ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 661 ล้อมเอาไว้ ตอนที่ 662 ฟังไม่เข้าใจภาษาคน
ตอนที่ 661 ล้อมเอาไว้ / ตอนที่ 662 ฟังไม่เข้าใจภาษาคน
ตอนที่ 661 ล้อมเอาไว้
ซ่งถังหังนิ่งอึ้งไปเล็กน้อยหลังได้ยินคำพูดของซ่งซินหัว จากนั้นยกมือปิดปากแล้วส่งเสียงไอสองสามครั้ง
“แต่…เรื่องนี้สำคัญมาก” ซ่งถังหังกล่าว “ดูเหมือนเหล่าคนที่ท่านพ่อส่งออกมาฝีมือค่อนข้างยอดเยี่ยมทั้งนั้น ข้าคิดว่า…อาจเป็นการไปทำไม่ดีต่อพี่สาวคนโตของเรานะขอรับ”
“นั่นเกี่ยวอะไรกับพวกเราด้วย” ซ่งซินหัวสบถฮึ
“ข้าได้ยินว่า…พี่สาวคนโตน่าสงสาร” ซ่งถังหังกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ซ่งซินหัวได้ยินถ้อยคำนี้ ราวกับได้ยินเรื่องตลกที่น่าสนใจเป็นพิเศษ “น้องพี่ เจ้าแสร้งเป็นคนดีอะไรอีก เจ้ารู้สึกว่านางน่าสงสารหรือ ตอนนั้นยามที่นางมา ข้าไม่เคยเห็นเจ้าร้องขอความเห็นใจแทนนางเลยนี่”
สีหน้าซ่งถังหังนิ่งอึ้งไป มองดูอ่อนแอเล็กน้อย “ดังนั้น…พี่ห้า ท่านไม่อยากจะถามถึงสาเหตุในเรื่องราวนี้ให้กระจ่างหรือ”
“เหอะ” ซ่งซินหัวยิ้มเล็กน้อย
นางเงยหน้ามองเขาอย่างสัพยอก “น้องชาย ตามจริงเจ้าไม่ได้แยแสด้วยซ้ำว่าคนเหล่านั้นจะไปฆ่าพี่สาวคนโตเราใช่หรือไม่ แต่เจ้าแค่อยากรู้ว่าพี่สาวเรามีวิธีการอันใดทำให้ท่านพ่อท่านแม่โกรธเกรี้ยว และถึงขั้นทำให้พี่ใหญ่ถูกเซว์ซื่อจื่อสั่งสอนได้สั่งสอนสินะ
จุ๊ๆๆ คนอื่นต่างก็คิดว่าเจ้าเหมือนแกะขนนุ่มนิ่มตัวหนึ่งที่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ แต่ดูเหมือนคนอื่นล้วนสายตาไม่ดีกันทั้งนั้นเสียแล้ว” ซ่งซินหัวแสยะยิ้ม
นี่ก็คือบิดามารดาและพี่ชายน้องชายของนาง
ช่างน่าขันสิ้นดี
“จะร้ายจะดีนั่นก็เป็นพี่สาวร่วมครรภ์มารดาเดียวกับพวกเรา ข้าห่วงใยนางบ้างก็เป็นเรื่องปกติ พี่ห้า ท่านควรใจกว้างหน่อย หากถึงที่นั่นแล้วก็อย่าได้ไม่ลงรอยกับพี่สาวคนโตเลยนะขอรับ อย่างไรเสีย…นางก็ค่อนข้างน่าเวทนาไม่น้อย” ซ่งถังหังกล่าว
เมื่อพูดจบ เขาก็ส่งเสียงไอหนักหน่วงขึ้นอีกสองครั้ง
เขาเพียงแค่อยากรู้ว่าลูกคนหนึ่งที่ถูกทอดทิ้งไปแล้ว ทำอย่างไรจึงดึงดูดความสนใจของบิดามารดาได้
“ดูแลตัวเจ้าเองให้ดีเถอะ ด้วยสภาพร่างกายของเจ้านี้มีสิทธิ์เห็นใจคนอื่นเขาด้วยหรือ” ซ่งซินหัวเหน็บแนม
แววตาซ่งถังหังชะงักงันไป จากนั้นจึงกำหมัดหลวมๆ
ร่างกายของเขา…
แม้ว่าเขายังเป็นเด็ก แต่ก็รู้เช่นกันว่าร่างกายของตนเองนี้ย่ำแย่ได้อย่างไร
จะเป็นอันใดไปได้นอกเสียจาก…ขัดตาพี่ชายคนโตเข้าแล้วก็เท่านั้นเอง และมารดาก็ปล่อยไปเลยตามเลย
ตัวเขาในฐานะบุตรชายคนรองและเป็นเด็กเล็กที่สุดในจวน ไม่มีชะตาชีวิตไปต่อสู้แย่งชิง แต่กลับเกิดในตำแหน่งของบุตรชายที่เกิดจากภรรยาหลวง จึงสมควรเป็นฝ่ายถูกให้เสียสละ
เขาคิดไปต่างๆ นานา
…
ในเวลานี้ ซ่งอิงไม่รู้เลยว่าน้องชายน้องสาวแท้ๆ ของนางกำลังเดินทางมุ่งหน้ามาทางนี้
ตอนนี้ซ่งเหล่าเกินกำกับดูแลนางอย่างเข้มงวดมาก เกรงกลัวว่านางจะแอบไปหาหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อขอใบนำทาง ดังนั้นไม่ว่านางจะไปไหนล้วนพยายามตามติดไปด้วย
ขอเพียงซ่งอิงเป็นแม่นางที่ค่อนข้างเชื่อฟังกันบ้าง ซ่งเหล่าเกินก็จะไม่กังวลใจถึงขั้นนี้
ในตอนนี้ ซ่งเหล่าเกินตามนางมาถึงหมู่บ้านไร่สวน
เมื่อมองเห็นสภาพความเป็นอยู่ในหมู่บ้าน ใบหน้าชราของซ่งเหล่าเกินก็ แดงก่ำด้วยความตื่นเต้น
อากาศหนาวเย็นเพียงนี้ ในหมู่บ้านซ่งอิงแห่งนี้ขึงเชือกหนาเอาไว้เส้นหนึ่ง บนนั้นแขวนเนื้อไก่ เป็ด ห่าน ตลอดจนเนื้อกวางและเนื้อหมูที่ตากลมเอาไว้ให้แห้ง ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีห้องฟืนขนาดใหญ่ที่กินพื้นที่สองหมู่อยู่ด้วย ในนั้นเต็มไปด้วยไม้ฟืนที่ยังไม่ได้เผาเรียงไว้เป็นระเบียบ!
หมายความว่า ครอบครัวชาวบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ ไม่ต้องกังวลว่าฤดูหนาวนี้จะเผชิญความหนาวเหน็บ
“เจ้าเด็กคนนี้ตาแหลมดีนี่ คนเหล่านี้ที่ซื้อมาไม่เลวเลยจริงๆ” ผู้เฒ่าซ่งอิจฉาอย่างยิ่ง
คนเหล่านี้ มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นคนที่ทำงานเป็น!
ท่อนไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ในมือคนเหล่านั้นเป็นเหมือนเป็นหญ้าแห้งกำหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น พวกเขาผ่ามันออกอย่างง่ายดาย
“หากท่านยินดีก็มาพักอยู่ที่นี่ได้ทุกเมื่อเจ้าค่ะ ที่นี่ค่อนข้างสบาย” ซ่งอิงคุยโว
เพิ่งพูดจบ ซ่งอิงก็เห็นเสือตัวหนึ่งพุ่งเข้ามาจากที่ไม่ไกล
“เสือ?!” ซ่งเหล่าเกินหน้าเปลี่ยนสี “เจ้าระ…รีบหนีเร็วเข้า! ”
นี่ไม่ใช่ย่อยเลย กลางวันแสกๆ ไม่นึกว่าจะมีเสือลงมาจากเขา!
ซ่งอิงกลับตาลุกวาว
เสือนี่ของดีเลย ใช้งานได้เยี่ยมเป็นพิเศษ แม่เสือตัวนั้นที่คอยติดตามข้างกายนางก็ฝีมือยอดเยี่ยมสุดๆ เก่งกาจอย่างยิ่ง หากได้มาอีกสักตัว ข้างกายนางก็เหมือนเสือติดปีก!
ซ่งเหล่าเกินมองเห็นเพียงซ่งอิงวิ่งทะยานออกไปด้วยความดีใจ จากนั้นส่งเสียงตะโกนลั่น “ไปไหนกันหมด! มาล้อมจับมันเอาไว้ให้ข้าเร็วเข้า!”
“…” ซ่งเหล่าเกิน
ตอนที่ 662 ฟังไม่เข้าใจภาษาคน
ซ่งเหล่าเกินมองดูซ่งอิงที่วิ่งไปทางเสือตัวใหญ่นั่นด้วยความดีอกดีใจ เขาถึงกับตระหนกตกใจจนขาอ่อนแรง
ใบหน้าชราของเขาสั่นเทาเล็กน้อย จากนั้นตะเบ็งเสียง “เอ้อร์ยา! เจ้าวิ่งไปทางนั้นทำไม!”
เด็กสาวคนนี้วิ่งเร็วมาก เขาผู้แก่เฒ่าปูนนี้ย่อมวิ่งไม่ทันเป็นธรรมดา ไม่เพียงเท่านี้ ไม่เพียงแค่นางที่วิ่งไปผิดทิศทางแล้ว แต่กลับมองเห็นคนมากมายปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหัน คนเหล่านั้นล้วนแต่งแต้มความตื่นเต้นเอาไว้บนใบหน้า คล้ายกับมองเห็นทองคำก็ไม่ปาน!
ชั่วขณะนั้น ซ่งเหล่าเกินทั้งลนลานทั้งร้อนใจ
คนเหล่านี้ที่อยู่ในหมู่บ้านของเอ้อร์ยาล้วนเป็นบ้าอะไรไปแล้ว! นั่นเป็นเสือตัวใหญ่เชียวนะ! ไม่ใช่กวางตัวหนึ่ง และไม่ใช่เก้งป่าด้วย! หากถูกเสือตัวใหญ่นั่นตะครุบเข้าให้ คนไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บแน่ เห็นคนเหล่านี้ยิ่งวิ่งยิ่งเข้าไปใกล้ ผู้เฒ่าร้อนรนใจดุจเพลิงลุกโหม ทว่าเท้าคู่นี้ไม่เอาไหนเสียเลย ไม้เท้าที่อยู่ในมือก็สั่นเล็กน้อย เขากำลังเร่งมุ่งตามไปทางด้านนั้นเช่นกัน แต่แล้วกลับเห็นซ่งอิงหันหน้ามาแล้วกล่าวเสียงตะโกน “สองคนไปดูแลผู้เฒ่าซ่งเอาไว้ อายุปูนนี้แล้วยังจะวิ่งอะไรอีก!”
ซ่งอิงกลัวว่าผู้เฒ่าซ่งจะตื่นตกใจจนเป็นอะไรไปเช่นกัน
ครั้นนางพูดออกมาก็มีสองคนหันกลับมา แล้วเข้ามารั้งซ่งเหล่าเกินเอาไว้ทันที
ทั้งคู่เป็นแม่นางสาวน้อยสองคน มองดูฉลาดเฉลียวเป็นพิเศษ พูดจาก็อ่อนน้อม ดวงตาคู่นั้นออกแดงเรื่อเล็กน้อย มองดูน่าสงสารจับใจ
“ท่านปู่เดินไปเถอะเจ้าค่ะ เถ้าแก่เหนียงไม่ให้ท่านวิ่งเจ้าค่ะ” แม่นางสาวน้อยกล่าว
ซ่งเหล่าเกินรู้สึกเพียงปวดหัว “รั้งข้าไว้ทำไม! ไปรั้งเอ้อร์ยาสิ! นั่นเป็นเสือตัวใหญ่เชียวนะ!”
“ท่านวางใจได้เจ้าค่ะ เถ้าแก่เหนียงต้องจับเสือตัวใหญ่มากได้แน่ จะไม่ปล่อยให้เสือตัวนั้นหนีรอดไปได้โดยเด็ดขาดเจ้าค่ะ!” ปีศาจกระต่ายอีกตัวเอ่ยพูดอย่างจริงจัง
“…” ซ่งเหล่าเกินรู้สึกจุกจนพูดไม่ออกเล็กน้อย
นี่ใช่คำพูดคนหรือ!
เผชิญหน้ากับเสือตัวใหญ่หนึ่งตัว ไม่นึกเลยว่าต้องการจับมันให้ได้ด้วย! เด็กๆ เหล่านี้ไม่รู้ความเอาเสียเลย!
“จับไม่ได้! ให้นางกลับมา! กลับมาเร็วเข้าสิ!” ผู้เฒ่าซ่งร้อนรนใจจนหายใจหอบ
“ทำไมต้องกลับมาเล่าเจ้าคะ เถ้าแก่เหนียงชอบเสือ ท่านวางใจเถิดเจ้าค่ะ เถ้าแก่เหนียงไม่เป็นอะไรไปหรอกเจ้าค่ะ” กระต่ายน้อยกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ผู้เฒ่าซ่งรู้สึกจนคำพูดกับคนเหล่านี้แล้ว พวกนางฟังภาษาคนไม่เข้าใจ!
ตอนที่ผู้เฒ่าซ่งกำลังร้อนใจ ซ่งอิงก็ส่งเสียงเรียกลูกน้อง จากนั้นห้อมล้อมเสือตัวใหญ่เอาไว้
หลังจากซ่งอิงกลับมาจากตัวอำเภอ ปีศาจแม่เสือตัวนั้นก็ตามกลับมาด้วยเช่นกัน ตอนนี้กำลังยืนน่าเกรงขามอยู่ข้างนาง นอกจากนั้นในตอนนี้ยังมีทั้งจูต้าจ้วงรวมไปถึงลูกหมาป่าน้อยอยู่ด้วย
ตอนนี้เสือตัวนั้นงุนงงเล็กน้อยเช่นกัน
โดยทั่วไป ยามที่ลงจากเขา ผู้คนที่อยู่ข้างล่างต่างก็น่าจะวิ่งหนีจึงจะถูก แต่ตอนนี้…
เสือตัวดังกล่าวตั้งท่าโจมตี ส่งเสียงขำรามขู่
ในวินาทีถัดมา ซ่งเหล่าเกินก็เห็นเพียงจูต้าจ้วงพร้อมพวกกรูเข้าไป
ซ่งเหล่าเกินตระหนกตกใจ รู้สึกเพียง…แย่แล้ว!
อย่างไรก็ตาม ในวินาทีถัดมา…
ผู้เฒ่าเห็นเพียงคนเหล่านี้จับตัวเสือกดลงกับพื้น คนที่เหลือพากันเดินเข้าไปสมทบ เรียกได้ว่าแทบจะไม่เปลืองแรงเลยสักนิดก็จับตัวเสือเอาไว้ได้แล้ว!
“…” ซ่งเหล่าเกินคลึงดวงตาที่พร่ามัวทั้งสองข้าง รู้สึกว่าอาจเพราะตนอายุมากแล้ว จึงมองพลาดไป
เมื่อมองดูใหม่อีกรอบ ผลปรากฎว่ายังคงเป็นลักษณะเดิม!
ไม่มีแม้แต่การต่อสู้ด้วยซ้ำ เสือตัวนั้นก็ถูกจับเอาไว้อย่างง่ายดาย!
หรือว่าเสือตัวนี้ดื่มอะไรมาแล้วเมาก่อนลงเขา?!
“เอาไปเลี้ยงไว้ หู่อิ๋งอิ๋ง เจ้าคอยเฝ้าดูมันไว้ เป็นพวกเดียวกันน่าจะพอคุยกันได้ จำไว้ด้วยว่าต้องพูดคุยกับมันดีๆ เป็นสัตว์ที่ไม่รู้ประสีประสาอะไรจะมีประโยชน์อันใด นี่เป็นถึงสัตว์ป่าดุร้าย ต้องมีสมองจึงจะอยู่รอดต่อไปได้อย่างยาวนาน!” ซ่งอิงกล่าว
เมื่อพูดจบก็โบกมือเป็นสัญญาณให้คนหิ้วตัวเสือไป
ซ่งเหล่าเกินใจสั่นระรัว
เขาทุบแข้งขา จากนั้นเพื่อศักดิ์ศรีหน้าตาจึงไม่ได้เป็นลมหงายหลังไป แต่ในส่วนการรับรู้พังทลายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว