ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 877 สาวน้อยผู้อ่อนโยน ตอนที่ 878 ไม่เชื่อฟัง
ตอนที่ 877 สาวน้อยผู้อ่อนโยน / ตอนที่ 878 ไม่เชื่อฟัง
ตอนที่ 877 สาวน้อยผู้อ่อนโยน
กู้หมิงเป่าเห็นซ่งสวินจริงจังมาก จึงนำขวดสยงหวงมากอดไว้ในอ้อมแขนอย่างรู้ความ แล้วเอ่ยถามอย่างห่วงใย “พี่ซ่ง หรือไม่ข้าเชิญหมอหลวงมาให้ท่านดีเจ้าคะ”
“ไม่ต้อง” ซ่งสวินส่ายหน้าทันที
เขาก็แค่ตื่นตระหนกตกใจเล็กน้อย ไม่เป็นอะไรร้ายแรง!
“เช่นนั้น…ข้าถามท่านสักคำถามได้หรือไม่” กู้หมิงเป่าครุ่นคิด “เมื่อวานคนที่อยู่ในลานบ้านนั้นหนีไปหมดเลยหรือ ข้าเห็นบนพื้นมีเลือดด้วย มิหนำซ้ำยังไม่ใช่น้อยๆ น่าจะได้รับบาดเจ็บค่อนข้างสาหัสทีเดียว เช่นนั้นไฉนจึงหนีไปได้ไกลในช่วงเวลาอันสั้นขนาดนั้น อีกทั้ง…ท่านปู่ข้าก็บอกกับข้าว่า จับพวกเขาได้เพียงสองสามคนเท่านั้น ซึ่งคนเหล่านั้นล้วนเป็นผู้ที่กลับมายังบ้านหลังนั้นภายหลังแล้วจึงถูกจับกุม มิใช่คนกลุ่มนั้นที่รังแกพวกเรา”
เสียงดัง ‘เพล้ง’ ซ่งสวินควบคุมไว้ไม่อยู่ จอกน้ำชาในมือร่วงลงสู่พื้น
ใบหน้าเขาแดงก่ำ
“ขออภัย เอ่อ เรื่องเมื่อวานนี้ ข้า ข้าไม่อยากนึกถึงให้มากแล้วจริงๆ…” ซ่งสวินอยากจะร้องไห้แต่ไร้น้ำตา
งูสิบหัวนั่นครอบครองพื้นที่ในสมองเอาไว้เต็มไปหมด
กู้หมิงเป่าเห็นเขาสีหน้าไม่ดีเลยจริงๆ จึงเกิดความละอายใจขึ้นมาในใจ “ข้าผิดเอง พี่ใหญ่ซ่ง อย่ากังวลไปเลย”
ซ่งอิงถอนหายใจ “หรือไม่…ท่านลางานสักสองสามวัน ไปพักผ่อนร่างกายทางด้านหมู่บ้านสวนของข้าสักหน่อย”
“ตก…ตกลง” ซ่งสวินพยักหน้าทันที
หมู่บ้านสวนแห่งนั้นทัศนียภาพทั้งภูเขาและธารน้ำงดงาม เขาจะต้องไม่นึกถึงปีศาจพวกนั้นจนวุ่นวายสับสนไปเรื่อยอีกแน่
ซ่งสวินหนีไปด้วยความอับอาย
“พี่ใหญ่ซ่งดูแล้ว…เหมือนว่าจะป่วยไม่เบาเลยนะเจ้าคะ ไม่ต้องเชิญหมอจริงๆ หรือ” กู้หมิงเป่ารู้สึกว่าตนพานให้ซ่งสวินเดือดร้อน “พี่ซ่ง ล้วนเป็นข้าเองที่ไม่ดี ข้าโชคไม่ดีเป็นพิเศษ ทุกครั้งที่ออกไปเที่ยวเล่นล้วนเป็นต้องเกิดเรื่อง ตั้งแต่เล็กก็เป็นเช่นนี้ หากไม่ใช่เพราะข้า ตอนนี้พี่ใหญ่ซ่งก็ยังเป็นชายหนุ่มที่กิริยาท่าทางงดงามและคล่องแคล่วฉับไวคนหนึ่ง…”
“ความหมายของเจ้าคือตอนนี้เขากิริยาท่าทางไม่งดงามและดูเงอะงะหรือ” ซ่งอิงเม้มปากยิ้มเล็กน้อย
“แน่นอนละ…” กู้หมิงเป่ารู้สึกว่าตนโกหกต่อไปไม่ได้แล้วจริงๆ เห็นซ่งอิงแอบหัวเราะก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้เช่นกัน “พี่ใหญ่ซ่งเป็นเช่นนี้…ดูน่ารักมากจริงๆ เหมือนหญิงสาวคนหนึ่งเลยเจ้าค่ะ! ข้าเพิ่งเคยเห็นบุรุษที่เผยสีหน้าอารมณ์เก่งปานนี้เป็นครั้งแรก!”
เป็นอะไรที่ซับซ้อนอย่างถึงที่สุดจริงๆ!
ทั้งกลัว ทั้งประหม่า นอกจากนี้ยังดูเป็นกังวลและอับอายอีกด้วย
คนคนหนึ่งจะมีอารมณ์มากขนาดนี้ในเวลาเดียวกันได้อย่างไรนะ
“จริงสิ เจ้าว่าตั้งแต่เล็กเจ้าก็โชคร้าย เช่นนั้น…เจ้าไม่เคยระเบิดอารมณ์เพราะความสุดจะทนแล้วบ้างหรือ” ซ่งอิงเอ่ยถาม
“เคยสิ ตอนเด็กๆ ข้าสวมเสื้อผ้าของพี่ชาย ผลสุดท้ายเผชิญอันตราย ตอนนั้นข้าโมโหเป็นพิเศษ…ทว่าก็มีเรื่องประหลาดอยู่บ้างเช่นกัน ตอนนั้นคนชั่วหลังจากมองเห็นข้าก็ตระหนกตกใจจนหัวหด ต่อมาข้าคิดว่าโชคดีที่คนที่ถูกจับตัวคือข้า หากเป็นพี่ชายข้า เช่นนั้นข้าก็คงสูญเสียญาติไปอีกคน ดังนั้นข้าจึงไม่ได้โกรธขนาดนั้นแล้ว” กู้หมิงเป่าบอกกล่าว
ซ่งอิงเลิกคิ้ว
นางคาดว่าคนชั่วที่ถูกทำให้ตกใจกลัวจนหนีไปน่าจะมองเห็นร่างของสืออิ๋งกระมัง
เพียงแต่ตอนนั้นกู้หมิงเป่าโมโห จึงไม่ได้สนใจว่าตนเองเปลี่ยนไปเป็นอะไรแล้ว
อีกทั้งตอนนั้นไม่มีต้นวัฏจักร สืออิ๋งความสามารถไม่มากมาย ถึงแม้ปรากฏตัวก็น่าจะไม่เด่นชัดเกินไป
“จะว่าไปแล้ว ทุกครั้งหลังจากข้าเผชิญอันตรายก็ล้วนพลิกเหตุร้ายให้กลายเป็นดีทั้งสิ้น คิดๆ ดูถึงเรื่องราวที่ประสบเมื่อที่ผ่านๆ มา ก็นับว่าให้ความรู้สึกอย่างมีสีสันมาก ออกจะสร้างความตื่นเต้นให้มากกว่าแม่นางคนอื่นๆ ไม่น้อยเชียว” กู้หมิงเป่ากล่าวอีกครั้ง
ซ่งอิงเม้มปาก
เป็นแม่นางแบบอย่างที่ดีจริงๆ
สมกับเป็นแม่นางผู้อ่อนโยนของสืออิ๋ง ดูนิสัยใจคอนี้สิ ดีงามจนชวนให้ผู้คนอิจฉาเห็นๆ
หากเปลี่ยนเป็นนาง ครั้นออกจากบ้านก็เจอเรื่องราวร้ายๆ เพียงนี้ นางคงได้หงุดหงิดใจด่าถึงสวรรค์และระเบิดอารมณ์ไปนานแล้ว
กู้หมิงเป่าอยู่เมืองหลวงโดยมีสหายคนสนิทไม่กี่คน ดังนั้นตอนนี้จึงเกาะแจอยู่ทางด้านนางไม่ไปไหน
ซ่งอิงก็เคยชินแล้ว อยากทำอันใดก็แล้วแต่นาง
ตอนที่ 878 ไม่เชื่อฟัง
กู้หมิงเป่าก็รู้ว่าซ่งอิงชอบความสงบเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นหลังจากพูดคุยกับซ่งอิงพักหนึ่งจึงพาสาวใช้ไปดูพวกดอกไม้ใบไม้เหล่านั้นในบ้านซ่งอิง ถึงขั้นต้องการไปมองดูในห้องครัวเล็กด้วยว่ามีอะไรอร่อยๆ กิน
ในเวลานี้ ซ่งอิงจึงไปในช่องว่างระหว่างมิติ
สืออิ๋งขดเป็นก้อนกลมๆ ลำแสงไม่ได้สว่างมากนัก มักจะทำให้คนรู้สึกเหมือนภาพลวงตาอยู่เล็กน้อย
“ไฉนพี่ชายข้าจึง…ตกใจกลัวจนตัวสั่นเสียเล่า” ซ่งอิงยิ้มพราย นั่งลงใต้ต้นวัฏจักร
บริเวณนั้น นางตั้งโต๊ะหินอ่อนและเก้าอี้ทำจากหินเอาไว้ บนตั้งยังมีพวกน้ำชาและผลไม้อีกด้วย
นางจิบน้ำชาอย่างเนิบช้าสบายๆ
ส่วนสืออิ๋งที่อยู่บนต้นไม้จงใจแสร้งนิ่งเงียบ
“ทำอะไรลงไป บอกมาให้กระจ่าง ไม่เช่นนั้นจะจับเจ้าโยนอกไป” ซ่งอิงกล่าวเสียงเย็นชา
“ก็ไม่มีอะไร…ก็แค่ ข้าไม่ได้ออกไปนานมากแล้ว พอดีใจก็เลยลืมตัวไปหน่อย เผยร่างเดิมออกมาโดยไม่ทันระวัง ทว่าหัวหน้า ความจริงพี่ชายของท่านกล้าหาญไม่น้อยเลย เห็นข้าก็ไม่วิ่งหนี!” สืออิ๋งมองข้ามเรื่องที่ซ่งสวินถูกมัดตัวไว้ไปเสียสนิท
ซ่งอิงขมวดคิ้ว “นอกจากนั้นล่ะ”
“นอกจากนั้นหรือ ไม่ ไม่มีแล้วนี่” สืออิ๋งยิ้มเล็กน้อย
ลมปราณซ่งอิงเย็นเยียบเล็กน้อย สืออิ๋งรู้สึกได้เช่นกัน จึงรีบกล่าวในทันที “ยังมี! ยังมีอีกๆ ก็คือ…คนเหล่านั้นเป็นคนชั่วทั้งนั้น ข้าเกิดกลัวว่าพวกเขาจะออกไปทำร้ายคนอื่นและกลัวว่าพวกเขาอาจทิ้งปัญหาไว้ ดังนั้น…จึงอ้าปากเล็กๆ กินพวกเขาลงไป…”
“…” ซ่งอิงเบิกตาโต
ปากเล็กๆ หรือ
หากนางมองไม่ผิด ร่างเดิมของสืออิ๋งน่าจะเป็นปากใหญ่ๆ สิบปากต่างหากเล่า!
มิน่าล่ะ!
“ที่เจ้ากินคือคนชั่วช้า ข้าก็ไม่อยากห้ามเจ้า เพียงแต่…เจ้าทำเรื่องเช่นนี้ต่อหน้าคนอื่นมันไม่ถูกต้อง ซ่งสวินเป็นปัญญาชนคนหนึ่ง เดิมทีก็ขี้ขลาด ตอนนี้เพราะเจ้าทำเรื่องเช่นนี้ ทำให้เขากินไม่ได้นอนไม่หลับ ดวงตาทั้งสองดำคล้ำจนน่างสาร!” ซ่งอิงโมโห “อีกทั้งเขาเห็นเจ้ากินคน เกิดรู้สึกว่าปีศาจอย่างเราๆ ล้วนกินคนทั้งนั้น แล้วจะทำอย่างไรเล่า”
“ปีศาจอย่างเราๆ…เดิมทีก็กินคนได้ทั้งนั้นนี่…” เพียงแต่ปีศาจบางส่วนรู้สึกว่ากินคนไม่อร่อย ดังนั้นจึงไม่กินก็เท่านั้นเอง…
ตัวอย่างเช่นที่อยู่ตรงหน้า…
ซ่งอิงเบิกตาโตทันที “เจ้ายังไม่เชื่อฟังอีก! หากครั้งหน้าได้ยินอีกว่าเจ้ากินคน ข้าก็จะกินเจ้าเสียเลย!”
“…”
“…” หลิงเฟิงและหยวนซานเซียนสองตนได้ยินคำพูดนี้ มีความรู้สึกอย่างที่ว่าเด็กน้อยกำลังต่อปากต่อคำกัน
ส่วนสืออิ๋งว่าง่ายขึ้นมาทันใด “เข้าใจแล้ว…ไม่กินคน…”
“เราเป็นปีศาจ เมื่อก่อนก็กินคนเช่นนี้หรือ” ซ่งอิงขมวดคิ้วนิ่วหน้า
“จะว่าเช่นนั้นก็ไม่ใช่ ที่เรากินล้วนเป็นของเซ่นไหว้ที่ออกมาจากพวกมนุษย์เหล่านั้น เพียงแต่ของเซ่นไหว้เหล่านี้ต้องถูกแบ่งให้สามส่วน คือเทพเซียน ปีศาจในร่างมนุษย์และปีศาจชั่วร้าย ก็เลยไม่ได้มากมาย ไม่พอยาไส้ด้วยซ้ำ ทว่าปีศาจอย่างเราๆ ความจริงก็ถือว่ากินน้อย เพราะเราชอบไปมาหาสู่กับมนุษย์ ไม่เหมือนเทพเซียนและปีศาจชั่วร้าย ฝ่ายหนึ่งอยู่สูง อีกฝ่ายชั่วร้ายดุดันไร้น้ำใจ ส่วนเราเป็นพวกที่จิตใจดีกับพวกมนุษย์หน่อย” สืออิ๋งกล่าวอย่างว่าง่าย
ก็อย่างเช่นหัวหน้า นางก็แค่ว่างงานมาก พอไม่มีอะไรทำก็จะไปเดินเล่นในถิ่นมนุษย์ เก็บเกี่ยวความทรงจำบ่อยครั้ง แทบจะไม่ต่างกับพวกมนุษย์ก็ว่าได้
โลกปีศาจของพวกเขาไม่ได้มีระเบียบกฎเกณฑ์มากขนาดนั้น ถึงอย่างไรนางก็เป็นจักรพรรดิปีศาจ ถึงแม้ไม่มีความทรงจำ แต่ก็ไม่ตายง่ายๆ เช่นกัน ดังนั้นก็จะทำอันใดก็เรื่องของนาง
“ยุคสมัยก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ เจ้าก็ถือว่าเป็นปีศาจที่เคยตายแล้วหนึ่งครั้ง จำเป็นต้องเริ่มต้นใหม่ จะให้มีข้อเสียเช่นเมื่อก่อนไม่ได้ กินคนเป็นเรื่องที่ห้ามทำโดยเด็ดขาด โดยเฉพาะเจ้าอาศัยร่างมนุษย์ในการปรากฏตัว ก็ต้องเคารพกฎระเบียบโลกมนุษย์ ที่นี่มีกฎหมาย กลืนคนชั่วช้าเหล่านั้นไปจะมีความหมายอันใด พวกเขายังไม่ทันรู้สึกเจ็บปวดก็ตายแล้ว การลงทัณฑ์เช่นนี้เจ็บปวดไม่สู้ให้พวกมนุษย์ออกบทลงโทษอย่างประหารชีวิต ลงแส้และสับร่างกายเป็นห้าท่อนอะไรแบบนั้น…”