ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 697 กลับไปด้วยกัน ตอนที่ 698 ใช้ชีวิตสุขสบายเกินไปแล้ว
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 697 กลับไปด้วยกัน ตอนที่ 698 ใช้ชีวิตสุขสบายเกินไปแล้ว
ตอนที่ 697 กลับไปด้วยกัน / ตอนที่ 698 ใช้ชีวิตสุขสบายเกินไปแล้ว
ตอนที่ 697 กลับไปด้วยกัน
เมื่อซ่งอิงรู้ข่าว นางก็มิได้ห้ามไม่ให้ซ่งถังหังมาหาแต่อย่างใด
ซ่งถังหังได้รับเชิญเข้ามาในบ้านเป็นครั้งแรก
ขณะมองใบหน้าซ่งอิง ซ่งถังหังก็ตกอยู่ในภวังค์มากขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่รู้ว่าเพราะตนในตอนนั้นอายุยังน้อยนักจึงจำผิดไป หรือเพราะซ่งอิงเปลี่ยนแปลงไปอย่างใหญ่หลวงแล้วจริงๆ เขาจึงรู้สึกว่าตอนนี้พี่สาวผู้นี้แตกต่างกับคนในตอนนั้นราวกับคนละคน
“ท่านพี่ ท่านยังจำข้าได้หรือไม่ ตอนนั้นยามที่ท่านอยู่จวนโหว ข้าเคยไปแอบดูท่าน” ซ่งถังหังกล่าว
“ต้องจำได้อยู่แล้ว ฤดูหนาวปีแรก มีวันหนึ่งเจ้ากุมเตาอุ่นมือไว้ในมือ ข้ารับใช้ช่วยถือร่มให้เจ้า เจ้าสวมเสื้อคลุมกันลมสีขาว แม้ยืนอยู่บนหิมะก็ยังดูอบอุ่น” ซ่งอิงกล่าว
ซ่งถังหังตกตะลึง
นึกถึงภาพฉากดังกล่าวนั้น
เมื่อก่อนเขาล้วนมองซ่งอิงโดยการแอบมอง ในวันนั้นเขาเขยิบเข้าไปมองใกล้ขึ้นหน่อย ตอนนั้นซ่งอิงนั่งอยู่ในบ้าน นางตัวสั่นเทาพลางกระทืบเท้าเบาๆ ขณะที่มือกลับถือเข็มอยู่ แม่นมที่อยู่ข้างๆ วางตัวหยิ่งผยองยามสอนนางปักผ้า พูดจาดูถูกนางว่าโง่เขลา และกล่าวว่าสิ่งที่นางปักดูไม่มีชีวิตชีวาเลยสักนิด
“ท่านพี่อย่าตำหนิข้าที่ตอนนั้นไม่ได้ช่วยพูดแทนท่านจะได้หรือไม่ ตอนนั้นข้ายังเล็กเช่นกัน…” ซ่งถังหังเอ่ยปากทันที
ซ่งอิงเผยรอยยิ้มคล้ายไม่ยิ้มยามมองเขา “ใช่ เจ้ายังเด็ก นอกจากมุงดูเป็นเรื่องสนุก ก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น”
ซ่งถังหังชะงักงันไป รู้สึกอับอายเล็กน้อย
ซ่งอิงเผยสีหน้าแววตาเย็นชา ความหมายของนางเรียบง่ายมาก ก็คือ ในเมื่อยังเด็กก็ไสหัวไปอยู่ในบ้านอย่างสงบเสงี่ยมเรียบร้อยเสีย
ทำไมต้องคอยจับจ้องเจ้าของร่างที่ถูกรังแกและถูกดูแคลนด้วยเล่า ท่าทีของเขาเหมือนกับการหัวเราะเยาะคนอื่น ทำให้เจ้าของร่างอัปยศอดสูมากขึ้นหลายเท่าตัว
อีกทั้ง การที่อายุน้อยก็จะเท่ากับไม่รู้จักทำร้ายผู้อื่นหรอกหรือ
สาเหตุที่ซ่งอิงยังคงจดจำภาพฉากนั้นได้เด่นชัด เป็นเพราะในวันนั้นเรือนร่างน้อยๆ ของซ่งถังหังปรากฏตัวอยู่ในลานบ้านของนาง และยืนอยู่เช่นนั้นถึงสองเค่อเต็มๆ
เอาแต่จ้องมองนางอยู่เยี่ยงนั้น กระทั่งนางถูกแม่นมสั่งสอนเสร็จสิ้นแล้วจึงได้เดินจากไป
หลังเขาเดินจากไป เหล่าข้ารับใช้ก็หัวเราะเยาะและกล่าวว่า ออกมาจากท้องเดียวกัน ไฉนจึงห่างชั้นกันมากมายเช่นนี้ แม้ว่าคุณชายสี่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง แต่กลับเป็นคนที่เหมือนเด็กเซียนสวรรค์ก็ไม่ปาน ส่วนเจ้าของร่างดูต่ำทราม แม้แต่ดอกโบตั๋นก็ยังปักให้งดงามไม่ได้
ไม่ใช่ว่าเจ้าของร่างฝีมือปักผ้าแย่ เพียงแต่นางเติบโตมาในชนบทป่าเขาตั้งแต่เด็ก ไม่รู้จักชื่นชมความงามของดอกโบตั๋นจริงๆ
ที่นางถนัดคือสิ่งต่างๆ ตามป่าเขา แต่สิ่งเหล่านั้นไม่ถือเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่สง่างามสำหรับที่นี่
ซ่งอิงถูกข้ารับใช้หัวเราะเยาะก็ว่าแย่แล้ว ในคืนวันเดียวกัน ซ่งถังหังกลับเกิดล้มป่วย
ล้วนพูดกันว่าเป็นเพราะมายังลานบ้านของนางแล้วถูกความเย็นจากหิมะเข้าแล้ว
จากนั้นโหวฮูหยินก็นำสาวใช้หนึ่งกลุ่มใหญ่มาหา ตำหนินางว่าไม่รู้จักระเบียบปฏิบัติ น้องชายมาเยี่ยมเยียน นางกลับไม่รู้จักต้อนรับ ทำให้น้องชายไม่สบายจนได้ และกล่าวว่านางจิตใจอำมหิต จากนั้นลงโทษให้เจ้าของร่างคุกเข่าอยู่บนพื้นหิมะตลอดหนึ่งคืน!
เจ้าของร่างสุขภาพดี แม้เผชิญความหนาวเย็นเพียงนี้ตลอดหนึ่งคืนก็ไม่เจ็บป่วย
ยิ่งไปกว่านั้นคือนางไม่กล้าป่วย เกรงว่าล้มป่วยตายแล้วจะไม่ได้กลับหมู่บ้านซิ่งฮวาอีก
แววตาซ่งอิงเย็นชา ซ่งถังหังกลับรู้สึกว่านางแปลกพิกล
“ท่านพี่…ตอนนั้นข้าไม่ค่อยรู้ความ แต่ก็รู้เช่นกันว่าท่านเป็นพี่สาวแท้ๆ ของข้า ข้าอยากไปแสดงความห่วงใยกับท่านเช่นกัน…เพียงแต่แม่นมผู้นั้นเป็นคนที่ท่านแม่ข้าจัดหาไว้ ข้าไม่กล้าละเมิดความประสงค์ของท่านแม่…” ซ่งถังหังกล่าว “ตามจริง…หลายปีมานี้ท่านแม่ก็คิดถึงท่านเช่นกัน หรือไม่ ท่านกลับไปพร้อมข้าดีล่ะ”
ซ่งอิงหัวเราะออกมาทันทีที่ได้ยินถ้อยคำนี้
“ให้ข้ากลับไปพร้อมกับเจ้ารึ เจ้ามั่นใจหรือว่าข้าจะอยู่รอดถึงเมืองหลวง” ซ่งอิงเอนกายพิงพนักเก้าอี้ พูดยิ้มๆ
ซ่งถังหังตื่นตกใจ จากนั้นก็ร้อนตัวเล็กน้อย “ท่านพี่พูดอะไรเช่นนี้เล่า ท่านต้องอยู่รอดถึงเมืองหลวงได้อยู่แล้วสิ…ท่านไม่คิดถึงท่านพ่อท่านแม่บ้างหรือ”
ซ่งอิงจ้องมองซ่งถังหังไม่วางตา ต้องขอกล่าวว่าสมกับเป็นเด็กที่ผ่านการสั่งสอนจากทางด้านจวนโหวนั่นจริงๆ เพิ่งอายุกี่ขวบเอง ก็พูดปดได้หน้าตาเฉยแล้ว
หลานซื่อเห็นเจ้าของร่างเป็นความอัปยศอดสู แล้วจะคิดถึงเจ้าของร่างได้อย่างไรเล่า
ตอนที่ 698 ใช้ชีวิตสุขสบายเกินไปแล้ว
“ท่านพี่ ท่านจ้องมองข้าขนาดนี้ทำไมหรือ” ซ่งถังหังฝืนคลี่ยิ้มที่ดูไร้เดียงสาและไร้พิษสง
“เพียงแค่รู้สึกว่าใบหน้าเจ้าอัปลักษณ์มาก ซึ่งก็เหมือนกับจิตใจเจ้าจริงๆ” ซ่งอิงถอนสายตากลับและกล่าวอย่างดูถูก
ซ่งถังหังตะลึงงัน
“ตอนนั้นเจ้ายังเด็ก กล่าวได้มากสุดคือไร้เดียงสา ไม่รู้เรื่องรู้ราวและช่างอยากรู้อยากเห็น บัดนี้เติบใหญ่แล้ว ความสามารถมากมายแล้วเช่นกัน ถึงขั้นรู้จักพูดจาหลอกลวงเป็นแล้วด้วย ช่างไม่ธรรมดาเลยจริงๆ” น้ำเสียงซ่งอิงเยาะหยัน “เจ้านี่สมกับเป็นลูกชายของท่านโหวซ่งจริงๆ ความนึกคิดชั่วร้ายและไร้ยางอาย เจ้าไม่ด้อยไปกว่าบิดามารดาเจ้าเลยสักนิด”
“ท่านพี่!” ซ่งถังหังลุกพรวดขึ้นมาทันที
“ไม่ยอมรับหรือ” ซ่งอิงแสยะยิ้มเยาะ “เจ้ามาหาข้าในครั้งนี้เพื่ออะไร จะว่าเพราะอยากพูดคุยรำลึกความหลังเก่าๆ กับข้าก็คงเป็นไปมิได้กระมัง ซ่งถังหัง เจ้าเป็นคนฉลาด แต่อย่าได้คิดว่าคนอื่นล้วนเป็นคนโง่เขลาสิ”
“หากวันนี้ข้าซาบซึ้งใจไปกับคำพูดไม่กี่คำของเจ้าและถึงขั้นตามไปส่งเจ้าออกเมืองยง ข้ายังจะได้กลับมาอีกหรือ”
“หวงซาหายตัวไปแล้ว ผู้คุ้มกันเหล่านี้ย่อมเชื่อฟังเจ้า บิดาเจ้าให้เจ้ามาไหว้บรรพบุรุษ แต่หากเจ้ากลับไปพร้อมผลงานอย่างการสังหารข้าได้ หลังกลับไปถึง บิดาเจ้าต้องชมเชยว่าเจ้าชาญฉลาดและมากความสามารถเป็นแน่ หากพี่ชายเจ้าเกิดมีอันเป็นไป ฐานะของเจ้าที่อยู่ในจวน…คงไม่ต้องให้ข้าพูดหรอกกระมัง” ซ่งอิงกล่าวเสียดสีอีกครั้ง
“ข้า…ไม่ได้…” ซ่งถังหังรีบกล่าวทันควัน
ซ่งอิงหัวเราะเยาะออกมา
“ที่ตรงนี้ไม่มีคนอื่น เจ้าไม่ประหลาดใจหรือว่าหวงซาตายอย่างไร”
“ตาย? หวงซาตายแล้วหรือ!” ซ่งถังหังสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างยิ่ง
“เจ้ายังคงไร้เดียงสาน่าดู หรือเจ้าคิดว่าคนผู้นี้เพียงแค่หายไปในบ้านข้าเฉยๆ เท่านั้น อีกสองสามวันก็คงปรากฏตัวออกมาได้” ซ่งอิงยิ้มกล่าว
ซ่งถังหังกลืนน้ำลาย
ซ่งอิงหมายความว่าอะไร
กำลังข่มขู่เขา หรือว่า…ต้องการทำให้เขาตายเช่นเดียวกับที่ทำหวงซาตาย
เป็นไปไม่ได้ คนของเขาอยู่ข้างนอกนั่น อีกทั้งผู้คนมากมายมองเห็นเขามากล่าวร่ำลาซ่งอิง หากเขาหายตัวไปเช่นกัน เช่นนั้นซ่งอิงก็จะอธิบายต่อคนภายนอกไม่ได้
แต่…เมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของซ่งอิง เขากลับตระหนกตกใจอย่างยิ่ง
เหมือนกับว่า ถูกคนพบเรื่องที่อัปยศที่สุดแล้วอย่างไรอย่างนั้น
ซ่งถังหังสีหน้าซีดเผือด กำหมัดแน่น
“ข้ามิได้หมายความเช่นนั้น ข้าไม่เคยคิดฆ่าท่าน…” ซ่งถังหังไม่รู้จะทำอย่างไรดี
เวลานี้เอง ซ่งอิงยกมือขึ้นแล้วตบเข้าที่ใบหน้าเขาหนึ่งฉาดเสียงดัง ‘เพียะ’
“ความสามารถอย่างการปฏิเสธท่าเดียวเช่นนี้ก็คือสิ่งที่ท่านพ่อเจ้าสอนไว้ใช่หรือไม่ ซ่งถังหัง เจ้าอยากฆ่าข้า ข้าตบหน้าเจ้าหนึ่งทีก็ไม่ถือว่าเกินไปสำหรับเจ้ากระมัง เห็นแก่ความที่เจ้าอายุน้อยไม่รู้ความ ข้าจะไม่ถือโทษเอาความเจ้าจนเกินไป แต่หากเจ้าคิดจะอยู่ต่อเพื่อรนหาที่ตาย ข้าก็จะจัดให้ตามความปรารถนาของเจ้าเช่นกัน” ซ่งอิงกล่าวเสียงเย็นชา
ซ่งถังหังรู้สึกถึงความเจ็บปวดบนใบหน้าที่สั่นสะท้านเล็กน้อย จากนั้นส่งเสียงไอขึ้นมาทันที
ครั้นเขาตื่นตัวอย่างยิ่งก็ตามมาด้วยการหายใจไม่สะดวก
ซ่งอิงขมวดคิ้วนิ่วหน้ามอง ทว่าในใจนางยังคงสงบไร้ความตื่นตระหนก
เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง ซ่งถังหังก็อาการดีขึ้น จากนั้นหัวเราะเยาะตัวเอง
“ท่านพี่ ท่านใช้ชีวิตอยู่ในหมู่บ้านที่ไร้สิ่งแปลกใหม่และไร้การแข่งขันตั้งแต่เล็ก ย่อมรู้สึกว่าข้าชั่วร้ายเป็นธรรมดา แต่นี่ก็เป็นแค่ครั้งแรกของข้าเช่นกัน! เมื่อก่อนข้าล้วนเป็นผู้ถูกกระทำ ครั้งนี้หากข้ากลับไปคนเดียวก็จะถูกท่านพ่อเกลียดชังเอาได้!” ซ่งถังหังกุมหน้าอกขณะกล่าว
ซ่งอิงยังคงไม่มีความปรานีแต่อย่างใด
หากไม่ใช่เพราะเห็นว่าเขาโง่เกินเยียวยา และมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นมือใหม่หัดก่อเรื่อง มีหรือนางจะเพียงแค่ตักเตือนเขาด้วยวาจาเท่านั้น
“ท่านอยู่ที่นี่มีคนทะนุถนอมและมีคนรักใคร่ แม้ว่าเข้าเป็นคุณชายของจวนโหว แต่ต่างกับพี่ใหญ่ราวฟ้ากับดิน! ตอนที่ข้าเพิ่งสี่ห้าขวบ พี่ใหญ่ก็เกลียดชังข้า ทำให้ข้าร่างกายไม่แข็งแรง ต้องกินยาทุกวัน สิ่งที่ท่านเผชิญไม่ถือว่าเลวร้ายอะไรเลยด้วยซ้ำ” ซ่งถังหังดวงตาแดงก่ำ
ซ่งอิงได้ยินดังกล่าวกลับหัวเราะเยาะออกมา
ดังนั้นกล่าวได้ว่า เขารู้สึกว่าตัวเองน่าสงสาร ดังนั้นผิดที่นางพี่สาวคนนี้มีชีวิตสุขสบายเกินไปแล้วสินะ