ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 615 โกหก ตอนที่ 616 เทพธิดาลงมาจุติ
ตอนที่ 615 โกหก / ตอนที่ 616 เทพธิดาลงมาจุติ
ตอนที่ 615 โกหก
เมื่อมีปีศาจเยอะแล้ว ซ่งอิงก็กลัวว่าจะจัดการดูแลไม่ดีเช่นกัน ระยะนี้จึงเขียนกฎระเบียบสำหรับปีศาจขึ้นมาด้วย
อยู่ในถิ่นฐานของมนุษย์ ห้ามไม่ให้ปีศาจทั้งหมดเข่นฆ่าทำร้าย อย่างไรเสียพละกำลังของมนุษย์กับปีศาจก็ไม่เท่ากัน นางกลัวว่าจะก่อปัญหาใหญ่ขึ้นมา
ระหว่างปีศาจกับปีศาจ หากมีความขัดแย้งที่ไม่อาจประนีประนอมได้ ก็ตัดสินด้วยการต่อสู้ตัวต่อตัวได้ เพียงแต่หากยืนกรานอยากจะเล่นงานกันถึงความเป็นความตาย นางก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีหลักเกณฑ์ยิบย่อยอีกไม่น้อย ตัวอย่างเช่นห้ามไม่ให้เปิดเผยรูปลักษณ์เดิมต่อหน้าผู้คน
ปีศาจที่เปลี่ยนรูปลักษณ์แล้วจะข่มขู่ทำร้ายสัตว์ที่เกิดสติปัญญาอันเฉียบแหลมแล้วมิได้
ห้ามไม่ให้กระทำการใดอันเป็นการรบกวนวัฏจักรสิ่งมีชีวิต การล่าอาหารระหว่างสัตว์ที่ไม่มีสติปัญญาเหล่านั้นล้วนเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่อาจเลี่ยงได้…
ตอนนี้ปีศาจที่นางเลี้ยงไว้ในครอบครัว แม้ยังไม่ได้เรียนรู้การใช้จุดแข็งของตัวเอง แต่ต่างก็ต้องท่องจำกฎระเบียบเหล่านั้นที่นางเขียนไว้ได้ขึ้นใจแล้วแน่นอน
อย่างไรเสียนางก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ปีศาจเหล่านี้เปลี่ยนร่างได้ ดังนั้นนางจำเป็นต้องรับผิดชอบ
จวบจนปัจจุบัน ยามที่นางใช้ปีศาจทำงาน ที่ทำกันก็เป็นแค่การค้าขายปกติทั่วไปทั้งนั้นเช่นกัน
ต่อให้เป็นนางก็ไม่ร้องขอให้ปีศาจเหล่านี้ทำเรื่องประเภทฆ่าคนปล้นขโมยประเภทนี้ หากนางทำเช่นนั้น อย่าว่าแต่หาเงินเลย ภายภาคหน้าจะรวบรวมทั่วทั้งใต้หล้าเป็นหนึ่งเดียวก็ไม่ใช่เรื่องยาก
อย่างไรก็ตาม นางยังไม่ลืมปีศาจปลาดุกตนนั้น
ปีศาจที่มีกรรมติดตัว น่าจะไม่ถูกช่องว่างระหว่างมิติยอมรับ
ซ่งอิงอดชื่นชมตัวเองไม่ได้ นางช่างเป็นคนหนึ่งที่มีคุณธรรมสูงส่งจริงๆซ่งสวินไม่รู้เช่นกันว่าซ่งอิงกำลังคิดอะไรอยู่บ้าง หลังจากเขารับคนเอาไว้อย่างตรงไปตรงมา ก็ใช้งานได้อย่างไร้ความกดดันแล้วเช่นกัน
“อาอิงบอกว่าเจ้าฝีเท้าไว เจ้านำเทียบเชิญใบนี้ส่งไปยังจวนลู่ทางด้านอำเภอหลี่นั่นทีสิ” ซ่งสวินนำของดังกล่าวยื่นให้
อิงต้าซานมองเทียบเชิญใบดังกล่าว จากนั้นขานรับด้วยสีหน้าไร้ควาอารมณ์
เขาหาสถานที่ไร้ผู้คน เปลี่ยนร่างเป็นนกอินทรีหนึ่งตัว ก่อนจะตีปีก ‘พั่บ พั่บ’ บินขึ้นฟ้าไป
ซ่งอิงยังไม่ทันถึงอำเภอหลี่ อิงต้าซานก็บินกลับมาแล้ว มันเป็นถึงนกอินทรีที่บรรลุแล้ว ระดับความเร็วในการบินจึงรวดเร็วกว่านกอินทรีทั่วไปอย่างยิ่ง
กระทั่งมันกลับมาถึงที่อยู่อาศัยของซ่งสวิน ซ่งสวินถึงกับตะลึงงันเล็กน้อย
“ส่งไปถึงแล้วหรือ” ซ่งสวินรู้สึกผิดปกติ มิใช่ว่าอิงต้าซานผู้นี้มีพรรคพวกมากพอ จึงไม่ต้องไปทำด้วยตัวเองกระมัง
“ขอรับ หลังจากคุณชายลู่มองเห็นเทียบเชิญก็ฝากข้ามาถ่ายทอดคำพูดให้ท่านว่า เขาพูดคุยกับคนในตระกูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกสองสามวันก็จะย้ายมาเมืองยง ถึงตอนนั้นก็จะเข้าเรียนกับท่านด้วยกันขอรับ” อิงต้าซานกล่าว
ครั้นบอกกล่าวถ้อยคำนี้ออกมา ซ่งสวินก็ยิ่งเผยสีหน้าประหลาดใจ
ระยะห่างระหว่างเมืองยงกับอำเภอหลี่ค่อนข้างไกลจากกันไม่น้อยทีเดียว
หากขี่ม้าเร็ว อาจจะไวหน่อยได้ แต่คิดๆ ดูแล้วไปกลับอย่างน้อยๆ ก็ต้องหกชั่วยาม!
ไม่เพียงเท่านั้น ภายในหกชั่วยามที่ว่านี้ ม้าต้องไม่ได้พักผ่อน ไม่ได้กินและไม่ได้ขับถ่ายกันเลยทีเดียว จะต้องห้อม้าตะบึงตลอดเวลาจึงจะเป็นไปได้ มิเช่นนั้นเวลาในการเดินทางนานขึ้นอีก หากเป็นการนั่งรถม้า ก็จะยิ่งช้าขึ้นไปอีก
พูดง่ายๆ คือต้องใช้เวลาไปกลับสองสามวัน เขาจึงจะรู้สึกปกติ
แต่ตอนนี้…
ซ่งสวินคำนวณเวลาดู นี่เพิ่งผ่านไปประมาณสองชั่วยามเองกระมัง
“แม้ว่าน้องสาวข้าชมว่าเจ้าเดินทางรวดเร็ว แต่เจ้าไม่ต้องพยายามแสดงศักยภาพตัวเองเช่นนี้ก็ได้ เอาไปส่งแล้วก็แล้วไป หากไม่ได้เอาไปส่งก็บอกว่าไม่ได้เอาไปส่ง ข้าไม่อยากรับคนโกหกหลอกลวงเอาไว้ที่นี่หรอกนะ” ซ่งสวินกล่าว
“ส่งแล้วขอรับ” อิงต้าซานยืนกรานพยักหน้า จากนั้นนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ ล้วงเอาหนังสือเล่มหนึ่งออกมาจากซอกอก “นี่เป็นของที่นายน้อยลู่มอบให้ท่านขอรับ”
ซ่งสวินรับเอามามองดู ปรากฏว่าด้านบนเป็นลายมือของลู่ข่ายจริงๆ!
“เจ้า…ไปถึงตัวอำเภอหลี่แล้ว กลับมาแล้วจริงๆ น่ะหรือ!” ซ่งสวินตกอกตกใจ รู้สึกเหลือเชื่อ
“ขอรับ ข้ามีพรสวรรค์วิ่งได้รวดเร็ว อีกทั้งเคยฝึกวรยุทธ์มาก่อน และยังผ่านการฝึกฝนเอาเท้าผูกติดหินก้อนใหญ่มาตั้งแต่เด็กด้วยขอรับ” อิงต้าซานพูดโกหกได้อย่างหน้าตาเฉยและใจไม่เต้นแรงเลยสักนิด
ซ่งสวินกระตุกมุมปาก
เห็นเขาเป็นคนโง่เขลาให้หลอกง่ายหรือไร ถ้อยคำนี้ไม่แน่ว่าซ่งอิงคงเป็นคนสอนเขาเอาไว้เสียด้วยซ้ำไป
ตอนที่ 616 เทพธิดาลงมาจุติ
ซ่งสวินยังคงไม่ค่อยเชื่อเขาสักเท่าไร หลังครุ่นคิดพักใหญ่ก็เอาจดหมายไปยื่นให้อีกครั้ง โดยให้เขานำกลับไปส่งให้ลู่ข่ายเช่นเดิม
อิงต้าซานไปทำตามคำสั่งหน้าตาเฉยเช่นเคย
เหมือนเช่นเมื่อครู่ ไปกลับใช้เวลาเพียงสองชั่วยามเท่านั้น ไม่เพียงเท่านี้ เขาเอาจดหมายตอบกลับของลู่ข่ายกลับมาด้วย…
“เจ้า…เจ้าเป็นคนที่น้องสาวข้าซื้อมาจากไหนหรือ” ซ่งสวินกล่าวด้วยความประหลาดใจ
คนผู้นี้มิใช่บินไปหรอกกระมัง มิเช่นนั้นจะถ่อไปรวดเร็วเพียงนี้ได้อย่างไรกันเล่า!
“ข้าก็แค่ผ่านไปทางหมู่บ้านของเถ้าแก่เหนียง จากนั้นก็ถูกรับเอาไว้ขอรับ” อิงต้าซานบอกตามความจริง
จะว่าไปในวันนั้น ขณะมันบินอยู่บนท้องนภาก็มองเห็นหมู่บ้านสวนของเถ้าแก่เหนียง กลิ่นที่กระจายอยู่ในหมู่บ้านสวนแห่งนั้นเหมือนเนื้อกระต่ายรสเลิศชิ้นหนึ่ง ทำให้มันอดโฉบตัวลงไปไม่ได้ หลังร่อนลงสู่พื้นก็ถูกปีศาจตนอื่นร่วมมือกันจับตัวเอาไว้
ไม่ใช่เขาอ่อนแอ เพียงแต่ว่าตอนนั้นเขายังไม่ได้เปลี่ยนร่าง ย่อมไม่มีความสามารถเก่งกาจอะไร
จากนั้นไม่นาน เขาคอยบำเพ็ญเพียรข้างกายเถ้าแก่เหนียงอยู่สามสี่วัน
ก่อนหน้าที่ยังไม่เข้าใจเถ้าแก่เหนียง เขาก็เคยมองดูแสงจันทร์ยามราตรีอยู่บนยอดเขาเช่นกัน แต่หลังจากเข้าใจเถ้าแก่เหนียง ความรู้สึกของการถูกแสงจันทร์ทรงกลดห้อมล้อมเป็นผลให้เติบโตรวดเร็วขึ้นเป็นร้อยเป็นพันเท่า ดังนั้น…จึงได้เปลี่ยนร่าง
ปีศาจที่เปลี่ยนร่างภายใต้อิทธิพลของเถ้าแก่เหนียง ล้วนจำเป็นต้องสละทุ่มเทอะไรบ้างเล็กน้อย
ตัวอย่างเช่นปีศาจหอยแมลงภู่ก็ใช้ไข่มุกเป็นการตอบแทน กวางลายจุดมอบเขาของมันที่หลุดออกเองตามธรรมชาติ มันไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ก็ทำได้เพียงลงนามสัญญาทำงานให้ ใช้กำลังของตัวเองแลกกับการได้รับสิ่งต่างๆ ที่ช่วยเพิ่มพลังซึ่งอยู่ในมือเถ้าแก่เหนียง
แม้ว่าไม่ได้มากมายเฉกเช่นปีศาจกบ แต่เพราะซ่งสวินเป็นพี่ชายของเถ้าแก่เหนียง เรื่องการปกป้องซ่งสวินจึงเป็นสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญ ดังนั้นนอกจากของที่ช่วยเพิ่มพลังได้ เขาก็ยังได้ของดีๆ จำนวนหนึ่งนอกเหนือจากนี้ด้วยเช่นกัน
เพียงแต่ตามสัญญาลับที่เถ้าแก่เหนียงให้เขาลงนามไว้ ถ้อยคำส่วนหลังนี้ห้ามไม่ให้พูดออกมา
ซ่งสวินถอนหายใจ
เขาอยากจะมองซ่งอิงเป็นเพียงน้องสาวปกติธรรมดาทั่วไปจริงๆ…
แต่ตอนนี้ คนที่นางส่งมาให้มีความสามารถถึงเพียงนี้ เขาจึงยากจะสงบจิตสงบใจได้น่ะสิ!
“เจ้า…หลังจากนี้จะไปไหนมาไหนรวดเร็วเพียงนี้ไม่ได้ นอกเสียจากสถานการณ์จำเพาะ มิฉะนั้น…เจ้าใช้เวลาไปกลับให้ได้สักห้าหกชั่วยามจึงจะค่อนข้างเหมาะสม เวลาที่เหลือเฟือ…เจ้าไปดูน้องสาวข้าก็ได้ หรือจะไปเดินเล่นก็ได้ เอาเป็นว่า…อย่าให้เป็นที่ดึงดูดสายตาเกินไป” ซ่งสวินครุ่นคิดแล้วกล่าว
ฝีเท้าเร็วอะไรกัน เขาไม่เชื่อหรอก
แต่เขาไม่อาจเอ่ยคำพูดนี้อย่างตรงไปตรงมาเกินไปได้…เพราะยิ่งรู้อะไรมากเท่าไร ก็ยิ่งตายไวเท่านั้น…ตราบใดที่ไร้ศัตรูไร้ความแค้นเคือง อยากจะทำอะไรก็ทำไปเถอะ เขาตาบอด ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น
ส่วนซ่งอิง…
ซ่งสวินแอบพึมพำในใจ นั่นก็คือ…เทพธิดาลงมาจุติ
ต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน ดังนั้นเรื่องของเทพธิดา เขาไม่อาจยุ่งอะไรได้มากนัก ถึงขั้นว่า…เพื่อให้เทพธิดาที่มีความทรงจำของน้องสาวเขาอยู่ดำรงชีวิตไปได้อย่างสุขสบาย เขาจึงต้องยิ่งพยายามให้มากขึ้นอีก…
แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ไปแจ้งทางการด้วยเพราะน้องสาวของตัวเองผิดปกติ…
ด้านหนึ่ง นั่นคือน้องสาวเขา อีกด้านหนึ่ง ก็ไม่มีประโยชน์ต่อตระกูลซ่งแต่อย่างใด คนหนึ่งถูกตราหน้าว่าเป็นปีศาจร้าย ไม่แน่ว่าจะถูกตัดหัวทั้งตระกูล
เขานวดหว่างคิ้ว ซ่งสวินที่เดิมทีตั้งใจจะพักผ่อนจึงดื่มน้ำแก่ไก่เข้าไปอีกหนึ่งชาม จากนั้นก็อ่านตำราอย่างเอาเป็นเอาตาย
ครั้นดื่นน้ำแกงไก่โสมเข้าไป ความว้าวุ่นอะไรก็ตามล้วนลืมไปหมดสิ้น รู้สึกเพียงเนื้อหาในตำราถูกประทับลงในสมองได้อย่างง่ายดาย…
ซ่งสวินปาดเหงื่อ
น้องสาวเขาเป็นเทพธิดาลงมาจุติ ประสิทธิผลน้ำแกงไก่โสมจึงยอดเยี่ยมเหลือเกิน…นี่ไม่แปลกเลย ไม่แปลกเลย!
ทางด้านนั้น ซ่งอิงมายังเรือนในอำเภอหลี่ที่ซื้อมาใหม่และพักผ่อนไปแล้วหนึ่งคืน
เรือนใหม่หลังโตพร้อมพื้นที่กว้างขวางแห่งนี้ทำเลดีกว่าเมื่อก่อนมาก ครอบครัวคนที่อยู่รอบๆ ก็ค่อนข้างมีปัญญาความรู้ ยิ่งทำให้ซ่งอิงวางใจมากขึ้นหน่อย เพียงแต่เรือนหลังนี้ราคาแพงเป็นพิเศษ ราคามากถึงเจ็ดพันตำลึงเงิน!
ขนาดนี่เป็นแค่อำเภอหลี่เท่านั้น
เดิมทีซ่งอิงคิดว่าตัวเองมีเงินเยอะแล้ว แต่เมื่อลองนึกถึงพื้นที่ทำเลทองอย่างทางด้านเมืองหลวงนั่น ก็รู้สึกขึ้นมาทันทีว่าเงินที่ตัวเองมีอยู่ยังถือว่าน้อยนิดมาก
ต่อให้เอาไข่มุกที่เหลือๆ อยู่ขายออกไปทั้งหมด ทรัพย์สินของครอบครัวก็ยังเทียบไม่ได้กับจวนเหยียนผิงโหวอยู่ดี
เพียงแต่ว่านางไม่รีบร้อนเช่นกัน กิจการสบู่หอมยักษ์ใหญ่ของนางเพิ่งเริ่มต้น! แล้วยังมีปีศาจหอยแมลงภู่อีก ตอนนี้ได้กินของดีๆ แล้วก็จะคายไข่มุกออกมาได้มากขึ้น ในไม่ช้าก็ต้องมีสักวันที่นางเก็บเงินเก็บทองได้เต็มบ้านเต็มเรือน!