ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 723 ปีศาจอีกแล้ว ตอนที่ 724 ปัญหามากมายที่ยังหาทางออกไม่ได้ คิดมากไปก็เท่านั้น
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 723 ปีศาจอีกแล้ว ตอนที่ 724 ปัญหามากมายที่ยังหาทางออกไม่ได้ คิดมากไปก็เท่านั้น
ตอนที่ 723 ปีศาจอีกแล้ว / ตอนที่ 724 ปัญหามากมายที่ยังหาทางออกไม่ได้ คิดมากไปก็เท่านั้น
ตอนที่ 723 ปีศาจอีกแล้ว
แม้ว่าของที่ฮั่วเจ้ายวนส่งมาให้จะมีจำนวนมาก แต่โชคดีที่ในสถานที่แห่งนี้ของนางมีผู้คนจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
นางผัดเลือดหมูและเครื่องในหมูจำพวกตับและปอดหมู คนช่วยงานที่อยู่ในสวนสัตว์ทั้งหมดล้วนมาร่วมรับประทานอาหารด้วยกัน
คนเหล่านี้ที่ทำงานให้ซ่งอิงมองเห็นสีสันอาหารพวกนี้ต่างก็ดีใจมาก ในยุคสมัยนี้โดยทั่วไปของที่มีเนื้อสัตว์ผสมด้วยหน่อยล้วนไม่ถือว่าราคาถูกนัก โดยเฉพาะมีจำนวนคนมากถึงเพียงนี้ ทุกคนตักกันคนละหนึ่งช้อนก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายส่วนหนึ่งที่สิ้นเปลืองไม่น้อยแล้ว
แต่ตั้งแต่ทำงานอยู่ที่นี่ ทุกวันจะมีอาหารจำพวกเนื้อสัตว์หนึ่งอย่าง นอกจากนี้ก็ยังได้เห็นพวกเนื้อไก่ เนื้อเป็ดและไข่ไก่ด้วยเช่นกัน
เถ้าแก่เหนียงที่ใจกว้างขนาดนี้หาได้ยากยิ่ง
อีกทั้งทุกครั้งที่เถ้าแก่เหนียงเห็นพวกเขาก็จะให้ความเป็นกันเองมาก ระยะนี้ทุกคนทำงานกันไม่ใช่น้อยๆ แต่กลับร่างกายกำยำขึ้นมากเสียนี่
ทุกคนจึงยิ่งทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับสวนสัตว์แห่งนี้เพื่อซ่งอิงด้วยความจริงใจ
ซ่งอิงนึกว่าครั้งนี้ก็จะสิ้นเรื่องแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าฮั่วเจ้ายวนกลับให้คนเอามาส่งอย่างต่อเนื่องถึงสามครั้งภายในหนึ่งเดือน
สิ่งของจำนวนมากขนาดนี้ จะทำให้คนงานเหล่านั้นกินอยู่เรื่อยคงมิได้เช่นกัน อย่างไรเสียของจำพวกเลือดหมูนี่ก็ไม่เหมาะแก่การกินเยอะๆ ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป ซ่งอิงกลัวจริงๆ ว่าหลังจากนี้ฮั่วเจ้ายวนจะเหมาเครื่องในสัตว์ทั่วทั้งเมืองส่งมาให้
นางให้คนนำเลือดหมูทั้งหมดนี้ทำเป็นข้าวเหนียวเลือดหมู[1] จากนั้นก็ให้คนส่งกลับไปให้ฮั่วเจ้ายวน
นางทำเช่นนี้ นับว่าให้ความเกรงใจมากแล้ว
หากไม่เห็นแก่ความที่เขาประสงค์ดี เกรงว่านางอยากจะนำอ่างที่เต็มไปด้วยเลือดหมูเทลงบนเตียงนอนของเขา ให้เขามองดูและดมมันตลอดเวลา และถามดูว่าเขารู้สึกเอียนหรือไม่!
อย่างไรก็ตาม หลังส่งสิ่งของกลับไป ฮั่วเจ้ายวนพยักหน้าเล็กน้อยขณะมองดูข้าวเหนียวเลือดหมู
ดูท่า ปีศาจตนนี้ไม่ชอบของสิ่งนี้นัก
หรือไม่ก็เพราะเนื้อหมูรสชาติอร่อยไม่พอ
แต่หากเป็นพวกเนื้อวัวก็ค่อนข้างแพง เกรงว่าจะจัดเตรียมให้จำนวนมากขนาดนั้นไม่ไหว เนื้อแกะก็ออกจะคาวไปหน่อย เลือดกวางซึ่งช่วยบำรุงร่างกายได้ดีแต่กลับหายากเช่นกัน…
“นายหญิงของเจ้าชอบกินอะไรหรือ” ฮั่วเจ้ายวนตัดสินใจเอ่ยถามไปตามตรง
ต้าหวงเป็นผู้นำสิ่งของมาส่งให้ เขาแย่งหน้าที่งานติดต่อทางด้านนู้นทีทางด้านนี้ทีมาจนได้ เมื่อได้ยินคำพูดนี้ก็เงยหน้าขึ้นทันใด “โดยสรุปคือไม่ชอบกินของเหล่านี้ขอรับ”
“ใช่แล้ว เถ้าแก่เหนียงของข้ายังพูดอีกว่าหากท่านส่งของมั่วซั่วเหล่านี้มาให้อีก ครั้งหน้านางจะนำสิ่งของเหล่านี้มาเทไว้บนศีรษะท่านขอรับ” หวงเฟยเฟิ่งเผยสีหน้าภูมิอกภูมิใจ
“คำพูดนี้ เกรงว่าเจ้าเป็นคนปรับเปลี่ยนเองกระมัง” ฮั่วเจ้ายวนกล่าว
เขาเพิ่งปล่อยปีศาจจิ้งจอกตัวนั้นไปจากทางด้านนี้ ซ่งอิงจะพูดถ้อยคำที่ไร้เยื่อใยเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร
หวงเฟยเฟิ่งสบถฮึ “เอาเป็นว่า…ท่านอย่าได้รังแกผู้เป็นนายของข้าแล้วกัน”
“เจ้าซื่อสัตย์ดีนี่ ติดตามซ่งอิงมานานแค่ไหนแล้วหรือ” ฮั่วเจ้ายวนถือโอกาสเอ่ยปากถาม
“ตั้งแต่ข้ายังเล็กๆ ก็มีนายหญิงข้าคอยป้อนข้าวสารและอาหารให้ เลี้ยงดูจนเติบใหญ่ ย่อมมีความรู้สึกที่ต่างจากคนอื่นเป็นธรรมดา ใต้เท้าฮั่ว แม้ว่าท่านเป็นสามีในนามของนายหญิงข้า แต่ก็ไม่อาจอาศัยสถานะของตนเองบนโลกมนุษย์มารังแกนางได้ ข้าไม่กลัวท่านหรอกนะขอรับ!” หวงเฟยเฟิ่งพูดจาอย่างองอาจกล้าหาญ
เขามองเห็นแล้วว่ายามที่นายหญิงเขาได้รับของขวัญที่ฮั่วเจ้ายวนส่งมาให้ นางถอนหายใจแรงเพียงใด!
แล้วนี่ยังจะไม่เรียกว่าถูกรังแกอีกหรือ
“นางเป็นคนเลี้ยงเจ้าเติบใหญ่หรือ!” ฮั่วเจ้ายวนพลันตระหนกตกใจ “ดังนั้น…เจ้าก็เป็น…”
สรุปแล้วยังมีปีศาจอีกจำนวนเท่าใดกันแน่!
ตัวสองตัวเขายังพอทนได้ แต่หากปรากฏตัวออกมามากๆ เข้า เช่นนั้นนี่พวกเขาต้องการจะทำอะไร คิดจะทำสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์หรือ
หวงเฟยเฟิ่งยังคงไร้เดียงสาไปหน่อยแล้วจริงๆ รู้ว่าตนหลุดปากพูดไปแต่ก็ไม่นึกกลัว ยังคงเอ่ยพูดอย่างหน้าตาเฉย “เมื่อครู่ท่านฟังผิดแล้ว เมื่อก่อนข้าล้มป่วยอยู่หน้าประตูบ้านนายหญิง นางจึงช่วยป้อนข้าวและช่วยชีวิตไว้ ข้าจึงรอดมาได้ ข้ายกย่องนางเป็นมารดาอีกคน ครอบครัวเรานอกจากน้องหลินและต้าไป๋ ก็มีข้านี่แหละที่สนิทกับนายหญิงที่สุด ดังนั้น…ท่าน…”
“เจ้าเป็นปีศาจ ใช่หรือไม่” ฮั่วเจ้ายวนจ้องเขาตาเขม็ง
หวงเฟยเฟิ่งรู้สึกถึงแรงกดดันที่ถาโถมเข้ามา
ตอนที่ 724 ปัญหามากมายที่ยังหาทางออกไม่ได้ คิดมากไปก็เท่านั้น
หวงเฟยเพิ่งรีบพยายามต้านทานแรงกดดันนี้ หลังจากนั้นถึงกับหน้าตาแดงไปหมด “ขืนยังดุอีกข้าก็จะจิกท่าน!”
ฮั่วเจ้ายวนเบิกตาชั่ววูบ
“ใครก็ได้มานี่…”
ครั้นเขาเอ่ยปากเรียก หวงเฟยเฟิ่งได้ยินก็รีบวิ่งออกไปด้านนอกอย่างกะทันหัน จากนั้นเปลี่ยนร่างเป็นไก่โต้งตัวใหญ่ ก่อนจะบินขึ้นฟ้าหายไปในชั่วพริบตา
“…” ฮั่วเจ้ายวนสีหน้าแข็งทื่อราวกับภูเขาน้ำแข็ง
“ใต้เท้า เมื่อครู่นั่น…เป็นพญาหงส์หรือขอรับ”
“เจ้าตาบอดกระมัง นั่นคือไก่โต้ง! ตอนกลางวันแสกๆ จะมีพญาหงส์ที่ไหนมาเล่า พูดอะไรเป็นเล่น!” อีกคนส่งเสียงหัวเราะเจื่อน จากนั้นสีหน้าชะงักไป “ไก่โต้ง?! ใต้เท้า ไฉนไก่โต่งตัวนั้นจึง…บินได้ด้วยล่ะขอรับ!”
ฮั่วเจ้ายวนอยากรู้เช่นกัน แค่ไก่โต้งตัวหนึ่ง มันกระพือปีกดุจนกขนาดใหญ่ได้อย่างไรกัน
“แขกคนเมื่อครู่ท่านนั้นล่ะขอรับ…” ผู้คุ้มกันกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ฮั่วเจ้ายวนไม่อยากเอ่ยปาก
เขารู้สึกปวดสมองเล็กน้อย
สถานการณ์ประเภทตอนนี้เกินกว่าขอบเขตความสามารถของเขาแล้ว
ว่ากันตามหลัก…ในยามนี้ น่าจะนำเหตุการณ์น่าสงสัยในเมืองนี้รายงานขึ้นไปยังราชสำนัก แต่ครั้นนึกถึงซ่งอิง สมองเขาก็ตื้อไปหมด แล้วยังจะรายงานบ้าบออะไรได้อีก
หวงเฟยเฟิ่งหายใจหอบหลังร่อนลงในบริเวณสวนสัตว์ของซ่งอิง
เขามองซ่งอิงอย่างร้อนตัวเล็กน้อย “นายหญิง ข้าทำเรื่องผิดพลาดไปแล้ว ใต้เท้าฮั่วผู้นั้นรู้แล้วว่าข้าก็เป็นปีศาจเช่นกัน!”
“รู้ก็รู้ไปสิ ปัญหามากมายที่ยังหาทางออกไม่ได้ คิดมากไปก็เท่านั้น” ซ่งอิงไม่แม้แต่จะชายตาขึ้นมองด้วยซ้ำ
ตอนนี้ปีศาจไม่ถือว่าเป็นเรื่องประหลาดแล้ว ฮั่วเจ้ายวนน่าจะทนต่อตัวกระตุ้นความรู้สึกอย่างเรื่องนี้ไหว
ส่วนที่ว่า…เขาจะให้คนมาล้อมพื้นที่และกวาดล้างหรือไม่…
นี่ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่ควรค่าให้น่าปวดหัว ทว่าปัจจุบันช่องว่างระหว่างมิติของนางไม่ถือว่าเล็กๆ แล้ว หากฮั่วเจ้ายวนทำเรื่องประเภทนี้จริง นางโยกย้ายปีศาจไปไว้ในช่องว่างระหว่างมิติก็ได้
แน่นอนว่ายามที่นางเอาไปแอบไว้อย่างตะลีตะลาน ก็มีความสามารถมากพอที่จะทำให้ที่แห่งนี้เต็มไปด้วยพายุลมฝนเช่นกัน
แม้ว่าไม่ได้ฆ่าคน แต่ย่อมมีวิธีการที่ทำให้ราชสำนักนี้ตื่นกลัวจนลนลานเป็นแน่
ที่แท้พอมีปีศาจเยอะแล้ว ความมั่นใจก็มากไปด้วยเช่นกัน นางจึงกล้ามีความนึกคิดระดับนี้
ฮั่วเจ้ายวนยังไม่เลือกส่งคนไปแจ้งทางราชสำนักให้รับรู้ ส่วนทางด้านเมืองหลวงนั่นกลับคึกคักขึ้นมาแล้ว
ยามที่ซ่งซินหัวสองพี่น้องมาถึงเมืองหลวง ทางด้านเมืองหลวงก็มีข่าวคราวว่าบุตรสาวคนโตของจวนโหวยังไม่เสียชีวิตแพร่งพรายให้ได้ยินโดยทั่ว
จวนโหวย่อมยืนกรานปฏิเสธเป็นธรรมดา อย่างไรก็ตาม ซ่งโหวรู้สึกเหลืออดกับการที่ตระกูลเซว์กั๋วกงมักจะพูดคุยหัวเราะเยาะเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ภายนอก เป็นเรื่องเป็นราวจนทำให้ซ่งโหวหน้าตาถมึงทึงคร่ำเครียดครั้งแล้วครั้งเล่า
ภายใต้ความหงุดหงิด ซ่งโหวจึงป่าวประกาศสู่ภายนอกว่า หากกล่าวว่าบุตรสาวคนโตตระกูลเขายังไม่ตาย เช่นนั้นก็ดี พาตัวนางกลับมาเจอกันซึ่งๆ หน้าเสียสิ!
ซ่งโหวเผยสีหน้าเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ จึงกลายเป็นว่าช่วยดับความสงสัยของผู้คนไปได้ไม่น้อย
แต่เซว์กั๋วกงผู้นี้ก็สงบเยือกเย็นมากไม่แพ้กัน
ในเวลานี้ ผู้คนในเมืองหลวงไม่รู้จำนวนเท่าไรคอยเฝ้าดูเรื่องตลก
ว่ากันตามหลัก แม่นางผู้นี้ยังไม่ตายก็ถือเป็นเรื่องดี แต่จะทำอย่างไรได้ ในเมื่อยามที่คุณหนูใหญ่ตระกูลซ่งเสียชีวิต ตระกูลซ่งเอาเรื่องนี้มาทำเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต
คนทั้งเมืองหลวงล้วนรู้กันถ้วนหน้า คุณหนูใหญ่ซ่งได้รับคำสรรเสริญยกย่อง ถึงขั้นว่ายังแพร่งพรายไปถึงหูฮ่องเต้อีกด้วย
หากเป็นการตายปลอม…เช่นนั้นก็คือความผิดฐานหลอกลวงเบื้องสูง
ไม่ง่ายเลยกว่าซ่งซินหัวสองพี่น้องจะกลับมา แต่หลังจากกลับมา ซ่งโหวไม่เห็นหวงซามารายงานเรื่องที่สั่งให้ทำแต่อย่างใด
“หวงซาล่ะ” ซ่งท่านโหวเผยสีหน้าเคร่งขรึม
สองพี่น้องใจเต้นแรง ซ่งซินหัวพยายามเผยสีหน้ายิ้มแย้มและกล่าวว่า “ท่านพ่อ! ท่านยังจะพูดถึงอีก! หวงซาผู้นี้ไม่เอาไหนเป็นพิเศษ เราไปยังหมู่บ้านซ่งฮวาแห่งนั้นด้วยกัน ใครจะรู้ว่าในหมู่บ้านนั้นมีเสือด้วย! และไม่นึกเลยว่าหวงซาจะถูกเสือคาบไป ไม่เหลือแม้แต่ซากด้วยซ้ำเจ้าค่ะ!”
“เหลวไหล! ข้ารู้จักความสามารถของหวงซาเป็นอย่างดี จะถูกเสือคาบไปได้อย่างไร” ซ่งโหวตระหนกตกใจ กล่าวอย่างโมโห
“เป็นความจริงนะเจ้าคะ ทุกคนล้วนเห็นกันทั้งนั้น หวงซาโชคไม่ดีเอาเสียเลย เราทุกคนต่างอยู่ครบถ้วนดี มีเพียงเขาถูกเสือคาบไปกินเสียแล้ว” ซ่งซินฮวาเอ่ยพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจอันเนื่องจากรู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรม
—————————-
[1] ข้าวเหนียวเลือดหมู (猪血糕) คืออาหารทานเล่นชนิดหนึ่ง ทำจากข้าวเหนียวที่เอามาผสมกับเลือดหมูสดแล้วนำไปนึ่งหรือทอดจนสุก