ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 683 เด็กเลี้ยงแกะ ตอนที่ 684 ไม่ชอบมาพากล
ตอนที่ 683 เด็กเลี้ยงแกะ / ตอนที่ 684 ไม่ชอบมาพากล
ตอนที่ 683 เด็กเลี้ยงแกะ
เมื่อคืนเดิมทีนางอยากพักผ่อนให้เต็มที่ แต่ครั้นหลับตาลงกลับนึกถึงแต่ภาพฉากนองเลือดอยู่เรื่อย
แต่ตอนนั้นแม้นางอยากจะนำความมาบอกกล่าวให้รู้ก็สายเกินไปแล้ว ดังนั้น…
นางคิดอยู่ว่าหากซ่งอิงดวงแข็ง รอดพ้นคืนนี้ได้ เช่นนั้นนางก็จะเตือนอีกครั้ง เพียงแค่อีกครั้งเท่านั้น เห็นแก่ความที่เกิดจากมารดาท้องเดียวกัน นางก็ทำได้เพียงเท่านี้เช่นกัน
นางไม่กล้าทำนอกเหนือจากนี้
หากบิดานางรู้เข้า นางต้องแย่แน่
ซ่งอิงเก็บกระดาษใบนั้นขึ้นมา ในเวลานี้เอง ก็มีคนเคาะประตู ครั้นเปิดประตูออกมองดูกลับพบว่าเป็นผู้คุ้มกันคนนั้น
“ขอถามคุณหนูซ่งหน่อยขอรับว่าเมื่อคืน…เห็นคนของพวกเราบ้างหรือไม่” หวงซากล่าว
ซ่งอิงรู้สึกว่าคนที่หนังหน้าหนาได้ถึงขั้นนี้มีไม่มากนัก
คนที่เขากล่าวถึงคือผู้ที่ถูกส่งออกมาเล่นงานนาง ตอนนี้คนดังกล่าวหายตัวไป ไม่นึกเลยว่ายังกล้ามาหานางเพื่อถามถึงคู่กรณีคนดังกล่าวนี้อีก
“ไม่นี่” ซ่งอิงตอบเสียงเนือย
หวงซามองนางพริบตาหนึ่ง “ขอบคุณมากขอรับ”
พูดจบเขาก็เดินจากไปอย่างเปิดเผย
คนในหมู่บ้านต่างรู้สึกว่าผู้คุ้มกันของจวนโหวประหลาดมาก นี่เพิ่งมาได้สองวัน ไม่นึกเลยว่าจะเอ่ยว่าคนของตนหายไปแล้วถึงสามคน
พวกเขาพูดกับผู้เป็นหัวหน้าคนนั้นว่าต้องเป็นเพราะอาหารการกินในขบวนไม่ดีเป็นแน่ แต่หัวหน้าผู้นี้กลับยังไม่เชื่อ ไม่เพียงไม่เชื่อ แต่ยังไม่ยินยอมรับการช่วยเหลือของพวกเขาอีก ช่างเป็นคนใจแข็งคนหนึ่งจริงๆ
ไม่รู้ว่าทำไมตลอดทั้งวันนี้ หวงซากระวนกระวายใจขึ้นมาเล็กน้อยจริงๆ
สองคืนแล้ว เรื่องเล็กแค่นี้ยังทำไม่สำเร็จก็ว่าแย่แล้ว คนที่ส่งออกไปดันมาหายตัวไปอีก
เขาไปสอดส่องดูทางด้านซ่งอิงนั่นเป็นการเฉพาะ คุณหนูผู้นั้นดูสงบนิ่ง ไม่เหมือนกำลังพูดจาโกหกอยู่จริงๆ
สรุปแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
ต่อให้ถูกเสือกิน ก็ควรทิ้งร่องรอยอะไรบ้างสิ
แต่นี่ไม่มีอะไรเลย
ในคืนที่สาม เพิ่งเข้าสู่ห้วงราตรี หู่อิ๋งอิ๋งมาเยือนอีกครั้ง
เช่นเดียวกับคืนวาน อาละวาดใส่หนึ่งชุดใหญ่ ทำลายกระโจมจนฉีกขาดเป็นชิ้นๆ หวงซาโวยวายอยู่พักใหญ่ให้คนมาจับเสือไป แต่เพียงชั่วพริบตาเดียวเสือตัวนี้ก็หายไปแล้ว
เหมือนเป็นการมาก่อกวนโดยเฉพาะ
อีกทั้ง…
ชาวบ้านทั่วทั้งหมู่บ้านไม่มีใครเห็นเสือเลยสักคน มีเพียงพวกเขาเองเท่านั้นที่มองเห็นมัน
ในครั้งนี้ บรรดาชายฉกรรจ์ที่ถูกปลุกขึ้นมาจากเตียงนอนต่างมองผู้คุ้มกันเหล่านี้ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วจริงๆ
“พวกเจ้ามิใช่ว่ากำลังล้อพวกเราเล่นกระมัง เสือจากไหน ไม่เห็นแม้แต่เงาด้วยซ้ำ!” ชาวบ้านกล่าว
หวงซาถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ข้าไม่รู้เช่นกันว่าเกิดอะไรขึ้น เสือตัวนั้นทำลายข้าวของของพวกเราและชั่วพริบตาเดียวก็หนีไปแล้ว…หากพวกเจ้าไม่เชื่อ ลองถามทุกคนดูก็ได้ ลูกน้องข้าเหล่านี้ล้วนเห็นกันถ้วนหน้า”
“เป็นไปไม่ได้หรอก พวกเราไม่เคยเห็นเสือปรากฏตัวในหมู่บ้านมาก่อน! อีกทั้ง…ไฉนบริเวณโดยรอบนี้จึงไม่มีแม้แต่ร่องรอยอุ้งตีนเสือเลย อีกอย่าง เสือตัวนี้คงไม่รู้จักแต่พวกเจ้าเท่านั้นกระมัง จึงไม่เล่นงานคนอื่น จ้องเล่นงานแต่กับพวกเจ้ารึ หรือว่าเนื้อของพวกเจ้าหอมนักหนา” ชาวบ้านรู้สึกว่าคนเหล่านี้ต้องกุเรื่องขึ้นมาเป็นแน่
ไม่ใช่เพราะคิดว่าชาวบ้านอย่างพวกเขาเหล่าเรียกใช้ง่าย จึงจงใจก่อร่างสร้างความวุ่นวายหรอกกระมัง
มิหนำซ้ำพวกเขายังเป็นคนที่มาจากจวนโหวอีกด้วย นี่ออกจากนิสัยเสียเกินไปแล้วกระมัง
“…” หวงซาไม่รู้เช่นกันว่าควรอธิบายอย่างไร
ครั้งนี้ไม่ใช่เขาสั่งให้ลูกน้องไปตามชาวบ้าน หากแต่เป็นคนที่เมื่อวานเห็นเสือและครั้งนี้ตื่นตกใจไม่น้อย จึงเป็นฝ่ายไปหาคนมาช่วยเอง
บรรดาชาวบ้านพากันกลับไปพร้อมความหงุดหงิด
หวงซานับจำนวนคน
ในขบวนคนกลุ่มนี้รวมตัวเขาด้วยมีทั้งสิ้นยี่สิบแปดคน ก่อนหน้านี้หายไปสามคนจึงยังเหลือยี่สิบห้าคน แต่ตอนนี้เมื่อนับจำนวนดู…
ยี่สิบสองคน?
ไฉนหายไปอีกสามคนเสียได้เล่า!
สีหน้าหวงซาเปลี่ยนไปอย่างยิ่ง ไม่เพียงแค่เขา ผู้คนในขบวนทั้งหมดต่างก็ลนลาน
“หัวหน้า เอ่อ…เมื่อครู่ข้ายังเห็นหม่าซานอยู่เลย แต่เพียงชั่วพริบตาเดียวเขาก็หายไปแล้ว…” หนุ่มน้อยเผยสีหน้าจะร้องไห้
“มิใช่ว่าถูกเสือคาบไปแล้วกระมัง” มีคนกล่าวขึ้น
“เป็นไปไม่ได้ เมื่อครู่ตอนที่เสือตัวนั้นหนีไปมันไม่ได้ตะครุบตัวคนไปด้วยแต่อย่างใด อีกทั้ง…ข้ากับหม่าซานวิ่งหนีไปไกล เขาคอยหลบอยู่ด้านหลังข้าตลอดเวลา จึงห่างจากเสือตัวดังกล่าวมากยิ่งกว่าข้าเสียอีก…”
ตอนที่ 684 ไม่ชอบมาพากล
“ไม่ใช่ฝีมือเสือ…เช่นนั้นเป็นอะไรไปได้”
“หัวหน้า หมู่บ้านแห่งนี้น่ากลัวมากจริงๆ คนของเราหายไปหกคนอย่างน่าประหลาด! แล้วตอนนี้จะทำอย่างไรดี หรือว่าที่นี่มีภูตผีปีศาจใช่หรือไม่”
“ภูตผีปีศาจที่ไหนกัน ต้องมีคนแอบกระทำเรื่องเหล่านี้ในหมู่บ้านเป็นแน่!”
“แต่ข้าเห็นชาวบ้านเหล่านี้แต่ละคนต่างก็ดูเปิดเผย ไม่เหมือนมีอะไรผิดปกติเลยสักนิด…”
“เช่นนั้นหรือว่าจะเป็น…คุณหนูซ่งผู้นั้น หรือนางรู้ว่าเรา…”
“เป็นไปไม่ได้ ต่อให้รู้ ผู้หญิงตัวคนเดียวอีกทั้งมิใช่เซียนสวรรค์หรือปีศาจ จะลักพาตัวคนของพวกเราไปอย่างไร้ร่องรอยได้อย่างไร”
“…”
พวกเขาจิตใจว้าวุ่น
บางคนที่เคยกระทำเรื่องเลวร้ายและขี้ขลาดตาขาว ตอนนี้ต่างกระวนกระวายใจเป็นที่สุด
“ไปตามหาตัวพวกเขา! ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องหาพวกเขาให้เจอ!” หวงซากัดฟันแน่น
เขาจัดการธุระแทนโหวเหยียมาตั้งหลายปีขนาดนี้ ยังไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน! จัดการผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวยังเปลืองแรงเช่นนี้ ไว้เมื่อเขากลับไปแล้วจะอธิบายกับโหวเหยียอย่างไรเล่า!
สมาชิกในขบวนแบ่งออกไปทั่วสารทิศ เริ่มตามหาคนในหมู่บ้านอย่างเอิกเกริก
แรกเริ่ม บรรดาชาวบ้านยังมีน้ำใจต่อคนเหล่านี้อยู่บ้าง แต่ในตอนนี้รู้สึกว่าคนเหล่านี้ก่อเรื่องไร้เหตุผล
พวกเขาไม่รู้หรอกว่ามีคนหายไปจากกลุ่มผู้คุ้มกันหรือไม่ แต่พวกเขารู้ว่าคนเหล่านี้สร้างผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของพวกเขาอย่างร้ายแรง
คนเหล่านี้แต่ละคนถือดาบอยู่ในมือ หน้าตาขึงขังดุดัน เห็นผู้ใดก็เป็นต้องเอ่ยถาม ราวกับเห็นพวกเขาเป็นนักโทษที่ต้องได้รับการไต่สวนก็ไม่ปาน มีเด็กขี้ขลาดบางส่วนพบเห็นพวกเขาแล้วถึงกับร้องไห้ด้วยความตกใจกลัว
ส่วนซ่งอิงไม่ได้อยู่เฉยเช่นกัน นางให้หู่อิ๋งอิ๋งและพวกชิงเหลียนลงมืออย่างลับๆ
ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการหาตัวคนหรือ เช่นนั้นนางก็จะให้คนเหล่านี้หายตัวไปอีกอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นหน่อย
ขอเพียงบริเวณโดยรอบไม่มีชาวบ้านอยู่ ปีศาจเหล่านี้ก็จะลงมือทันที โดยตีให้สลบเป็นอันดับแรกจากนั้นค่อยนำตัวคนขึ้นไปบนเขาอย่างรวดเร็ว
เพียงพอนเหลืองจากทางด้านหมู่บ้านไร่สวนก็มาช่วยด้วยเช่นกัน เพียงพอนเหลืองรับหน้าที่ขนย้ายคนไปยังกลางเขาลึก หู่อิ๋งอิ๋งรวดเร็วว่องไว รับหน้าที่จับตัวคนเป็นการเฉพาะ บรรดาปีศาจร่วมมือกันอย่างแยบยลไร้ที่ติ คนทั่วไปไม่อาจสังเกตเห็นได้แม้แต่น้อย
หนึ่งวันผ่านไป ลักพาตัวคนได้อีกเจ็ดแปดคน
อีกทั้งรับประกันได้ว่าคนเหล่านี้ที่ถูกจับตัวไปจะกลับมาในช่วงเวลาอันสั้นไม่ได้เป็นแน่
นางให้ภูตโสมอยู่บนเขาคอยจับตาดูไว้
จุดประสงค์ของนางไม่ใช่ฆ่าคน ดังนั้นไม่จำเป็นต้องผลักดันคนเหล่านี้ไปบนเส้นทางตาย เพียงแค่ต้องการให้พวกเขาเดินวนเวียนอยู่กลางเขาไปเรื่อยๆ เมื่อใดที่ใกล้จะออกมาได้ค่อยแอบจัดการส่งกลับเข้าไปอีก อย่างไรเสียเรื่องเหล่านี้ก็มีปีศาจเป็นผู้ร่วมลงมือด้วย ดังนั้นเพื่อไม่ให้สหายทุกคนรับบาปติดตัว จึงให้ภูตโสมคอยปกป้องชีวิตน้อยๆ ของคนเหล่านี้ไว้
ภูตโสมมองดูอายุน้อยที่สุด แต่กินของดีๆ จากนางไปมากมาย ความจริงแล้วจึงมีความสามารถมากที่สุด
เพียงแต่ความสามารถของมันไม่ได้จัดอยู่ในประเภทการโจมตีต่อสู้ หากแต่เป็นความถนัดในด้านการสอดแนมและเคลื่อนที่
เพียงแค่เขาลงสู่พื้นดินก็ราวกลับมีดวงตานับไม่ถ้วนเพิ่มขึ้นมา รับรู้สถานการณ์โดยรอบทั้งหมดได้อย่างสบายๆ เขาถึงขั้นรู้ตำแหน่งสิ่งต่างๆ ใช้เวลาไม่นานก็มุดดินผ่านไปถึงที่หมายได้
ภูตโสมมุดดินได้รวดเร็วเป็นพิเศษ ดังนั้นกล่าวได้ว่าเขาเคลื่อนที่ไปยังบริเวณอื่นได้ในเวลาชั่วพริบตา
ในหนึ่งวันนี้ พวกหวงซาต่างก็งุนงง
หาตัวคนไม่เจอก็ว่าแย่แล้ว แต่กลับมีคนหายตัวไปอีก นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่
“ต้องรายงานขึ้นไปยังคุณชายสี่หรือไม่” ลูกน้องกล่าว
หวงซาเกือบจนปัญญาแล้ว มองใบหน้าของลูกน้องแต่ละคนที่ดูตื่นตูม จึงกล่าวอย่างจนใจ “เอาสิ”
เพียงแค่บอกกล่าวคุณชายสี่ว่ามีคนหายตัวไป ไม่ได้เท่ากับการบอกกล่าวคุณชายโดยตรงว่าต้องการสังหารพี่สาวแท้ๆ ของเขา
แม้ว่าอีกฝ่ายรู้อยู่แก่ใจ แต่บางเรื่องก็ไม่อาจเผยออกมาตามตรงได้
“หมายความว่าอะไร หายไปกี่คน” ซ่งถังหังได้ยินเรื่องดังกล่าว รู้สึกเหลวไหลอย่างยิ่ง “พวกเขาไม่ใช่เด็กๆ สักหน่อย ไฉนจึงหนีหายไปเสียได้เล่า”
“นายน้อยสี่ขอรับ ข้าสงสัยว่าหมู่บ้านนี้มีอะไรไม่ชอบมาพากล ตามความเห็นของข้า ควรขอให้เจ้าหน้าที่ทางการมาช่วยเหลืออีกแรงเพื่อจะได้ตรวจสอบในหมู่บ้านอย่างละเอียดขอรับ!” หวงซากล่าวทันที