ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 725 ดินแดนในอุดมคติ ตอนที่ 726 บุญคุณที่ช่วยชีวิต
ตอนที่ 725 ดินแดนในอุดมคติ / ตอนที่ 726 บุญคุณที่ช่วยชีวิต
ตอนที่ 725 ดินแดนในอุดมคติ
ซ่งโหวรู้สึกเพียงเหลวไหลสิ้นดี
“ให้ผู้คุ้มกันคนอื่นมานี่! ข้ามีถ้อยคำจะถาม!” เขากล่าวในทันที
ซ่งซินหัวสงบนิ่งมาก นางนึกถึงคราที่เห็นบิดาสับนิ้วเท้าบุตรสาวกับตาตัวเอง แต่ตนก็ยังแสร้งทำเป็นไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นได้ บัดนี้สำหรับนางเรื่องเล็กแค่นี้จึงไม่ถือว่าน่ากังวล
ไม่นานนักก็มีผู้คุ้มกันที่ค่อนข้างมีฝีมือเดินเข้ามาสามสี่คน
บรรดาผู้คุ้มกันหมอบคลานอยู่กับพื้น ลักษณะราวกับว่ากระทำเรื่องผิดพลาดอันใดแล้ว
“ท่านโหวโปรดอภัยด้วยขอรับ พวกข้าจัดการเรื่องไม่สำเร็จ หวงซาเขา เขาถูกเสือกัดตายแล้วขอรับ…”
เสียงดัง ‘ปึง’ ซ่งท่านโหวทุบโต๊ะ
คนสนิทที่ไว้เนื้อเชื่อใจได้ข้างกายเขา เป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ที่เลี้ยงดูมาหลายสิบปี ไม่นึกเลยว่าจะถูกเสือกัดตายได้ ช่างน่าขันอะไรเยี่ยงนี้!
“เรื่องที่ให้พวกเจ้าทำเป็นอย่างไรบ้าง” ซ่งโหวกล่าวขึ้นอีกครั้ง
ครั้นซ่งซินหัวได้ยินดังนี้ ก็กลับหลังหันเดินออกไปในทันที ส่วนซ่งถังหังแม้ว่างุนงงเล็กน้อย แต่ก็รู้ว่าตอนนี้เดินตามพี่สาวลำดับที่ห้าออกไปไม่ใช่การกระทำที่ผิดแน่ เขาจึงเดินออกไปในทันทีเช่นกัน
ผู้เป็นนายน้อยทั้งสองไม่อยู่แล้ว ผู้คุ้มกันเหล่านี้จึงได้กล่าวขึ้นมา “เรียนท่านโหว พวกข้า…ทำไม่สำเร็จขอรับ หลังไปถึงหมู่บ้านแห่งนั้น พวกข้า…ไม่ค่อยได้รับการต้อนรับจากชาวบ้านนัก ทำได้เพียงพักอยู่นอกหมู่บ้าน ในหมู่บ้านมีการเฝ้าคุ้มกันที่เคร่งครัดอย่างยิ่ง และมีชาวบ้านคอยลาดตะเวนตรวจตราอีกด้วย จึงไม่สะดวกแก่การทำอะไรเอิกเกริก ส่วนคุณหนูใหญ่ก็มีคนอยู่ข้างกายเสมอ มิหนำซ้ำยังเชี่ยวชาญการต่อสู้อีกด้วย พวกเราจึง…อับจนหนทางขอรับ”
พวกเขาไม่กล้าพูดความจริง
ตลอดทางมานี้พวกเขานัดหมายกันไว้ดิบดีแล้ว
จะอย่างไรก็คงไม่ดีนักหากบอกท่านโหวว่าเมื่อพวกเขาไปถึงหมู่บ้าน ก็ถูกคนส่งขึ้นไปบนเขาอย่างประหลาด จากนั้นเพียงชั่วพริบตาก็ผ่านไปหลายวันแล้ว
หากพูดอย่างนี้ไปจริง ท่านโหวมีแต่จะรู้สึกว่าพวกเขาโกหกเหลวไหล หลังจากนี้ก็จะไม่มอบภาระงานสำคัญให้พวกเขาอีก
“ดูเหมือนคนเหล่านั้นเตรียมการตั้งรับไว้แต่เนิ่นๆ แล้ว จึงคุ้มกันคุณหนูใหญ่อย่างแน่นหนา ไม่ให้โอกาสคนนอกอย่างพวกเราได้แตะต้องนางเลย พวกข้าไม่มีโอกาสลงมือจริงๆ อีกทั้งปรากฏเสือดุร้ายออกมาจากเขา คอยรบกวนพวกเราอยู่เรื่อย บรรดาข้าน้อยเปลืองแรงไปมากเพื่อจับเสือตัวนี้ขอรับ…” เหล่าผู้คุ้มกันกล่าวอีกครั้ง
“หลักๆ เป็นเพราะซ่งเหล่าเกินผู้นั้นค่อนข้างอาศัยความที่ตนเป็นผู้อาวุโสมาข่มพวกเรา หลังจากพวกเราเพิ่งไหว้บรรพบุรุษเสร็จ ยังอยู่ไม่ถึงสองวัน เขาก็ขับไล่พวกเราออกไปแล้ว หากพวกเราไม่ไปก็คิดจะใช้กำลัง พวกเราเกรงว่าจะพานให้ท่านโหวเสื่อมเสียชื่อเสียง อีกทั้งไม่มีผู้คุ้มกันหวงเป็นคนตัดสินใจ จึงทำได้เพียงกลับมาก่อนขอรับ…”
“…”
จากการอธิบายยาวยืด ซ่งโหวจึงเป็นอันเข้าใจอย่างถ่องแท้
พูดตรงๆ ก็คือไม่ว่าเรื่องอะไรก็ไม่สำเร็จสักอย่าง กลายเป็นการไปไหว้บรรพบุรุษจริงๆ เสียนี่!
“ไอ้พวกไร้ประโยชน์!” ซ่งโหวรู้สึกโมโหอยู่บ้าง
หากเป็นช่วงเวลาปกติก็ช่างปะไร แต่ตอนนี้ ผู้คนไม่น้อยจับจ้องอยู่ หากเขาลงมือช้าไปแล้วซ่งอิงถูกคนจับตัวกลับมา เช่นนั้นเขาจะทำอย่างไรเล่า!
เพียงแต่ว่าในตอนนี้ คนเหล่านี้ไม่เอาไหนเกินไปแล้ว เกรงว่าจำเป็นต้องหามือดีจำนวนหนึ่งไปจัดการใหม่อีกครั้ง
“ออกไปรับโทษเสีย!” ซ่งท่านโหวกล่าวอย่างหงุดหงิด
ผู้คุ้มกันเหล่านี้ถอนหายใจเฮือกยาวด้วยความโล่งอก
ไม่นานนัก ซ่งซินหัวและซ่งถังหังก็ถูกเรียกเข้าไปอีกครั้ง
“ไปเมืองยงครานี้ พวกเจ้าได้เจอพี่สาวคนโตของพวกเจ้าแล้วหรือ” ซ่งโหวแสร้งทำสีหน้ายิ้มแย้มเอ่ยพูด
ซ่งถังหังใจเต้นระรัว ทว่าด้านซ่งซินหัวเผยสีหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน “ท่านพ่อ ได้เจอเจ้าค่ะ ตอนนี้พี่สาวร่วมตระกูลดำเนินชีวิตได้ไม่เลว ทั้งยังแต่งงานแล้วด้วย ตระกูลสามีแซ่ฮั่วเจ้าค่ะ จริงสิ นางยังรับเลี้ยงเด็กผู้ชายไว้คนหนึ่งด้วย เด็กคนนั้นหน้าตาชวนให้ผู้คนเอ็นดูอย่างยิ่งเจ้าค่ะ”
“นางเป็นคนใจกว้างคนหนึ่งจริงๆ” ซ่งโหวได้ยินดังนี้ก็ยิ่งไม่สบายใจ
ทางด้านเขากำลังกลัดกลุ้ม เห็นอะไรก็ขัดหูขัดตาไปหมดเพราะเรื่องนี้ แต่นางกลับกล้าดี เห็นหมู่บ้านนั้นเป็นดินแดนในอุดมคติไปแล้วหรือ
หากนางเข้าใจว่าตนส่งหวงซาไปทำเรื่องอะไร เช่นนั้นก็ควรรู้ชะตาตัวเองได้แล้ว!
ซ่งถังหังอ้ำอึ้ง ซ่งซินหัวจึงถลึงตาใส่เขาแวบหนึ่ง เป็นผลให้ซ่งถังหังถลึงตากลับไปบ้างเช่นกัน
“ท่านพ่อ ท่านจะสนใจพี่สาวร่วมตระกูลไปทำไมเจ้าคะ ตอนนี้นางเป็นคนของตระกูลอื่นแล้วด้วยซ้ำ ท่านดีต่อนาง ข้าจะอิจฉาเอาได้นะเจ้าคะ!” ซ่งซินหัวออดอ้อน “ตอนนี้นางมีกินมีใช้ ท่านลืมลูกสาวคนนี้ไปเถอะเจ้าค่ะ! ข้าไม่ชอบนาง ท่านว่าดีหรือไม่เจ้าคะ!”
ตอนที่ 726 บุญคุณที่ช่วยชีวิต
ซ่งโหวใจอ่อนลงเล็กน้อยขณะมองบุตรสาวคนนี้ “ตอนนี้ในเมืองหลวงมีหลายตระกูลพูดจาเหลวไหลไร้สาระ ตอนที่พวกเจ้าสองคนออกไปข้างนอก หากมีคนถามถึงซ่งอิงก็อย่าได้บอกว่านางยังมีชีวิตอยู่เชียว เข้าใจหรือไม่”
“ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะท่านพ่อ ตอนนั้นท่านอ๋องเฒ่าเสียชีวิต หากพี่สาวคนโตยังมีชีวิตอยู่ เช่นนั้นนางก็จะไม่มีคู่ครองเป็นแน่ นี่ท่านคำนึงเพื่อนาง ดังนั้นจึงได้แอบส่งนางไปยังชนบท ตอนนี้พี่สาวคนโตมีคู่ครองที่รักใคร่กันดีและมีบุตรชายที่รู้ความ จะต้องรู้สึกขอบคุณท่านเป็นแน่เจ้าค่ะ!” ซ่งซินหัวคลี่ยิ้มกล่าว
ซ่งถังหังพลันรู้สึกว่าพี่สาวเขาผู้นี้ไร้ยางอายอยู่บ้างเช่นกัน
ทั้งที่รู้ว่าบิดาไม่ชอบซ่งอิง ไม่นึกเลยว่ายังเอ่ยถ้อยคำที่ขัดกับใจถึงเพียงนี้ออกมา
เมื่อก่อนเขารู้สึกว่าพี่สาวลำดับที่ห้าผู้นี้เป็นคนไร้เดียงสาและไม่มีสิ่งใดให้น่ากังวลที่สุดในบ้าน ตอนนี้เห็นทีว่านางจะซ่อนเขี้ยวเล็บเอาไว้ลึกมากจริงๆ หากเขาไม่ได้ติดตามไปเมืองยงด้วยตนเอง เกรงว่าจะหลงเชื่อถ้อยคำหลอกหลวงของพี่สาวผู้นี้ได้จริงๆ!
ในตอนนี้เอง ซ่งโหวก็พยักหน้าอย่างปลื้มใจเล็กน้อย
เมื่อก่อนเขายังนึกว่าบุตรสาวผู้นี้รู้ดีแก่ใจเกี่ยวกับเรื่องที่เขาจะทำ ตอนนี้เห็นทีว่าจะประเมินนางสูงไปแล้ว
หลังจากพูดอบรมสั่งสอนลูกๆ ไม่กี่ประโยค ซ่งโหวก็โบกมือเป็นสัญญาณให้พวกเขาออกไปได้
นอกจากนี้ ซ่งโหวก็ไม่ได้สอบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของญาติทางด้านหมู่บ้านนั้นมากนัก
ในมุมมองเขา ครอบครัวชาวชนบทก็แค่ทำงานหนักตามไร่นาไปวันๆ เท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรอื่นเป็นพิเศษ
บัดนี้ซ่งโหวเตรียมส่งคนกลุ่มที่สองมุ่งหน้าไปเมืองยง แต่อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เซว์กั๋วกงก็จ้างขบวนพ่อค้ากลุ่มหนึ่งไปถึงหมู่บ้านซิ่งฮวา ถือโอกาสพาซ่งอิงมุ่งหน้าเข้าเมืองหลวงมาเป็นแขก ส่วนเหตุผลที่จะอ้าง…
อันเนื่องจากมีบุญคุณช่วยชีวิตคุณชายรองเซว์ไว้
ตระกูลเซว์กั๋วกงมีความตั้งใจอยากทำให้จวนโหวอัปยศอดสูมาแต่ไหนแต่ไร เพื่อให้ซ่งอิงเต็มใจร่วมทางมาด้วย เขาย่อมต้องเตรียมของขวัญให้สมบูรณ์ยิ่งเสียหน่อย
เพียงแต่น่าเสียดาย ซ่งอิงไม่อยู่ในหมู่บ้าน
ทางด้านฮั่วเจ้ายวน ครั้นได้ยินว่ามีคนมาจากเมืองหลวงก็เกิดคิดมากขึ้นมาทันที
หากเป็นเมื่อก่อน เขาจะห่วงว่าซ่งอิงอาจถูกรังแก แต่ตอนนี้น่ะ…
เขากังวลว่าเกิดซ่งอิงไม่พอใจแล้วระเบิดอารมณ์เผยตัวตนที่แท้จริงออกมา จากนั้นจับคนเหล่านั้นกลืนลงไปทั้งเป็นจนหมด
ดังนั้นคนพวกนี้เพิ่งโผล่หน้ามาที่หมู่บ้านซิ่งฮวา ฮั่วเจ้ายวนก็รีบส่งคนพร้อมม้ากลุ่มหนึ่งไปในทันทีแล้วเชิญคนทั้งหมดไปหา
พ่อค้ากลุ่มนี้เข้ามายังจวนฮั่วในเขตอำเภอหลี่อย่างงุนงง
“มิทราบว่าท่านอ๋องเชิญพวกเรามาด้วยเหตุอันใดหรือขอรับ” พวกเขาเพียงแค่ผ่านทางมาเท่านั้นนี่
ฮั่วเจ้ายวนไม่ได้มาด้วยตัวเองด้วยซ้ำ เขาส่งฮั่วซื่อเซี่ยงมา พ่อค้ากลุ้มนี้คอยอยู่พักใหญ่กว่าฮั่วซื่อเซี่ยงจะโผล่หน้ามา เขามองหัวหน้าผู้ดูแลงานในกลุ่มพ่อค้าด้วยรอยยิ้มเวทนาเล็กน้อย
“ท่านอ๋องของพวกเราได้ยินว่าพวกเจ้าเป็นคนของตระกูลเซว์กั๋วกงหรือ” ฮั่วซื่อเซี่ยงเลิกคิ้ว เผยท่าทีองอาจอย่างยิ่ง
กลุ่มพ่อค้าใจเต้นแรง อดปาดเหงื่อไม่ได้ “เถ้าแก่ตระกูลข้าเป็น…เป็นญาติกับท่านกั๋วกงก็เท่านั้นเองขอรับ”
“ก็พอๆ กันนั่นละ ท่านอ๋องตระกูลข้าเลื่อมใสท่านกั๋วกงมานานแล้ว ในเมื่อเป็นคนของตระกูลกั๋วกง เช่นนั้นก็คือแขกคนสำคัญ แขกคนสำคัญมาถึงที่นี่ ท่านอ๋องตระกูลข้าจะอย่างไรก็สมควรทำหน้าที่เจ้าบ้านอย่างสุดความสามารถหน่อย ดังนั้นสองสามวันนี้พวกท่านต้องการซื้ออะไรก็ให้คนของพวกเราช่วยเป็นลูกมือได้…”
“…” ผู้ดูแลหวังหัวหน้ากลุ่มพ่อค้านี้รู้สึกไม่ค่อยปกติ
“จริงสิ ขบวนพ่อค้าอย่างพวกเจ้าผ่านมาเมืองยงพวกเรา เกรงว่าคงเป็นเพราะคิดจะทำกิจการใหญ่โตอันใดกระมัง ไม่ทราบว่าถูกตาต้องใจในสินค้าตัวไหนในเขตเมืองยงพวกเราแล้วหรือ” ฮั่วซื่อเซี่ยงยิ้มตาหยีเอ่ยพูดอีกครั้ง
ผู้ดูแลหวังกลืนน้ำลาย
หากเขากล่าวว่า ความจริงไม่ได้มาเมืองยงเพื่อจับจ่ายซื้อหา เพียงแต่ผ่านทางมาแล้วแวะเข้าเมืองยงเพื่อนำตัวคุณหนูใหญ่ซ่งกลับไป…อีกฝ่ายจะเชื่อหรือไม่
แต่พวกเขามาอย่างเร่งด่วน ท่าทางราวกับกำลังมองหาบางสิ่งบางอย่าง จะอย่างไรก็ไม่ดีนักหากกล่าวว่าตนไม่ได้จะซื้ออะไรเลยสักนิด จึงทำได้เพียงกลั้นใจกล่าวออกไป “ได้ยิน…ได้ยินว่าที่แห่งนี้ของป่าตลอดจนใบชาล้วนยอดเยี่ยมอย่างยิ่ง ดังนั้น…”