ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 789 หญิงชาวบ้าน ตอนที่ 790 นี่คือพี่สาวคนโตหรือ
ตอนที่ 789 หญิงชาวบ้าน / ตอนที่ 790 นี่คือพี่สาวคนโตหรือ
ตอนที่ 789 หญิงชาวบ้าน
ตอนนี้บรรดาบุตรสาวของตระกูลซ่งที่ออกเรือนกันแล้วโกรธเกรี้ยวจนอยากจะด่าทอซ่งอิง ถึงกระทั่งแอบสาปแช่งนางนับครั้งไม่ถ้วน
“พี่รองเจ้าคะ ท่านพ่อเลอะเลือนไปแล้วหรือไม่! ตอนนี้ภายนอกเกิดเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ไฉนเขายังแสร้งทำเป็นไม่รู้อะไรทั้งนั้นอยู่อีกเล่าเจ้าคะ!” ยามนี้ซ่งโม่โกรธจนเนื้อตัวสั่นเทา
แม้ว่านางเป็นบุตรสาวอนุภรรยาและแต่งงานกับตระกูลที่ไม่ได้สูงศักดิ์มากมายเพียงนั้น แต่ก็ด้วยพึ่งพิงบารมีจวนโหว ตระกูลแม่สามีจึงไม่กล้าชักสีหน้าใส่นาง
ทว่าครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่แม่สามีผู้นั้นถึงกับดูถูกนางว่าไม่ได้รับการสั่งสอน!
ซ่งเซียงที่อยู่ข้างๆ มองดูด้วยตาแดงก่ำ “พี่รอง สามีข้ากล่าวว่าแม้กระทั่งพี่น้องแท้ๆ ข้ายังไม่มีน้ำใจด้วย ไม่แน่ว่าจะดูแลบุตรอนุของเขาให้ดีได้ ตอนนี้จึงให้อนุภรรยาในจวนนำตัวเด็กๆ กลับไปแล้ว”
เดิมทีนางอยากจะเหนี่ยวรั้งตัวเด็กไว้ อนุภรรยาเหล่านั้นจะได้ว่าง่าย
ใครจะคาดคิดว่ากลับเกิดเรื่องประเภทนี้ขึ้นในตระกูลอย่างกระทันหัน!
โดยเฉพาะเรื่องบิดาถูกฮ่องเต้ประณาม คนเหล่านั้นจึงปรับตัวไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น!
บุตรสาวอนุภรรยาสองคนในยามนี้ล้วนมองซ่งฮวนตาปริบๆ หวังว่านางจะคิดวิธีการอะไรได้บ้าง
“ท่านพ่อไม่ใส่ใจพวกเรา พวกเจ้าพูดกับข้าแล้วจะมีประโยชน์อันใด” ซ่งฮวนสบถฮึ “พวกเจ้าลำบาก แล้วข้าไม่ลำบากหรือ อย่าลืมสิว่าข้าก็ไม่ต่างกับพวกเจ้า”
“พี่รอง ท่านย่อมแตกต่างออกไปอยู่แล้ว ท่านถูกเลี้ยงดูเหมือนเป็นบุตรสาวภรรยาเอกมาตั้งแต่ยังเด็ก ต่อให้หาคู่ครองก็ยังได้คู่ครองจากจวนโหว เหมือนพวกเราที่ไหนกันที่จับคู่กับตระกูลใดสักตระกูลก็ได้” ซ่งโม่ยิ้มเล็กน้อย
หากกล่าวว่าใครเป็นคนที่นางริษยาที่สุดบนโลกนี้ แน่นอนว่าก็คือซ่งฮวนที่มาแทนที่ซ่งอิงนั่นเอง
ทั้งที่เป็นบุตรสาวอนุภรรยาเช่นกัน มารดาผู้ให้กำเนิดยังเสียชีวิตไปแล้วด้วยซ้ำ เดิมทีควรสู้พวกนางไม่ได้จึงจะถูก แต่ก็เพราะซ่งอิงเกิดมามีหกนิ้ว เพื่อตบตาผู้อื่นจึงให้ซ่งฮวนขึ้นมาแทนที่
เพียงแต่อย่างไรเสีย มารดาผู้เป็นภรรยาเอกก็ชมชอบซ่งฮวน พวกเขาก็ทำได้เพียงเคารพนับถือเท่านั้น
“พี่รอง พวกนางต่างก็พูดกันว่าซ่งอิงกลับมาแล้ว…นางตั้งใจมาแก้แค้นใช่หรือไม่ แต่ท่านพ่อก็ไม่ควรปล่อยให้นางทำตามอำเภอใจนี่ ท่านลองไปถามท่านแม่ดูได้หรือไม่ จะได้ให้พวกเรารู้รายละเอียดไว้บ้างเช่นกัน” ซ่งเซียงกล่าว
ซ่งฮวนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
เรื่องถามไถ่นางย่อมต้องถามอยู่แล้ว
เพียงแต่กลับบ้านมานานขนาดนี้แล้ว ท่านแม่ ท่านย่าและแม้กระทั่งพี่ชายล้วนล้มป่วย ทำให้นางไม่เข้าใจสักเท่าไรเลยจริงๆ
เพียงแต่ พวกนางออกเรือนแล้ว ไม่สะดวกค้างอยู่ที่บ้านมารดาเป็นเวลายาวนานเกินไปเช่นกัน
“ได้ยินว่าตลอดที่ผ่านมาพี่สาวคนโตพักอยู่ในบ้านนี้ หรือไม่…พวกเราไปเจอพี่สาวคนโตกันหน่อย หากพี่สาวออกหน้าอธิบายกับคนอื่นได้ เช่นนั้นอาจพอช่วยอะไรได้บ้าง” ซ่งฮวนครุ่นคิดแล้วกล่าว
“แต่นางจะยินยอมหรือ ไม่แน่ในใจนางยังเกลียดชังพวกเราเสียด้วยซ้ำเล่า นึกถึงตอนแรกครั้นเห็นพวกเราก็เผยท่าทีไม่มีชีวิตชีวาและเงียบขรึมร้ายกาจ บัดนี้จะต้องเกลียดชังกันยิ่งกว่าเมื่อก่อนเป็นแน่” ซ่งเซียงกล่าวทันที
“พี่รอง ท่านคงไม่เคยเห็นสาวชาวบ้านกระมัง ช่วงก่อนหน้านี้ข้าไปหมู่บ้านสวนชานเมืองมา ได้เห็นสาวชาวบ้านพอดี รูปลักษณ์พวกนางนั้น หน้าตาดูไม่ได้เชียวละ พูดจาและกระทำการใดก็ไม่น่าพึงพอใจ ครั้นอ้าปากได้ก็เป็นต้องด่าทอผู้คน ไม่ได้ดั่งใจก็ลงไปนั่งอาละวาดกลิ้งเกลือกบนพื้น พี่สาวคนโตอยู่ในชนบทตั้งนานขนาดนั้น ตอนนี้ก็อายุไม่น้อยแล้ว ไม่แน่ว่าจะเป็นเหมือนสตรีชาวบ้านพวกนั้นที่ไม่รู้จักระเบียบมารยาทเลยสักนิด!” ซ่งโม่กล่าวขึ้นบ้างเช่นกัน
ซ่งฮวนได้ยินถ้อยคำที่ว่าอายุไม่น้อยแล้วก็พลันรู้สึกไม่สบอารมณ์เล็กน้อย
ซ่งอิงอายุเท่ากับนาง ถึงขนาดว่าทั้งสองคนเกิดในเดือนเดียวกันด้วยซ้ำ
ตอนนี้คำนวณดูแล้วยังไม่ถึงยี่สิบปีเลย ไฉนจึงกลายเป็นอายุมากเสียแล้วเล่า
ทว่า…จะว่าไปก็จริงอย่างที่พูด ปีนขึ้นไปสูงเท่าไรก็ตกลงมาเจ็บเท่านั้นมิใช่หรือ ตอนแรกสูงตระหง่านสะดุดตา ต่อมาก็ถูกทอดทิ้งอีกครั้ง จะต้องเกิดความบิดเบี้ยวในใจมานานแล้วเป็นแน่ คนเขาเปลี่ยนไปเฉียบแหลมจนน่ากลัวก็ไม่แปลกเช่นกัน
“เอาแบบนี้แล้วกัน เดี๋ยวพวกเราไปเยี่ยมนางและพูดคุยกันดีๆ หน่อย หากไม่ได้เรื่องจริงก็เอาเงินให้นางสักหน่อย จะต้องทำให้พี่สาวคนโตช่วยเป็นพยานให้พวกเราให้ได้” ซ่งฮวนกล่าว
ตอนที่ 790 นี่คือพี่สาวคนโตหรือ
ซ่งฮวนเป็นแกนนำสำคัญของสองคนนี้ นางพูดขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นทั้งสองคนย่อมรีบพยักหน้าเห็นด้วยเป็นธรรมดา
ภายใต้การสืบถามจากข้ารับใช้จึงได้รู้ว่าคนผู้นี้ยังคงพักอยู่เรือนเฟิงหลันย่วน
“ท่านโหวกำชับไว้ว่าจะไปรบกวนคุณหนูรองจากญาติร่วมตระกูลมิได้เจ้าค่ะ” ข้ารับใช้เห็นพวกนางต้องการไปหา จึงรีบห้ามไว้ทันที
“พี่สาวกลับบ้านทั้งที พวกเราเป็นน้องสาวจะไม่เจอหน้าค่าตาสักหน่อยได้อย่างไรเล่า พวกเรารู้เช่นกันว่าท่านพ่อรักและเอ็นดูพี่สาวคนโต แต่พวกเราก็ไม่ได้จะรังแกพี่สาวสักหน่อย ไม่เป็นไรหรอกน่า” ซ่งโม่ยิ้มตาหยี
ซ่งโม่ตีหน้าซื่อ ด้านซ่งฮวนนิ่งเงียบไม่เอ่ยวาจาใด
หลายวันมานี้ตระกูลซ่งหยุ่งเหยิงมาก แต่นอกจากคนตระกูลซ่งตลอดจนคนสนิทที่ผู้เป็นนายไว้เนื้อเชื่อใจเหล่านั้น คนอื่นๆ ล้วนไม่รู้เรื่องราวความจริงชัดเจนนัก
ส่วนคนสนิทเหล่านั้นปิดปากสนิทเป็นที่สุด ท่านโหวซ่งเป็นคนรักภาพพจน์ ถึงขนาดว่าไม่สะดวกจะกล่าวว่าเรื่องอย่างไฟไหม้ในเรือนล้วนเป็นฝีมือซ่งอิง มิเช่นนั้นจะไม่เป็นการแสดงให้เห็นว่าซ่งอิงมีความสามารถหรอกหรือ ในทางกลับกัน ก็จะทำให้อื่นหัวเราะเยาะว่าบ้านเขาง่ายต่อการเปิดเผยความลับยิ่ง
ตอนนี้พวกเขาข้ารับใช้เหล่านี้จะขัดขวางเรื่องที่คุณหนูทั้งสามท่านจะทำได้ที่ไหนกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีซ่งฮวนที่ได้รับความโปรดปรานมาแต่ไหนแต่ไรอยู่ด้วยทั้งคน
ดังนั้นพวกนางจึงเดินมาถึงเรือนเฟิงหลันย่วนอย่างราบรื่น
ตอนนี้ ท่านโหวซ่งปล่อยให้ปล่อยเป็นไปตามยถากรรม และถอนกำลังคนที่เฝ้าอยู่ด้านนอกเรือนเฟิงหลันย่วนทั้งหมดแล้ว
“ท่านพ่อก็เหลือเกิน ในเมื่อรักพี่ใหญ่สุดหัวใจ ไฉนจึงไม่จัดให้พี่ใหญ่พักอยู่ในที่ดีๆ ไม่นึกเลยว่ายังให้อยู่ในที่ห่างไกลเพียงนี้อีก” ซ่งโม่ปิดปากยิ้มเล็กน้อย
มองดูคล้ายกับเห็นใจ ทว่าความจริงคือมีความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น
ขณะซ่งฮวนมองเรือนหลังนี้ ในดวงตาก็เจือรอยยิ้มเล็กน้อยเช่นกัน
ยามนี้ซ่งอิงได้ยินข่าวลือที่ซุบซิบกันอยู่ภายนอกนั่นแล้ว จึงเตรียมตัวจะเดินทางจากไปในวันพรุ่งนี้
ไม่เคยคิดเลยว่าจะถูกคนเขามาหาถึงที่อีกแล้ว
“นี่คือคุณหนูใหญ่หรือ” หลังเดินเข้ามาในลานบ้าน ซ่งเซียงมองเห็นหวงเมี่ยน จึงเอ่ยถามขึ้นมาประโยคหนึ่งตามจิตใต้สำนึก จากนั้นก็กล่าวด้วยความตกตะลึงระคนประหลาดใจ “ไฉนเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ มองดูเหมือนอายุสามสิบกว่าๆ เลย! อัปลักษณ์เสียยิ่งกว่าเมื่อก่อน…”
“…” หวงเมี่ยน
“นี่ไม่ใช่พี่สาวคนโต เจ้าจำผิดแล้ว” ซ่งฮวนส่ายหน้า
แม้ว่าไม่ได้เจอกันนาน แต่นางยังคงจดจำใบหน้าพี่สาวคนโตผู้นั้นได้ชัดเจนมาก ไม่มีทางเปลี่ยนเป็นลักษณะเช่นนี้ได้แน่
อีกทั้ง…
ซ่งโม่และซ่งเซียงไม่รู้ ทว่านางรู้ชัดเจนกระจ่างแจ้งว่าซ่งอิงผู้นั้นใบหน้าเสียโฉมแล้ว
ตอนนั้นท่านพ่อท่านแม่ส่งตัวซ่งอิงออกไป นางยังเคยไปหาท่านแม่และถามถึงอยู่เลย ซินหัวอายุยังน้อย ดังนั้นท่านแม่จะพูดกับนางเป็นบางเรื่องมาแต่ไหนแต่ไร ในตอนนั้นนางก็รู้ว่าซ่งอิงยอมหน้าเสียโฉมเพื่อจะได้ไปจากที่นี่
“จริงสิ ข้างนอกลือกันว่านางทำร้ายตัวเองเพื่อขอชีวิตมิใช่หรือ นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่” ซ่งโม่พลันนึกขึ้นมาได้ จากนั้นจึงหันไปถามซ่งฮวน
“เจ้าก็เชื่อข่าวลือด้วยหรือ ก็แค่คนต่ำทรามกุเรื่องสร้างปัญหา พูดจาโจมตีพวกเราก็เท่านั้น” ซ่งฮวนกล่าวขึ้นมาอย่างสบายๆ เมื่อสิ้นคำก็มองหวงเมี่ยน แล้วเอ่ยถามอย่างนุ่มนวล “มั๋วมัวท่านนี้ พี่สาวคนโตข้าอยู่แห่งหนใดหรือ วันนี้พวกเราสามพี่น้องมาเยี่ยมเยียนนางเป็นการพิเศษ”
หวงเมี่ยนกลอกตาท่าทีพิกล “ข้าก็คือพี่สาวคนโตของพวกเจ้า! ไม่นึกเลยว่าพวกเจ้าจะจำข้าไม่ได้แล้ว”
“…” ซ่งฮวนเบิกตาโตชั่ววูบ “เป็นไปได้อย่างไร…”
“อ้อ ก็ข้าหน้าเสียโฉมแล้วมิใช่หรือ จึงหาหมอเทวดามาคนหนึ่ง หมอเทวดาผู้นั้นแม้กล่าวว่าขจัดรอยแผลเป็นให้ได้ แต่หน้าตาก็จะอัปลักษณ์ขึ้นอีกหน่อย” หวงเมี่ยนลูบคลำใบหน้า คลี่ยิ้มกว้างกล่าว
ซ่งอิงนอนกลางวันอยู่ในบ้าน ได้ยินคำพูดนี้ก็พลิกตัวตะแคงข้าง ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด
ซ่งฮวนรู้สึกเหนือความคาดหมาย
“ท่านเป็นพี่ใหญ่จริงๆ หรือ แต่ท่านเปลี่ยนไปมากเกินไปแล้วกระมัง ไม่เหมือนเมื่อก่อนเลยสักนิด” ซ่งโม่รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่คาดไม่ถึงจริงๆ เช่นกัน
เท่ากับเปลี่ยนหัวชัดๆ!
หวงเมี่ยนยิ้มเอียงอายเล็กน้อย “ช่วยไม่ได้ พวกเจ้าไม่รู้อะไร รอยแผลเป็นนั่นน่ากลัวเหลือเกิน ข้าจะออกจากบ้านสักครั้งก็ไม่สะดวกเอาเสียเลย ตอนนี้แม้ว่าอัปลักษณ์เช่นนี้ แต่อย่างน้อยก็ออกข้างนอกเจอะเจอผู้นั้นได้…น้องสาวทั้งสาม พวกเจ้ามาหาข้าด้วยเรื่องอันใดหรือ”