ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 741 อยากรอดชีวิตก็ยังยาก ตอนที่ 742 กำจัดญาติเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนตน
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 741 อยากรอดชีวิตก็ยังยาก ตอนที่ 742 กำจัดญาติเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนตน
ตอนที่ 741 อยากรอดชีวิตก็ยังยาก / ตอนที่ 742 กำจัดญาติเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนตน
ตอนที่ 741 อยากรอดชีวิตก็ยังยาก
ช่วงเวลาที่ทั้งสามคนมาเยือนไม่ถือว่ายาวนานเช่นกัน พวกเขาไม่มีเส้นสายในที่แห่งนี้ จึงทำได้เพียงไปสืบถามด้วยตนเอง
แรกเริ่มไปทางด้านหมู่บ้านซิ่งฮวา ไม่รู้เช่นกันว่าด้วยเหตุใดชาวบ้านของหมู่บ้านซิ่งฮวาแห่งนั้นจึงปิดปากเงียบเป็นพิเศษ ครั้นพวกเขาเอ่ยปากถึง ‘ซ่งอิง’ สองคำนี้ อีกฝ่ายก็สีหน้าเปลี่ยนไปทันใด ต่อให้พวกเขาใช้น้ำเสียงดีๆ ก็นำมาซึ่งสายตาไม่พอใจ
เปลืองแรงเปลืองสมองแทบแย่ สุดท้ายถามได้ความเพียงแค่จำนวนสมาชิกของตระกูลซ่ง แทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องราวซ่งอิงเลย รู้เพียงแค่ตัวนางไม่ได้อยู่ในหมู่บ้าน
ด้วยความจนปัญญา จึงทำได้เพียงเริ่มลงมือจากคนในตระกูลซ่ง
ดีที่ตระกูลซ่งมีคุณชายซิ่วฉายที่เลื่องชื่อลือนามคนหนึ่ง พวกเขาจึงคิดไปสะกดรอยตามคุณชายซิ่วฉายผู้นี้ ไม่แน่ว่าอาจได้เจอซ่งอิง
พวกเขาโชคดีไม่น้อยเช่นกัน เมื่อมาถึงเมืองยง ชื่อเสียงของสวนว่านหลิงก็กำลังเป็นที่เลื่องลือ ยามที่พวกเขาไปสืบถามทางด้านสถานศึกษา ได้ยินคนอื่นสนทนากันพอดี กล่าวว่าเจ้าของกิจการสวนว่านหลิงแห่งนี้แท้จริงแล้วเป็นน้องสาวของซ่งสวิน…
จึงเป็นอันโล่งอกโล่งใจเสียที
แม้ไม่รู้ว่าคุณหนูใหญ่กลายเป็นเถ้าแก่เหนียงของสวนว่านหลิงได้อย่างไร แต่ก็ดีที่หาเจอแล้ว
เพียงแต่น่าเสียดาย ยังไม่ทันได้ลงมือก็ถูกคนเหล่านี้จับกุมแล้ว
ฮั่วซื่อเซี่ยงหรี่ตามองทั้งสามคนนี้ จากนั้นยิ้มแล้วเอ่ยพูด “ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฮั่วฮูหยินเป็นใครก็ถ่อไปยังสวนว่านหลิงแล้วหรือ เห็นข้าเป็นคนโง่เขลาหรือไร ใครก็ได้มานี่ เอาตัวไปลงโทษ!”
“ช้าก่อน! ใต้เท้าเป็นใครกัน พวกเราผิดอันใด ท่านมีสิทธิ์อะไรลงโทษพวกเรา!” ทั้งสามคนพร้อมใจกันกล่าวขึ้นมาทันควัน
ฮั่วซื่อเซี่ยงแสยะยิ้ม “ข้าฮั่วซื่อเซี่ยง ผู้ใต้บังคับบัญชาของอ๋องอู่เฉิน กระทำสิ่งต่างๆ อย่างเปิดเผยและเหนือชั้น ไม่เกรงกลัวผู้ใดรับรู้ ที่แห่งนี้คือที่ดินศักดินาที่ท่านอ๋องตระกูลข้าได้รับพระราชทานจากฮ่องเต้ พวกเจ้ามาทำลับๆ ล่อๆ มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนไม่ดี ท่านอ๋องของพวกเรามีหน้าที่ในการปกป้องความปลอดภัยของประชาชนในเมืองนี้!”
ครั้นถ้อยคำนี้หลุดออกมา สีหน้าทั้งสามคนก็เปลี่ยนไปในทันที
ผู้ใต้บังคับบัญชาของอ๋องอู่เฉิน นี่เป็นถึงคนผู้หนึ่งที่ไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น!
หลายปีก่อนยามที่เดินทัพ ได้ยินว่าอ๋องอู่เฉินผู้นี้ฟาดฟันคนตายจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะภายหลังต่อมาคนที่ใส่ร้ายตระกูลฮั่วเหล่านั้นตกมาอยู่ในมือของอ๋องอู่เฉิน พวกเขาถูกทรมานจนไม่เหลือสภาพความเป็นคนเลยด้วยซ้ำ!
“เป็นความเข้าใจผิดทั้งนั้น! ใต้เท้า พวกเราไม่ใช่คนเลวจริงๆ ขอรับ ครั้งนี้รับคำสั่งของท่านโหวตระกูลข้ามุ่งหน้ามาบ้านเกิดเขาเพื่อส่งมอบของขวัญ ตอนนี้มิใช่ว่าการสอบระดับท้องถิ่นใกล้มาถึงแล้วหรอกหรือ ได้ยินว่าคุณชายรองซ่งของญาติทางนี้เป็นซิ่วฉายและอาศัยอยู่ในเมืองยง ไม่แน่ว่าจะสอบผ่านการคัดเลือก ดังนั้น…” อีกฝ่ายรีบเอ่ยพูดในทันที
ฮั่วซื่อเซี่ยงกลอกตามองบนใส่
เขาหรือจะเชื่อคำพูดโง่ๆ นี้
“ว่ายากจริงๆ” ฮั่วซื่อเซี่ยงสบถฮึ จากนั้นให้คนลงมือกับคนผู้นั้นโดยทันที
เขาลงโทษไม่เหมือนคนอื่นที่ลงโทษด้วยการทรมานเช่นเฆี่ยนตี หากแต่เป็นการให้คนเอาของที่ชวนสะอิดสะเอียนมาหนึ่งกองใหญ่ๆ แล้ววางไว้ตรงหน้าทั้งสามคน
ทั้งสามคนเกือบจะตาเหลือกหงายหลังหมดสติไป
“พวกเจ้ามาจากที่ห่างไกล ข้าจึงสมควรต้อนรับขับสู้พวกเจ้าให้ดีๆ เช่นกัน” ฮั่วซื่อเซี่ยงส่งเสียงหัวเราะ “หากไม่พูดออกมาอย่างว่าง่ายก็จะให้พวกเจ้ากินจนอ้วกออกมา อ้วกแล้วก็กินเข้าไปอีก จะเลี้ยงเอาไว้อย่างดีและแม้อยากตายก็ไม่ให้ตายเช่นกัน”
เขาเผยท่าทีพึกลึกพิลั่น มองดูชวนให้รู้สึกสยองอยู่เล็กน้อยจริงๆ
เพียงแต่เมื่อดูของในอ่างนั่น มีทั้งไส้เดือนตัวเป็นๆ แล้วยังมีหนอนตัวอ้วนกลม มิหนำซ้ำยังมีของที่น่าสะอิดสะเอียนอยู่อีก…
พวกเขาทั้งสามคนแม้ว่าเป็นคนใต้บัญชาของจวนโหว แต่สำหรับจวนโหว นอกเสียจากท่านโหว ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ต้องไว้หน้าพวกเขาบ้าง ยังไม่เคยเจอะเจอภาพฉากที่ชวนสะอิดสะเอียดเช่นนี้มาก่อน
พวกเขาไม่สะทกสะท้านกับภาพหัวหลุดจากบ่าเลือดเจิ่งนอง แต่กับภาพที่ชวนขยะแขยงเพียงนี้กลับรู้สึกรับไม่ค่อยไหว
“พวกเจ้าวางใจเถอะ ตกมาอยู่ในมือข้า รับประกันว่าเจ้าอยากตายก็ตายไม่ได้ อยากรอดชีวิตก็ยากหน่อยเช่นกัน” ฮั่วซื่อเซี่ยงเผยท่าทีหยิ่งทระนงไม่น้อยทีเดียว “หากพวกเจ้าสารภาพมาแต่โดยดีก็ยังพอจัดการได้ง่ายหน่อย”
แต่ละคนขบเขี้ยวเคี้ยวฟันแน่น
อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่อาจเอาชนะคนของจวนฮั่วได้
ความคลื่นเหียนพุ่งขึ้นมา จากนั้นพวกเขาก็อาเจียนจนหน้ามืดวิงเวียนไปหมด
ทว่ายังไม่จบแต่เพียงนี้ ฮั่วซื่อเซี่ยงกำลังเตรียมลงมือต่อ แต่แล้วหนึ่งคนในนั้นก็รีบกล่าวขึ้นมา “ใต้เท้าไว้ชีวิตด้วย พวกเราเป็นคนของจวนเหยียนผิงโหวจริงๆ นะขอรับ ที่มาเยือนในครั้งนี้เพียงแค่ เพียงแค่ต้องการสังหารคนผู้หนึ่งเท่านั้นเอง…”
ตอนที่ 742 กำจัดญาติเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนตน
เมื่อฮั่วซื่อเซี่ยงได้ยินดังกล่าวก็ตะลึงงัน “พวกเจ้าต้องการสังหารคนผู้หนึ่งรึ ฮั่วฮูหยินใช่หรือไม่ ทำไมกัน”
“พวกเราไม่รู้จริงๆ ว่าใครคือฮั่วฮูหยิน…ที่พวกเราต้องฆ่า…เป็น เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของโหวเหยียที่ระหกระเหินมาอยู่ภายนอก ขอใต้เท้าโปรดไว้ชีวิตด้วยขอรับ!” อีกฝ่ายกล่าว
ฮั่วซื่อเซี่ยงขมวดคิ้ว “ฮั่วฮูหยินเป็นบุตรสาวที่ท่านโหวตระกูลซ่งพวกเจ้าแอบมีไว้อย่างลับๆ ใช่หรือไม่”
“…” ทั้งสามคนงงงวยเล็กน้อย
เอาแต่พูดถึงฮั่วฮูหยิน ฮั่วฮูหยินที่ว่านั่นเป็นใครกันแน่เล่า!
“ที่พวกเราต้องฆ่า…” คนผู้นี้เผยสีหน้าลำบากใจ แต่เมื่อมองไปยังของที่ชวนสะอิดสะเอียนตรงหน้าเหล่านี้ ก็รู้สึกเครื่องในทั้งห้าจะทะลักออกมาในทันใด เขาอาเจียนไปสองรอบ จากนั้นจึงรีบบอกกล่าว “ความจริงคุณหนูใหญ่ของตระกูลพวกเรายังไม่ตาย ได้ยินว่าเป็นเถ้าแก่เหนียงของสวนว่านหลิงแห่งนั้น ท่านโหวเกรงว่าฮ่องเต้จะเอาผิดเขาฐานหลอกลวงเบื้องสูง ดังนั้น…”
“ซ่งอิง? คุณหนูใหญ่ตระกูลเจ้าหรือ” ฮั่วซื่อเซี่ยงตะลึงงัน
พลันเข้าใจได้ในทันใดว่าทำไมใต้เท้าตระกูลเขาแรกเริ่มยามที่มองเห็นฮั่วฮูหยิน จึงมักดูประหลาดไปเล็กน้อยอยู่เรื่อย!
แท้จริงแล้วเป็นผู้รู้จักกันมาก่อนนี่เอง!
เมื่อก่อนใต้เท้าตระกูลเขาเคยไปรวมงานเลี้ยงระดับสูงสองสามครั้ง จึงเคยพบเจอแม่นางจากหลายตระกูล ฉะนั้นต้องเคยเห็นฮั่วฮูหยินผู้นี้เป็นแน่ ด้วยเหตุนี้ ตั้งแต่แรกเริ่มจึงได้เอาใจใส่นางอย่างยิ่ง!
“เช่นนั้นตระกูลพวกเจ้าก็ชั่วช้าจริงๆ” ฮั่วซื่อเซี่ยงดูถูก “เสือยังไม่กินลูกเป็นอาหาร ซ่งโหวกลับจะกำจัดญาติเพื่อรักษาผลประโยชน์ส่วนตนเชียวรึ”
“ทุกถ้อยคำที่ข้าน้อยพูดเป็นความจริงทั้งสิ้นขอรับ…” ทั้งสามคนรู้สึกทรมานใจถึงขีดสุด
“ความจริงรึ เช่นนั้นพวกเจ้าก็สมควรตาย” ฮั่วซื่อเซี่ยงเผยรอยยิ้มเย็นชาขึ้นอีกเล็กน้อย “เอาไปตัดหัวทิ้ง”
หากใต้เท้าตระกูลเขาอยู่ ก็ย่อมทำเช่นเดียวกันเป็นแน่
ต่อให้ตอนนี้ ผู้ที่พวกเขาต้องการสังหารไม่ใช่ฮั่วฮูหยิน หากแต่เป็นหญิงสาวคนอื่น ด้วยทัศนคติของซ่งโหว ผู้นั้นก็ควรจัดการชนิดที่ส่งมาคนก็สังหารไปคน ส่งมาสองคนก็สังหารคู่เสียเลย!
ส่วนที่ว่าเป็นคุณหนูใหญ่ของตระกูลนั้นหรือไม่ นั่นไม่สำคัญแต่อย่างใด!
ตราบใดที่อยู่ในถิ่นของใต้เท้าตระกูลเขา เช่นนั้นก็คือคนของใต้เท้า ย่อมต้องได้รับการปกป้องจากใต้เท้า ใครกล้าเหยียบย่ำมาถอนขนถึงบนหัวสิงโต เช่นนั้นก็คือผู้รนหาที่ตาย!
ทั้งสามคนรูม่านตาหดตัว ยังไม่ทันเอ่ยปากก็ถูกคนลากตัวออกไปแล้ว
จากนั้นก็เอาไปตัดหัวในทันที
หลังจัดการเสร็จสิ้น ฮั่วซื่อเซี่ยงยังไม่ลืมไปทำเรื่องสร้างความรู้สึกดีๆ สักอย่าง
ความหมายของใต้เท้าต้องเป็นการหวังว่าฮั่วฮูหยินจะคำนึกถึงมิตรภาพวันวาน อย่าได้ปล่อยให้ปีศาจเหิมเกริม ดังนั้นตอนนี้ต้องทำให้ฮั่วฮูหยินรู้ว่า ใต้เท้าของพวกเขาดีต่อนางมากเพียงใด และมวลมนุษย์จิตใจดีมากเพียงใด…
ฮั่วซื่อเซี่ยงเขียนจดหมายขึ้นมาฉบับหนึ่งแล้วคิดหาวิธีส่งไปถึงมือซ่งอิง
หลังจากซ่งอิงมองเห็นเนื้อความในจดหมายก็ถอนหายใจออกมา
นางไม่ใช่ปีศาจกินคนได้เสียหน่อย ถึงขั้นต้องกลัวกันปานนี้เชียวหรือ
เพียงแต่ว่าในเมื่อกำจัดปัญหาแล้วก็เบาความยุ่งยากของนางไปได้เช่นกัน อีกทั้งตอนนี้การสอบระดับท้องถิ่นจะมาถึงแล้ว ต้องทำเรื่องดีๆ มากหน่อยเพื่อสั่งสมบุญกุศลให้พี่ชายนาง
การสอบระดับท้องถิ่นสำคัญยิ่ง เป็นผลให้ทั้งตระกูลซ่งในตอนนี้ล้วนวิตกกังวลจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ
แต่พวกเขาก็กลัวว่าจะสร้างแรงกดดันให้ซ่งสวินมากเกินไป ดังนั้นทั้งครอบครัวจึงยังไม่กล้าแสดงสีหน้าอารมณ์ออกมา และยิ่งไม่กล้าเจอหน้าซ่งสวิน เมื่อเผชิญกับการซักถามของคนในหมู่บ้าน ทุกคนในตระกูลซ่งเลือกที่จะเผยสีหน้าท่าทางที่ผ่อนคลายและดูไม่ใส่ใจมากนัก
ในสถานศึกษาทางด้านตัวเมืองยง มีอาจารย์จำนวนไม่น้อยล้วนไปเข้าร่วมการสอบด้วย ดังนั้นเด็กๆ ในครอบครัวก็หยุดเรียนแล้วเช่นกัน
นานๆ ทีพวกเขาจะมีเวลาว่าง ซ่งอิงจึงพาพวกเขาไปสวนว่านหลิงเพื่อรับชมความสนุกครึกครื้น
“นี่ก็คือเสือตัวที่ข้าเห็นก่อนหน้านี้หรือ” ซ่งเหล่าเกินไม่ได้เห็นเสือมาตั้งนานเพียงนี้ รู้สึกคะนึงถึงอย่างยิ่ง จึงเอาแต่จ้องมองตาแทบถลนออกมา
“นี่คืออีกตัวหนึ่งเจ้าค่ะ ตัวก่อนนั้นเป็นตัวผู้ ตัวนี้เป็นตัวเมีย ไม่เหมือนกันเจ้าค่ะ” ซ่งอิงพูด
ซ่งเหล่าเกินตระหนกตกใจเมื่อได้ยินดังกล่าว “อีกตัวหนึ่งหรือ! นี่เป็นตัวที่ซื้อมาจากข้างนอกใช่หรือไม่ เสือก็หาซื้อได้ด้วยหรือ! ตอนข้ามาถึงได้ยินคนที่เข้ามายังสวนแห่งนี้กล่าวว่าทางด้านเจ้านี้ยังมีสิงโตและช้างอีกด้วยหรือ”