ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 685 เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งนั้น ตอนที่ 686 บังอาจเหลือเกิน
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 685 เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งนั้น ตอนที่ 686 บังอาจเหลือเกิน
ตอนที่ 685 เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งนั้น / ตอนที่ 686 บังอาจเหลือเกิน
ตอนที่ 685 เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งนั้น
ซ่งถังหังไม่ได้เห็นด้วยในทันทีหลังได้ยินคำพูดของหวงซา ถึงกระทั่งรู้สึกขบขันเล็กน้อย
“แม้ว่าเจ้าท่านพ่อข้าเห็นความสำคัญของเจ้า แต่เจ้ายังต้องระมัดระวังฐานะตัวตนไว้สักหน่อยด้วย เราเพิ่งมาหมู่บ้านนี้เท่าไรเอง ตอนนี้ตัวเจ้าควบคุมคนไม่อยู่ จึงกลายเป็นต้องร้องขอความช่วยเหลือจากทางที่ว่าการอำเภอ หวังให้ทางการค้นหาตามแต่ละครัวเรือน เช่นนั้นเท่ากับว่าไม่ต้องการรักษาชื่อเสียงของจวนโหวพวกเราแล้วใช่หรือไม่”
“หวงซา เจ้าจำไว้ให้ดี พวกเรามาไหว้บรรพบุรุษ มิใช่มาตามหาคู่อริ” ซ่งถังหังกล่าวขึ้นอีกครั้ง
หวงซาพลันใจสะดุ้ง
เขาย่อมรู้อยู่แล้วว่าผลของการแจ้งความ จะนำมาซึ่งความเกลียดชังของผู้คนในหมู่บ้านเอาได้
“แต่ คนของพวกเราหายไปตั้งสิบกว่าคนนะขอรับ…” หวงซาขมวดคิ้วนิ่วหน้า
“เจ้าเป็นหัวหน้าผู้คุ้มกัน คนหายตัวไปไหนแล้วและจะตามตัวให้เจอได้อย่างไร นี่ล้วนเป็นหน้าที่ของเจ้า ท่านพ่อเพียงแค่ให้ข้ามาไหว้บรรพบุรุษเท่านั้น” ซ่งถังหังกล่าว
อย่าว่าแต่ผู้คุ้มกันสูญหายไปจำนวนหนึ่งเลย ต่อให้ตายไปทั้งหมดแล้วจะอย่างไรเล่า
หากวันนี้เขาตอบตกลงให้เจ้าหน้าที่ทางการมาตรวจสอบคนที่หายตัวไป เช่นนั้นเรื่องนี้ก็จะแพร่งพรายไปถึงหูของบิดาเขาได้ ถึงตอนนั้น เขาก็จะต้องเป็นผู้แบกรับคำประณามว่าเป็นผู้ดูถูกเหยียดหยามถิ่นฐานบรรพบุรุษ!
“นายน้อยสี่ขอรับ หาก…อาศัยเหตุผลอย่างการจับเสือแทนหาตัวคนเล่าขอรับ” หวงซาครุ่นคิดแล้วกล่าว
“เสือ?” ซ่งถังหังเผยรอยยิ้มที่มองดูไร้เดียงสาบนใบหน้าเยาว์วัย “หมู่บ้านซิ่งฮวาแห่งนี้มิใช่หมู่บ้านในถิ่นห่างไกล บรรดาชาวบ้านล้วนกล่าวว่าเมื่อก่อนที่แห่งนี้ไม่เคยมีเสือลงมาจากเขา ตอนนี้พวกเรามาเยือน เสือก็เลยมาด้วยเช่นกันหรือ อีกทั้ง…”
“หัวหน้าหวง เรื่องเสือที่ว่านี้ก็มีเพียงคนของเจ้าที่เห็นมัน ชาวบ้านในหมู่บ้านไม่เห็นแม้แต่เงาของเสือด้วยซ้ำ เรื่องนี้เป็นความจริงหรือหลอกยังคงเป็นเรื่องที่ต้องถกเถียงกันอีกกระมัง” ซ่งถังหังกล่าว
“ข้าเห็นเองกับตาทั้งหมดแล้วจะเป็นเรื่องหลอกลวงไปได้หรือขอรับ!” หวงซารีบกล่าวทันควัน
ตอนนั้นเสือตัวนั้นอยู่ตรงหน้าเขา อีกแค่นิดเดียวเท่านั้นเขาก็จะถูกเสืองับคอขาดแล้ว!
“มีเพียงเจ้ามองเห็นคงมิได้ จะอย่างไรก็ต้องมีคนในหมู่บ้านเห็นด้วย มิเช่นนั้นยากจะรับประกันได้ว่าคนอื่นจะไม่คิดว่าคนของจวนโหวพวกเราไม่รู้ความ จงใจกุเรื่องขึ้นมา” ซ่งถังหังกล่าวขึ้นอีกครั้ง
หวงซาได้ยินถ้อยคำนี้ก็ยิ่งหงุดหงิดในใจ แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าแม้คุณชายสี่ยังเยาว์วัย แต่ที่พูดก็มีเหตุผลทั้งนั้น
พวกเขามาไหว้บรรพบุรุษ หากก่อปัญหาที่สร้างความเสื่อมเสีย จะต้องมีคนกล่าวว่าท่านโหวไม่ไยดีสายสัมพันธ์เก่าๆ และเป็นพวกที่ไม่เห็นบรรพบุรุษอยู่ในสายตาเป็นแน่ ถึงตอนนั้นเขาคงแย่เช่นกัน
แต่เขาจัดการเรื่องราวแทนท่านโหวมาเป็นเวลายาวนานขนาดนี้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เผชิญปัญหาจนไม่รู้จะทำอย่างไร
หากรู้ว่าศัตรูอยู่ตรงไหนก็ยังดีหน่อย แต่ในความเป็นจริง คนหายตัวไปตั้งหลายคนขนาดนี้แล้ว เขายังไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!
ถึงขนาดที่พูดได้ไม่เต็มปากว่าคนที่หายตัวไปนี้ เพราะถูกเสือคาบไปแล้ว
อย่างไรเสีย จะมีเสือที่เก่งกาจขนาดนี้เสียที่ไหนเล่า
หวงซาครุ่นคิด รู้สึกว่าคนที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสงสัยมากก่อน ในเวลานี้กลับเป็นผู้ต้องสงสัยที่สุด
นั่นก็คือ…ซ่งอิง
คนเหล่านี้ที่เขาพามาในครั้งนี้ล้วนแล้วแต่มาเพื่อกำจัดซ่งอิง ในเมื่อซ่งอิงติดต่อกับตระกูลเซว์กั๋วกงได้ เช่นนั้นก็น่าจะเป็นคนที่ชาญฉลาดคนหนึ่ง เกรงว่าคงพอจะคิดได้แล้วว่าพวกเขาพาคนเหล่านี้มาพร้อมเจตนาสังหาร
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็น่าจะเตรียมการไว้ล่วงหน้าก่อนที่พวกเขาจะมาถึงแล้ว
ครั้นคิดได้เยี่ยงนี้ หวงซารู้สึกเหมือนมีหนามแหลมทิ่มแทงอยู่ด้านหลังเล็กน้อย
เดิมทีคิดว่าครั้งนี้เป็นแค่การมาบี้มดตัวหนึ่งเท่านั้น กลับไม่คาดคิดเลยว่ามดตัวนี้ดันมีพิษเสียด้วย!
เมื่อออกมาจากทางด้านซ่งถังหัง เห็นคนในลานบ้านซ่งแห่งนี้ ในใจหวงซาก็สับสนอย่างยิ่ง
คนเหล่านี้…คงไม่ได้เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของซ่งอิงกระมัง
พวกเขามองดูค่อนข้างซื่อตรง คิดไม่ถึงว่าแท้จริงแล้ว…ล้วนเป็นคนที่โหดเหี้ยมกันทั้งนั้น!
เพียงแต่ว่าลำพังชาวชนบทส่วนหนึ่ง เกรงว่าจะกระทำเรื่องที่เหนือธรรมชาติประเภทนี้ไม่ได้ น่าจะมีคนของตระกูลเซว์กั๋วกงปะปนอยู่ในหมู่ชาวบ้านเหล่านี้ด้วย!
เมื่อความนึกคิดนี้ปรากฎขึ้นมา หวงซายิ่งรู้สึกถึงความเป็นไปได้
ทันใดนั้นเขาก็ยิ่งรู้สึกกดดัน หากเป็นการต่อกรชาวบ้านส่วนหนึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด แต่การต่อกรคนที่เซว์กั๋วกงส่งมา เกรงว่าจะต้องสูญเสียไม่น้อยน่ะสิ!
ตอนที่ 686 บังอาจเหลือเกิน
คนของตระกูลซ่งไม่ค่อยชอบหน้าคนของจวนโหวเป็นทุนเดิม ตอนนี้เห็นสีหน้าหวงซาราวกับแมวที่จ้องขโมยของในลานบ้านบ้านตน ในใจจึงยิ่งทวีความรู้สึกไม่ชอบใจ
“หัวหน้าหวง มีเรื่องอันใดหรือ” ซ่งเหล่าเกินขมวดคิ้วนิ่วหน้าเอ่ยถาม
คนของจวนโหวทางด้านนี้ช่างไม่รู้จักธรรมเนียมปฏิบัติตนเกินไปหน่อยแล้ว
หวงซาหันหน้าไปจ้องมองผู้เฒ่าซ่ง ขณะเดียวกัน แววตาของผู้เฒ่าก็เต็มไปด้วยแววพินิจพิจารณาเช่นกัน
“ผู้เฒ่าซ่ง เรื่องการหายตัวไปของลูกน้องสิบกว่าคนของข้า ท่านคงรู้มาบ้างกระมัง” หวงซากล่าว
“เคยได้ยินมาบ้าง เพียงแต่ว่าหมู่บ้านซิ่งฮวาพวกเราไม่มีเสือหรอก น่าประหลาดเหลือเกินที่คนของเจ้าหายตัวไป” ซ่งเหล่าเกินเองก็เป็นห่วงในเรื่องนี้จริงๆ เช่นกัน
ในมุมมองเขา ความขัดแย้งของผู้เป็นนายไม่เกี่ยวข้องกับข้ารับใช้แต่อย่างใด และเขาเองก็ไม่ได้คิดถึงขั้นอยากให้อีกฝ่ายไปถึงที่ตาย
แต่หวงซาไม่ได้คิดเยี่ยงนี้
“หมู่บ้านเล็กๆ แค่นี้ กลับเป็นพื้นที่เสือหมอบมังกรแอบ[1] ก็แค่ไม่รู้ว่าคนของที่นี่จะยิ้มไปได้ถึงเมื่อใด” หวงซาคล้ายเอ่ยสื่อความนัย “ผู้เฒ่าซ่ง ท่านกับท่านโหวตระกูลข้าก็ถือว่าเป็นอาหลาน ท่านโหวตระกูลข้าก็คิดวิธีช่วยเหลือเกื้อกูลฝั่งท่านมาโดยตลอด ท่านอย่าได้ตัดสินใจผิดพลาดไปเชียว”
“…” ซ่งเหล่าเกินรู้สึกคล้ายถูกกระตุกหนวด
ในวินาทีถัดมา ผู้เฒ่าซ่งคว้าไม้กวาดด้ามใหญ่ที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาแล้วหวดลงไปทันที
แม้ว่าหวงซากล้าพูดจายั่วอารมณ์โมโห แต่ต่อให้ซ่งเหล่าเกินทุบตีเขาอย่างหนักหน่วง เขาก็ไม่กล้าลงมือเอาคืนโดยเด็ดขาด ดังนั้นในตอนนี้เขาจึงตระหนกตกใจไม่น้อย รีบปัดป้องอย่างต่อเนื่อง ซ่งเหล่าเกินไม่ให้ความเกรงใจเลยสักนิด
“มีใครเขาพูดจาเยี่ยงเจ้ารึ! แม้ว่าครอบครัวพวกข้าไม่ได้รับรองพวกเจ้าอย่างดี แต่คนทั่วทั้งหมู่บ้านก็ปฏิบัติกับพวกเจ้าไม่แย่นี่! ครั้นพวกเจ้าเรียกหา คนทั่วทั้งหมู่บ้านก็พร้อมใจมาช่วยพวกเจ้าจับเสือ ตอนนี้กลับกล้าดีมาข่มขู่ข้าถึงที่! เจ้าลองพูดมาสิว่าข้าตัดสินใจอะไรผิดพลาดแล้วรึ!” ซ่งเหล่าเกินกล่าวด้วยความโมโห
เขาไม่ใช่คนอ้อมค้อม บัดนี้ในเมื่อฟังออกว่าในถ้อยคำนี้มีความหมายอื่นแฝง เช่นนั้นก็ต้องถามให้กระจ่าง
“พูดมาสิ! เจ้าหมายความว่าอะไร! หรือว่าพวกเจ้ายังจะกล่าวโทษข้าที่คนของพวกเจ้าหายตัวไป!” ซ่งเหล่าเกินกล่าวขึ้นอีกครั้ง
หวงซาจะพูดอย่างไรได้เล่า เขาคงไม่อาจยอมรับไปตามตรงได้กระมังว่าตนคิดอย่างไร
“ผู้เฒ่าซ่ง! อย่างน้อยข้าก็เป็นคนข้างกายท่านโหว ท่าน…”
“ท่านโหวรึ! ต่อให้ตัวเขามาเยือนเอง แต่พูดจาประเภทนี้ข้าก็กล้าทุบตีเขาเช่นกัน! ข้าซ่งเหล่าเกินจริงอยู่ที่เป็นครอบครัวชาวนา แต่ในปูมประวัติก็มีชื่อข้าอยู่ชัดเจน เจ้าไปถามท่านโหวตระกูลเจ้าสิว่าข้าใช่อาของเขาหรือไม่! เจ้าแค่คนรับจ้างผู้หนึ่ง ไม่นึกเลยว่าจะกล้าไร้มารยาทเช่นนี้ ท่านโหวพวกเจ้าสั่งสอนคนเยี่ยงนี้หรือ!” ซ่งเหล่าเกินโกรธจัดจึงตะเบ็งเสียงเต็มที่ หลังตะเบ็งเสียงพูดจบก็รู้สึกเหนื่อยเล็กน้อย จึงโยนไม้กวาดทิ้ง ไม่ลงมือทุบตีอีก
แต่ด้วยเสียงเอะอะดังลั่นขนาดนี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ซ่งซินหัวและซ่งถังหังจะเอาแต่ฟังอย่างเดียว ย่อมต้องออกมามองดูเช่นกัน
“ท่านปู่ นี่เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ” ซ่งซินหัวตระหนกตกใจเมื่อเห็นหวงซาตะลีตะลาน จากนั้นนางรีบกล่าวขึ้นอีกครั้งทันที “หวงซา! ใครให้เจ้าบังอาจกล้าลงไม้ลงมือกับท่านปู่!”
หวงซารีบคุกเข่าลงทันที “เรียนคุณหนูห้า ข้าน้อยถูกใส่ร้าย ข้าน้อยเพียงแค่พูดไม่กี่ประโยคเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าผู้เฒ่าซ่งจะอาละวาดใหญ่โต…”
“บังอาจ!” ซ่งซินหัวขมวดคิ้วชักสีหน้าเย็นชา “หากเป็นพูดคุยทั่วไปมีหรือท่านปู่จะโกรธเกรี้ยว! เขาเป็นผู้เฒ่าอายุปูนนี้แล้ว หากโกรธเกี้ยวจนเป็นอะไรไป เจ้าจะต้องชดใช้ด้วยชีวิต!”
นางไม่เพียงเอ่ยพูดแทนซ่งเหล่าเกิน หากแต่เป็นการพูดตามความจริง
หากผู้มีศักดิ์เป็นปู่คนนี้เป็นอะไรไปในช่วงเวลาเช่นนี้ ผู้ที่มีความสัมพันธ์อย่างศัตรูกับครอบครัวของนางก็จะใช้โอกาสนี้ในการเล่นงานบิดานาง ถึงตอนนั้นทั้งนางและซ่งถังหังก็จะถูกลงโทษ!
เพียงแต่ไม่ว่านางออกโรงด้วยสาเหตุอันใด ซ่งเหล่าเกินได้ยินถ้อยคำนี้ก็รู้สึกพอใจขึ้นมาก
“ช่างเถอะ ครอบครัวพวกเราก็ไม่ใช่อันธพาลอะไรประเภทนั้น” ซ่งเหล่าเกินสบถฮึ “แต่หากยังกล้าพูดจาเหลวไหลอีก ข้าก็จะขับไล่พวกเจ้าออกไปจากหมู่บ้านทันที!”
[1] เสือหมอบมังกรแอบ หมายถึง ทุกอย่างที่มีพลังและอำนาจ (ในทางที่ดี)