ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 657 มีความเกี่ยวข้องอันใด ตอนที่ 658 บังอาจยิ่งนัก
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 657 มีความเกี่ยวข้องอันใด ตอนที่ 658 บังอาจยิ่งนัก
ตอนที่ 657 มีความเกี่ยวข้องอันใด / ตอนที่ 658 บังอาจยิ่งนัก
ตอนที่ 657 มีความเกี่ยวข้องอันใด
ในตอนนี้เหยียนผิงโหวมิใช่ว่าไม่เห็นใจบุตรชายที่ถูกทำร้ายร่างกาย แต่ที่มากไปกว่านั้นคือความรู้สึกโมโหที่เขาไม่รู้จักยับยั้งมากพอ
“ท่านโหว ตอนนี้ปิ่งเอ๋อร์ได้รับบาดเจ็บก็รู้สึกแย่เป็นทุนเดิมแล้ว ท่านพูดอะไรเหล่านี้กับเขาไปทำไมเจ้าคะ…อีกอย่าง เดิมทีก็เป็นเซว์เส้าชุนผู้นั้นทำไม่ถูก เป็นคนเอาแน่เอานอนไม่ได้เกินไปหน่อย…” หลานซื่อไม่พอใจ เอ่ยด้วยความทุกข์ใจ
เหยียนผิงโหวคลึงหว่างคิ้ว “ตอนนี้เจ้าก็สมควรคิดดูเช่นกันว่าหลังจากนี้ตัวเองจะทำอย่างไร! องค์หญิงหลิงอวี๋ผู้นั้นแม้ว่าไม่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ แต่จะร้ายจะดีก็เป็นถึงองค์หญิงคนโต หากนางไม่ประสงค์คบหาสมาคมกับเจ้า ภายภาคหน้าชีวิตเจ้าจะดำเนินไปได้ด้วยดีอีกหรือ!”
หลานซื่อสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
นางอดนึกถึงหลายปีก่อนในยามที่สองตระกูลเพิ่งไม่ลงรอยกันขึ้นมาไม่ได้
องค์หญิงหลิงอวี๋นิสัยเกรี้ยวกราด ไม่ว่าอยู่ที่แห่งใด ตราบใดที่ไม่พอใจก็จะชักสีหน้าและพูดจาไม่น่าฟังทันที ชีวิตแต่ละวันเหล่านั้นนางเผชิญมามากพอแล้วจริงๆ ถึงขั้นไม่อยากออกจากบ้านเลยทีเดียว!
สถานการณ์อย่างเช่นตอนนั้นดำเนินไปกระทั่งเซว์เส้าชุนหายบาดเจ็บจึงได้สิ้นสุดลง!
หรือว่าตอนนี้…ต้องวนกลับมาอีกรอบ
“เช่นนั้น…เช่นนั้นข้าหาคนไปสืบถามดูดีหรือไม่ จะอย่างไรก็ต้องรู้สาเหตุเสียก่อนจึงจะได้เรื่อง…” หลานซื่อลนลานเล็กน้อยเช่นกัน
“อืม” เหยียนผิงโหวพยักหน้าเห็นด้วย
“ท่านว่า…เพราะจวบจนบัดนี้ เซว์เส้าชุนผู้นั้นยังไร้ทายาท ดังนั้นจึงแคลงใจ คิดว่าสาเหตุมาที่พวกเราหรือไม่” หลานซื่อกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ตอนนั้นเด็กจากสองตระกูลล้วนได้รับบาดเจ็บ บุตรชายของตระกูลนางขาหัก แต่ดีที่อายุยังน้อย อีกทั้งเชิญหมอผู้มีชื่อเสียงมารักษา ดูแลรักษาอยู่ครึ่งปีก็หายดีแล้ว
ตระกูลเซว์นั่นบาดเจ็บช่วงเอว รักษาตัวอยู่ชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นไม่นานก็หายดี
เพียงแต่ปัจจุบันไม่ว่าลูกชาย ลูกสาวและลูกที่เกิดจากอนุภรรยาเขาล้วนมีทายาทหมดแล้ว แต่เซว์เส้าชุนผู้นั้นกลับยังไม่มีทายาท อย่าว่าแต่บุตรที่เกิดจากภรรยาโดยชอบธรรมดาเลย แม้แต่บุตรชายบุตรสาวที่เกิดจากอนุภรรยาสักคนก็ยังไม่มี
ได้ยินดังกล่าว เหยียนผิงโหวก็มีสีหน้าสงสัยหนักขึ้น
หากเป็นสาเหตุอื่นยังค่อยคุยกันได้หน่อย แต่หากเป็นสาเหตุของเรื่องทายาท…นี่จะทำอย่างไรดีเล่าเขาจะช่วยให้กำเนิดบุตรแก่เซว์เส้าชุนก็ไม่ได้ด้วยสิ!
“หวังว่าจะไม่ใช่ มิเช่นนั้นก็เลิกคิดไปได้เลยว่าความสัมพันธ์ของเราสองตระกูลจะดีขึ้น!” เหยียนผิงโหวถอนหายใจเฮือกใหญ่
“จริงสิ ท่านโหว ฮวนเอ๋อร์…ทางด้านนั้น เชิญหมอผู้มีชื่อเสียงมาตรวจอาการนางดูแล้วใช่หรือไม่” หลานซื่อกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“เรื่องเล็กแค่นี้ไม่ถึงขั้นต้องบอกข้า!” เหยียนผิงโหวสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป
หลานซื่อนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง
แต่นางก็ไม่ได้เสียใจ รีบหาคนไปสืบถามทางด้านจวนกั๋วกงทันที
แต่ละตระกูลล้วนมีข้ารับใช้ ซึ่งระหว่างข้ารับใช้กับข้ารับใช้ก็มีการติดต่อกันอยู่บ้าง อยากจะสืบถามข่าวคราวจึงไม่ใช่เรื่องยาก
หลังผ่านไปสองสามวันก็มีคนมารายงานอย่างที่คาดคิดไว้
“ถามชัดเจนแล้วหรือ สรุปแล้วเป็นสาเหตุใดกันแน่” หลานซื่อกังวลใจยิ่ง
“ได้ยินเสี่ยวลวี่ที่อยู่ข้างกายคุณชายรองตระกูลเซว์กล่าวว่าเพียงว่า ช่วงก่อนหน้านี้คุณชายรองผู้นั้นไปเมืองยงมาครั้งหนึ่ง แต่ไม่รู้เหตุใดจึงรีบร้อนกลับมา มิหนำซ้ำยังดูตื่นตระหนกอย่างยิ่ง หลังจากกลับมาก็นอนป่วยลุกไม่ขึ้น ในบ้านวุ่นวายเสียยิ่งกว่าอะไรดี และก็เป็นตอนนั้นที่องค์หญิงหลิงอวี๋พลันเดือดดาลขึ้นมาเจ้าค่ะ…” ข้ารับใช้เอ่ยพูด
หลานซื่อขมวดคิ้วนิ่วหน้าด้วยความสงสัยเล็กน้อย
เมืองยง?
คุณชายรองเซว์ผู้นั้นได้รับความไม่เป็นธรรมที่เมืองยงมา แล้วนั่นเกี่ยวข้องอันใดกับตระกูลนางด้วยหรือ
ที่เมืองยงแห่งนั้น ตระกูลนางก็ไม่มี…
“เมืองยง?! เจ้ามั่นใจหรือว่าเป็นทางด้านนั้น” หลานซื่อพลันลุกขึ้นมากะทันหัน จากนั้นก็รู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้
แถบเมืองยง หนึ่งเดียวที่มีความสัมพันธ์กับทางด้านจวนโหวก็คือ เป็นบ้านเกิดเมืองนอนบรรพบุรุษตระกูลซ่ง ตลอดจน…บุตรสาวคนโตของนาง
นางแต่งเข้าจวนโหวเมื่ออายุสิบเจ็ดปี ในปีที่สองก็ให้กำเนิดถางปิ่ง ปีที่สี่ตั้งครรภ์อีกครั้งแต่กลับสูญเสียไปจากการคลอดก่อนกำหนดและเป็นการทำร้ายร่างกายไปไม่น้อย ตอนที่อายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด นางเพิ่งมีบุตรคนที่สอง เดิมก็ไม่ได้คาดหวังอันใด แต่ใครจะรู้ว่าครั้นคลอดออกมากลับมีหกนิ้ว
เพิ่งคลอดลูกสาวคนนั้นเสร็จ บุตรชายคนโตก็ตกจากหลังม้า หากลูกสาวคนนั้นไม่ใช่ตัวกาลกิณี เช่นนั้นจะเป็นใครเล่า
เพราะกังวลใจว่าคนอื่นจะถามถึงเรื่องลูกสาวอยู่เรื่อย นางจึงให้ฮวนเอ๋อร์อยู่ข้างกาย มาเป็นบุตรสาวที่นางให้กำเนิดมา หากไม่ใช่เพราะเด็กคนนั้นไม่เอาไหน นางมีหรือจะเลี้ยงดูลูกคนอื่นเพื่อสร้างภาพให้ตัวเองสมบูรณ์แบบ!
ตอนที่ 658 บังอาจยิ่งนัก
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ ในใจหลานซื่อก็รู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง
แม้ว่าต่อจากนั้นนางจะให้กำเนิดบุตรอีกสองคนต่อเนื่อง แต่นางยังคงจดจำความรู้สึกรังเกียจของท่านหญิงชราและท่านโหวตอนที่นางคลอดเด็กหญิงคนนั้นออกมาได้ดี ในตอนนั้น เหมือนกับว่านางและเด็กคนนั้นต่างก็เป็นตัวกาลกิณี!
“ไม่น่า…” หลานซื่อเม้มปาก “ไปสืบถามดูอีกที หากสืบหาสาเหตุแท้จริงมาได้ จะมีรางวัลให้อย่างงาม!”
แม้ว่าเด็กสาวคนนั้นยังมีชีวิตอยู่ แต่ใบหน้าเสียโฉมแล้ว มิหนำซ้ำยังดำรงชีวิตอยู่ในครอบครัวชาวไร่ชาวนา ไม่มีทางทำให้บุตรชายคนรองตระกูลเซว์เป็นเช่นนี้ได้อย่างแน่นอน
น่าจะเป็นสาเหตุอื่น
เพราะตอนนี้ยังไม่ทราบกระจ่างชัด ดังนั้นนางก็ไม่รีบร้อนบอกกล่าวท่านโหว
มีเงินเป็นแรงผลักดัน คนที่อยู่ใต้คำสั่งจึงจัดการเรื่องราวได้อย่างฉับไว ไม่ถึงสองวัน หลานซื่อก็ได้รับข่าวคราวทั้งหมด
“เสี่ยวลวี่เอาเงินจำนวนหนึ่งให้สาวใช้ข้างกายองค์หญิง จึงสืบถามได้ความเจ้าค่ะ กล่าวว่า…ตอนที่คุณชายรองเซว์ไปเมืองยง ได้เจอเข้ากับคนของจวนเราแล้วถูกคนของเราแย่งเอาเงินไป มิหนำซ้ำยังจับขังไว้หลายวัน และกล่าวอีกว่าโชคดีที่…คุณ…คุณหนูใหญ่ช่วยไว้ จึงหนีออกมาได้เจ้าค่ะ…” แม่นมเอ่ยปากบอก
หลานซื่อตกตะลึง “คุณหนูใหญ่ไหน”
“ก็…คนผู้นั้นที่เคยหมั้นหมายกับท่านอ๋องเจ้าค่ะ…” แม่นมกล่าวขึ้นอีกครั้ง
“นาง?!” คราวนี้หลานซื่อหัวใจเต้นแรงยิ่ง
หลานซื่อเดินไปเดินมาอยู่ที่เดิม “สอบถามได้ความมาผิดพลาดแล้วหรือไม่ ข้ากับท่านโหวส่งคนไปเมืองยงเมืองใดกันเล่า!”
“ไม่ผิดแน่เจ้าค่ะ ข้อมูลนั้น คนฝีมือดีข้างกายองค์หญิงเป็นผู้บอกกล่าว ตอนที่คุณชายรองเซว์เอาเรื่องราวมาฟ้อง นางก็อยู่ข้างๆ ด้วย ดังนั้นได้ยินทุกถ้อยคำไม่ตกหล่น มิหนำซ้ำยังกล่าวอีกว่า…ท่านและท่านโหวของพวกเรา…”
“พูดอะไรถึงข้า” หลานซื่อตระหนกตกใจ
“กล่าวว่าจวนเราแสร้งทำเป็นสร้างภาพ ทั้งที่คุณหนูใหญ่มีชีวิตกลับบอกกล่าวผู้อื่นว่านางตายแล้ว และเพื่อไม่ให้คุณหนูใหญ่ทำให้จวนโหวเดือดร้อนไปด้วยจึงส่งคนไปจับตาดูคุณหนูใหญ่อย่างเข้มงวด คุณหนูผู้ส่งศักดิ์ดีๆ คนหนึ่ง กลายเป็นนักโทษหญิงก็ไม่ปาน…”
“บังอาจ!” เมื่อถ้อยคำนั้นสิ้นสุดลง หลานซื่อก็ฟาดมือตบลงบนโต๊ะอย่างแรงและหอบหายใจไม่เป็นจังหวะ
จอกน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะแรงสั่นสะเทือนกระเด้งลอยขึ้นเล็กน้อย
“พูดจาเหลวไหลชัดๆ ข้าขังตัวนางตั้งแต่เมื่อใดกัน!” หลานซื่อโกรธจัดจริงจัง “รีบเรียกท่านโหวมา!”
เด็กสาวคนนั้น เด็กสาวคนนั้นช่างบังอาจยิ่งนัก!
ถ้อยคำประเภทนี้ นอกจากตัวเด็กสาวคนนั้นพูดเอง คนอื่นไม่อาจพูดแพร่งพรายออกมาได้แน่!
ประเมินนางต่ำไปแล้วจริงๆ สินะ เดิมทีนึกว่าทำร้ายจนกลายเป็นสภาพนั้นแล้ว ส่งกลับไปสู่ครอบครัวชาวชนบทก็ไม่แน่ว่าจะดูแลให้รอดตายได้ อย่างไรเสียหากบาดแผลนั่นติดเชื้อเน่าเปื่อย ไม่แน่ด้วยซ้ำว่าคนผู้นี้จะมีชีวิตรอด!
ใครจะรู้ว่าเด็กสาวผู้นั้นไม่เพียงแต่รอดชีวิต มิหนำซ้ำยังแต่งเรื่องตามหลังขึ้นมาอีกด้วย!
ยามที่เหยียนผิงโหวมาถึง หลานซื่อก็นำเรื่องนี้บอกเล่าอีกรอบอย่างละเอียดยิบ
เหยียนผิงโหวได้ยินแล้วถึงกับประหลาดใจเล็กน้อย
“เข้าใจอะไรผิดแล้วหรือไม่” เขาขมวดคิ้ว
“ข้าเองก็อยากให้เป็นความเข้าใจผิดเช่นกัน แต่นั่นเป็นถึงคำพูดของสาวใช้ฝีมือดีที่คอยปรนนิบัติข้างกาย ย่อมไม่ใช่เรื่องโกหกแน่เจ้าค่ะ อีกอย่าง ทางด้านเมืองยงนั่นตระกูลเราก็มีญาติแค่ครอบครัวนั้น หากมิใช่นางแล้วจะเป็นใครได้อีก เพียงแต่ข้ากลับคิดไม่ถึงเลยว่านางจะหลอกเซว์เอ้อร์ได้แยบยลเพียงนี้!” หลานซื่อโมโหจนแทบจะฉีกผ้าเช็ดหน้า
จริงอยู่ที่นั่นเป็นบุตรสาวนาง แต่อย่างไรก็เป็นเด็กคนหนึ่งที่ทำให้นางขายหน้าด้วย
คลอดออกมาก็เป็นเช่นนี้ ตอนนั้นหลังพากลับมาก็เป็นเช่นนี้!
“เอาแบบนี้แล้วกัน ส่งคนไปถามดู ก็ถือเสียว่า…” ท่านโหวขบคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ข้าจำได้ว่าทางด้านนั้นยังมีหลุมศพของบรรพบุรุษเก่าแก่อยู่ด้วยกระมัง ตอนที่ท่านพ่อยังมีชีวิตอยู่ก็ยังเคยส่งคนไปปรับปรุงหลุมศพมาก่อน ข้าเองกลับลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท เช่นนี้ก็ส่งคนไปดูหน่อยแล้วกัน”
“เช่นนั้นหากเป็นนางจริงเล่าเจ้าคะ” หลานซื่อกล่าว
เหยียนผิงโหวลังเลเล็กน้อยเช่นกัน
ตอนที่คลอดออกมาก็อยากจะจับนางกดน้ำตาย ใครจะรู้ว่ามารดาเขากลับฝันถึงพระโพธิสัตว์ นี่จึงได้เอาตัวคนส่งออกไป ครั้งที่สองก็เป็นความโชคดีของนาง ท่านหญิงชราร่างกายไม่แข็งแรง เกรงกลัวว่าจะมาเจอเข้าจึงได้ไม่ลงมือกำจัดในจวน
ตอนนั้นดูเหมือนเป็นการละเว้นหนึ่งชีวิต แต่ในความเป็นจริงตอนที่นางจากไป เด็กคนนั้นไข้ขึ้นสูง มองดูอย่างไรก็ไม่น่ามีชีวิตรอดได้…