ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 665 ถลุงเงินมากมาย ตอนที่ 666 หลุมศพมากมาย
ตอนที่ 665 ถลุงเงินมากมาย / ตอนที่ 666 หลุมศพมากมาย
ตอนที่ 665 ถลุงเงินมากมาย
แทนที่จะกล่าวว่าเป็นหมู่บ้านไร่สวนแห่งหนึ่ง ไม่สู้กล่าวว่าซ่งอิงเหมาภูเขาที่กินอาณาเขตกว้างใหญ่เสียดีกว่า บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยป่ารกร้าง อยู่ชานเมืองทิศเหนือของเมืองยง มีถนนสายหลักเพียงเส้นเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ก็ไม่มีอะไรอื่น
ทั้งภูเขาลูกหนึ่งเป็นที่ดินรกร้างราวๆ สามพันกว่าหมู่ รอบทิศมีบ้านเรือนผู้คนอาศัยอยู่บางตา
นับแต่ราชวงศ์ก่อนเป็นต้นมา มีชาวต่างชาติเข้ามาค่อนข้างมาก ประชากรถือว่ามีมากพอตัว แต่เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ตลอดจนการแพทย์ยังล้าหลัง นอกจากนี้ยังคงมีสงครามสู้รบมาก ดังนั้นเมืองยงที่กว้างใหญ่ไพศาล มีอำเภอใหญ่หลายอำเภอโดยรอบ รวมๆ กันแล้วกลับมีประชากรเพียงหนึ่งล้านคนเท่านั้น ซึ่งหนึ่งล้านคนที่ว่านี้ล้วนอาศัยแบบเป็นกลุ่มก้อน ในพื้นที่รกร้างตามเขาประเภทนี้ล้วนไม่มีผู้คนอยู่อาศัย
หมู่บ้านแห่งนี้ ซ่งอิงหมดเงินไปหนึ่งหมื่นห้าพันกว่าตำลึงเงิน
ซื้อที่ดินมาเป็นที่เรียบร้อย ซ่งอิงก็เริ่มร่างแบบแผนขึ้นมาทันที
อันดับแรก บริเวณทางเข้าออกต้องสร้างให้มีเอกลักษณ์เฉพาะหน่อย ทางที่ดีที่สุดคือจ้างช่างแกะสลักหินมาสลักหินที่ดึงดูดสายตาผู้คนได้บ้าง
จากนั้นด้านในต้องแบ่งเป็นเขตเป็นหลายสัดส่วนหน่อย อย่างเช่น เขตสัตว์กินเนื้อ เขตสัตว์ที่มีเชาว์ปัญญา เขตสัตว์กินพืช เขตสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ รวมไปถึงเขตสัตว์ที่มีปฏิสัมพันธ์ได้ เขตชมสัตว์จำพวกนก เขตบริการทั่วไป ตลอดจนเขตฝ่ายงานอื่นๆ ที่อยู่เบื้องหลังเช่น งานธุรการ ทำความสะอาด ซ่อมบำรุงเป็นต้นและเขตผู้จัดการดูแล…
ตอนนี้ยังไม่พิจารณาในส่วนสัตว์น้ำเป็นการชั่วคราว
ซ่งอิงให้ภูตโสมสำรวจบริเวณโดยรอบจนทะลุปรุโปร่ง จากนั้นก็วาดแผนผังออกมา
ที่นี่แม้เป็นพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร แต่ป่าไม่ลึก ดังนั้นจึงไม่มีสัตว์ดุร้าย มีเพียงสัตว์ป่าทั่วไปจำพวกไก่ป่า กระต่ายป่า หรือพวกเก้งกวางอะไรทำนองนี้
เป้าหมายหลักของซ่งอิงยังคงเป็นการเลี้ยงปีศาจ ส่วนการสร้างรายได้เป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้นเอง
ดังนั้นทุกบริเวณในพื้นที่ผืนนี้ล้วนจำเป็นต้องควบคุมให้ดี และต้องคอยรดน้ำผ่านจิตลงไปด้วย
นอกจากนั้นยังต้องสร้างเรือน
ซ่งอิงป่าวประกาศออกไป เริ่มจากการจ้างคนงานระยะสั้น
วันละหนึ่งร้อยอีแปะ มีอาหารการกินและที่พักให้ จ่ายเงินค่าแรงให้ทุกเจ็ดวัน ครั้นข่าวคราวนี้แพร่งพรายออกไปก็มีคนจำนวนไม่น้อยแห่กันมา
ปัจจุบันคนตระกูลซ่งทุกคนล้วนมีรายได้ไม่น้อยถ้วนหน้า แต่ชาวบ้านธรรมดานอกตระกูลสถานการณ์ความเป็นอยู่ยังคงไม่ดีขนาดนั้น เงินค่าแรงหนึ่งร้อยอีแปะต่อวันที่ซ่งอิงเสนอจึงถือว่าเป็นค่าแรงที่สูงอย่างยิ่ง
นางไม่ต้องกังวลเรื่องคนงานเลยสักนิด
ตัวอาคารบ้านเรือนที่ว่านี้จำเป็นต้องสร้างออกมาหลายรูปแบบ เพราะการคมนาคมไม่ก้าวหน้า ลูกค้าของทางด้านเมืองยงนั่นยังพอมาแบบไปกลับได้ แต่หากเป็นผู้ที่มาจากสถานที่ค่อนข้างไกลก็จะทำเช่นนั้นไม่ได้ ทำได้เพียงเลือกเช่าที่พัก ตอนที่เช่าที่พักก็จำเป็นต้องแบ่งเรือนชายหญิงเป็นด้านซ้ายและด้านขวาอีกด้วย นอกจากนี้คนจากตระกูลผู้ร่ำรวยส่วนใหญ่เมื่อออกมาข้างนอกล้วนมีข้ารับใช้ติดสอยห้อยตาม ดังนั้นยังต้องสร้างลานบ้านเอาไว้ด้วยอีกหน่อย
ในสวนสัตว์แน่นอนว่ายังต้องทำพื้นที่การค้าขึ้นมาสักแห่ง ซึ่งเอาไว้สำหรับค้าขายของกินเล่นรวมไปถึงของใช้ที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
นางตัวคนเดียวไม่อาจเปิดร้านของกินเล่นได้มากมาย ดังนั้นในด้านนี้ก็ยังแบ่งพื้นที่ออกมาปล่อยเช่าแล้วชักชวนเหล่าผู้ค้ามาเปิดร้านได้
แค่ดูสัตว์ก็ไม่ได้เช่นกัน ทางที่ดีที่สุดต้องมีส่วนที่ให้ความบันเทิงสนุกสนานสักหน่อยด้วย
ในหมู่บ้านชานเมืองแห่งนี้มีแม่น้ำสามสี่สาย
นอกจากเอาไว้ให้สัตว์ใช้ ก็ยังเลือกออกมาสายหนึ่งแล้วล้อมรั้วไว้สำหรับให้คนตกปลาได้ด้วย นอกจากนี้ยังมีหุบเขาเล็กๆ ซึ่งในหุบเขามีทะเลสาบแห่งหนึ่ง น้ำในนั้นกระจ่างใสเป็นพิเศษ ทำเรือขึ้นมาสี่ห้าลำ เอามาใช้ล่องทะเลสาบก็ได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องคำนึงถึงปัญหาด้านความปลอดภัยให้ดีๆ
นี่เป็นงานชิ้นใหญ่ ดังนั้นซ่งอิงจึงยุ่งตัวเป็นเกลียวขึ้นมากะทันหัน
ผู้เฒ่ารู้ว่านางเพื่อทำ ‘บ้าน’ ให้เสือตัวหนึ่ง ดังนั้นตอนนี้ก็ไม่ว่ากล่าวที่นางไม่ดูแลลูกชาย นอกจากนั้นยังพร่ำปลูกฝังความคิดต่อหน้าเหลนหลินว่ามารดาเขาผู้นี้เหน็ดเหนื่อยและลำบากแสนเข็ญ
ผู้เฒ่าซ่งรู้สึกปลาบปลื้มใจอยู่บ้างเช่นกัน
หากไม่ใช่เพราะเขาอยากดูเสือตัวใหญ่นั่นให้มากๆ หน่อย เอ้อร์ยาก็คงไม่ต้องถลุงเงินมากมายขนาดนั้น
ตามจริงผู้เฒ่าซ่งก็หนักใจเล็กน้อยเช่นกัน
ส่วนคนตระกูลซ่งต่างก็รู้ว่าซ่งอิงมีเรื่องให้ยุ่งอย่างไม่จบไม่สิ้น ดังนั้นจึงไม่ได้ถามอะไรมากมายเกี่ยวกับประเด็นนี้ ถึงขั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางกำลังทำอะไรอยู่
หลังจากจ้างคนช่วยงานจำนวนมาก ก็ถือว่าสวนสัตว์มีความคืบหน้าไม่เลวเช่นกัน
เหล่ามนุษย์รับผิดชอบงานที่อยู่ในขอบเขตความสามารถของพวกเขา ส่วนปีศาจรับผิดชอบพวกงานจิปาถะ อย่างเช่น นับจำนวนสัตว์ให้ชัดเจน เพราะสัตว์ในหมู่บ้านมีจำนวนมาก ดังนั้นซ่งอิงจึงนำข้าวและธัญพืชที่เก็บไว้ในช่องว่างระหว่างมิติครั้งก่อนออกมาใช้ ซึ่งนี่ช่วยให้เกิดสัตว์ที่มีสติปัญญาเฉียบแหลมเพิ่มขึ้นมาไม่น้อยเชียวละ
ตอนที่ 666 หลุมศพมากมาย
ยามที่ซ่งอิงสร้างสวนสัตว์ ภายในหมู่บ้านซิ่งฮวา หัวหน้าหมู่บ้านซ่งกำลังกลัดกลุ้มอย่างยิ่ง
มีแขกผู้สูงศักดิ์มาเยือนในหมู่บ้าน
แขกผู้สูงศักดิ์ที่ว่านี้เป็นญาติกับตระกูลซ่ง ดังนั้นจำเป็นต้องแจ้งซ่งเหล่าเกินให้ทราบ อย่างไรเสียในวงศ์ตระกูลซ่งก็มีเพียงซ่งเหล่าเกินที่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติค่อนข้างใกล้ชิดกับแขกผู้สูงศักดิ์ที่มาเยือนครานี้
“อะไรนะ ไหว้บรรพบุรุษรึ” ซ่งเหล่าเกินอยู่ตัวอำเภอ หัวหน้าหมู่บ้านซ่งจึงเข้าตัวอำเภอมาหาเป็นการเฉพาะ ครั้นได้ยินคำพูดของหัวหน้าหมู่บ้าน ซ่งเหล่าเกินเผยแววตาประหลาดใจเล็กน้อย
“ตอนนี้คนผู้นี้น่าจะมาถึงเมืองยงแล้ว พวกเขาส่งคนมาบอกกล่าวล่วงหน้า เอ่ยว่าให้พวกเจ้าตระเตรียมไว้ให้พร้อม” หัวหน้าหมู่บ้านซ่งกล่าวอีกครั้ง
“เตรียมอันใดรึ” ซ่งเหล่าเกินยังคงงุนงง
ก็แค่สักการะบรรพบุรุษมิใช่หรือ! ซื้อของเซ่นไหว้และพวกธูปเทียนอีกหน่อย จากนั้นใครที่ควรคุกเข่าก็คุกเข่าสักการะเสีย ก็เป็นอันสิ้นเรื่องแล้วมิใช่หรือ
หัวหน้าหมู่บ้านซ่งมองเขาอย่างไม่รู้จะสรรหาคำใดมาพูด
ซ่งเหล่าเกินฉุกนึกขึ้นได้ “เหล่าเกอ ใครมารึ ท่านโหวหรือ”
“มิใช่ คนที่มาบอกกล่าวเอ่ยว่าเป็นบุตรสองคนของตระกูลโหว เป็นญาติร่วมสายเลือดโดยตรง” หัวหน้าหมู่บ้านซ่งกล่าว
“เช่นนั้นก็เป็นเด็กรุ่นหลังมิใช่หรือ ยังต้องวางมาดใหญ่โตเพียงนี้เชียวรึ ตัวเองมาแล้วก็ไปคารวะหลุมศพเป็นอันสิ้นเรื่องแล้วนี่ ไฉนยังต้องมาหาข้าด้วย” ซ่งเหล่าเกินไม่ค่อยเข้าใจ แต่คิดๆ ดูตอนนั้นที่ตนไปเมืองหลวง อย่างไรเสียก็เคยได้รับการดูแลมาก่อนเช่นกัน จึงทำได้เพียงกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะกลับบ้าน…เตรียมห้องเอาไว้ให้สักสองห้อง จากนั้นค่อยกินข้าวร่วมกับพวกเขาหน่อยก็เรียบร้อยแล้วกระมัง”
“เหล่าตี้ เจ้าลืมภาพเหตุการณ์ที่ผู้รับตำแหน่งโหวคนแรกมาไหว้บรรพบุรุษไปแล้วใช่หรือไม่” หัวหน้าหมู่บ้านซ่งกล่าวย้ำเตือน
ซ่งเหล่าเกินครุ่นคิด
ผู้รับตำแหน่งโหวคนแรกค่อนข้างเป็นระบบระเบียบ ตอนที่มาเยือนก็มาอย่างเอิกเกริกใหญ่โตเช่นกัน ทว่ากลับพาญาติใกล้ชิดจำนวนหนึ่งมาด้วย หลังมาถึงก็ไม่ได้รบกวนทางหมู่บ้าน ตั้งค่ายพักอยู่ด้านนอกหมู่บ้าน แต่คนแซ่ซ่งในหมู่บ้านก็ไปน้อมรำลึกถึงบรรพบุรุษที่สุสานโดยพร้อมหน้าพร้อมตากัน
นั่นเป็นเรื่องที่ผ่านมาหลายสิบปีแล้ว ตอนนั้นสองตระกูลความสัมพันธ์ยังพอใช้ได้ ท่านโหวซึ่งอายุมากกว่าเขาหน่อยท่านนั้นถามบิดาของเขาอย่างให้ความเกรงใจมากเช่นกันว่าต้องการย้ายถิ่นฐานหรือไม่ ทว่าบิดาเขาไม่ได้ตอบตกลง
“ท่านโหวคนใหม่ผู้นี้เทียบคนก่อนนั้นไม่ได้จริงๆ เรื่องสักการะบรรพบุรุษซึ่งเป็นเรื่องสำคัญขนาดนี้ยังเทียบกับคนก่อนไม่ได้ ส่งเด็กๆ มาก็คือการไม่เห็นความสำคัญของบรรพบุรุษในวงศ์ตระกูลชัดๆ” ซ่งเหล่าเกินถอนหายใจ “ทว่าก็แปลกเหมือนกัน บรรพบุรุษที่อยู่ใต้ดิน ณ ที่พวกเรานี้ก็แค่ชาวชนบทต่ำต้อย ไม่มีค่าพอให้คนเขามาคุกเข่าให้เสียหน่อย”
หลังจากผู้รับตำแหน่งโหวคนแรกตายจากไปก็ย้ายหลุมศพบิดาและปู่ของท่านโหวออกไปแล้ว เครือญาติลำดับถัดขึ้นไปจากนั้นไม่ได้แตะต้อง และก็แตะต้องไม่ได้ด้วยเช่นกัน
เพราะลำดับถัดขึ้นไปอีกก็คือบรรพบุรุษตระกูลเขาเช่นกัน ไม่มีเหตุผลที่ฝั่งท่านโหวผู้นั้นย้ายเอาไปและไม่ให้ครอบครัวเขาเป็นผู้ดูแล
ดังนั้นจึงได้แต่ปล่อยเอาไว้ โดยมีฝั่งเขาเป็นผู้มอบเครื่องเซ่นไหว้ต่อไป
“เจ้ากลับไปหน่อยเถอะ ส่วนเด็กๆ เหล่านี้เจ้าก็ต้องพากลับไปด้วยเช่นกัน ตอนที่คนเขาไหว้บรรพบุรุษ เราคนที่อยู่ในวงศ์ตระกูลแซ่ซ่งจะไม่อยู่ด้วยก็ไม่ได้นี่” หัวหน้าหมู่บ้านซ่งกล่าว
ซ่งเหล่าเกินพยักหน้า “เฮ้อ ก็ได้ ก็แค่เสียเวลาอยู่บ้าง ฝูซาน จินซานและหม่านซานยังค่อยดีหน่อย ไม่ยุ่งมากเกินไป แต่หม่านซานและเอ้อร์ยาของบ้านเรา…”
“เจ้าเลอะเลือนแล้วกระมัง เอ้อร์ยาเป็นหญิงที่ออกเรือนไปแล้ว ไม่ต้องหรอก” หัวหน้าหมู่บ้านซ่งกล่าว
ซ่งเหล่าเกินตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “แม้เป็นเช่นนั้นก็ตัดนางออกไม่ได้อยู่ดี ครั้งก่อนตอนที่ตระกูลเราไปเพิ่มหลุมฝังศพ บรรดาเด็กสาวก็ไปด้วยเช่นกัน ให้ยืนแถวหลังก็สิ้นเรื่อง”
ก็จริงอย่างที่ซ่งเหล่าเกินกล่าว เมื่อก่อนเรื่องการไหว้บรรพบุรุษไม่มีเด็กผู้หญิงร่วมด้วย แต่หลังจากซ่งอิงออกเรือนแล้วก็เคยไหว้อย่างเรียบง่ายไปครั้งหนึ่ง ทำให้นางและหลานสาวคนโตและหลานสาวลำดับที่สามได้เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
สาเหตุเพราะผู้เฒ่าซ่งรู้สึกว่าหลุมศพของตระกูลฮั่วน้อยเกินไป ไหว้ไปก็ไม่รู้ว่าช่วยอะไรได้บ้างหรือไม่ ไม่สู้กลับบ้านมารดาแล้วไหว้ให้บ่อยครั้งหน่อยจะดีกว่า ไม่แน่ว่าบรรพบุรุษจะช่วยปกปักษ์คุ้มครอง ชีวิตในภายภาคหน้าจะได้ราบรื่นยิ่งๆ ขึ้นหน่อย
แต่อย่างไรก็ตาม สาเหตุสำคัญสุดแน่นอนว่าเป็นเพราะเรื่องการแต่งงานนี้ซ่งอิงเป็นผู้ตัดสินใจด้วยตัวเอง หากวิญญาณตระกูลฮั่วเหล่านั้นไม่ยอมรับจะทำอย่างไรเล่า
ไม่สู้ไหว้ตระกูลซ่งจะดีกว่า หลุมศพมากมาย ไหว้เยอะๆ หน่อยก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด