ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 717 ปีศาจชั่วร้าย ตอนที่ 718 ภัยพิบัติใต้หล้า
ตอนที่ 717 ปีศาจชั่วร้าย / ตอนที่ 718 ภัยพิบัติใต้หล้า
ตอนที่ 717 ปีศาจชั่วร้าย
ซ่งอิงถูกยั่วโมโหจนเกรี้ยวกราดขึ้นมาเล็กน้อยเสียแล้ว
แต่เมื่อคิดๆ ดู ฮั่วเจ้ายวนอุตส่าห์บอกแล้วว่าจะยกปีศาจจิ้งจอกให้นาง เช่นนั้นนางตกปากรับคำไปก่อน จากนั้นค่อยไม่ทำตามคำมั่นสัญญาก็ได้เช่นกัน
ซ่งอิงพยายามสะกดกลั้นความโมโหเอาไว้ในใจ
“เช่นนั้นท่านไปตรวจสอบดูแล้วกัน ตรวจสอบให้ดีๆ ด้วยนะเจ้าคะ หากตรวจสอบเจอว่าปีศาจตนนั้นเคยทำร้ายผู้คนมาก่อน ท่านไม่ต้องลงมือ ข้าจะเป็นคนไปบีบคอนางให้ตายด้วยตัวเอง!” ซ่งอิงโมโห จากนั้นถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่ง “ว่าแต่ท่านน่ะ เอาแต่พูดว่าข้าเป็นปีศาจ หากข้าเป็นจริง ท่านไม่กลัวว่าข้าจะกัดท่านตายหรือ และไม่ลองไปตรวจสอบดูบ้างหรือว่าข้าเคยสังหารคนมาก่อนหรือไม่!”
“เจ้าถึงขั้นพูดว่าข้าเป็นเซียนสวรรค์กลับชาติมาเกิด หากถูกเจ้ากัดตายได้ก็ได้กลับคืนสู่จุดเดิมเท่านั้นเอง มีอะไรให้ต้องกลัว” ฮั่วเจ้ายวนมีท่าทีสบายๆ อย่างยิ่ง “ส่วนที่ว่าเจ้าเคยทำร้ายคนหรือไม่…”
เขาจ้องมองซ่งอิง “เจ้าบอกมาเองเลยเถิด เจ้าพูดมา ข้าก็เชื่อทั้งนั้น”
“เช่นนั้นหากข้าบอกว่าข้าเคยทำล่ะ” ซ่งอิงแสยะยิ้มขึ้นมากะทันหัน
ฮั่วเจ้ายวนตัวแข็งทื่อไปชั่วขณะ
“จะเผาข้าให้ตายหรือไม่” ซ่งอิงกล่าวอีกครั้ง
ฮั่วเจ้ายวนยกเท้าย่างก้าวออกไป ทำเหมือนไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
ซ่งอิงตกตะลึง
หมายความว่าอะไร สองมาตรฐานนี่? ทำเป็นไม่ได้ยินหรือ
ซ่งอิงรู้สึกละอายใจในทันที
เมื่อนางเดินออกจากห้องเก็บของแล้วหันหน้าไปมองดู ก็รู้สึกอึดอัดคับข้องใจเล็กน้อย นางจึงยกมือขึ้น ต่อยหมัดเข้าไปที่เสาด้านนอกหนึ่งที เกิดเสียงดัง ‘ปึง’
ในวินาทีถัดมา ได้ยินเพียงเสียง ‘กร๊อบ’ เสาต้นดังกล่าวร้าว และในชั่วพริบตาถัดมา ‘โครมๆๆๆๆ’ ตัวเรือนที่อยู่ด้านหลังทรุดลงทันที
ซ่งอิงเลิกคิ้ว แค่นหัวเราะออกมา
สบายใจขึ้นเยอะเลย
หินบ้าบออะไร สมบัติล้ำค่าห่วยๆ ละสิไม่ว่า ฮึ
“ใต้เท้าขอรับ…แม่นางซ่ง…ทำเรือนเก็บของถล่มลงมาขอรับ…” เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง หลังจากผู้ดูแลงานในเรือนเดินมามองเห็นสภาพยับเยินกองเต็มพื้นจึงรีบไปรายงานทันที
ฮั่วเจ้ายวนได้ยินถ้อยคำนี้ เพียงแค่ถอนหายใจออกมาเท่านั้น “หาคนไปเก็บกวาดแล้วย้ายสิ่งของข้างในไปไว้ที่อื่น”
“แต่…เรี่ยวแรงของแม่นางซ่ง…” มหาศาลเกินไปหน่อยแล้วหรือไม่
นั่นเป็นถึงเรือนขนาดหนึ่งห้องหลังหนึ่งเชียวนะ!
อีกทั้งเรือนนั่นยังขนาดใหญ่ใช่ย่อย!
“บรรพบุรุษนางมีเรี่ยวแรงเยอะมาโดยธรรมชาติ นางรับทักษะนี้ถ่ายทอดมาก็ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน อย่าได้ให้คนเอาไปพูดจาเหลวไหลเชียว” ฮั่วเจ้ายวนกล่าวอย่างสงบเยือกเย็น
ครั้นผู้ดูแลบ้านได้ยินก็พยักหน้าตอบรับทันที
ฮั่วเจ้ายวนนึกถึงคำพูดเหล่านั้นที่ซ่งอิงเพิ่งเอ่ยเมื่อครู่ ทันใดนั้นก็รู้สึกหนักใจเช่นกัน
นางกล่าวว่านางเคยทำร้ายคน เขามักจะรู้สึกว่าประโยคนั้นไม่ใช่การแต่งเรื่องขึ้นมา
เพียงแต่ว่า…
เทียนที่เผาไหม้ในห้องหนังสือ ฮั่วเจ้ายวนเขียนสามตัวอักษรคำว่า ‘เหยียนผิงโหว’ ลงบนกระดาษ
เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้จวนโหวส่งคนมายังหมู่บ้านซิ่งฮวา แต่ผลสุดท้ายภายในไม่กี่วัน คนเหล่านั้นก็เผ่นแน่บไปหมดเกลี้ยง คนที่เขาส่งไปตรวจสอบเป็นการเฉพาะ ได้ความว่าดูเหมือนมีคนหนึ่งหายไป
หากที่สังหารคือคนผู้นั้น เช่นนั้นอีกฝ่ายก็สมควรตายเช่นกัน
หากกล่าวถึงเรื่องการฆ่าคน ที่ตายในเงื้อมมือเขาไม่เยอะกว่าอีกหรือ แล้วไฉนเขาจึงเป็นเซียนสวรรค์ ส่วนนางเป็นปีศาจชั่วร้ายเล่า
ตราบใดที่คนที่นางสังหาร…ไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ เช่นนั้นก็ช่างเถอะ
หากเป็นผู้บริสุทธิ์ เช่นนั้น…
ฮั่วเจ้ายวนครุ่นคิด
เมืองยงแถบนี้เป็นที่ดินศักดินาของขา เขามีหน้าที่ปกป้องปวงประชาในที่แห่งนี้ แต่หากให้เขาลงมือกับซ่งอิง…เกรงว่าเขาจะทำไม่ลง
หรือว่า ซ่งอิงก็คือภัยที่เขาต้องประสบเพื่อบรรลุการเป็นเซียน
หากเป็นเช่นนี้ เขาไม่ขอกลายเป็นเซียนก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเช่นกัน
ในขณะนี้ ซ่งอิงไม่รู้เลยว่าฮั่วเจ้ายวนกำลังนอนพลิกไปพลิกมาคิดหามาตรการรับมือ นางในตอนนี้โมโหจนนอนไม่หลับ
ตอนกลางดึกที่ไร้ผู้คน นางเข้าไปในช่องว่างระหว่างมิติ
ตอนนี้ดูเหมือนในช่องว่างระหว่างมิติแตกต่างไปจากก่อนหน้านี้ ภายในปลูกดอกไม้และต้นไม้เอาไว้จำนวนมาก ไม่เพียงแค่ข้าวสารธัญพืช พวกแตงและผักใบเขียวเท่านั้น
นอกจากนี้ ซ่งอิงยังโยกย้ายสัตว์เล็กๆ จำนวนมากในหมู่บ้านสวนเข้ามาไว้ก่อนหน้านี้อีกด้วย อย่างเช่นไส้เดือนที่เลื้อยตามพื้น หนอนไหมและจิ้งหรีดอะไรทำนองนี้ ถึงกระทั่งว่าก่อนหน้านี้เคยเห็นตะขาบในหมู่บ้าน นางก็จับเอามาปล่อยไว้ด้วยเช่นกัน
ตราบใดที่เป็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ตอนนี้นางล้วนไม่ปล่อยให้เล็ดลอดไปได้ทั้งนั้น
ตอนที่ 718 ภัยพิบัติใต้หล้า
สิ่งเหล่านี้สืบพันธุ์กันอย่างรวดเร็ว แต่ซ่งอิงยังมีไก่ เป็ดและห่านที่โยกย้ายเข้าไปไว้ก่อนหน้านี้ด้วย ซึ่งก็จะคอยกินพวกไส้เดือนและหนอนไปส่วนหนึ่ง ดังนั้นไม่ต้องกังวลจนเกินไปแต่อย่างใด
ตอนนี้ในช่องว่างระหว่างมิติไม่เงียบเหงาอีกแล้ว
เมื่อมาถึงช่องว่างระหว่างมิติ ซ่งอิงรู้สึกอารมณ์ผ่อนคลายสบายใจขึ้นมาก นางถอนหายใจออกมาเมื่อมองไปยังดวงจันทร์สีเงินบนท้องนภา
หลังสงบจิตสงบใจก็ครุ่นคิดได้ว่า ก้อนหินนั่นบางทีอาจมีประโยชน์บางอย่างจริงๆ
เดิมทีนางก็ไม่ใช่คนธรรมดา
หรือว่านางเป็นปีศาจเช่นกันจริงๆ เพียงแค่ไม่ค่อยเหมือนกับปีศาจตนอื่นเท่านั้นเอง
แต่ร่างเดิมของนางคืออะไรล่ะ
ในช่องว่างระหว่างมิติแห่งนี้มีต้นไม้ใหญ่ หรือว่านางเป็นพืช
เป็นพืชก็ไม่เลวเช่นกัน ดูดซับแสงจันทร์ทรงกลด แม้ว่าไม่องอาจดุดันปานเสือและหมาป่า แต่น่าจะมีความสง่างามทั้งตัว อีกทั้งต้องมีกลิ่นหอมติดตัวด้วยเป็นแน่ หากเป็นต้นผลไม้ก็ยิ่งดีสิ ถึงฤดูผลิดอกก็จะงดงาม ถึงฤดูออกผลก็กินอร่อย…เพียงแค่ไม่รู้ว่า นางกินผลของตัวเองได้หรือไม่
หลังจากครุ่นคิดเรื่อยเปื่อยมาสองวัน ซ่งอิงรู้สึกว่าดูเหมือนตนไม่มีเหตุผลให้โมโหฮั่วเจ้ายวนแต่อย่างใด
อย่างน้อยแม้ว่าคนผู้นี้สงสัยว่านางเป็นปีศาจ แต่กลับอยากจะปกป้องนางด้วยความหวังดี หาใช่จะเผานางไม่
นับว่าไม่เลวแล้ว
เรื่องปีศาจ ข่าวเล่าข่าวลือในที่สาธารณะดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ มีผู้คนจำนวนมากเริ่มพูดคุยกันว่าปีศาจจิ้งจอกตัวนี้ถูกสังหารไปแล้วหรือไม่
ถึงขั้นมีคนบางส่วนเริ่มพูดจาเหลวไหล กล่าวว่าปีศาจปรากฎตัวบนโลกมนุษย์ เกรงว่าจะเกิดภัยพิบัติใต้หล้าแล้ว
เมื่อคำพูดประเภทนี้ปรากฏขึ้น ก็มีคนจำนวนมากเรียกร้องให้ที่ว่าการอำเภอรีบกำจัดปีศาจตัวนี้เสียเพื่อความสบายใจของประชาชน ทางด้านที่ว่าการอำเภอกลับพูดไม่ออก ทำได้เพียงถ่อมาถึงจวนฮั่วด้วยความสับสน และรบเร้าให้ฮั่วเจ้ายวนตัดสินใจ
พวกเขาหวาดกลัวเช่นกัน เกิดปีศาจจิ้งจอกตัวนี้หลอกล่อให้คนหลุ่มหลงได้จริง ทำให้ใต้เท้าฮั่วหลงจนโงหัวไม่ขึ้นจะทำอย่างไร
อีกทั้งในความเป็นจริง ใต้เท้าฮั่วเป็นถึงท่านอ๋องคนหนึ่งเชียวนะ หากหลุ่มหลงหน้ามืดตามัว ชักนำปีศาจจิ้งจอกเข้าไปถวายฮ่องเต้ เช่นนั้น…ใต้หล้าไม่เป็นอันจบสิ้นกันพอดีหรือ!
ฮั่วเจ้ายวนยื้อมาเป็นเวลาหลายวัน
สองสามวันต่อมา คนที่ส่งออกไปก็ตรวจสอบปีศาจจิ้งจอกได้ความกระจ่างแจ้งแล้วเช่นกัน
ปีศาจจิ้งจอกตัวนี้นามว่าหูเหมย แต่งงานเป็นภรรยาหลิวเซิง หลังแต่งงานก็ดำรงอยู่ในครอบครัวไม่ต่างจากผู้อื่น เพียงแต่นางแต่งงานมาแล้วห้าปีกลับไม่มีบุตรเสียที ทำให้ตระกูลหลิวไม่ค่อยพอใจนัก
เพียงแต่ว่าปีศาจจิ้งจอกรูปลักษณ์งดงาม หลิวเซิงเรียกได้ว่าลุ่มหลงในตัวนางเช่นกัน ต่อให้ฐานะทางครอบครัวถือว่าไม่เลวก็ไม่เคยรับอนุภรรยามาก่อน เพื่อนบ้านซ้ายขวายังเคยชมเชยว่าทั้งสองเป็นคู่สามีภรรยาที่รักใคร่กันอย่างสุดซึ้ง
นอกจากนี้ หูเหมยผู้นี้ไม่เพียงแต่ไม่เคยทำร้ายคน ยามที่อยู่ตระกูลหลิวก็ยังช่วยดูแลงานในบ้านได้เก่งกาจอย่างยิ่ง ร้านค้าเล็กๆ แห่งหนึ่งในตระกูลก็ได้นางดูแลอย่างเป็นระบบระเบียบ ถึงขั้นว่ายังเคยช่วยเหลือเพื่อนบ้านด้วยซ้ำ
หากไม่ใช่เพราะบังเอิญคืนร่างเดิมและถูกหลิวเซิงเห็นเข้า ก็ยังคงเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่กันดีต่อไปเช่นนี้
พูดถึงหลิวเซิงผู้นี้ ตอนนี้เขาเป็นหนึ่งในคนที่แทบอดรนทนไม่ไหว รอให้หูเหมยถูกจุดไฟเผาตายโดยเร็ว
หลิวเซิงเกรงกลัวปีศาจจิ้งจอก จึงแอบซื้อสุราชั้นดีมาหลายไหกับยาสลบจำนวนหนึ่ง จากนั้นร่วมกินดื่มกับปีศาจจิ้งจอก เช่นนี้จึงได้ทำให้นางกลับสู่ร่างเดิมแล้วจับตัวไว้ ตอนนี้เขากลัวปีศาจจิ้งจอกจะแก้แค้นเช่นกัน ดังนั้นหลังจากกลับออกมาจากที่ว่าการออำเภอ วันๆ ก็เอาแต่หมกตัวอยู่ในบ้านไม่กล้าออกไปไหนทั้งนั้น
“เจ้าไปเจอนางได้แล้ว ทว่าเจ้าต้องจำคำพูดที่ข้ากล่าวไว้ด้วย ต้องพานางจากไปเสีย ยิ่งไกลเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น ทางที่ดีที่สุด ไปหลบอยู่ในป่าลึกตามเขาและไม่ต้องออกมาอีก” ท้ายที่สุดฮั่วเจ้ายวนตัดสินใจกล่าว
ความจริงซ่งอิงค่อนข้างตกตะลึงและประหลาดใจไม่น้อย
ตอนนี้นางรับรู้ข่าวลือภายนอกนั่นแล้ว ดังนั้นจึงเข้าใจว่าการตัดสินใจเช่นนี้ของฮั่วเจ้ายวนมีความยากมากเพียงใด
“จะกลบถ้อยคำของประชาชนได้อย่างไร” ซ่งอิงเอ่ยถาม
“ซื้อจิ้งจอกที่ตายแล้วมาตัวหนึ่ง แล้วเอาหางมาเย็บติดเป็นสองหาง จากนั้นค่อยจุดไฟเผาต่อหน้าประชาชน” ฮั่วเจ้ายวนกล่าว
ซ่งอิงถอนหายใจ
เช่นนี้ก็ยังดี แม้ว่าจิ้งจอกอีกตัวจะเป็นฝ่ายซวย แต่ในสายตานาง ตราบใดที่ไม่ใช่สัตว์ที่เกิดสติปัญญาเฉียบแหลม นางก็ยังพอรับได้ อย่างไรเสียกินปลาก็ฆ่าจากตัวเป็นๆ กินไก่ก็ฆ่าจากตัวเป็นๆ หมูป่าก็เช่นเดียวกัน ไม่มีอะไรแตกต่างแต่อย่างใด