ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 817 แต่งงาน ตอนที่ 818 ทางหนีทีไล่
ตอนที่ 817 แต่งงาน / ตอนที่ 818 ทางหนีทีไล่
ตอนที่ 817 แต่งงาน
เมื่อได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ ท่านโหวซ่งรู้สึกราวกับถูกแทงใจดำทุกคำ
เขาเอ่ยปากให้คนจัดการไปส่งนางแทนที่จะไปส่งด้วยตนเอง “นำตัวคุณหนูไปส่ง หลังจากนี้ไม่อนุญาตให้ผู้ใดปฏิบัติกับนางเป็นการพิเศษ คนในอารามชีกินอะไรนางก็กินเช่นนั้น! นับแต่นี้ไป ตระกูลซ่งของข้าไม่มีคนผู้นี้อยู่ในตระกูลอีก! นอกจากนั้น ส่งคนไปคอยจับตาดูไว้ด้วย หากนางหนีก็ตัดขาของนางเสีย!”
พูดจบเขาก็เดินจากไปอย่างโกรธจัด
ความเย็นชาไร้เยื่อใยปรากฎในใจเกินกว่าครึ่ง
ปัจจุบันเขาอายุไม่น้อยแล้วเช่นกัน ท่านปู่เขาได้รับพระราชทานแต่งตั้งจากฮ่องเต้เป็นโหวยามอายุเท่าเขาในตอนนี้ แม้กล่าวว่าเป็นเพียงบรรดาศักดิ์โหว แต่ก็เป็นหนึ่งในตำแหน่งที่ได้รับความสำคัญจากฮ่องเต้ เพียงแต่น่าเสียดาย ยามที่ฮ่องเต้องค์ต่อมายังหนุ่ม นับว่ามีไหวพริบและเชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้ไม่น้อย กระทั่งถึงวัยชรา ขุนนางอาวุโสในราชสำนักล้วนถูกระแวงไปหมด
เขาก็ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมจึงนึกถึงเรื่องราวในอดีตเหล่านี้ขึ้นมา
เป็นเพราะบุตรสาวที่อกตัญญูผู้นี้ทั้งนั้น
การที่ท่านโหวซ่งแตกหักกับลูกสาวหนึ่งคน ส่วนอีกคนก็ก่อเรื่องเช่นนี้ แม้กระทั่งภรรยาของทายาทสืบสกุลของเขาก็ยังขอหย่าร้างไปแล้ว สำหรับซ่งซินหัวและซ่งถางปิ่งที่ยังไม่ได้แต่งงาน ถือเป็นการถูกผลกระทบอันใหญ่หลวงโดยตรง
เมื่อก่อนมีตระกูลผู้ที่อยากจะเกี่ยวดองด้วยมากมาย บัดนี้มีแต่หลบลี้หนีหน้า
ซ่งซินหัวเก็บตัวอยู่ตัวในเรือนไม่ออกไปไหนตลอดวัน
“คุณหนู ท่านรีบคิดหาวิธีเถิดนะเจ้าคะ ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป ท่านจะทำอย่างไรเล่าเจ้าคะ เสียแรงที่เมื่อก่อนท่านเคยพูดแทนคุณหนูใหญ่ในแง่ดี แต่ตอนนี้คนเขานึกถึงท่านบ้างที่ไหนกัน แล้วก็คุณหนูรองอีกคน นางทำเรื่องประเภทนี้ได้อย่างไรกันเล่า!” เสี่ยวฉานเดือดดาลเป็นไฟ
ซ่งซินหัวตะลึงงันไปชั่วขณะ และระหว่างนั้นเข็มที่อยู่ในมือก็ทิ่มเข้านิ้ว
“กล่าวโทษพวกนางแล้วจะมีประโยชน์อันใด ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำคือหาทางหนีทีไล่ให้ตนเอง!” ซ่งซินหัวกัดฟัน
พี่สาวลำดับที่สี่ผู้นั้นยังดีหน่อย เป็นบุตรสาวนอกสมรส ถึงแม้ไม่มีเรื่องเช่นนี้ คิดจะหาตระกูลดีๆ ก็คงเป็นการยาก คาดว่ามีแต่นางที่จะถูกบิดาเอามาเป็นหมากผูกมัดผู้อื่น
ส่วนตน…
ตอนนี้นางไม่กล้าคิดไปถึงตระกูลสูงส่งแล้ว
แต่จะให้แต่งงานกับตระกูลเล็กๆ หรือ
นางก็ไม่กล้าจินตนาการเช่นกัน
นางเล่าเรียนการดูแลจัดการภายในเรือนมาตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนเรื่องอื่นไม่ถนัดแต่อย่างใด จะให้นางอยู่ในครอบครัวเล็กๆ เป็นผู้วางแผนทำมาหากินเลี้ยงชีพนั่นคงเป็นไปไม่ได้!
ไม่สิ บิดานางก็คงไม่ยินยอมให้นางเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน…
หากนางเป็นท่านพ่อ จะหาคู่ครองอย่างไรให้นางหรือ ตอนนี้ในตระกูลเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง อยากจะทวงคืนศักดิ์ศรีในหมู่ขุนนางผู้สูงศักดิ์ วิธีเดียวก็คือจับคนในราชวงศ์!
ครั้นคิดได้เช่นนี้ ซ่งซินหัวก็หน้าถอดสี
หากเป็นองค์ชายก็ยังดีหน่อย แต่บัดนี้องค์ชายที่บรรลุนิติภาวะแล้วต่างก็มีพระชายาเอกกันแล้วทั้งนั้น! ด้วยเหตุนี้หากนางไม่ไปเป็นพระชายารอง เช่นนั้นก็ไปเป็นพระสนมฮ่องเต้?!
“เสี่ยวฉาน เจ้าช่วยไปสืบถามให้ข้าทีว่า…ปีนี้…” ซ่งซินหัวพูดไปได้ครึ่งทางก็ชะงักเสียงไป “ไม่ดีกว่า เจ้าลอบออกจากจวนไปกับข้า ข้าอยากไปเจอพี่รองสวินสักหน่อย”
“เจอเขาทำไมเจ้าคะ” เสี่ยวฉานตะลึงงัน
“ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกสามเดือนจึงจะมีการสอบระดับแคว้น ข้าจะหาจวี่เหรินสักคนแล้วแต่งออกไปภายในสามเดือนนี้” ซ่งซินหัวกล่าว
“จวี่เหริน!?” เสี่ยวฉานตระหนกตกใจ “คุณหนู ท่านจะแต่งกับจวี่เหรินได้อย่างไรเล่าเจ้าคะ”
“ใช่น่ะสิ ดังนั้นจึงจะเป็นจวี่เหรินที่ธรรมดาๆ มิได้ ต้องเป็นตระกูลที่ฐานะครอบครัวมั่งคั่งและต้องมีความรู้ความสามารถ…” ซ่งซินหัวนวดหว่างคิ้ว “แต่หากข้าไม่แต่งกับจวี่เหรินแล้วจะให้แต่งกับจิ้นซื่อหรือ จิ้นซื่อดีๆ ในปีก่อนก็ถูกคนชิงไปหมดแล้ว หากข้าอยากจะรอหลังจากสามเดือนนี้ค่อยลงมือ ถึงตอนนั้นยังจะตกถึงมือข้าอีกหรือ”
“อาศัยตอนนี้ที่ยังมีเวลา ขอให้พี่รองสวินช่วยถามดูสักหน่อย หากมีจวี่เหรินที่ไม่เลว ต่อให้ข้าต้องหน้าไม่อายก็จะให้เขาช่วยพาข้าไปแนะนำให้จงได้ ถึงอย่างไรการหาโอกาสไว้สักหน่อยจึงจะได้เรื่องมิใช่หรือ”
ว่ากันตามธรรมเนียมปฏิบัติ ปีหน้าเดือนห้าน่าจะเป็นช่วงเวลาของการคัดเลือกซิ่วหนี่ว์[1]แล้ว
ยังพอทันการ
เสี่ยวฉานถึงกับตะลึงงัน แต่คุณหนูของนางรู้จักมองการณ์ไกลมาแต่ไหนแต่ไร ในตอนนี้นางจึงเชื่อฟังเช่นกัน
ทั้งสองคนออกจากบ้านไปเดินเล่นตามตลาด จากนั้นเปลี่ยนเครื่องแต่งกายไปเป็นชุดบุรุษที่ร้านตัดเสื้อ ก่อนจะมุ่งหน้าไปเยี่ยมเยียนซ่งสวิน
ตอนที่ 818 ทางหนีทีไล่
ก็ช่างประจวบเหมาะนัก เวลานี้ซ่งสวินกำลังรวมตัวอ่านตำราอยู่กับสหายที่มีสัมพันธ์อันดีจำนวนหนึ่งในโรงน้ำชา
ซ่งซินหัวแต่งกายเป็นบุรุษ นอกจากนั้นยังทาหน้าให้คล้ำขึ้นเล็กน้อย นางเดินตรงเข้าไปในทันที แสร้งทำราวกับเป็นปัญญาชน นั่งลอบสังเกตการณ์อยู่ในบริเวณไม่ไกลนัก
“คุณชายน้อย เจ้าก็เตรียมไปสอบปีนี้เช่นกันหรือ มานั่งพูดคุยกับพวกเราจะดีกว่า ดื่มชาคนเดียวจะสนุกอะไร” อวี๋ชิงผูกมิตรด้วยจิตใจดี ครั้นเห็นว่ามีผู้นั่งอยู่ลำพัง จึงชักชวนขึ้นมาทันที
ซ่งซินหัวสีหน้าไม่เป็นตัวของตัวเองเล็กน้อย แต่ก็ทำใจกล้าเดินเข้าไป
“ปกติข้าอยู่แต่ในเรือนตรากตำอ่านตำรา ไม่ค่อยออกมาข้างนอกสักเท่าไร วันนี้ออกมาก็เพราะอยากดูโลกภายนอกบ้าง” ซ่งซินหัวพยายามกดเสียงให้หดหู่ ฟังดูเหมือนเป็นคนหนึ่งที่อุดอู้อยู่แต่ในบ้านจริงๆ
“ทำแบบเจ้านี่ไม่ได้เรื่องหรอก เรามารวมกลุ่มอยู่ด้วยกันก็มิใช่เพื่อกินดื่มสนุกไปวันๆ เท่านั้น แต่ยังมีการพูดคุยเรื่องบ้านเมืองและแต่งบทกวีบ้างเป็นครั้งคราว ทุกคนมีการปรึกษาหารือกัน แนวทางความคิดก็จะยิ่งชัดเจนขึ้นอีกนิด” อวี๋ชิงกล่าว
ซ่งซินหัวมองดู คนผู้นี้นิสัยร่าเริง น่าจะเป็นคนนิสัยดีคนหนึ่ง
เดิมทีซ่งสวินหัวไม่ได้ใส่ใจ แต่ครั้นมองอย่างละเอียดก็พบว่าคนผู้นี้ใช่ปัญญาชนอะไรที่ไหนเล่า เป็นซ่งซินหัวผู้นั้นที่เคยเจอในหมู่บ้านซิ่งฮวาก่อนหน้านี้เห็นๆ!
ทันใดนั้นเขาจึงเผยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย “เจ้ามาทำไม”
ซ่งซินหัวหน้าซีดเผือด
“พี่ซ่งรู้จักเขาด้วยหรือ” ลู่ข่ายงุนงง
ซ่งสวินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “เป็น…คุณชายของตระกูลญาติห่างๆ น่ะ”
ซ่งซินหัวดูโล่งอกขึ้นมาเล็กน้อย “พี่รองสวิน ข้าเพียงแค่อยากออกมาสูดอากาศสักหน่อย ขอท่านอย่าได้บอกท่านพ่อท่านแม่ข้านะขอรับ”
ลู่ข่ายเข้าใจสถานการณ์ของซ่งสวินเป็นที่สุด ครั้นได้ยินดังนั้นก็รู้สึกประหลาดใจทันที
ก่อนหน้านี้ซ่งสวินมีญาติห่างๆ แต่ตอนนี้ออกจากวงศ์ตระกูลแล้วจึงมีญาติพี่น้องลดน้อยลงไปมาก หากมีคนเล่าเรียนหนังสือที่โตขนาดนี้และต้องสอบเช่นกัน ทำไมเขาไม่เคยเอ่ยถึงมาก่อน
ลู่ข่ายชาญฉลาดมาแต่ไหนแต่ไร และมีความสามารถในการสังเกตจนน่าตกใจ
ขณะเขากวาดตามองใบหน้าซ่งซินหัว ทันใดนั้นรูม่านตาก็หดตัวเล็กน้อย
คุณชายผู้นี้…เจาะหูด้วยหรือ
หรือว่าเป็นหญิง?!
นี่เป็นบุตรสาวตระกูลใดจึงใจกล้าเช่นนี้ โรงน้ำชาแห่งนี้คล้ายเป็นสถานที่ดื่มชาสงบจิตสงบใจ แต่ตอนนี้ใกล้จะสอบระดับแคว้นแล้ว ที่นั่งอยู่ในที่นี้เกือบทั้งหมดคือปัญญาชน เป็นบุรุษทั้งสิ้น!
นางซึ่งเป็นหญิงคนหนึ่ง ไฉนถ่อมาถึงที่นี่
“ท่านมากับข้าหน่อย” ลู่ข่ายดึงซ่งสวินเดินไปยังห้องข้างๆ แล้วเอ่ยถาม “นี่เป็นหญิงจากตระกูลไหนของท่านหรือ ไฉนจึงมาหาถึงที่ หรือว่าท่านไปก่อเรื่องชู้สาวในเมืองหลวงแห่งนี้ไว้ พี่ซ่ง การสอบใกล้เข้ามาแล้ว ท่านอย่าได้เหลวไหลวเชียว”
“…” ซ่งสวินตะลึงงันเช่นกัน “ไม่ใช่เช่นนั้น นี่คือ…คุณหนูห้าของตระกูลท่านโหว”
“คุณหนูในตระกูลเหยียนผิงโหวหรือ! นางมาทำอะไรที่นี่!” ลู่ข่ายรู้สึกถึงความผิดปกติ
“ข้ารู้ที่ไหนเล่า” ซ่งสวินจนใจมากเช่นกัน “ทว่าในเมื่อคนเขามาแล้ว เจ้าก็อย่าได้ทำให้นางลำบากใจเลย แม่นางผู้นี้…แม้ว่ามีความเจ้าแผนการอยู่บ้าง แต่เป็นคนที่นับว่าปฏิบัติตนในแนวทางถูกต้อง หากเปิดโปงนาง เกรงว่าจะอับอายขายหน้าแย่…”
ท่านโหวซ่งส่วนท่านโหวซ่ง ซ่งซินหัวส่วนซ่งซินหัว เขายังพอแยกแยะได้
พูดถึงอับอายขายหน้า ซ่งสวินและลู่ข่ายต่างนิ่งงันไป
“ตอนนี้นางคงไม่มีใครกล้าสู่ขอนางแล้วใช่หรือไม่” ลู่ข่ายเอ่ยถาม
ซ่งสวินพยักหน้า “น่าจะ…ใช่”
“เช่นนั้นก็เข้าใจได้ แม่นางผู้นี้เก่งกาจจริงๆ รู้จักหาทางหนีทีไล่ให้ตัวเอง” ลู่ข่ายยิ้ม “ก่อนหน้านี้ได้ยินเจ้าเอ่ยถึงท่านโหวซ่ง คนผู้นั้นเป็นผู้หนึ่งที่เห็นผลประโยชน์มาอันดับแรก ตอนนี้ชื่อเสียงเสียหาย ส่วนบุตรสาวภรรยาเอกที่เหลือหนึ่งเดียวก็ถึงวัยออกเรือนพอดี แล้วจะไม่พึ่งพานางเป็นตัวเชื่อมสัมพันธ์ได้อย่างไร หากนางไม่หาใครสักคนแต่งงานด้วยด้วยตนเอง เกรงว่า…ทางด้านท่านโหวซ่งคงจะได้มีพระสนมฮ่องเต้โผล่ขึ้นมาคนหนึ่งแน่”
“…” ซ่งสวินตะลึงงัน
น่าเวทนาขนาดนี้เชียวหรือ
ถึงแม้เป็นพระสนมของฮ่องเต้มีหน้ามีตาแล้วอย่างไรเล่า สตรีที่จิตใจตรงไปตรงมาคนหนึ่ง เกรงว่าต้องก็ไม่ยินดีทั้งนั้น
—————————-
[1] ซิ่วหนี่ว์ (秀女) ตำแหน่งพระสนมขั้นห้าของฮ่องเต้ เป็นสตรีเพียบพร้อมและมีภูมิหลังจากตระกูลสูงศักดิ์ซึ่งเข้าตาฮ่องเต้หรือฮองเฮา จึงได้รับการคัดเลือกเข้าวัง