ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 695 บิดาของทุกคนทั่วทั้งใต้หล้า ตอนที่ 696 ตัวนำโชค
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 695 บิดาของทุกคนทั่วทั้งใต้หล้า ตอนที่ 696 ตัวนำโชค
ตอนที่ 695 บิดาของทุกคนทั่วทั้งใต้หล้า / ตอนที่ 696 ตัวนำโชค
ตอนที่ 695 บิดาของทุกคนทั่วทั้งใต้หล้า
ครั้นถ้อยคำของซ่งอิงหลุดออกมา ชาวบ้านต่างก็รู้สึกว่ามีเหตุผลมาก
“เห็นแก่ความที่พวกเจ้าอยู่ในฐานะคนของตระกูลซ่ง พวกเราก็จะไม่สร้างความลำบากใจให้พวกเจ้า รีบๆ ออกไปจากหมู่บ้านพวกเราเสีย มิฉะนั้นอย่าโทษที่พวกเราเลือกแตกหักกันไปข้าง!” ชายฉกรรจ์ที่เป็นผู้ลาดตระเวนในหมู่บ้านส่งเสียงตะโกนทันที
ตอนนี้บรรดาลูกน้องของหวงซานลนลานสับสนอย่างยิ่ง
ตอนนี้พวกเขาก็อยากไปเช่นกัน! แต่หัวหน้าหายตัวไปแล้วนี่สิ
“ขอทุกท่านช่วยเชิญคุณชายสี่ตระกูลข้ามาทีนะขอรับ…”
“ตอนนี้ดึกดื่นเที่ยงคืน พวกเจ้ายังจะรบกวนความสงบสุขของผู้คนอีกเท่าไร!” ซ่งอิงสบถฮึ “ไสหัวออกไป!”
ครั้นสิ้นคำพูดของนาง พวกเขาก็เห็นบริเวณต้นดอกไม้ที่อยู่ใต้พุ่มเงาต้นไม้ในลานบ้านพลันเกิดเสียง ‘ฟ่อ ฟ่อ’ ตามมาด้วยเสียงเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงสองสามครั้ง
บรรดาชาวบ้านไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด อย่างไรเสียเดิมทีพื้นที่ตามเชิงเขาก็มีเสียงลมประหลาดบ่อยครั้ง แต่คนเหล่านี้กลับต่างจากพวกเขา
คนหายตัวไปครั้งแล้วครั้งเล่า คนที่เห็นอยู่ในสายตาไม่ทันไรก็หายตัวไปได้ ทำให้พวกเขาอดสงสัยไม่ได้ว่ามีภูตผีปีศาจเล่นงานอยู่จริงๆ ใช่หรือไม่ ดังนั้นลำพังต้นไม้นี้ก็ยังให้ความรู้สึกเย็นเยียบตั้งแต่เท้าไล่ขึ้นมา ชั่วพริบตาเดียวพวกเขาก็ตัวอ่อนยวบไปหมด จู่ๆ คนหนึ่งในนั้นก็หันขวับแล้ววิ่งหนีไป คนอื่นๆ มองเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งตามไปเช่นกัน
เพียงชั่วพริบตาเดียว พวกลูกน้องหวงซาก็วิ่งหนีไปจนหมด
“เฮ้อ ข้ารับใช้ของตระกูลคนใหญ่คนโตพวกนี้ช่างมีข้อบกพร่องเยอะมากจริงๆ ขี้ระแวงขี้สงสัยไปเรื่อย ไม่ได้เรื่องเลยสักนิด สู้ไม่ได้แม้แต่เด็กๆ ของหมู่บ้านเราด้วยซ้ำ” คนเฝ้ายามของหมู่บ้านเห็นดังนี้ก็อดส่ายหน้าไม่ได้
“จริงสิแม่นางฮั่ว ไฉนได้ยินว่า…บิดามารดาผู้ให้กำเนิดเจ้าคือท่านโหวสองสามีภรรยานั่น ถ้อยคำนี้เป็นความจริงหรือไม่” มีคนเอ่ยถามกะทันหันด้วยความประหลาดใจ
พวกเขายังนึกว่าบิดามารดาของซ่งอิงเป็นแค่คนร่วมวงศ์ตระกูลที่นับว่ามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดจวนโหวเสียอีก!
“ใครเอ่ยถ้อยคำเช่นนี้กับพวกท่านหรือ” ซ่งอิงเลิกคิ้ว
คนตระกูลซ่งไม่มีทางเอามาพูดสู่ภายนอกสุ่มสี่สุ่มห้าแน่
“ยังจะมีใครได้อีก นอกเสียจากคุณชายน้อยอะไรนั่นของจวนโหว เด็กน้อยผู้นั้นรวมไปถึงผู้คุ้มกันเหล่านั้น วันๆ ไม่มีเรื่องอะไรทำก็เที่ยวเดินสอบถามเรื่องของเจ้าทั่วสารทิศ พูดอ้อมไปอ้อมมา แต่สุดท้ายล้วนเป็นการบอกกล่าวว่าเจ้ากับเขาเป็นพี่น้องแท้ๆ กัน…”
“ก็นั่นสิ เด็กคนนั้นมองดูร่างกายอ่อนแอขาวสะอาดสะอ้านคนหนึ่ง แต่การพูดและการกระทำกลับดูเจ้าเล่ห์เล็กน้อย แค่เอ่ยถามถ้อยคำเดียวยังต้องพูดจาอ้อมค้อมเสียขนาดนั้น เหนื่อยแย่” ชาวบ้านไม่ค่อยรู้สึกดีต่อซ่งถังหังนักเช่นกัน
เด็กคนนั้นมองดูค่อนข้างอ่อนโยน ทว่าในความเป็นจริงกลับมีนิสัยใจคออย่างนายน้อยอยู่บ้าง
ซ่งอิงเลิกคิ้วแล้วยิ้มเล็กน้อย “ก็แค่ข้อบกพร่องของเขา หากมีครั้งหน้า พวกท่านก็สั่งสอนพวกเขาได้เลย แค่เด็กน้อยคนหนึ่งที่ขาดการอบรมสั่งสอน หลังถูกคนรังแกสักสองสามครั้งก็คงว่านอนสอนง่ายขึ้นเป็นแน่เจ้าค่ะ”
“จะดีหรือ อย่างไรเสียคนผู้นั้นก็เป็น…คนจากจวนโหว…” ชาวบ้านตะลึงงันไปชั่วขณะ
นี่หากเป็นเด็กในหมู่บ้านก็คงถูกสั่งสอนไปนานแล้ว
“จวนโหว? เขาเป็นบิดาของคนทั่วทั้งหล้าหรือไรเจ้าคะ ใครๆ ก็เลยต้องตามใจเขาเช่นนั้นหรือ หากเขากระทำเรื่องผิดๆ ในหมู่บ้านเรา สมควรตีก็ตี สมควรด่าก็ด่า เขาจะได้ไม่เพิ่มความยุ่งยากวุ่นวายให้ทุกคนด้วยเช่นกันเจ้าค่ะ” ซ่งอิงเผยท่าทีเด็ดขาด
ทุกคนมองนางปราดหนึ่ง
“เขา…เป็นน้องชายแท้ๆ ของเจ้าจริงสินะ” มีคนกล่าวด้วยความประหลาดใจ
“แม่นางฮั่ว เจ้าอย่าตำหนิข้าเลย พวกเราก็แค่รู้สึกว่าเด็กคนนี้ไม่ค่อยเหมือนกับเจ้า” มีคนกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ซ่งอิงเป็นคนเบิกบานและใจกว้างตั้งเท่าไร ไฉนจึงมีน้องชายที่ปากเปราะอย่างกับสตรีคนหนึ่งเพียงนี้ได้
ซ่งอิงรู้เช่นกันว่าคนในหมู่บ้านต้องประหลาดใจเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ้าง ก็ถือว่าเป็นความนึกคิดจิตใจของคนทั่วไป ไม่มีเหตุผลที่จะตำหนิติเตียน นางจึงได้แต่กล่าว “ข้าไม่ค่อยเหมือนกับพวกเขาหรอกเจ้าค่ะ เรื่องในอดีตล้วนผ่านเลยไปแล้ว ปัจจุบันข้าก็คือสาวน้อยในชนบทธรรมดาๆ ในทะเบียนสำมะโนครัวก็เขียนไว้ชัดเจนว่าใครเป็นบิดามารดาข้า ดังนั้น…หวังว่าทุกคนจะไม่หยิบยกเรื่องนี้มาเห็นข้าเป็นคนนอก ปฏิบัติกับข้าเหมือนที่ผ่านๆ มาแค่นั้นก็พอเจ้าค่ะ”
ครั้นเอ่ยถ้อยคำนี้ ทุกคนยิ่งรู้สึกตกตะลึงระคนประหลาดใจ
แท้จริงแล้วซ่งอิงเป็นบุตรสาวในตระกูลโหวผู้สูงศักดิ์และร่ำรวย!
เพียงแต่คนของจวนโหวนี่ไม่ปกติกระมัง บุตรสาวคนหนึ่งเยี่ยงนี้ มิใช่เลี้ยงไม่ไหว อีกทั้งเป็นตระกูลคนที่มีอำนาจมีศักยภาพ ต่อให้เป็นอย่างที่ซ่งถังหังกล่าวว่าซ่งอิงเป็นตัวปัญหา แต่นั่นก็คอยป้องกันได้นี่!
ไม่นึกเลยว่าจะถึงขั้นไม่ต้องการนาง!
ตอนที่ 696 ตัวนำโชค
ทุกคนประหลาดใจตามๆ กัน ยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่าท่านโหวผู้นี้คล้ายว่าไม่ใช่คนสูงศักดิ์ที่ดีงามขนาดที่พวกเขาคิด
ซ่งถังหังเคยกล่าวถึงว่าสาเหตุที่จวนโหวเอาลูกมาเลี้ยงในชนบท นั่นเป็นเพราะซ่งอิงดวงชะตาชีวิตอาภัพ
อาภัพบ้าบออะไร!
ซ่งอิงชะตาชีวิตดีจนไม่รู้จะดีอย่างไร!
มองดูหมู่บ้านพวกเขาสิ มิใช่ว่าเพราะได้รับอิทธิพลจากซ่งอิงจึงดีขึ้นมาทีละนิดหรือ
สามีที่เสียชีวิตไปแล้วยังฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้ แล้วนี่ยังกล่าวว่านางไม่ใช่ตัวนำโชคอีกหรือ!
แต่ละคนล้วนรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนซ่งอิง เพียงแต่นี่เป็นเวลาดึกดื่นแล้ว ไม่สะดวกพูดคุยเรื่องนี้ต่อเช่นกัน อีกทั้งเห็นแก่ซ่งอิง หากพูดมากไปเกรงว่าซ่งอิงจะรู้สึกทุกข์ใจได้
ดังนั้นจึงพากันแยกย้ายไป
แต่ครั้นถึงยามเช้าตรู่ เรื่องนี้ก็แพร่งพรายไปทั่วหมู่
ไม่มีผู้ใดกล้าพูดอะไรมากมายเมื่ออยู่ต่อหน้าซ่งอิง แต่ลับหลังล้วนด่าทอคนของจวนโหวหลายต่อหลายครั้ง
เรื่องนี้ส่งผลให้ซ่งซินหัวและซ่งถังหังพานได้รับบรรยากาศแห่งความโกรธเคืองนี้ไปด้วย แน่นอนว่ารวมไปถึงบรรดาผู้คุ้มกันเหล่านั้นที่อยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านด้วยเช่นกัน
เช้าตรู่นี้ ซ่งถังหังเดิมทีคิดอยู่ว่าจะไปเจอหวงซาสักหน่อย แต่เมื่อถึงปากทางหมู่บ้านก็พบว่าบรรดาผู้คุ้มกันแต่ละคนหน้าถอดสี ดูย่ำแย่อย่างยิ่ง แต่นี่ก็ไม่เท่าไหร่ นึกไม่ถึงว่ายังมีชายชกรรจ์สี่ห้าคนขวางอยู่หน้าประตูหมู่บ้าน ลักษณะหน้าตาดุดัน เหมือนต้องการขับไล่ผู้คุ้มกันเหล่านี้ไปเสีย
“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้น” ซ่งถังหังตื่นตกใจ มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี “หวงซาเล่า”
“เมื่อวานหัวหน้า…หายไปแล้วขอรับ” คนผู้หนึ่งบอกกล่าวอย่างทุกข์ใจ
ซ่งถังหังได้ยินดังกล่าวพลันตระหนกตกใจ “หายตัวไปแล้วหรือ มิใช่กล่าวว่าเมื่อคืนจะ…”
ซ่งถังหังปิดปากฉับหลังพูดไปได้ครึ่งประโยค
“คุณชายสี่มาได้จังหวะพอดี ผู้คุ้มกันเหล่านี้ของตระกูลพวกเจ้าไม่รู้แยกแยะดีชั่ว บุกรุกไปในบ้านแม่นางฮั่วกลางดึก ช่างน่ารังเกียจจริงๆ! รบกวนเจ้าพาคนกลับไปด้วย พวกเราไม่อาจปล่อยให้พวกเขาอยู่ใกล้ๆ กับหมู่บ้านซิ่งฮวาได้!” ชาวบ้านกล่าว
“เป็นเพียงแค่ความเข้าใจผิดเท่านั้นเอง พวกเขาน่าจะมีสาเหตุอันใด อีกทั้ง…หัวหน้าหวงหายตัวไปแล้ว จึงยังจำเป็นต้องตามหาอีกด้วย” ซ่งถังหังมุ่นคิ้ว
ชาวบ้านผู้นั้นหัวเราะเยาะ “ก่อนหน้านี้เจ้ากล่าวว่าตัวเองแท้จริงแล้วเป็นน้องชายแท้ๆ ของแม่นางฮั่ว ข้าว่าไม่น่าใช่! นี่หากเป็นน้องชายแท้ๆ ได้ยินว่าข้ารับใช้บุกรุกไปถึงในบ้านมีหรือจะไม่เดือดดาล! แต่ดูเจ้าสิ ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนและยังดูใจกว้างอีก คนที่ไม่รู้ความในคงได้นึกว่าเจ้ามีความแค้นเคืองอะไรกับแม่นางฮั่วเสียอีก!”
“มิใช่…ล้วนเป็นคนครอบครัวเดียวกัน ดังนั้น…” ซ่งถังหังนิ่งอึ้ง
“คนครอบครัวเดียวกันรึ อย่าพูดเช่นนี้เลย คุณชายสี่! แม่นางฮั่วของพวกเราแบกรับถ้อยคำที่เจ้าว่านี่ไม่ไหวหรอก! จะว่าไป เจ้ามาไหว้บรรพบุรุษ ในเมื่อไหว้เสร็จสิ้นแล้วก็สมควรรีบๆ ไปได้แล้วจึงจะถูก มัวอยู่ในหมู่บ้านพวกเราทำไมรึ” ชาวบ้านกล่าวอย่างรังเกียจ
ไม่รู้จักพูดภาษาคน และยังไม่ไสหัวไปอีก
ซ่งถังหังรู้สึกไม่สบอารมณ์ในใจ
“คุณชายสี่ขอรับ ผู้คุ้มกันหวงของพวกเราหายไปในเรือนซ่งอิงจริงๆ นะขอรับ!” ผู้คุ้มกันคนหนึ่งกล่าว
ซ่งถังหังรู้สึกหนักใจอย่างยิ่ง
หวงซาไม่อยู่ คนเหล่านี้ก็จำเป็นต้องฟังคำสั่งเขา แต่ตอนนี้เขาจะพาคนจากไปทันทีหรือว่า…อยู่ทำภาระหน้าที่ของท่านพ่อให้สำเร็จ
หากนำคนเดินทางจากไป หลังกลับถึงบ้าน บิดาต้องดูถูกว่าเขาเปล่าประโยชน์เป็นแน่ หากฝืนอยู่ต่อ เช่นนั้น เช่นนั้นก็เท่ากับว่าเขาจะต้องถือดาบสังหารซ่งอิง
ซ่งถังหังลังเลใจชั่วครู่
“ข้ายังมีถ้อยคำต้องการพูดกับพี่สาวร่วมตระกูล” ซ่งถังหังเอ่ยปาก จากนั้นกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ทุกท่าน พวกท่านก็รู้เช่นกันว่าในความเป็นจริงซ่งอิงคือพี่สาวแท้ๆ ของข้า บัดนี้ในเมื่อต้องไปแล้ว ก่อนจะไปก็ควรได้เจอหน้าค่าตานางสักหน่อยจึงจะถูก และกระทั่งถ้าข้าให้นางไปส่งข้าก็เป็นสิ่งที่สมควรกระมัง”
ชาวบ้านส่งเสียงสบถฮึ
แต่ในเมื่อซ่งถังหังรับปากว่าจะไป ชาวบ้านจึงจัดให้สมความปรารถนาของเขา
ให้เขาไปกล่าวร่ำลาซ่งอิง
แน่นอนว่าพวกเขายังต้องบอกซ่งซินหัวให้รับรู้ด้วย พี่น้องคู่นี้ต้องเดินทางกลับไปพร้อมกันอยู่แล้ว