ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 699 จิตใจละโมบไม่รู้จักพอ ตอนที่ 700 เสือดุกลางเขามากมาย
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 699 จิตใจละโมบไม่รู้จักพอ ตอนที่ 700 เสือดุกลางเขามากมาย
ตอนที่ 699 จิตใจละโมบไม่รู้จักพอ / ตอนที่ 700 เสือดุกลางเขามากมาย
ตอนที่ 699 จิตใจละโมบไม่รู้จักพอ
ซ่งถังหังยิ้มประชดประชัน
ตอนนั้นเขามองเห็นซ่งอิงถูกมารดารังเกียจขนาดนั้น แม้รู้สึกสงสารนางอยู่ในใจ แต่กลับรู้สึกเช่นกันว่า แท้จริงแล้วการเป็นลูกของท่านพ่อท่านแม่ ไม่ได้มีเพียงแค่เขาที่ถูกคนอื่นคอยจ้องเล่นงาน!
ดังนั้นเขามักจะไปดูสถานการณ์ของซ่งอิงเสมอ เมื่อเห็นนางมีสีหน้าไร้ที่พึ่ง เขาก็จะรู้สึกว่ามีเพื่อนร่วมชะตากรรม แต่ก็รู้สึกอีกว่าตนมีชีวิตที่ดีกว่าซ่งอิง!
“ช่างจิตใจละโมบโลภมากจริงๆ” ซ่งอิงพรูลมหายใจ “อย่างน้อยๆ ตอนแรกข้าก็เคยใช้ชีวิตอยู่จวนโหวเช่นกัน เจ้าใช้ชีวิตในแต่ละวันเป็นอย่างไร ข้าเองก็ยังพอรู้อยู่แก่ใจ”
ซ่งถังหังเม้มปาก
“เจ้าเป็นคุณชายแห่งจวนโหว แม้ไม่ใช่ผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์ แต่ในบรรดานายน้อยทั้งจวนโหว นอกจากซ่งถังปิ่ง เจ้าก็คือผู้ที่มีชีวิตแต่ละวันสุขสบายที่สุด หลานซื่อผู้เป็นมารดาเจ้าสงสารและเห็นใจที่เจ้าร่างกายไม่แข็งแรงตั้งแต่เล็ก ดังนั้นจึงเอาใจใส่ในการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่ของเจ้าอย่างยิ่ง ในปกติแต่ละวันหากไม่ได้กินรังนกหนึ่งถ้วยพร้อมด้วยขนมอบหนึ่งชิ้น ข้ารับใช้ก็ล้วนเป็นต้องถูกตำหนิอันเนื่องจากเรื่องนี้ ซ่งโหวเหยียไม่ถามไถ่เรื่องจิปาถะในบ้าน แต่ก็ให้ความสำคัญอย่างยิ่งเกี่ยวกับการเรียนของบุตรชายที่เกิดจากภรรยาหลวงเช่นเจ้าผู้นี้ ทุกเดือนจึงมีการชี้แนะสั่งสอนให้เจ้าเป็นการเฉพาะสี่ห้าวัน ที่ข้าพูดมีอะไรผิดหรือไม่”
“หากเจ้าไอขึ้นมาครั้งหนึ่ง ข้ารับใช้ที่ติดตามข้างกายก็จะวิตกกังวลเพิ่มขึ้น หากเจ้ากุมหน้าอกแสดงออกว่ารู้สึกแย่ ก็จะมีข้ารับใช้ถูกลงไม้โบย เจ้าดำรงชีวิตประเภทนี้แล้วแท้ๆ ยังมีอะไรให้รู้สึกไม่พออีกหรือ ก็แค่เพียงเพราะพี่ใหญ่เจ้ามีชีวิตที่ดีกว่าเท่านั้นเอง” ซ่งอิงกล่าว
ทุกถ้อยคำที่นางเอื้อนเอ่ยล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น
อย่างน้อยซ่งถังหังก็เป็นบุตรที่เกิดจากภรรยาหลวงโดยชอบธรรม จะเผชิญความทุกข์ทรมานและไม่ได้รับความโปรดปรานทุกวันจริงๆ ได้อย่างไร
ถ้าหากไม่ใช่คนช่างคิดเล็กคิดน้อย ก็นับว่าคนทางด้านจวนโหวก็ปฏิบัติต่อซ่งซินหัวและซ่งถังหังอย่างดีเยี่ยมแล้ว!
เขารู้สึกไม่พอ ว่ากันตามจริงก็เพราะเขาอิจฉาพี่ชายผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์คนนั้นต่างหาก อิจฉาริษยาที่คนผู้นั้นจะได้รับสืบทอดตำแหน่งโหวในภายภาคหน้า แต่สิ่งที่เขาจะได้รับเป็นแค่กิจการส่วนน้อยของจวนโหว
ใจคนเราไม่รู้จักพอ
ซ่งถังหังคางสั่นระริก
เขาส่งเสียงไอและเผยแววตาลักษณะร้อนตัวอยู่บ้าง สีหน้าลนลานระคนอับอายเล็กน้อย
“พี่สาวร่วมตระกูลพูดถูก ข้า จิตใจละโมบโลภมากเกินไปจริงๆ” ซ่งอิงพูดจบ ซ่งซินหัวก็บุกเข้ามาพอดี “พี่สาวร่วมตระกูล ข้ากับน้องชายจะไปเดี๋ยวนี้ละเจ้าค่ะ ข้าเองก็คุ้นชินเส้นทางกลับแล้ว อีกทั้งมีข้ารับใช้คอยปรนนิบัติดูแล ไม่จำเป็นต้องให้ท่านไปส่งแต่อย่างใดเจ้าค่ะ”
ซ่งอิงเกาศีรษะ
อืม มาได้ทันกาล คงมิใช่เพราะซ่งซินหัวชาญฉลาด พบว่าการตายของหวงซาเป็นฝีมือนาง ดังนั้นกังวลใจว่านางจะลงมือโหดเหี้ยม เมื่อโมโหขึ้นมาก็จะถึงขั้นบีบคอซ่งถังหังตายไปด้วยหรอกกระมัง
แม้ว่าซ่งถังหังยังไม่ยอมถอดใจอยู่บ้าง แต่จะทำอย่างไรได้อีก
“พี่สาวร่วมตระกูล เพียงแต่…” ซ่งซินหัวอ้ำอึ้ง ท้ายที่สุดก็ยังกล่าวออกมา “ทางด้านท่านพ่อนั้น ท่านหลบรอดได้ในตอนแรก แต่มิได้หมายความว่าจะหลบพ้นไปได้ตลอดนะเจ้าคะ”
หวงซาไม่อยู่แล้ว บิดานางต้องเดือดดาลยิ่งขึ้นเป็นแน่
“แล้วก็…ตอนที่พวกเราเดินทางมา ตระกูลเซว์มักจ้องหาเรื่องท่านพ่อข้าอยู่เรื่อย คิดว่าอีกไม่นานนักก็คงมีข่าวลือเกี่ยวกับท่านแพร่งพรายทั่วเมืองหลวง ถึงตอนนั้นเพื่อภาพลักษณ์ของจวนโหว ไม่ว่าอย่างไรท่านพ่อก็ไม่ทางปล่อยให้ท่านมีวันรอดชีวิตกลับไปเป็นแน่”
“หากใบหน้าของท่านยังเสียโฉมสิ้นเชิงเช่นตอนนั้น ท่านพ่อข้าก็คงยังพอยืนกรานเสียงแข็งปฏิเสธได้ แต่นี่ท่านหายดีแล้ว หากท่านไม่อยากตายก็คิดหาวิธีเถอะ” ซ่งซินหัวพูดจบก็ดึงซ่งถังหังเดินออกไปทันที
เมื่อเดินพ้นตัวบ้านมาถึงลานบ้าน ซ่งซินหัวไม่พูดไม่จา ฟาดมือตบหน้าซ่งถังหังดัง ‘เพียะ’
“ท่านพี่!” ซ่งถังหังกุมใบหน้า ตระหนกตกใจอย่างยิ่ง
“น้องสี่ ข้าประเมินเจ้าต่ำไปแล้วจริงๆ เพื่อทำให้ท่านพ่อพึงพอใจ เจ้าถึงขั้นจะฆ่าพี่สาวคนโตเชียวหรือ ข้าอยากถามเจ้าจริงๆ ว่า สมองเจ้าไปไหนหมดแล้ว พี่สาวที่เกิดจากท้องเดียวกันเจ้ายังจะลงมือได้ เจ้าคิดว่าหากท่านพ่อเรารู้เรื่องนี้ เขาจะดีใจหรือ!”
ซ่งซินหัวเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงถากถาง “ข้ามาในวันนี้มิใช่เพื่อเจ้า แต่เพราะกลัวว่าเจ้าจะพานให้ข้าเดือดร้อนไปด้วย หากท่านพ่อคิดว่าข้าเหมือนกับเจ้า เป็นคนที่ไม่คำนึงถึงความเป็นญาติพี่น้องร่วมวงศ์ตระกูล เขาก็จะไม่หาคู่ครองดีๆ ให้ข้า ยิ่งไปกว่านั้นก็จะไม่กล้าคาดหวังว่าภายภาคหน้าข้าจะนึกเห็นใจตระกูลฝั่งมารดา!”
ตอนที่ 700 เสือดุกลางเขามากมาย
ซ่งซินหัวรู้สึกอย่างจริงจังว่าด้วยความที่ซ่งถังหังอายุยังน้อยเกินไป ไม่เคยผ่านประสบการณ์อะไรมากมาย ดังนั้นจึงโง่เขลาเกินไป!
หากบิดาเขาอยากให้พวกเขาสองพี่น้องเป็นผู้ลงมือจริง แล้วไยไม่สั่งการพวกเขาโดยตรง ในทางกลับกัน กลับให้หวงซาลงมือแทน! หรือว่าลูกในสายเลือดยังน่าเชื่อถือสู้ผู้คุ้มกันไม่ได้!
จะว่าไปแล้ว บิดาเพียงแค่ให้พวกเขามาไหว้บรรพบุรุษเพื่อทำพอเป็นพิธีเท่านั้นเอง!
นางและซ่งถังหังเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของจวนนโหว อยู่หมู่บ้านซิ่งฮวาแห่งนี้จะก่อเรื่องอื่นใดมิได้โดยเด็ดขาด!
ผู้คุ้มกันไม่รู้ความ ไม่ว่าจะสังหาร ฟาดฟัน หรือจับตัวใครไปขายล้วนได้ทั้งนั้น แต่พวกเขาเป็นเด็กๆ ของจวนโหว หากกระทำเรื่องนอกคุณธรรมศีลธรรมและเข่นฆ่าทำร้ายญาติร่วมวงศ์ตระกูล เช่นนั้นก็จะเกี่ยวโยงไปถึงทั้งจวนโหวด้วย!
ซ่งถังหังหว่างคิ้วสั่นระริกเล็กน้อย
“ท่านพี่ ทั้งๆ ที่ท่านก็เกลียดนางเช่นกัน…” ซ่งถังหังลดมือลง
“ใครบอกเจ้าว่าข้าเกลียดนาง” ซ่งซินหัวพูดออกมาก่อนจะชะงักไป “เอาละ ในเมื่อหวงซาหายตัวไปแล้ว อยู่ต่อไปก็ไร้ความหมาย เราควรกลับไปกันได้แล้ว ออกเดินทางกันตอนนี้เลย ไม่อาจอยู่ที่นี่ต่อได้แม้แต่วันเดียว”
ยามที่นางมา นางสังเกตเห็นสายของผู้คนในหมู่บ้านจำนวนมากเต็มไปด้วยความระแวดระวังและรังเกียจขณะมองนาง
พวกเขาไม่อาจอยู่ต่อได้แล้ว
เพียงแต่นึกถึงภาพสถานการณ์ที่เที่ยวเล่นกลางเขาเมื่อวานนี้ ซ่งซินหัวก็ใจเต้นระรัวขึ้นมา
ซ่งอิงมีชีวิตที่ไม่เลวเลย สิ่งที่นางไม่เคยได้ครอบครองในจวนโหวล้วนมีอยู่ที่นี่ทั้งหมด ช่างดีจริงๆ
มิน่าล่ะ นางจึงยินยอมทำร้ายตัวเอง ขอแค่ต้องกลับมาให้ได้
ในเวลานี้เอง ซ่งถังหังก็ส่งเสียงขานรับอย่างหงุดหงิดใจ
ผู้คุ้มกันของจวนโหวหายไปกว่าครึ่ง บรรดาผู้คุ้มกันแต่ละคนล้วนเดินคอตกห่อเหี่ยว มองดูน่าสงสารไม่น้อย
บ้านซ่งมิใช่ครอบครัวที่ไม่รู้ธรรมเนียมมารยาทระดับนั้น คนของจวนโหวเดินทางยาวไกลมาเยือน จะอย่างไรก็ต้องเตรียมของขวัญให้นำติดไม้ติดมือกลับไปสักหน่อย ซ่งเหล่าเกินจึงตระเตรียมของเอกลักษณ์ประจำหมู่บ้านซิ่งฮวาของพวกเขาให้ไปไม่น้อย มิหนำซ้ำยังเตรียมรถม้าเอาไว้ให้เป็นการเฉพาะหนึ่งคัน เช่นนี้ทำให้คนอื่นไม่อาจหาข้อตำหนิติเตียนได้เลยจริงๆ
ตอนที่มาเยือน ทุกคนต้อนรับคนของจวนโหวเข้าหมู่บ้าน แต่ยามที่เดินทางจากไปกลับเป็นความเย็นชาเสียส่วนใหญ่
“ท่านพี่ หลังจากกลับไป ท่านพ่อต้องเดือดดาลเป็นแน่กระมัง หวงซาคอยติดตามอยู่ข้างกายท่านพ่อตั้งแต่ยามที่เขาอายุสิบกว่าๆ ตอนี้เขาหายตัวไป…อีกทั้ง พี่สาวร่วมตระกูลก็เป็นคนยอมรับกับปากเองว่านางเป็นคนฆ่าคนผู้นั้น…” ยามที่ออกเดินทาง ซ่งถังหังดื้อดึงจะนั่งรถม้าคันเดียวกับซ่งซินหัว
ซ่งซินหัวลูบคลำตั๊กแตนใบไม้ในมือที่แล้วเอ่ยอย่างประชดประชัน “ดังนั้นเจ้าต้องการบอกกับท่านพ่อว่านางสังหารหวงซาแล้วน่ะหรือ”
“จะอย่างไรก็ต้องมีคำชี้แจงสักอย่างนี่…” ซ่งถังหังลังเลเล็กน้อย
“ข้าแนะนำเจ้าว่าอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” ซ่งซินหัวถอนหายใจออกมา “ต่อให้บอกเรื่องนี้กับท่านพ่อ ท่านพ่อก็ยังจะส่งคนมาเล่นงานนางอีกอยู่ดี ส่วนเรากลับได้รับความบาดหมางจากซ่งอิงโดยเปล่าๆ ไม่มีประโยชน์ต่อพวกเราเลยสักนิด”
“กลางเขามีเสือดุมากมาย หวงซาโง่เขลาเอง ออกไปข้างนอกไม่พกสมองไปด้วยจึงถูกเสือตะครุบตัวไป ทุกคนล้วนมองเห็นทั้งนั้น” ซ่งซินหัวกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ซ่งถังหังนิ่งอึ้งไป
“เสือ? ข้า…ไม่เห็นเลยนี่”
ซ่งซินหัวมองซ่งถังหังอย่างไม่รู้จะสรรหาคำใดมาพูด “เจ้าไปถามคนข้างนอกดูเองสิว่าสรุปแล้วหวงซาหายไปได้อย่างไรกันแน่! ข้ากล้าพูดได้ว่าจะไม่มีใครสักคนเอ่ยว่าซ่งอิงเป็นผู้สังหาร!”
ซ่งถังหังได้ยินดังกล่าวก็เป็นอันเข้าใจได้แล้ว
พูดตามตรงคือ มีเพียงเขาเท่านั้นที่ได้ยินซ่งอิงสารภาพว่าฆ่าคน ส่วนคนอื่นล้วนรู้เพียงแค่จู่ๆ หวงซาก็หายตัวไปกะทันหันเหมือนกับผู้คุ้มกันเหล่านั้นที่หายตัวไป
ผู้คุ้มกันเหล่านั้นไม่มีทางนึกว่าซ่งอิงจะมีความสามารถระดับนี้ อีกทั้งบรรดาผู้คุ้มกันกล่าวว่าสองวันก่อนพวกเขาเคยเห็นเสือตัวใหญ่จริงๆ…
“ท่านพี่ ท่านเข้าข้างนาง” ซ่งถังหังมองนาง “ทำไมหรือ”
“เดิมทีข้านึกว่านางจะอ่อนแอไร้ความสามารถเช่นเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ข้ามีลางสังหรณ์ว่านางจะไม่ตายได้โดยง่าย ถึงขั้นว่า ภายภาคหน้ามีความเป็นไปได้ว่านางจะกลับไปอย่างยิ่งใหญ่รุ่งโรจน์เสียด้วยซ้ำ”