ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 743 ฆ่าคนเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ตอนที่ 744 คนโกหกหลอกลวง
- Home
- ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล
- ตอนที่ 743 ฆ่าคนเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ตอนที่ 744 คนโกหกหลอกลวง
ตอนที่ 743 ฆ่าคนเป็นเรื่องผิดกฎหมาย / ตอนที่ 744 คนโกหกหลอกลวง
ตอนที่ 743 ฆ่าคนเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
ซ่งเหล่าเกินตื่นตระหนกตกใจมากจริงๆ เขาเป็นแค่คนชนบทต่ำต้อยคนหนึ่ง ไม่เคยนึกเลยว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสได้เห็นสัตว์ป่าที่ทรงพลังเช่นนี้
“เอ้อร์ยา ตอนนี้เจ้ามีเงินปานนี้ หากพี่ชายเจ้าสอบไม่ผ่าน ไม่ได้เป็นนายท่านจวี่เหรินแล้วจะทำอย่างไรเล่า คนทำการค้าน่ะ สิ่งที่ต้องเกรงกลัวที่สุดคือการเจอขุนนางที่ละโมบโลภมาก หากเจ้าไม่มีที่พึ่งพิงอันยิ่งใหญ่ ภายภาคหน้าเงินที่หามาได้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นของคนอื่นทั้งสิ้น” ซ่งเหล่าเกินกลัดกลุ้มจนรู้สึกเหมือนผมจะร่วงหมดหัวอยู่รอมร่อ
ก่อนหน้านี้เขานึกว่าเป็นแค่สวนเล็กๆ แห่งหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่ได้เก็บเอามาใส่ใจสักเท่าไร
แต่ตอนนี้เมื่อเขาได้เห็นของจริงก็ถึงกับตระหนกตกใจยิ่ง
ที่ดินมากมายเพียงนี้ หากเอามาใช้เพาะปลูกทั้งหมด นั่นจะได้ผลผลิตมากขนาดไหนเชียว
ซ่งอิงหัวเราะไปกับท่าทีของผู้เฒ่าซ่ง “ท่านวางใจเถอะ ข้าเลี้ยงดูลูกน้องไว้มากมาย หากมีคนกล้าแย่งเงินของข้า ข้าก็จะให้ลูกน้องแอบไปเชือดคอของพวกเขาเสียเลย…”
“เช่นนั้นไม่ได้เชียว ฆ่าคนเป็นการกระทำผิดกฎหมาย…” ซ่งเหล่าเกินตระหนกตกใจ
ซ่งอิงถึงกับหลุดหัวเราะออกมา
ซ่งเหล่าเกินเห็นนางหัวเราะจึงรู้ว่านางกำลังล้อเล่น เขาสบถฮึๆ และถลึงตาใส่นางแวบหนึ่ง “เจ้าให้ข้าคอยดูเด็กๆ เหล่านั้นเล่าเรียนหนังสือมิใช่หรือ พอดีว่าก่อนหน้านี้ทางสถานศึกษาแห่งนั้นมาหาข้าสองสามครั้ง กล่าวว่าเหลนหลินความจำดีเยี่ยม เล่าเรียนหนังสือได้เก่งกาจ ไม่ว่าอย่างไรก็ขอให้พวกเราอบรมสั่งสอนอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพียงแต่ตอนนี้เขาอายุยังน้อย…”
“ก็ทำได้เพียงให้พี่รองของเจ้าช่วยเหลืออีกแรง ไว้ภายภาคหน้าเหลนหลินสอบผ่านแล้ว จะต้องได้เป็นขุนนางใหญ่แน่ ถึงตอนนั้นเจ้าก็ไม่ต้องกังวลใจแล้ว” ซ่งเหล่าเกินคิดมาถึงจุดนี้ก็รู้สึกเป็นสุขใจ
บรรพบุรุษตระกูลเขาช่วยกันอวยพรให้ลูกหลานพวกเขาประสบความโชคดีแล้ว!
แม้ว่าเป็นบุตรชายของหลานสาว แต่ตราบใดที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดก็ไม่กลัวความห่างไกลทางสายเลือด
ซ่งอิงย่อมพยักหน้าเออออไปกับคำพูดของผู้เฒ่าซ่งเป็นธรรมดา
คนเฒ่าคนแก่ก็มีความหวังเล็กๆ น้อยๆ แค่นี้เท่านั้นเอง
อย่างไรก็ตาม ซ่งอิงเห็นสีหน้าซ่งเหล่าเกินในปัจจุบันก็รู้สึกว่าดูสดใสขึ้นมากจริงๆ ใบหน้าชราๆ มองดูเยาว์วัยขึ้นไม่น้อย ที่รับประทานข้าวสารธัญพืชจากทางด้านหมู่บ้านสวนของนางไปไม่เสียเปล่าจริงๆ จะมากจะน้อยก็ยังเห็นผลอยู่บ้าง หากมีแนวโน้มเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ คงมีชีวิตอยู่ได้อีกยี่สิบสามสิบปีสบายๆ
เดือนแปด วันที่แปด ในที่สุดซ่งสวินก็เข้าสู่สนามสอบ
ทั้งตระกูลซ่งจุดธูปสักการะเทพ ความนึกคิดจิตใจเป็นหนึ่งเดียว
การสอบระดับท้องถิ่นแบ่งการสอบเป็นสามรอบ ทุกรอบการสอบใช้เวลาสามวัน และทุกครั้งยังต้องเข้าสู่สนามสอบล่วงหน้าหนึ่งวัน ดังนั้นกว่าจะสอบเสร็จก็น่าจะถึงช่วงปลายเดือนแปดแล้ว
และช่วงหลายวันนี้ ทั่วทั้งเมืองหลวงราวกับผ่านพายุฤดูร้อนมาหนึ่งรอบก็ไม่ปาน เงียบสงัดจนชวนให้ผู้คนใจสั่น
เดิมทีซ่งอิงไม่ได้รู้สึกวิตกกังวลเลยสักนิด แต่เมื่อถูกคนตระกูลซ่งพร่ำพูดมากๆ เข้าก็อดกังวลใจขึ้นมาไม่ได้
ทางที่ดีที่สุดคือซ่งสวินสอบผ่านในครั้งเดียวจึงค่อนข้างดีหน่อย มิเช่นนั้นยังต้องเกิดสถานการณ์ลักษณะนี้ในภายภาคหน้าอีกกี่ครั้ง
เวลาช่วงนี้ กิจการของสวนว่านหลิงค่อนข้างเงียบเหงาลงไปเล็กน้อยเช่นกัน เพียงแต่ซ่งอิงยังคงทำเงินได้ไม่น้อยอยู่ดี นางคำนวณดูคร่าวๆ รวมรายรับในทุกวัน อย่างน้อยก็สองพันตำลึงเงิน!
ต้นทุนในการดำเนินกิจการก็มีเช่นกัน แต่ค่าใช้จ่ายหลักๆ เป็นการจ่ายให้กับเหล่าปีศาจ
ทว่าอาหารที่บรรดาปีศาจปกติกินในแต่ละวันล้วนเป็นพวกของที่นางปลูกเอาไว้ในช่องว่าระหว่างมิติ ดังนั้นหลังจากหักส่วนนั้นออก นางก็จำเป็นต้องจ่ายเงินค่าแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
เงินค่าแรงของบรรดาปีศาจ…จริงๆ แล้วไม่ได้มากมายเลย
อีกทั้งพวกมันก็ไม่ค่อยใส่ใจในส่วนเงินค่าแรงเสียด้วยซ้ำ ถึงขั้นว่าปีศาจส่วนใหญ่เมื่อได้เงินมาแล้ว ไม่ทันไรก็คิดที่จะซื้อของมาตอบแทนคุณนาง
นี่จึงส่งผลให้ต้นทุนในการขับเคลื่อนกิจการของนางยังไม่ถึงสามส่วนของรายรับด้วยซ้ำไป
ตอนนี้เปิดกิจการมาได้เดือนครึ่ง นางมีเงินเพิ่มขึ้นมาหลายหมื่นตำลึงเงิน ส่วนที่ลงทุนไปก่อนหน้านี้ก็ได้คืนกลับมาแทบทั้งหมดแล้ว
ซ่งอิงขบคิดอยู่ว่าไว้หลังจากซ่งสวินสอบเสร็จ ไม่ว่าผลเป็นอย่างไร มีเงินจำนวนมากขนาดนี้ นางก็จะไปเปิดร้านที่เมืองหลวงไว้หลายๆ ร้าน จะได้ทำเงินก้อนโต
ซ่งโหวคะนึงถึงนางเช่นนี้ แน่นอนว่านางก็ควรไป ‘แสดงความกตัญญู’ อย่างสุดความสามารถสักหน่อยด้วยเช่นกัน
ตอนที่ 744 คนโกหกหลอกลวง
ตอนแรกหากไม่ใช่เพราะซ่งเหล่าเกินขัดขวางไว้ ตอนนี้นางน่าจะไปถึงเมืองหลวงแล้ว เพียงแต่ว่าที่ผู้เฒ่าซ่งทำก็ไม่ผิดเช่นกัน อีกทั้งหากไม่ใช่เพราะผู้เฒ่าซ่งคิดจะเลี้ยงเสือ นางก็คงยังไม่มีสวนว่านหลิงแห่งนี้
ก่อนหน้านี้ซ่งอิงเคยเอ่ยกับผู้เฒ่าซ่งถึงเรื่องไปเมืองหลวง เพียงแต่ตอนนั้นผู้เฒ่าซ่งไม่เห็นด้วย กล่าวเพียงแค่รอให้ซ่งสวินสอบผ่านก่อนค่อยว่ากันอีกที
ตอนนี้ถึงเวลาที่ซ่งสวินสอบแล้ว ผู้เฒ่าซ่งจึงเริ่มร้อนใจขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งหวังให้ซ่งสวินสอบจวี่เหรินผ่าน แต่ก็กลัวอีกว่าเกียรติคุณอย่างจวี่เหรินจะไม่เพียงพอสำหรับการปกป้องซ่งอิง
ดังนั้นยามที่เขามองดูทิวทัศน์ในสวนแห่งนี้ แม้ว่าในใจมีความสุข แต่ก็กังวลอย่างบอกไม่ถูก
สอบสามสนามต่อเนื่อง เดิมทีซ่งสวินนึกว่าตนจะต้องล้มป่วยครั้งใหญ่เสียแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ผ่านพ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
ไม่เพียงเท่านี้ ตอนที่เขาออกจากสถานที่สอบ ไม่นึกเลยว่ายังมองดูมีชีวิตชีวามากกว่านักเรียนอื่นๆ นอกจากมีกลิ่นตามเนื้อตัวเล็กน้อย ก็ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด เทียบกับอวี๋ชิงแล้วยังมีพวกลู่ข่ายที่เข้าสนามสอบพร้อมเขา พวกเขาเหล่านั้นดูสาหัสกว่าเยอะ!
“ก่อนหน้านี้พวกเจ้ามักพูดว่าพี่ซ่งร่างกายไม่แข็งแรง ยังคิดอยู่ว่าจะให้เขาตามไปฝึกกับอาจารย์สอนศิลปะการต่อสู้สักสองสามกระบวนท่า จะได้ช่วยให้ตอนสอบร่างกายรับไหว ตอนนี้เห็นทีว่าพี่ซ่งก็คือคนโกหกหลอกหลวงดีๆ นี่เอง พวกเจ้ามองดูสิ พวกเราเหมือนถูกช้อนออกมาจากถังอุจจาระ มีก็แต่เขาที่สีหน้ายังไม่แปรเปลี่ยนไปเลยสักนิด!” อวี๋ชิงบ่นโอดครวญ
ไปสอบเช่นเดียวกัน แต่ช่างต่างกันมากมายเกินไปแล้ว
คนอื่นใช้สายตาแปลกๆ จับจ้องไปที่ซ่งสวินเช่นกัน
“ได้ยินว่าตอนที่พี่ซ่งอยู่ในสนามสอบ กินข้าวอย่าง…สบายใจมาก” มีคนกล่าวขึ้น
ซ่งสวินยิ้มอย่างจนใจ “เป็นของดีที่น้องสาวเตรียมไว้ให้ทั้งนั้น น้องสาวกังวลใจว่าข้าจะไม่ได้กินของดีๆ เมื่ออยู่ข้างในนั้น ก่อนหน้านี้ก็เอาของพวกนี้มอบให้ทุกคนด้วยคนละชุดมิใช่หรือ”
เมื่อทุกคนได้ยินดังกล่าวก็มองหน้ากันเลิกลั่ก
ลู่ข่ายอดหัวเราะลั่นไม่ได้ “ก็มิใช่เพราะเจ้านำของมามอบให้เร็วเกินไปหรอกหรือ พวกเขาแต่ละคนได้ของดีๆ พวกนั้นก็ลงมือกินกันเกลี้ยงในคืนวันนั้นเลย แต่ก็เกรงใจเกินกว่าจะไปขอจากเจ้าอีกจึงอดทนไว้! ใครจะคิดว่าในห้องสอบจะทรมานเช่นนั้น หากรู้ว่าเป็นเช่นนี้ เกรงกว่าต่อให้ถือมีดจ่อคอพวกเขา พวกเขาก็ไม่กินก่อนหรอก!”
ซ่งสวินได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงเล็กน้อย
“ความคิดน้องสาวเจ้าช่างยอดเยี่ยมจริงๆ…” ทุกคนถอนหายใจ
ไฉนพวกเขาไม่มีน้องสาวเช่นนี้บ้าง!
ของที่แม่นางซ่งผู้นั้นตระเตรียมให้ล้ำเลิศจริงๆ อีกทั้งไม่พูดถึงเนื้อกวางตากแห้งที่หมักเค็มนั้นดีอย่างไร กล่าวเพียงแค่อาหารจำพวกผักก็เป็นของที่คนอื่นเทียบไม่ได้แล้ว
ภายในห้องสอบระบุหมายเลข ผู้ที่ฐานะทางครอบครัวดีหน่อยก็อยากตระเตรียมพวกซาลาเปา ขนมของว่าง กับข้าวเล็กๆ น้อย ไก่ย่าง น่องเป็ดรมควัน แม้กระทั่งเมล็ดบัว โสมหั่นแว่นและรังนก แต่ในความเป็นจริง คนจำนวนมากเอาติดไปแค่อาหารแห้งธรรมดาๆ และพวกข้าวสาร เส้นก๋วยเตี๋ยว กอปรกับเครื่องปรุงอีกหน่อย
แม้ว่าตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ทว่าสภาพอากาศยังคงร้อนมาก ในสนามสอบมีคนจำนวนมากขนาดนั้น เป็นผลให้ผู้คนเหงื่อออกท่วมหลังและกับข้าวเน่าเสียง่ายมาก
แต่ละคนถูกกักอยู่ในห้องกั้นเล็กๆ เพียงนั้น ของที่อยากกินไม่ใช่อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ หากแต่เป็นของที่ให้ความสดชื่นหน่อย
ส่วนแม่นางซ่งผู้นั้นนำอาหารส่วนหนึ่งมาทำเป็นอาหารแห้งที่เอาลงหม้อต้มได้ทันที สีสันของอาหารที่ต้มออกมาไม่ต่างกับของทำสดใหม่
นอกจากนี้แม่นางซ่งยังเตรียมซอสเปรี้ยวซึ่งช่วยเพิ่มความอยากอาหารได้ดีเยี่ยม เครื่องปรุงทำมาจากผลไม้หลากชนิด รสชาติอร่อยอย่างยิ่ง!
มิหนำซ้ำยังมีผงน้ำแกงที่ทำเป็นห่อๆ เอาไว้ ในนั้นคือเครื่องปรุงที่บดไว้อย่างดี แค่เทลงน้ำต้มก็ให้กลิ่นหอมอบอวลและอร่อยยิ่ง
ซึ่งก็เพราะเหตุนี้เอง ทุกคนจึงกินอาหารหมดไปตั้งแต่ก่อนหน้าแล้ว
ลู่ข่ายเคยเห็นซ่งอิงมาก่อน จึงเฉลียวฉลาดขึ้นมาหน่อย เขาเลือกกินไปส่วนหนึ่งและพยายามเหลือเอาไว้อีกส่วนหนึ่ง ตอนอยู่ในห้องสอบจึงได้เอามาทำกินเช่นกัน
เพียงแต่ว่าด้านซ่งสวินกินได้อย่างตามอำเภอใจปานนี้ก็เท่านั้นเอง