ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 625 มีเหตุย่อมมีผล ตอนที่ 626 มีความพิลึกพิลั่นเล็กน้อย
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 625 มีเหตุย่อมมีผล ตอนที่ 626 มีความพิลึกพิลั่นเล็กน้อย
ตอนที่ 625 มีเหตุย่อมมีผล / ตอนที่ 626 มีความพิลึกพิลั่นเล็กน้อย
ตอนที่ 625 มีเหตุย่อมมีผล
ถูกปีศาจน้อยสองตัวนี้ปั่นหัวให้ลุ่มหลง เขาจึงเกือบลืมไปว่าตัวเองมาเพื่อทำอะไร
หลังขวางทางเข้าออกร้านแล้ว คุณชายรองเซว์ก็เผยท่าทีโกรธจัด “เถ้าแก่เหนียงร้านพวกเจ้าล่ะ ให้นางออกมานี่”
ขณะนี้คุณชายรองเซว์อารมณ์เสียจริงๆ แล้ว
เมื่อครู่ไม่นึกเลยว่าคนที่มีตาหามีแววไม่เหล่านั้นจะกล่าวว่าเขาเป็นอันธพาลที่หัวโตหูกางคนหนึ่ง!
คุณชายรองตระกูลเซว์ผู้สง่าผ่าเผยและจิตใจเบิกบานเจ้าสำราญอย่างเขา อยู่เมืองหลวงค่อนข้างมีชื่อเสียงเช่นกัน บุตรสาวจากตระกูลผู้เลื่องชื่อลือนามไม่รู้เท่าไหร่ที่สนใจในตัวเขา บัดนี้ไม่นึกเลยว่าจะถูกชาวบ้านที่ไม่รู้ประสีประสากลุ่มหนึ่งชี้นิ้วต่อว่า!
ไว้เดี๋ยวหลังจากเถ้าแก่เหนียงของร้านว่านหลิงมาแล้ว เขาจะต้องสั่งสอนให้เต็มที่สักยก! ถือเสียว่าเป็นการขจัดความเดือดดาลในใจ!
“เถ้าแก่เหนียงของพวกเราไม่อยู่ เจ้ามีเรื่องอันใดหรือ” อวิ้นหลิงสีหน้าสุขุม ลักษณะที่เยาว์วัยแม้ทำให้ดูค่อนข้างนุ่มนวล แต่ก็ยังแฝงความสงบเยือกเย็นเอาไว้เล็กน้อย
“หากเถ้าแก่เหนียงร้านเจ้าไม่มา เช่นนั้นร้านนี้ก็อย่าหวังว่าจะได้เปิดอีกต่อไป ข้าก็อยากดูเหมือนกันว่า วันนี้มีข้าอยู่ทั้งคน ยังจะมีใครหน้าไหนกล้าเหยียบย่างพ้นประตูนี้อีก!” คุณชายรองเซว์เอ่ยเสียงเย็นชา
อวิ้นหลิงขมวดคิ้วนิ่วหน้า
เฮยยายาและจิ่งเช่ว์สบมองตากัน จากนั้นมองอวิ้นหลิงอย่างกังวลใจเล็กน้อย
เมื่อก่อนร้านค้าแห่งนี้งูดำเป็นผู้ดูแล บุคลิกงูดำค่อนข้างน่ากลัว ดังนั้นไม่เคยมีคนกล้าก่อปัญหามาก่อน แต่ตอนนี้งูดำไปกำกับดูแลโรงผลิตใหญ่ที่เมืองยงแล้ว อวิ้นหลิงจึงขึ้นมาแทนที่ตำแหน่งของเขา…
แต่อวิ้นหลิงจะเอาอยู่หรือ
เขาเป็นเม่นตัวเล็กๆ ตัวหนึ่ง ไม่ได้มีอาวุธอันน่าเกรงขามอย่างงูดำ รูปลักษณ์ก็เหมือนหนุ่มน้อยว่าง่าย
แต่หากพวกเขาช่วยเหลือแล้วเดี๋ยวแพร่งพรายไปถึงหูเถ้าแก่เหนียง ก็จะไม่กลายเป็นว่าพวกเขามีใจแย่งชิงตำแหน่งหน้าที่นี้หรอกหรือ
สีหน้าของอวิ้นหลิงดูไม่ดีนักเช่นกัน
“ดังนั้น…” อวิ้นหลิงน้ำเสียงใจเย็น “เจ้ากำลังจะสร้างความวุ่นวายสินะ”
“ใช่แล้วจะทำไม” คุณชายรองเซว์ส่งเสียงหัวเราะเยาะ “ต่อให้เถ้าแก่เหนียงร้านเจ้าอยู่ เมื่อเห็นข้าแล้วก็ต้องยอมรับผิดแต่โดยดีเช่นกัน สตรีจากหมู่บ้านชนบท ไม่นึกเลยว่าจะกล้าหาเงินโดยเหยียบหน้าข้า ใครให้ความหาญกล้าแก่นางถึงเพียงนี้!”
ครั้นเสียงนี้สิ้นสุดลง เฮยยายาก็เห็นว่าหลังเสื้อคลุมของอวิ้นหลิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย
ขนที่เดิมทีอ่อนนุ่ม ขณะนี้มัน…ตั้งตรงขึ้นมาแล้ว เปลี่ยนเป็น…หนามที่ทิ่มแทงคนได้
เพียงแต่ต้องมองใกล้ๆ จึงจะค้นพบความพิเศษเล็กน้อยนี้ได้ คนธรรมดาทั่วไปไม่อาจมองเห็นการเปลี่ยนแปลงอันน้อยนิดนี้
“อวิ้นหลิง…” เฮยยายาส่งเสียงเรียกด้วยความห่วงใย
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันสิ้นเสียง อวิ้นหลิงก็สลัดบางอย่างในมือออกไปกะทันหัน ไม่ทันได้เห็นชัดว่าคืออะไรกันแน่
“โอ๊ย!”
“โอ๊ยๆ…”
“เจ็บเหลือเกิน!”
อีกด้านหนึ่ง องครักษ์แต่ละคนล้วนล้มลงไปแล้ว แต่ละคนใช้มือกุมไหล่
เฮยยายานิ่งอึ้งไป
คุณชายรองเซว์ผู้นั้นไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงส่งเสียงตำหนิคนข้างกาย “พวกเจ้าส่งเสียงโอดโอยอะไรกัน!”
เวลาสำคัญยิ่งเช่นนี้ ไม่นึกว่าพวกเขาจะส่งเสียงร้องโหยหวนวุ่นวายไปหมด ขายหน้าเขาจริงๆ!
“คุณชาย…มีหนามแหลมทิ่มพวกเราขอรับ!”
“ใช่ขอรับคุณชาย เมื่อครู่เหมือนมีบางสิ่งทิ่มเข้ามาที่เนื้อพวกเราขอรับ…”
“ข้าก็ถูกทิ่มด้วยเช่นกัน!”
“…” คุณชายรองเซว์งุนงงเล็กน้อย ถูกทิ่มหรือ แต่…ไม่มีเลือดแม้แต่หยดเดียว? โกหกเขาเสียมากกว่ากระมัง
“เจ้าทำอะไร” คุณชายรองเซว์กล่าวเสียงเย็นชา
อวิ้นหลิงยังคงสงบเยือกเย็น ถึงขั้นมีความอ่อนโยนเจือเล็กน้อยด้วยซ้ำ “ไม่ได้ทำอะไร เพียงแค่ทำเรื่องที่ควรทำ เถ้าแก่เหนียงกล่าวไว้แล้วว่าหากมีคนมาสร้างปัญหา…ก็ขับไล่ออกไปเสีย ข้าชกต่อยไม่เป็น ทำเป็นเพียงฝังเข็มเท่านั้น”
เถ้าแก่เหนียงยังกล่าวไว้อีกว่ามีเหตุย่อมมีผล ขอเพียงไม่ใช่เขาเป็นฝ่ายหาเรื่องก่อน ก็แค่จัดว่าอยู่ในการตั้งรับ มิใช่เข่นฆ่าป่าเถื่อน เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร!
ที่เถ้าแก่เหนียงพูด จะต้องเป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างแน่นอน
เขาเป็นเม่น นอกจากกลิ้ง กิน ก็ไม่มีความสามารถอื่นใด ก็แค่ใช้หนามทิ่มคนได้เท่านั้น นอกเหนือไปกว่านี้เขาก็ไม่เข้าใจแล้วเช่นกัน
รู้สึกผิดต่อเถ้าแก่เหนียงจริงๆ เขาช่างไร้ความสามารถยิ่งนัก
ตอนที่ 626 มีความพิลึกพิลั่นเล็กน้อย
อวิ้นหลิงรูปลักษณ์เยาว์วัย ณ ตอนนี้เพิ่งใช้หนามแหลมทิ่มคน แต่กลับเผยสีหน้าอารมณ์อย่างบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เฮยยายาเห็นแล้วงงจนทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย
ณ ขณะนี้ นางพลันเข้าใจว่าทำไมหลังจากพี่ใหญ่งูดำไปแล้ว ผู้ขึ้นมาแทนที่กลับเป็นอวิ้นหลิงแทนที่จะเป็นนาง!
ก่อนหน้านี้นางยังไม่ค่อยพอใจอยู่บ้าง แต่ตอนนี้!
นางนับถือจริงๆ!
เม่นน้อยไม่ได้ไร้พิษสงอย่างที่นางคิด เขามีขนหนาม!
คุณชายรองเซว์ได้ยินคำพูดของอวิ้นหลิง ความโกรธเกรี้ยวที่สะสมมานานก็พลันระเบิด “ใครก็ได้! เล่นงานเขาให้ข้าที กล้าทำร้ายคนของข้า ข้าจะทำให้พวกเจ้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนให้ยกโทษให้!”
อวิ้นหลิงไม่กลัวเช่นกัน เขาเป็นปีศาจ การใช้หนามทิ่มแทงคือทักษะติดตัวของเขา เป็นความสามารถส่วนบุคคลเฉพาะปีศาจ พวกมนุษย์ไม่อาจมองออกได้
ทว่าสิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ตอนนี้เขายังเด็กเกินไป จึงปล่อยหนามที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ออกไปทิ่มแทงได้ครั้งละไม่มากนัก
เมื่อก่อนเถ้าแก่เหนียงเคยกล่าวว่า ให้เขาฝึกฝนให้ดีๆ พยายามฝึกให้ระเบิดออกมาเป็นฝนหนามให้ได้ในภายภาคหน้า ความหมายก็คือ ต้องทำให้หนามของเขาก็เสมือนฝนกระหน่ำยามฤดูร้อน คนที่ถูกทิ่มแทงจึงจะไม่อาจโต้ตอบได้
เขายังห่างไกลจากที่ว่านี้อีกมาก ปล่อยหนามออกไปได้เพียงสี่ห้าเส้นต่อครั้งเท่านั้น หลังเล่นงานเสร็จสิ้นก็ต้องพักผ่อนสักหน่อยด้วย
ขณะนี้ คนของคุณชายรองเซว์ดูแล้วเดือดดาลอย่างยิ่ง เฮยยายาและจิ่งเช่ว์เผยแววตากังวล ส่วนอวิ้นหลิงส่งเสียงเรียก จากนั้นเด็กช่วยงานในร้านก็ก้าวออกมายืนตระหง่านทันที และมีผู้คุ้มกันเรือนวิ่งมาจากในลานหลังร้านอีกจำนวนหนึ่ง
“…” คุณชายรองเซว์นิ่งอึ้งไป
แม่เจ้า ก็แค่ร้านค้าเล็กๆ แห่งหนึ่ง ไฉนจึงเลี้ยงดูปูเสื่อผู้คุ้มกันเรือนเอาไว้มากมายเพียงนี้!
“อึ้งอะไรกันอยู่ได้ พังร้านนี้เสีย!” เขากลัวที่ไหนเล่า คนของเขามีมีดดาบเหน็บอยู่ที่เอว!
ครั้นสิ้นเสียงพูด บรรดาองครักษ์ก็เริ่มลงมือ บรรดาผู้คุ้มกันเรือนก็เริ่มโต้ตอบทันทีเช่นกัน อวิ้นหลิงสีหน้าสุขุมเยือกเย็น ยังคิดจะปล่อยหนามไปทิ่มอีกครั้ง แต่คุณชายรองเซว์ผู้นั้นฉลาดอย่างยิ่ง ไปหลบอยู่ด้านหลังคนอื่น เมื่อมีคนอื่นเป็นกำบัง หนามของเขาจึงไม่อาจถูกตัวคุณชายรองผู้นั้นได้!
เขาทำได้เพียงไปขวางองครักษ์เหล่านั้น
เพราะพวกเขาเป็นปีศาจ ดังนั้นก็ไม่กล้ากระทำการเกินไป เพื่อที่จะได้ไม่ถูกคนสงสัยตัวตนเอาได้
เพียงแต่ว่าเทียบจำนวนคนแล้ว พวกเขามีความได้เปรียบมาก
“ถือดาบเล่มใหญ่ขนาดนี้จะต้องระวังด้วยล่ะ! เกิดสับไปถูกผู้เป็นนายพวกเจ้าจะทำอย่างไร!” เฮยยายาชตะโกน
เสียงดัง ‘แคว่ก’ มีดของหนึ่งในองครักษ์พลันหลุดมือลอยออกไป ก่อนจะพุ่งเข้าใส่คุณชายรองเซว์ คุณชายรองผู้นี้ก็พอมีพื้นฐานศิลปะการต่อสู้อยู่บ้าง แม้เอี้ยวหลบได้ แต่อาภรณ์ที่สวมอยู่ก็ยังถูกเฉือนอยู่ดี
“…” คุณชายรองเซว์เบิกตาโตด้วยอารามตกใจ
วันนี้…พิลึกพิลั่นเล็กน้อย“เจ้าดูสิ ดาบลอยไปแล้ว ก็บอกแล้วอย่างไรเล่าว่าให้ระวังๆ! ดาบที่อยู่ในมือหนักขนาดนี้ เดี๋ยวจะหล่นใส่ตัวเองเอาได้!” เฮยยายากะพริบดวงตาสีดำขลับ จากนั้นรีบไปหลบตรงหัวมุม ก่อนจะเกิดเสียงประหลาดหนึ่งดังตามขึ้นมาอีก
ครั้นสิ้นเสียงถ้อยคำนี้ ก็มีสามองครักษ์ที่เหมือนให้ความร่วมมือเฮยยายาอย่างไรอย่างนั้น พวกเขาถือมีดดาบไม่มั่น จึงทำหล่นลงไป เกือบสับเข้าที่นิ้วเท้าของตัวเอง
คุณชายรองเซว์เพิ่งได้สติกลับคืนจากความตกใจปนสงสัย ก็มองเห็นภาพฉากนี้
เขาถึงกับเบิกตาโตตะลึงงัน
องครักษ์เหล่านี้ของเขาเป็นคนที่บิดาเขาจัดหาให้ทั้งหมด ไม่นึกว่าจะเอาชนะเหล่าผู้คุ้มกันเรือนและผู้จัดการร้านไม่ได้
ดูสิ ผู้คุ้มกันเรือนเหล่านั้นต่างก็เนื้อตัวกำยำล่ำสัน ครั้นยกมือขึ้นก็จับตัวคนเหล่านั้นที่ทำมีดดาบหล่นไว้ได้อยู่หมัด แล้วยังมีผู้จัดการร้านคนนั้นอีก อาภรณ์ที่สวมอยู่ไม่รู้เช่นกันว่าทำจากอะไร คนของเขาไปถูกเข้าโดยไม่ระวังก็เป็นต้องเริ่มส่งเสียงร้องโอดโอย!
นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้น!
ทางด้านจิ่งเช่ว์ยิ่งสงบเงียบเข้าไปใหญ่ เขารูปลักษณ์งดงาม ไม่มีคนทำร้ายเขา
“พวกเรา กลับ!” คุณชายรองเซว์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน รู้สึกว่าไม่อาจทะเลาะวิวาทต่อไปได้แล้ว ขายหน้าเกินไปแล้ว
“ต้องชดใช้เงินมาด้วย” อวิ้นหลิงสาวเท้ายาวเข้าไปขวางหน้าประตูไว้ “เอามาห้าสิบตำลึงเงินจึงจะไปได้”
เสียงดัง ‘ตึง’ องครักษ์ที่เหลืออีกคนถูกเล่นงานจนล้มฟุบลงไปแล้วเช่นกัน
ผู้คุ้มกันเรือนของร้านว่านหลิงเพียงแค่พละกำลังเยอะ แต่ความสามารถไม่ได้เก่งกาจอันใด แต่…เด็กช่วยงานในร้านของที่นี่แล้วก็ผู้จัดการร้าน มีวิธีการที่ค่อนข้างประหลาดทั้งนั้น