเดินออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ คนที่ดูแข็งแรงกำยำกว่าเขามากยังถูกคนหามออกมาเลย! เขานี่สมกับเป็นลูกชายคนโตจริงๆ”