ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 635 ชดใช้เงิน ตอนที่ 636 โอ้อวดพลังอำนาจ
ตอนที่ 635 ชดใช้เงิน / ตอนที่ 636 โอ้อวดพลังอำนาจ
ตอนที่ 635 ชดใช้เงิน
หมู่บ้านซิ่งฮวาห่างจากตัวอำเภอไม่ไกลนัก ดังนั้นตอนบ่ายพวกเขาก็ไปถึงกันแล้ว
ในหมู่บ้านมีคนนอกมาเยือนบ่อยครั้ง ตามจริงชาวบ้านก็ไม่ตื่นตาตื่นใจเกี่ยวกับประเด็นนี้มากนัก โดยเฉพาะสองสามวันนี้ แต่ละครอบครัวยุ่งอยู่กับเรือกสวนไร่นา ยิ่งไม่มีเวลาว่างสนใจคนอื่น
คุณชายรองเซว์เคยไปบ้านสวนของครอบครัวตนเอง ดังนั้นเคยเห็นภาพฉากเช่นนี้มาก่อน จึงควบม้าเหยาะย่างบนเส้นทางเล็กๆ ของชนบทไปเรื่อยราวกับไร้จุดหมาย
เขาไม่ได้ส่งคนไปถามไถ่ เพียงแต่มองดูเด็กคนหนึ่ง ยามที่เด็กผ่านมาก็ลงจากหลังม้า ขวางทางไปของเด็กคนนั้นไว้
“เด็กป่านี่มาจากไหนกัน ทำพู่หยกชิ้นโปรดของข้าหล่นเสียหายแล้ว” คุณชายรองเอ่ยพูดพลางขมวดคิ้วนิ่วหน้า
หนิวซานซานตระหนกตกใจจนไม่กล้าหายใจ “ข้า ข้ามิได้…”
เขาไม่ได้ถูกตัวคนผู้นี้สักหน่อยนี่!
พู่หยกอะไรนั่น คนผู้นี้โยนมันทิ้งด้วยตัวเองต่างหากเล่า!
“บอกว่าเจ้าเป็นคนทำหล่นก็คือเจ้าทำหล่น! ทว่าหากเจ้าว่าง่าย เราให้เจ้าชดใช้น้อยหน่อยก็ได้เช่นกัน” คุณชายรองเซว์กล่าวขึ้นอีกครั้ง
หนิวซานซานทั้งโกรธทั้งตกใจ “ข้าไม่ได้ทำ! ข้าไม่ได้แตะต้องสิ่งของของท่านเลย!”
ตอนนี้เขาไม่กล้าพูดเหลวไหลหรอก มิเช่นนั้นท่านพ่อได้ตีเขาตายแน่!
หนิวซานซานเรียกได้ว่าเป็นเด็กน้อยที่น่าเวทนาที่สุดในหมู่บ้าน
เพราะเมื่อก่อนเขาและหลี่จิ้นเป่าสนิทสนมกัน มิหนำซ้ำยังเคยกระทำเรื่องแย่ๆ ตามหลี่จิ้นเป่าเอาไว้ไม่น้อย ดังนั้นอายุไม่ยังไม่มากแต่ถูกคนทั้งหมู่บ้านคอยเฝ้ามอง ยามปกติเพียงแค่เขาไม่ระวังพูดจาไร้สาระต่อหน้าผู้อื่น ก็ต้องถูกสั่งสอนหนึ่งชุดใหญ่แล้ว
ชีวิตในปีนี้แน่นอนว่าดีกว่าปีที่แล้วมาก
เสียงตบหน้าดัง ‘เพี้ยะ’ คุณชายรองเซว์ตวัดมือเข้าใส่ “ไอ้เด็กป่า”
“…” หนิวซานซานนิ่งอึ้งไป
เขาก็แค่เลิกเรียนไวกว่าปกติหน่อย เตรียมกลับบ้านไปช่วยมารดาเขาทำงาน…ทำไมจึงถูกตบเสียเล่า
“ส่งใครสักคนไปหาหัวหน้าหมู่บ้าน บอกไปว่ามีเด็กน้อยซุกซนไม่ดูตาม้าตาเรือทำของล้ำค่าที่ได้รับสืบทอดมาจากตระกูลของข้าแตก หากไม่ชดใช้เป็นเงินจนสิ้นเนื้อประดาตัว เช่นนั้นก็…ข้าจะพาตัวเด็กคนนี้ไป” คุณชายรองเซว์กล่าวขึ้นอีกครั้ง
ฮั่วซ่งซื่อผู้นั้นมีเงินมากที่สุดในหมู่บ้านนี้มิใช่หรือ พ่อแม่ของเจ้าเด็กน้อยคนนี้ไม่มีเงิน ย่อมต้องไปหาคนผู้นั้นเพื่อยืมเงินเป็นแน่กระมัง
อ้อ นอกจากนั้น หัวหน้าหมู่บ้านจะต้องมาเจอเขา ถึงตอนนั้นเขาเพียงแค่ถือโอกาสนี้บอกกล่าวไว้สักหน่อยว่าตนและสะใภ้ตระกูลฮั่วมีมิตรภาพต่อกันอยู่เล็กน้อย เช่นนี้หัวหน้าหมู่บ้านยังจะไม่ไปเชิญสะใภ้ตระกูลฮั่วมาร้องขอความเห็นใจสักหน่อยอีกหรือ
ครอบครัวหัวหน้าหมู่บ้านมีที่ดินไม่น้อยเช่นกัน ตอนนี้เขางานยุ่งอย่างยิ่ง ยามที่ได้ยินข่าวนี้ก็ขมวดคิ้วแน่นทันที
เขาส่งเสียงทักทาย จากนั้นให้ชายฉกรรจ์สี่ห้าคนพร้อมเด็กหนุ่มอีกจำนวนหนึ่งมาด้วยกัน
ไม่ใช่หาเรื่อง แต่…
คนเขามีองครักษ์ มองดูไม่ธรรมดาเสียด้วย
เกี่ยวพันไปถึงเงินตราและคดีความ ย่อมต้องแสดงให้เห็นถึงพลังการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายที่เท่าเทียมกันเพื่อสะดวกในการดำเนินการเจรจาขั้นถัดไป ดังนั้นจำเป็นต้องพากำลังคนไปให้เพียงพอ
ยามที่หัวหน้าหมู่บ้านพร้อมพวกไปถึง คุณชายรองเซว์ผู้นั้นนั่งตกปลาอยู่ริมแม่น้ำ
คนผู้นั้นสวมชุดผ้าแพรเนื้องาม ไม่ต้องคิดก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นผู้มีภูมิหลักจากตระกูลร่ำรวยสูงส่ง อีกทั้งยังพาองครักษ์ที่พกดาบมาด้วยได้ เช่นนั้นก็ยิ่งไม่ธรรมดาไปใหญ่
หัวหน้าหมู่บ้านไม่กล้าวางตัวหยิ่งยโส เอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมา “มิทราบว่าท่านคือ…”
“ข้าออกมาเที่ยวเล่น เด็กของหมู่บ้านท่านกระแทกพู่หยกของข้าเสียหาย ท่านว่าเรื่องนี้จะจัดการอย่างไรรึ” คุณชายรองกล่าว
ชายฉกรรจ์ที่ร่วมทางมาด้วยหนึ่งในนั้นมีบิดาของหนิวซานซานอยู่ด้วยพอดี ครั้นเห็นหนิวซานซานถูกคนหิ้วแขนอยู่ มิหนำซ้ำยังใบหน้าบวมปูด ทันใดนั้นก็ไม่อาจระงับโทสะเอาไว้ได้!
“พวกเจ้าทำอะไร! ปล่อยลูกชายข้า! มีสิทธิ์อะไรตบหน้าเขา!” บิดาหนิวซานซานกล่าวด้วยความโกรธจัด
ลูกชายเขา เขาตบตีได้ คนอื่นก็จะทำได้เช่นกันอย่างนั้นหรือ!
แน่นอนว่าไม่ได้!
ชายฉกรรจ์คนอื่นต่างก็บันดาลโทสะขึ้นมาเล็กน้อยเช่นกัน
“ปล่อยเขาก็ได้ เอามาหนึ่งพันตำลึงเงินก็พอ” คุณชายรองเซว์แสยะยิ้มเย็นชา “พู่หยกของข้าชิ้นนี้เป็นของที่ซื้อจากทางเมืองหลวง เตรียมมอบให้ลูกชายข้าเป็นของล้ำค่าตกทอดของตระกูล ตอนนี้ถูกเด็กน้อยผู้นี้ทำแตก ไม่ตีเขาแล้วจะตีใคร”
“หนึ่งพันตำลึงเงิน?!” บรรดาชาวบ้านตะลึงงัน
ปีนี้บนเขายังคงมีเมล็ดซิ่งให้เก็บเช่นเคย สองสามเดือนก่อนยามที่ฉลองเทศกาลวันไหว้บ๊ะจ่าง หมู่บ้านพวกเขาเหล่าคนที่มีฝีมือก็เรียนรู้การทำบ๊ะจ่างนั่นจากซ่งอิง หาเงินไว้เป็นทรัพย์สินในครอบครัวได้ไม่น้อย
แต่ทรัพย์สินในครอบครัวที่ว่านี้ อย่างมากก็แค่สิบกว่าตำลึงเงินเท่านั้นเอง
ตอนที่ 636 โอ้อวดพลังอำนาจ
ทันทีที่ได้ยินว่าหนึ่งพันตำลึงเงิน พวกเขาล้วนตะลึงไปเล็กน้อย
“ข้าไม่ใช่คนทำเสียหาย…” หนิวซานซานร้องไห้พลางตะโกนบอก
“เจ้าได้ยินแล้วนี่ เด็กคนนี้บอกว่าเขาไม่ได้ทำ! เจ้ารีบปล่อยตัวเขาเร็วเข้า คนของหมู่บ้านพวกเรามิใช่จะรังแกกันโดยง่ายหรอกนะ!” ทุกคนรีบกล่าวทันควัน
หนิวซานซานเด็กคนนี้เมื่อก่อนไม่ค่อยเอาไหน มักจะกระทำเรื่องแย่ๆ แต่หลังจากหลี่จิ้นเป่าเสียชีวิตไป เด็กคนนี้ก็ว่านอนสอนง่ายขึ้นมาก!
ไม่พูดจาโกหกเป็นแน่!
“คุณชายท่านนี้ ไม่ทราบว่าหมู่บ้านเรามีส่วนไหนที่ทำให้ท่านไม่พอใจแล้วหรือ” หัวหน้าหมู่บ้านเป็นคนชาญฉลาดคนหนึ่ง
คุณชายผู้นี้ทั้งร่ำรวยและสูงส่ง ถ่อมาเที่ยวเล่นถึงในหมู่บ้านพวกเขา มองปราดเดียวก็รู้ได้ว่าผิดปกติ
จะให้คนเขาชดใช้เงินให้ ไม่สู้ถามไปตามตรงเลยจะดีกว่า
“พูดคุยกับคนฉลาดไม่เหนื่อยดีเหมือนกัน” คุณชายรองเซว์ไม่ปิดบังแต่อย่างใดเช่นกัน “ข้าเพียงแค่ได้ยินว่าสะใภ้ตระกูลฮั่วเป็นคนของหมู่บ้านนี้ อีกทั้งได้ยินว่าหมู่บ้านนี้ทำเลฮวงจุ้ยไม่เลวเลยจริงๆ จึงมาลองดู ใครจะคิดว่ากลับมาเจอเรื่องประเภทนี้เข้า…”
หัวหน้าหมู่บ้านเป็นอันเข้าใจได้แล้ว
“ท่านมาหาแม่นางฮั่วสินะ” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าว
“จะว่าเช่นนั้นก็มิใช่ เพียงแต่หากได้เจอะเจอนางก็ถือว่าไม่เสียเที่ยวในการมาครั้งนี้เช่นกัน” คุณชายรองเซว์กล่าวขึ้นอีกครั้ง
“หากเป็นเช่นนี้ เกรงว่าคุณชายต้องผิดหวังเสียแล้ว แม่นางฮั่วแม้เป็นคนของหมู่บ้านพวกเรา แต่ปัจจุบันงานยุ่งมาก ไม่ค่อยกลับหมู่บ้านสักเท่าไร หากท่านอยากหานาง อาจต้องไปร้านว่านหลิงที่ตัวอำเภอจึงจะได้เรื่อง อยู่นี่คงไม่ได้เจอตัวนางหรอก” หัวหน้าหมู่บ้านกล่าว
“ไม่เจอตัวนางรึ เช่นนั้นก็ชดใช้เงินมาแล้วกัน” คุณชายรองเซว์กล่าวขึ้นอีกครั้ง
ครั้นเอ่ยถ้อยคำนี้ หัวหน้าหมู่บ้านซ่งก็ส่งเสียงหัวเราะเยาะออกมา
“กลางวันแสกๆ ท่านคิดจะปล้นกันแล้วหรือ” หัวหน้าหมู่บ้านซ่งหันไปมองบิดาหนิวซานซาน “ไป ให้สหายหนุ่มๆ ละทิ้งภาระงานในมือแล้วมาพากันมาที่นี่!”
คุณชายรองเซว์ขมวดคิ้วนิ่วหน้า
หมายความว่าอะไร ขู่เขาหรือ
“หัวหน้าหมู่บ้าน มิใช่ว่าท่านแก่จนเลอะเลือนไปแล้วกระมัง ข้าบอกแล้วว่าขอเพียงแม่นางฮั่วออกมาเจอกัน เรื่องเงินนี่ก็จะเจรจากันได้” คุณชายรองเซว์กล่าว
“ข้าก็พูดชัดเจนมากพอแล้วเช่นกัน พู่หยกนี้มิใช่เด็กของหมู่บ้านพวกเราทำเสียหาย หากท่านคิดจะดึงดันพาตัวคนไป เช่นนั้นพวกข้าก็ไม่กลัวเช่นกัน หากคุณชายบาดเจ็บ เช่นนั้นก็ขออภัยด้วย! แต่ต่อให้ฟ้องร้องถึงที่ว่าการอำเภอ พวกเราคนของหมู่บ้านซิ่งฮวาก็ไม่กลัวเช่นกัน!”
“อีกทั้ง ท่านกล่าวว่าพู่หยกนี้เขาเป็นคนทำเสียหาย มีพยานหรือ ลำพังคำบอกกล่าวของลูกน้องท่านไม่กี่คน คงไม่เพียงพอให้น่าเชื่อถือได้!” หัวหน้าหมู่บ้านซ่งกล่าว
ขณะนี้คุณชายรองเซว์โกรธจัดจนเก็บอาการไม่อยู่เล็กน้อย
ยามที่อยู่เมืองหลวง ดวงหน้าของเขานี้ก็คือใบเบิกทาง
ไม่ว่าไปถึงที่ไหน ไม่ว่าร้องขอความต้องการอันใด ไม่เคยมีคนโต้แย้งมาก่อน
แต่หลังจากมาเยือนอำเภอหลี่แห่งนี้ ไม่นึกเลยว่าจะถูกขัดขวางครั้งแล้วครั้งเล่า นายอำเภอไม่ไว้หน้าเขาก็ไม่เท่าไร แต่แม้ขุนนางชั้นผู้น้อยคนหนึ่งในชนบทยังกำแหงใส่เขาอีกหรือ!
คุณชายรองเซว์ไม่พอใจอย่างยิ่ง
เขายกมือหนึ่งขึ้นเป็นสัญญาณ จากนั้นองครักษ์ด้านหลังก็ชักดาบทอแสงแวววับออกมา
บรรดาชาวบ้านเงยหน้ามอง แม้จะเกรงกลัวอยู่บ้าง แต่ขณะเดียวกันก็โกรธเกรี้ยวอย่างยิ่ง
ในหมู่บ้านมีกบเขียวตัวน้อยที่คอยทำหน้าที่ส่งข่าวอยู่สองตัว ตั้งแต่ตอนแรกที่มีคนแปลกหน้ามาในหมู่บ้านก็ไปส่งข่าวที่หมู่บ้านของซ่งอิงนั่นแล้ว ดังนั้นในเวลานี้เอง ปีศาจกบก็ปรากฏตัวออกมา
“คุณชายท่านนี้อยากเจอเถ้าแก่เหนียงตระกูลข้าหรือ เช่นนั้นไปนั่งคอยในบ้านจะดีกว่ากระมัง” ปีศาจกบเขียวเอ่ยปาก
เถ้าแก่เหนียงเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากมีคนมาก่อความวุ่นวายให้พวกชาวบ้านก็ประวิงเวลาไว้ก่อนรอจนกว่านางจะมาถึง
“ในที่สุดก็มีคนที่ฟังภาษาคนเข้าใจได้เสียที” คุณชายรองเซว์ยิ้มเล็กน้อย
“ชิงเหลียน จะเป็นปัญหาเอาได้หรือไม่” หัวหน้าหมู่บ้านซ่งมุ่นคิ้วเล็กน้อยด้วยความกังวลใจ
ปัญหามากนักก็ใช้กำลังขับไล่คนพวกนี้ออกไปเสีย
“ไม่หรอกขอรับ มีเรื่องอันใดเดี๋ยวเถ้าแก่เหนียงมาจัดการได้ ท่านไม่ต้องกังวลใจขอรับ” ชิงเหลียนยิ้มเล็กน้อย
พูดจบ เขาก็ผายมือข้างหนึ่งเป็นการเชื้อเชิญ พาคนเหล่านี้ไปบ้านของซ่งอิง