ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 613 รวยระเบิดในข้ามคืน ตอนที่ 614 เหยื่อ
ตอนที่ 613 รวยระเบิดในข้ามคืน / ตอนที่ 614 เหยื่อ
ตอนที่ 613 รวยระเบิดในข้ามคืน
หลังนึกถึงหม่าซื่อขึ้นมาได้ ซ่งอิงก็รู้สึกไม่เหมาะสมเท่าไรนัก
“สาเหตุสำคัญที่ข้าอยากให้เด็กๆ ไปตัวอำเภอ ก็เพราะอยากให้พวกเขาอยู่ห่างจากท่านย่าเข้าไว้หน่อย มิใช่อะไรอื่น ปัจจุบันข้าต้องไปดูทางด้านหมู่บ้านสวนอยู่เรื่อย แล้วยังต้องมาพักอยู่ทางด้านเมืองยงนี้อีก เดือนหนึ่งอยู่ในหมู่บ้านเราได้แค่ไม่กี่วัน เมื่อก่อนยังคิดไว้ดิบดีว่าจะสอนพวกซานยาให้เต็มที่ แต่ในความเป็นจริงไม่มีเวลาเลย…”
“ระยะนี้ข้าไม่อยู่บ้าน พวกเขาก็ทำได้เพียงกลับไปอาศัยอยู่บ้านซ่ง สิ่งที่ท่านย่าปฏิบัติต่อหลานๆ นั้นไม่ดีต่อการเติบใหญ่ของพวกเขาเจ้าค่ะ” ซ่งอิงพูดตรงไปตรงมา
บางครั้งนางกลับไปอย่างกะทันหัน ล้วนมุ่งหน้าไปบ้านซ่งทันที
มีสามครั้งที่มองเห็นซานยากำลังซักเสื้อผ้า แต่ที่ซักเป็นของหญิงชรา
ตอนนั้นนางถามซานยา ซานยากลับเอ่ยว่าหญิงชราคิดว่าเด็กสาวคนหนึ่งวันๆ เอาแต่จับเข็มจับด้าย ไม่เห็นช่วยงานในเรือนบ้างเลย จึงเกิดความไม่พอใจและว่ากล่าวนางสารพัดอย่าง
เจียวซื่องานยุ่งเกินไปจึงไม่มีเวลาสนใจซานยาด้วยซ้ำ นี่จึงกลายเป็นการเปิดโอกาสให้หญิงชรา แล้วยังมีน้องต๋าและน้องอู่ตลอดจนน้องคังที่วัยเพียงสี่ขวบหญิงชราชอบหลานคัง บางครั้งก็พูดกับหลานคังไปเรื่อย กับน้องต๋ายังค่อยดีหน่อย นางพอมีความรักความเอ็นดูอยู่บ้าง แต่กับหลานอู่นี่อย่าให้พูดเลย นางปฏิบัติด้วยแย่ขนาดเห็นได้ชัดเจน ง่ายต่อการทำให้เกิดความเกลียดชังระหว่างพี่น้องขึ้นมาได้
“ท่านแม่ข้าแย่ขนาดนี้เชียวหรือ” ซ่งหม่านซานครุ่นคิด
“อาสี่เป็นคนฉลาดมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นตอนแรกแม้ทำตัวเกเรไปวันๆ แต่ถึงอย่างไรก็ยังเดินในทางที่ถูกต้อง แต่ท่านลองคิดอย่างละเอียดสิเจ้าคะ หากท่านย่าเลี้ยงดูลูกชายท่านเช่นที่ทำกับท่าน ท้ายที่สุดน้องคังจะเติบใหญ่เป็นคนเช่นไร” ซ่งอิงเอ่ยถาม
แล้วยังมีซานยา นางน่าเห็นใจมากที่สุด สมควรส่งไปตัวอำเภอแล้วจ้างครูผู้หญิงสักคนมาแอบสอนวิชาความรู้บ้างเช่นกัน
ซ่งหม่านซานขมวดคิ้วนิ่วสีหน้าครุ่นคิด
ท่านแม่เขาน่ะ…
ตอนเด็กๆ เขาอยากกินอะไร มารดาเขาก็จะสอนให้เขาไปแย่ง บอกว่าเขายังเด็ก ไม่เป็นไรหรอก
ตอนที่เพิ่งเรียนรู้การเล่นพนันก็เช่นเดียวกัน หญิงชรารู้สึกว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร แต่ในความเป็นจริง มีเพียงตัวเขาเองที่รู้ ตอนนั้นเขามองเห็นนักพนันคนหนึ่งถูกคนตัดมือตัดเท้าก็เกิดความกลัวขึ้นมาในใจ ดังนั้นจึงได้ควบคุมความต้องการของตัวเอง เล่นพนันแต่น้อยๆ เท่านั้น
ในชั่วชีวิตของมารดาเขา นางไม่เคยทำอะไรเลย แต่ดูเหมือนมีผลกระทบต่อเขาอย่างใหญ่หลวง
“ยังมีอีกถ้อยคำที่ข้าลืมพูดไปเจ้าค่ะ” ซ่งอิงพลันคลี่ยิ้มที่ร้าย “ตอนแรกที่ท่านปู่หมดสติไปเพราะเดือดดาลซ่งเสี่ยน สมาชิกในบ้านทั้งหมดล้วนตั้งใจจะเอาเงินมาซื้อยาให้กิน มีเพียงท่านย่าคนเดียวที่คัดค้าน ดูท่านางอยากจะให้ท่านปู่ตายไปเร็วๆ หน่อย มีเพียงท่านปู่เสียชีวิตไปแล้วเท่านั้นนางจึงจะบงการครอบครัวนี้ได้ มิใช่เช่นทุกวันนี้ ไม่ว่าใครก็ไม่เห็นนางอยู่ในสายตา”
“เอาตามที่เจ้าว่า!” ซ่งหม่านซานพยักหน้าทันที “เจ้าพูดถูก จำเป็นต้องให้ลูกชายข้าอยู่ห่างๆ จากนางหน่อย!”
ตลกสิ้นดี เขาเองก็มีลูกชายอยู่แค่คนเดียวเสียด้วย!
ตอนนี้เขางานยุ่งเหลือเกิน เขาจะรับภรรยาพร้อมลูกมาอยู่ข้างกายก็ไม่สะดวกเช่นกัน เช่นนั้นไม่สู้ให้อยู่ในตัวอำเภอแล้วให้ผู้เฒ่าซ่งช่วยดูแลจะดีกว่า
“ท่านอาสี่จะไม่เสียใจภายหลังกับการตัดสินใจนี้แน่นอนเจ้าค่ะ” ซ่งอิงมั่นใจในตัวเองอย่างยิ่ง
เมื่อซ่งอิงตัดสินใจแล้วก็ไปลงมือทำทันที
นางส่งจดหมายไปให้อวิ๋นหลิง ให้เขาซื้อบ้านและดูว่ามีเรือนหลังโตที่เหมาะสมบ้างหรือไม่ จะให้ขนาดเล็กเกินไปมิได้
อย่างไรเสียเหล่าลูกสะใภ้ของตระกูลซ่งก็ต้องแวะเวียนไปพักอาศัยบ้างเป็นครั้งคราว ฉะนั้นตัวเรือนของแต่ละหลังในอาณาเขตบ้านก็ต้องแยกกันให้ชัดเจน จะให้กระจุกอยู่ด้วยกันไม่ได้
แน่นอนว่าต้องใช้จ่ายเงินไม่น้อย แต่ซ่งอิงก็ไม่ถึงขั้นสละเงินก้อนนี้ไม่ได้ ถึงอย่างไรเรือนหลังโตพื้นที่กว้างขวางแห่งนี้ก็จดอยู่ภายใต้ชื่อของนาง บ้านนี้ก็เท่ากับการลงทุนประเภทหนึ่ง ไม่มีทางขาดทุนไปได้
ส่วนเงินสำหรับโรงงานสบู่หอมยังไม่ค่อยพอสักเท่าไร
เมื่อเดินมาถึงทางตัน ซ่งอิงจึงขายไข่มุกเสียเลย
ในเมื่อต้องการขาย ก็ขายเม็ดใหญ่เม็ดหนึ่ง จากนั้นนางก็มีเงินอู้ฟู่อยู่ในมือ อยากทำอะไรล้วนได้ทั้งนั้น
ไข่มุกขนาดเท่าเมล็ดลำไย รูปทรงกลมๆ ผิวเกลี้ยง ขายได้ราคาดีสุดๆ นางขายไปในราคาสามหมื่นตำลึงเงิน…ร่ำรวยในชั่วข้ามคืนกันเลยทีเดียว ซ่งอิงถึงขั้นอยากกลับไปกอดปีศาจหอยแมลงภู่แล้วหอมสักสองฟอด
ตอนที่ 614 เหยื่อ
เมื่อมีเงินแล้ว ซ่งอิงก็ทำงานสบายขึ้นมาก หลังจ้างคนงานได้มากพอ ไม่นานนักโรงงานสบู่หอมก็ดำเนินการผลิตขึ้นมา
ในช่วงนี้เอง ซ่งอิงจึงได้มีเวลาว่างไปยังหมู่บ้านสวนที่ตนซื้อไว้เพื่อคัดสรรคนให้ซ่งสวิน
ตอนนี้ในหมู่บ้านแห่งนี้ สักระยะหนึ่งจะมีสัตว์ที่เกิดสติปัญญาอันฉลาดเฉียบแหลมขึ้นมาสามสี่ตัว อีกทั้งพลังหลิงชี่ที่อยู่ในหมู่บ้านนับวันยิ่งมากพอต่อความต้องการ สัตว์ป่าบางส่วนที่มีสติปัญญาเป็นทุนเดิมก็จะตามกลิ่นมา
ยามที่ซ่งอิงดูดซับแสงจันทร์ทรงกลดครั้งแรก อาจเพราะปลดปล่อยคุณประโยชน์ทางด้านอาหารออกมาอย่างอุดมสมบูรณ์เกินไป จึงเห็นประสิทธิผลได้ชัดเจน ส่งผลให้สัตว์ในบ้านทั้งหมดเปลี่ยนรูปลักษณ์ แต่ต่อมาก็ไม่ได้มีประสิทธิผลที่แรงกล้าขนาดนั้นแล้ว สัตว์ที่เกิดสติปัญญาเหล่านั้นจะเปลี่ยนร่างได้หรือไม่จึงต้องอาศัยความสามารถของตัวเองเป็นหลัก
หากพวกมันรับรู้ได้แตกต่างไปจากฝูงในยามที่ซ่งอิงบำเพ็ญเพียร เช่นนั้นจึงจะมีความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนร่าง
ซ่งอิงให้คุณประโยชน์แก่สิ่งมีชีวิตนานาชนิดเป็นเวลาสองเดือนต่อเนื่อง จึงได้เกิดปีศาจเพศชายเพิ่มขึ้นเจ็ดตน
ตัดสองตนที่มองดูอายุมากหน่อย และอีกสองตนที่อายุค่อนข้างน้อยไปหน่อย ทำได้เพียงเลือกปีศาจสามตนที่เหลือนั่นมาเป็นเด็กรับใช้ระหว่างการเล่าเรียน
ตัวหนึ่งเป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านเลี้ยงเอาไว้ ถูกนางซื้อเอามา แล้วยังมีกวางลายจุดตัวหนึ่งที่เปลี่ยนร่าง รูปลักษณ์น่ารักเป็นพิเศษ ดวงตาคู่นั้นสดใสมีชีวิตชีวา เพียงแต่ก็เพราะน่ารักเกินไปหน่อย ง่ายต่อการชวนให้คนฟุ้งซ่าน ปีศาจที่เหลือท้ายสุดก็คือนกอินทรีที่มากจากถิ่นไกล
ไม่ต้องสงสัย ซ่งอิงเลือกปีศาจสุนัขและปีศาจนกอินทรีนั่นเอง
ตัวหนึ่งซื่อสัตย์ ตัวหนึ่งมากไหวพริบและมากความสามารถ
อีกทั้งปีศาจสองตนนี้มองดูไร้พิษภัย แต่ทักษะการสังหารไม่ด้อยเลย หากเจอภัยอันตรายก็ช่วยชีวิตได้ในช่วงเวลาคับขัน
อย่างไรเสียก็เป็นพี่ชายของครอบครัวตน ย่อมต้องใจดีด้วยอยู่แล้ว
ซ่งอิงพาปีศาจสองตนนี้ไปส่งให้ซ่งสวินด้วยตัวเอง ซ่งสวินค่อนข้างประหลาดใจเล็กน้อย “ข้าต้องการคนช่วยทำธุระข้างกายแค่คนเดียวก็พอแล้ว”
ไม่นึกว่าจะเอามาให้ถึงสองคน
อีกทั้ง…สองคนนี้ที่น้องสาวเขาเลือกมามองดูมีความพิเศษเล็กน้อย“ข้าตกลงกับพวกเขาไว้เรียบร้อยแล้ว จะเปลี่ยนแปลงกะทันหันคงไม่ดีหรอกเจ้าค่ะ” ซ่งอิงทำหน้าตายากจะปฏิเสธ แล้วเริ่มแนะนำ “เขานามว่าวังซี ทำงานได้อย่างแข็งขันจริงจังและพร้อมน้อมรับคำสั่งอย่างเคร่งครัด ส่วนข้างๆ ผู้นี้นามว่าอิงต้าซาน หากท่านมีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อันใดก็มอบหมายให้เขาจัดการได้ นอกจากนั้นเขาฝีเท้าว่องไวกว่าคนทั่วไป หากท่านอยากจะส่งจดหมาย…ให้เขาช่วยเหลือได้เจ้าค่ะ”
ซ่งสวินมองข้ารับใช้ทั้งสองคนนี้ด้วยสายตาประหลาด
พูดตามจริง สองท่านนี้…
ที่นามว่าวังซีก็ยังดีหน่อย มองดูรูปลักษณ์หน้าตาซื่อตรง ค่อนข้างเหมือนเด็กรับใช้ของหมู่ผู้เล่าเรียนหนังสือ แต่อิงต้าซาน…เหมือนผู้เป็นนายเสียยิ่งกว่าเขา โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น คมเฉี่ยวอย่างยิ่ง เหมือนกำลังมองเหยื่อก็ไม่ปาน
เพียงแต่ว่าอย่างไรเสียก็เป็นคนที่ซ่งอิงหาให้ เขาจึงพอมีความเชื่อถือขั้นพื้นฐานอยู่บ้าง ดังนั้นจึงพยักหน้าตกลงโดยไม่บ่ายเบี่ยง “ตกลง เช่นนั้นหลังจากนี้ก็รบกวนพวกเขาด้วย ส่วนเงินค่าแรงต้องให้เท่าไรจึงจะเหมาะสมหรือ”
“ข้าเจรจาตกลงกับพวกเขาไว้เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ ท่านไม่ต้องเดือดเนื้อร้อนใจเรื่องนี้ แต่หากท่านพอใจในตัวพวกเขา อยากจะให้ค่าวิ่งทำธุระบ้างเล็กน้อยก็ได้เช่นกันเจ้าค่ะ” ซ่งอิงกล่าว
ปัจจุบันปีศาจข้างกายนางเหล่านี้ ให้ความสำคัญกับผลผลิตในหมู่บ้านแห่งนั้นยิ่งกว่าเงินตรา
มีเพียงพวกเขาได้กินของที่เจริญเติบโตผ่านการรดน้ำผ่านจิตเท่านั้น สมรรถภาพร่างกายจึงจะพัฒนาขึ้นได้ อีกทั้งสิ่งที่เจริญเติบโตด้วยน้ำผ่านจิตก็มีรสชาติดีกว่าของธรรมดาทั่วไป ดังนั้นปีศาจเหล่านี้จึงเต็มใจเชื่อฟังคำพูดของนาง
แน่นอนว่าสาเหตุที่พวกเขาเชื่อฟังก็ไม่ใช่แค่เพราะน้ำผ่านจิต
ตัวนางก็รับรู้ได้เช่นกันว่าปีศาจเหล่านี้เปลี่ยนร่างได้เพราะนาง ดังนั้นต้องมีสาเหตุความสัมพันธ์อยู่ด้วยอย่างแน่นอน หลังเปลี่ยนร่างแล้วจึงมีความรู้สึกดีต่อนางมากพอไปโดยปริยาย กอปรกับแสงสีทองบนตัวนางก็ทำให้ปีศาจเหล่านี้ทั้งเคารพนับถือและเกรงกลัวนางด้วยเช่นกัน ดังนั้นแต่ละตนจึงว่านอนสอนง่าย ไม่กล้ากระทำเรื่องเหลวไหล