ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 681 เสือมาแล้ว ตอนที่ 682 หนี
ตอนที่ 681 เสือมาแล้ว / ตอนที่ 682 หนี
ตอนที่ 681 เสือมาแล้ว
ซ่งอิงคลี่ยิ้มหลังพูดจบ แล้วมองอย่างมาดร้ายเล็กน้อย
“เถ้าแก่เหนียงหมายความว่า…เราแอบไปลักพาตัวคนของพวกเขาไปซ่อนเอาไว้หรือขอรับ” ชิงเหลียนรู้สึกว่าทำเช่นนี้ดูเหมือนจะยิ่งน่าสนใจขึ้นหน่อย
“คืนนี้แค่สองคนนี้หายไปก็พอแล้ว เราหาของขวัญชิ้นใหญ่อย่างอื่นไปมอบให้พวกเขากันเถอะ” ซ่งอิงพูดจบก็ให้ชิงเหลียนไปเรียกหู่อิ๋งอิ๋งลงมาจากเขา
หวงซายังคงเฝ้าคอยคราวข่าวอยู่ในกระโจม แต่ในใจเขากลับมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีอยู่เรื่อยแต่ว่ากันตามหลัก หมู่บ้านธรรมดาๆ เช่นนี้ ใครสักคนในคารวานล้วนบรรลุหน้าที่อันง่ายดายนี้ได้ทั้งนั้น
‘โครม…’
ขณะครุ่นคิด พลันเกิดเสียงดังโครมขึ้นมากะทันหัน จากนั้นก็ได้ยินเพียงเสียง ‘เปรี้ยงๆ ปร้างๆ’
ไม่ทันไร ผู้คุ้มกันที่นอนหลับอยู่เหล่านั้นก็ดีดตัวขึ้นมองออกไป ครั้นออกจากกระโจมก็เห็นเพียงเสือตัวใหญ่ตัวหนึ่งอยู่ด้านนอก เสือตัวนั้นกระโจนเข้ามาอย่างคล่องแคล่วว่องไว ทำลายกระโจมทั้งหมดที่อยู่โดยรอบ ส่วนบรรดาผู้คุ้มกันคนตอนนี้ถือดาบยาวและคันธนูอยู่ในมือ แต่กลับตื่นตกใจไม่น้อย ถึงกับไร้เรี่ยวแรงโจมตี!
เสือตัวนี้ใหญ่โตกว่าเสือที่เคยเห็น!
กรงเล็บนั่น เกรงว่าจะตะปบคนตายได้!
“เร็วเข้า! รีบวิ่งแยกกันไป! ถือคบเพลิงไว้! หาชาวบ้านมาช่วยอีกแรง!” หวงซารีบส่งเสียงตะโกนทันที
เมื่อพูดจบ ทุกคนต่างก็แยกย้ายไปทั่วสารทิศ
หู่อิ๋งอิ๋งมองไปยังทิศทางของหวงซาปราดหนึ่งแล้วกระโจนเข้าไปทันที ยามที่อยู่ห่างจากหวงซาเพียงคืบเดียวก็ตะเบ็งเสียงคำรามขึ้นมาจนเกือบจะพ่นน้ำลายใส่หน้าของอีกฝ่าย จากนั้นหู่อิ๋งอิ๋งก็หันหลังเดินจากพื้นที่นี้ไป
หวงซาตระหนกตกใจจนแข้งขาอ่อน
เมื่อครู่ เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเสือตัวนั้น!
แต่เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเสือตัวนั้นจึงไม่ฆ่าเขา ทั้งที่เพียงมันกระโจนเข้ามาตะปบลำคอเขาก็ปลิดชีพเขาได้แล้ว!
นับว่าโชคดีแล้วที่มันไม่ทำ!
หวงซากลืนน้ำลาย มองความความเสียหายที่ระเนระนาดเต็มพื้น
หลังผ่านไม่นานนัก หัวหน้าหมู่บ้านในชุดคลุมกันลมก็เดินมา นอกจากนี้ยังมีชายฉกรรจ์ในหมู่บ้านจำนวนไม่น้อย พวกเขาแต่ละคนล้วนพาเด็กหนุ่มในบ้านมาด้วย ไม่นึกเลยว่าจะแห่กันมาช่วยเหลืออย่างไม่คำนึงถึงสิ่งใด
“เสืออยู่ไหน!” ชายชกรรจ์ในหมู่บ้านร้องขึ้น
หวงซารู้สึกยากจะเค้นคำพูดออกมาจากปาก “หนีไปแล้ว”
“หนีไปแล้วหรือ” ทุกคนตกตะลึง “มีคนได้รับบาดเจ็บหรือไม่”
“ไม่มี…” หวงซาส่ายหน้า
ครั้นทุกคนได้ยินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ไม่มีก็ดี ช่างประหลาดจริง หมู่บ้านเราแม้อยู่ตีนภูเขาซิ่ง แต่ที่นี่ก็ห่างไกลจากเขาลึก เส้นทางภูเขาโดยรอบพวกเราเดินผ่านไปผ่านมากันไม่รู้กี่ครั้งแล้ว กลิ่นคนแรงมาก สัตว์ป่าที่ขนาดใหญ่หน่อยประเภทนั้นไม่เคยมาเยือน แล้วจะมีเสือได้อย่างไรเล่า”
“นั่นสิ ข้าดำรงชีวิตอยู่ที่นี่มาหลายสิบปีแล้ว ถือเป็นครั้งแรกที่มีเสือลงจากเขาก็ว่าได้” ไม่นับรวมกับเสือตัวนั้นที่บิดาฮั่วหรงเคยล่าได้จากในป่าลึกบนเขาเมื่อก่อน
อีกทั้ง เรื่องนี้ยังค่อนข้างประหลาด
เสือตัวนี้ลงจากเขาก็เป็นไปมิได้ว่ามาเพื่อเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจกระมัง
ออกมาทั้งที มองเห็นคนเหล่านี้ก็ยังไม่กินเลยสักคนหรือ
ไม่มีคนได้รับบาดเจ็บแน่นอนว่าเป็นเรื่องดี พวกเขาก็เพียงแค่ประหลาดใจเล็กน้อยเท่านั้น
“ลำบากทุกคนที่มาช่วยเหลือกันเสียแล้ว ขอบใจมาก ขอบใจมาก” หวงซาบอกกล่าวกับบรรดาชายฉกรรจ์เหล่านี้
ชายฉกรรจ์ทั้งหลายโบกไม้โบกมือ “พวกเราก็ไม่ได้ช่วยอันใด เสือลงจากเขาเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่เพื่อช่วยพวกเจ้าเท่านั้นเช่นกัน”
“ข้าเห็นกระโจมของพวกเจ้าเสียหายหมดแล้ว หรือไม่ไปพักในหมู่บ้านดีล่ะ แต่ละบ้านเบียดเสียดกันหน่อยเพื่อแบ่งให้สักห้องก็ไม่ใช่เรื่องยากอันใด จะกินหรือนอนล้วนสะดวกสบายทั้งนั้น” หัวหน้าหมู่บ้านซ่งกล่าวอย่างเป็นกันเอง
ครั้นหวงซาได้ยินก็ส่ายหน้าทันที
“ไม่ต้องหรอกขอรับ พวกเราอยู่ที่นี่จะดีกว่า กระโจมนี่พังแล้วก็ประกอบขึ้นใหม่ได้” หวงซากล่าว
พวกเขาจะไปพักอยู่ในเรือนของชาวบ้านได้อย่างไร
หลังสมาชิกแยกย้ายกันไป หากเขาอยากสั่งการให้กระทำเรื่องใดก็จะเป็นเรื่องยาก อีกทั้งเมื่ออยู่ในสายตาชาวบ้านก็ยิ่งถูกจับสังเกตได้ง่ายดายไปใหญ่
ตอนที่ 682 หนี
หัวหน้าหมู่บ้านซ่งอยากให้คนเหล่านี้อยู่สบายๆ หน่อยจากใจจริง อย่างไรเสียเขาก็รู้ว่าพวกเขาเป็นข้ารับใช้ เสื้อผ้าที่สวมใส่มองดูสีสันสดใสสง่างามก็จริง แต่ในความเป็นจริงกลับไม่มีอิสระเลยสักนิด ค่อนข้างน่าสงสารไม่น้อยเช่นกัน
แต่หวงซาผู้นี้กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับเขาจะพาไปเผชิญความลำบากยากเย็น หัวหน้าหมู่บ้านซ่งจึงเกิดความไม่ค่อยพอใจขึ้นมา
เขามักรู้สึกว่าผู้คุ้มกันเหล่านี้มองดูถ่อมตน ทว่าในความเป็นจริงกลับดูถูกชาวชนบทอย่างพวกเขาเหล่านี้
“ในเมื่อผู้คุ้มกันหวงซาไม่เต็มใจ เช่นนั้นก็ช่างเถอะ หากมีความจำเป็นอันใดค่อยไปหาพวกเราก็แล้วกัน” เมื่อเขาพูดจบก็ให้ทุกคนพากันแยกย้ายไป
แต่แล้วหัวหน้าหมู่บ้านซ่งกลับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้เสียก่อนจึงเอ่ยอีกครั้ง “การเชิญพวกท่านไปอาศัยอยู่ด้วยกันคือความปรารถนาดีทั้งนั้น พวกท่านวางใจได้ แม้ว่าชาวบ้านอย่างพวกเราไม่ได้ร่ำรวยเฉกเช่นผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง แต่ก็ดำรงชีวิตกันไม่ด้อยไปกว่าพวกเขาเช่นกัน ไม่ถึงขั้นต้องเรียกร้องเงินจากคนนอกอย่างพวกท่านแต่อย่างใด”
เขารู้สึกว่าข้อเสนอที่สมเหตุสมผลขนาดนั้น ผู้คุ้มกันคนนี้ยังไม่ตอบตกลง น่าจะเป็นเพราะนึกว่าพวกเขาจะเก็บเงิน ดังนั้นบางเรื่องก็จำเป็นต้องอธิบายให้กระจ่างชัดถึงจะใช้ได้“มิบังอาจคิดเยี่ยงนั้นขอรับ คนของพวกเราพักกลางดินกินกลางทรายจนเคยชินแล้ว จะรบกวนทุกท่านได้อย่างไร อีกทั้งหากนายน้อยตระกูลข้ามีธุระมาหากัน พวกข้าก็จะสะดวกในการรับฟังอย่างพร้อมเพียงด้วยขอรับ” หวงซารีบกล่าวทันที
หัวหน้าหมู่บ้านซ่งมองหวงซาปราดหนึ่ง ก่อนจะเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรให้มากความแล้วเช่นกัน
ถ้อยคำเหล่านั้นของเขาก็แค่คำทิ้งท้ายเท่านั้นเอง
อยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ มีเรื่องอันใดก็จำเป็นต้องเรียกหาชาวบ้านมิใช่หรือ หรือพวกเขาคิดว่าคนในหมู่บ้านแห่งนี้จะรังแกบุตรสาวและนายน้อยแห่งจวนโหวนั่นเมื่อบรรดาชาวบ้านเดินจากไป หวงซาจึงทำได้เพียงให้คนตั้งกระโจมขึ้นใหม่อีกครั้ง
จนกระทั่งตั้งกระโจมขึ้นเสร็จเรียบร้อยฟ้าก็เริ่มสางแล้ว ทันใดนั้นเขาจึงรู้สึกจนใจเล็กน้อย
“แล้วนี่สองคนนั้นไฉนยังไม่กลับมาอีก” หวงซาหนักใจขึ้นมา
มิใช่ว่าระหว่างทางกลับมาเจอเสือตัวนั้นเข้าพอดี เลยถูกกินไปแล้วหรอกนะ
ครั้นคิดได้เช่นนี้ หวงซาก็หวาดผวาไปทั้งใจ
“ลองตระเวนดูให้ทั่ว ดูว่ามีคราบเลือดบริเวณรอบๆ บ้างหรือไม่” หวงซาสั่งการ
ลูกน้องรีบไปทำตามคำสั่งทันที
ซ่งซินหัวและซ่งถังหังนึกว่าวันนี้ตื่นขึ้นมา น่าจะได้ยินข่าวคราวว่าซ่งอิงเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต แต่กลับไม่มีวี่แววสักนิด ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีผู้ใหญ่กล่าวกันว่าเมื่อคืนมีเสือดุร้ายเล่นงานกระโจมนอกหมู่บ้าน
ทั้งสองคนตระหนกตกใจ
ซ่งซินหัวขมวดคิ้วนิ่วหน้า
ไฉนจึงเป็นเช่นนี้เสียได้เล่า
“พี่ห้า นางโชคดีไม่น้อยเลยจริงๆ” ซ่งถังหังกล่าว
ซ่งซินหัวกลับส่งเสียหัวเราะเยาะ “โชคดีหรือไม่ ผลสุดท้ายก็ยังเหมือนๆ กันมิใช่หรือ”
เมื่อคืนหลบได้ แต่เป็นไปได้หรือที่คืนนี้และคืนพรุ่งนี้จะหลบได้!
ซ่งซินหัวกระวนกระวายใจ
นางเดินเล่นในหมู่บ้านกับสาวใช้ไปเรื่อยจนมาถึงหน้าประตูบ้านซ่งอิง หลังลังเลชั่วครู่ จึงนำกระดาษที่เขียนไว้เมื่อคืนโยนเข้าไป
จากนั้นซ่งซินหัวก็เดินจากมาอย่างรวดเร็ว
กระดาษแผ่นนั้นตกลงตรงเบื้องหน้าต้าไป๋ ยามที่ซ่งอิงเดินมา มันก็ส่งมอบให้นาง
“หนี?” ซ่งอิงมองตัวอักษรที่เขียนอยู่บนกระดาษนั่น ขมวดคิ้วนิ่วหน้าเล็กน้อย “ใครโยนมาหรือ”
“เมื่อครู่ข้าได้ยินเสียงฝีเท้าคนสองคนข้างนอกนั่น แล้วก็มีคนพูดคุยกัน หนึ่งในนั้นเรียกอีกคนว่า ‘คุณหนู’ ขอรับ” ต้าไป๋บอกกล่าวด้วยภาษามนุษย์
เพราะพวกซ่งต๋าอยู่ในบ้าน ดังนั้นก็ไม่สะดวกเปลี่ยนร่างเป็นคน
ซ่งอิงมองตัวอักษรนี้ บิดเบี้ยวชอบกล
ช่างเป็นคนระแวดระวังคนหนึ่งจริงๆ ส่งจดหมายให้ก็ยังไม่กล้าใช้ลายมือแท้จริงของตัวเอง
ทว่าซ่งซินหัวผู้นี้กลับทำให้นางประหลาดใจอย่างยิ่ง คิดไม่ถึงว่าคนผู้นี้จะมีความตั้งใจเตือนนาง ทว่าบอกกล่าวอย่างคลุมเครือขนาดนี้ หากนางเป็นคนโง่เขลา คาดว่าคงไม่เข้าใจความหมายในตัวอักษรนี้
ขณะนี้ ซ่งซินหัวค่อนข้างสับสนไม่น้อยเช่นกัน
เรื่องประเภทนี้ไม่ใช่สิ่งที่นางพึงกระทำ
อีกทั้ง ลงมือทำไปแล้ว นางมีความสงสัยว่าอักษรตัวเดียวที่ตนเขียนนั่น ซ่งอิงจะเข้าใจได้หรือไม่
แต่…
หากซ่งอิงฉลาด ต้องเข้าใจได้ทันทีเป็นแน่ และย่อมคิดหาวิธีหลบหนีได้เช่นกัน หากซ่งอิงโง่เขลา นางเขียนให้ชัดเจนสักเพียงใด คนผู้นี้ก็หนีไม่พ้นการไล่ฆ่าของบิดานางอยู่ดี