ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 879 เปลี่ยนแปลงมากเกินไป ตอนที่ 880 ไม่ยินยอม
ตอนที่ 879 เปลี่ยนแปลงมากเกินไป / ตอนที่ 880 ไม่ยินยอม
ตอนที่ 879 เปลี่ยนแปลงมากเกินไป
ซ่งอิงพูดมาถึงตอนท้าย เซียนสองตนนั้นต่างก็สีหน้าเปลี่ยนไป
แรกเริ่ม พวกเขานึกว่าซ่งอิงกำลังอบรมสั่งสอนกฎระเบียบของการเป็น ‘ปีศาจ’ ให้ราชันปีศาจตนนี้ แต่ฟังๆ ไปกลับรู้สึกแปลกๆ
ในฐานะคนชั่วช้า แทนที่จะถูกสับออกเป็นท่อนๆ ไม่สู้ถูกสืออิ๋งกลืนกินในคำเดียวยังจะสบายกว่ากระมัง!
ด้านสืออิ๋งกลับพยักหน้าระรัว “ท่านพูดถูก ล้วนเป็นข้าเองที่ตะกละไปชั่วครู่ ข้ารับรองว่าหลังจากนี้จะไม่กินคนแล้ว ข้าจะจับพวกเขาโยนไปยังส่วนราชการ!”
ซ่งอิงพยักหน้าด้วยความพึงพอใจเล็กน้อย
“เจ้าทำพี่ชายข้าตกใจกลัวแล้ว นี่จะทำอย่างไรดี” ซ่งอิงถอนหายใจ
“น่าจะไม่เป็นอะไรกระมัง ข้าเห็นหนุ่มหน้าขาวผู้นั้นก็ดูกล้าหาญไม่เบา…” สืออิ๋งพูดจบก็รู้สึกละอายใจเช่นกัน นางจึงรีบกล่าวอีกครั้ง “ตอนนี้พลังปีศาจอย่างเราๆ ไม่ได้เรื่องแล้ว อีกทั้งโลกมนุษย์นี้ถูกปกป้องด้วยกฎต้องห้ามเอาไว้ ตอนแรกใช้ของล้ำค่าไปมากขนาดนั้นจึงได้ก่อให้เกิดสถานการณ์เฉกเช่นปัจจุบัน เราตอนนี้ไม่ได้มีของล้ำค่าขนาดนั้นแล้ว อยากจะใช้วิชาเล่ห์เหลี่ยมเปลี่ยนแปลงอะไรเพื่อเขาในโลกมนุษย์ก็เป็นอะไรที่ยากเกินไปเสียแล้ว”
นึกถึงตอนแรก นางจามขึ้นมาที บริเวณใดบริเวณหนึ่งในโลกมนุษย์แห่งนี้ก็เกิดภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่
ตอนนี้ทำได้หรือ แน่นอนว่าไม่ได้ ต่อให้นางจามออกมาสิบครั้ง ก็ยังไม่มีแม้แต่ฝนปรอยๆ ด้วยซ้ำ
เปรียบเทียบกันแล้ว บัดนี้ชีวิตดำเนินไปอย่างน่าเศร้าโศกกว่ามาก!
สืออิ๋งถอนหายใจ คิดอยู่ว่าซ่งสวินน่ารักขนาดนั้น จึงกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “หรือไม่…ข้าไปหาเขาเพื่อพูดคุยดู”
“ข้าว่าเจ้านี่หากไม่ได้ทำให้เขาตกใจกลัวตายคงไม่ยอมเลิกราสินะ” ซ่งอิงเม้มปาก
“หัวหน้า ข้าพูดจริงๆ นะ ตอนนั้นข้าพูดคุยกับเขาไม่กี่ประโยคเอง ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าข้าดุร้ายไปหน่อย แต่หากข้าไปหาเขาอีกและแสดงท่าทีอ่อนโยนสักหน่อย บางทีเขาอาจจะไม่รู้สึกกลัวปีศาจแล้วก็ได้” สืออิ๋งกล่าวอีก
ซ่งอิงหัวเราะเยาะ
อ่อนโยนสักหน่อยหรือ
“คอยดูความเปลี่ยนแปลงไปเงียบๆ ก่อนเถอะ หากสถานการณ์ซ่งสวินไม่ดีอย่างยิ่ง ใครเป็นคนต้นเหตุก่อเรื่องผู้นั้นก็ต้องแก้ไข เจ้าจำเป็นต้องทำให้เขารู้ให้ได้ว่าบุคลิกของปีศาจคือเรียบง่ายและจิตใจเมตตา!”
“…” เซียนทั้งสองตนเบิกตาโตชั่ววูบ
เรียบง่าย? เมตตา?!
ไม่ๆๆ ท่านผู้นี้ต้องเข้าใจอะไรผิดแล้วแน่ๆ
สองคำนี้ ไม่เคยถูกใช้กับตัวปีศาจมาก่อน!
แต่ซ่งอิงพูดอะไร สืออิ๋งก็ขานรับเช่นนั้น มองดูว่าง่ายอย่างยิ่ง แต่ครั้นซ่งอิงไป น้ำเสียงสืออิ๋งก็วางอำนาจขึ้นมาก ตวัดสายตามองกรงที่เปล่งแสงสีทองระยิบระยับแล้วหัวเราะเสียงเย็นชา “มองข้าอย่างเยาะหยันใช่หรือไม่ ไว้ข้ากลับคืนสู่ร่างเดิมแล้วจะกัดพวกเจ้าก่อนอันดับแรกเลย! ถึงอย่างไรหัวหน้าก็บอกแค่ว่าข้ากินคนไม่ได้ แต่มิได้บอกว่ากินเทพเซียนไม่ได้นี่!”
เซียนสองตนนั้นได้ยินดังกล่าวก็ถึงกับกลอกตามองบน รู้สึกย่ำแย่อยู่ในใจ
ในเวลาเดียวกันนี้ โลกเทพก็ค้นพบเสียทีว่ามีเซียนหายไปสองคน
พวกเทพเซียนมีชีวิตยืนยาว ไม่สังเกจในช่วงเวลาอันสั้นก็ไม่แปลก พวกเขาเพียงแค่คิดว่าทั้งสองไปหลบบำเพ็ญตบะอยู่ที่ใดสักแห่ง หรือไม่ก็มีเรื่องอันใดทำให้เสียเวลาอยู่
เพียงแต่เซียนสองท่านนี้รับผิดชอบดูแลกระดานชะตาชีวิตของคนที่มีความเกี่ยวข้องกับเทพฉางเวย บัดนี้จู่ๆ หายตัวไป จึงเป็นผลกระทบกับการสังหารปีศาจของเทพฉางเวย
“เกิดอะไรขึ้นกับกระดานชะตาชีวิตนี้ แล้วสองคนนี้มิใช่ว่าเจอกันมาพักใหญ่แล้วหรือ ไฉนยังไม่ได้หมั้นหมายกันอีก นอกจากนี้ ซ่งซื่อผู้นี้โผล่มาจากไหน ไยจึงกลายเป็นภรรยาของฮั่วเจ้ายวนได้!”
ชะตาชีวิตนี้เปลี่ยนผันใหญ่หลวงเกินไปแล้ว
ว่ากันตามหลัก บัดนี้ฮั่วเจ้ายวนน่าจะเกิดความรักใคร่กับกู้หมิงเป่าแล้ว กู้หมิงเป่าชะตาชีวิตไม่ดีมาแต่กำเนิด หลังจากหมั้นหมายก็จะถูกลักพาตัวไป มีความเสื่อมเสียทางชื่อเสียงและเผยอารมณ์เกรี้ยวกราดออกมา…
ส่วนฮั่วเจ้ายวนในเวลานี้น่าจะปลอบขวัญนาง กลายเป็นที่พึงพิงทางใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนาง ต่อจากนั้นก็เป็นความเข้าใจผิดที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง กู้หมิงเป่าถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ต่อให้สภาพจิตใจยอดเยี่ยมเพียงใดก็รับไม่ไหวอยู่ดี จะต้องระเบิดไอปีศาจเป็นแน่ ท้ายที่สุดก็มีฮั่วเจ้ายวนเป็นผู้ลงมือสังหารด้วยตนเอง!
ตอนที่ 880 ไม่ยินยอม
เส้นทางเรื่องราวนี้ล้วนถูกตระเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว แต่บัดนี้ทั้งหมดกลับบิดเบี้ยวไปแล้ว
“เรื่องนี้ควรต้องรายงานสักหน่อยหรือไม่” เหล่าเซียนเห็นว่าสถานการณ์เกิดดำเนินไปเช่นนี้ จึงค่อนข้างไม่สบายใจ
พวกเขาเทพเซียนเหล่านี้แม้ว่าปรับเปลี่ยนกระดานชะตาชีวิตได้ แต่สวรรค์เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิต จะปรับเปลี่ยนอย่างรุนแรงเกินไปได้ มิฉะนั้นผลลัพธ์อาจกลับตาลปัตรจนย้อนมาเล่นงานเอาได้
ตัวอย่างเช่นซ่งสวินที่ถูกกู้หมิงเป่าดึงมาร่วมชะตากรรมด้วย กระดานชะตาชีวิตเขาเปลี่ยนผันไปเอง เดิมทีเขาควรเดินไปในเส้นทางที่อ้างว้างน่าเวทนา ยามที่คนเขาอายุยี่สิบห้าเพิ่งนึกมาเล่าเรียนหนังสือ เรียนอย่างตรากตรำแทบกระอักเลือดเป็นเวลาห้าปี สุดท้ายสอบผ่านซิ่วฉาย แต่ในเวลานี้เอง ร่างกายก็เป็นดั่งตะเกียงน้ำมันที่เผาไหม้หมดแล้ว สมควรตายไปแล้วจึงจะถูก!
แต่ตอนนี้…
ทำไมชะตาชีวิตเขาจึงเต็มไปด้วยความรุ่งโรจน์ หากปล่อยให้เป็นไปตามอำเภอใจต่อไป ต่อให้ประสบความสำเร็จมีชื่อเสียงเกียรติยศถึงขั้นเป็นขุนนางใหญ่ก็ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย!
“ไฉนจึงหากระดานชะตาชีวิตของซ่งซื่อผู้นี้ไม่เจอ” มีคนเอ่ยถามขึ้นมากะทันหัน
ครั้นกล่าวถ้อยคำนี้ขึ้นมา ในวังลับสวรรค์ก็เร่งค้นหากันไม่หยุดหย่อน แต่ค้นไปค้นมา เดินหมุนเวียนผ่านกระดานชะตาชีวิตจำนวนนับไม่ถ้วนที่ล่องลอยกลางอากาศจนครบถ้วนแล้ว ก็ยังไม่เห็นกระดานชะตาชีวิตที่สอดคล้องกับซ่งอิงเลย!
“ไม่มีกระดานชะตาชีวิต เช่นนั้นก็หมายความว่าชีวิตของคนผู้นี้อยู่ในกำมือตนเอง มิใช่อะไรที่พวกเราจะเปลี่ยนแปลงได้หรือ”
“รายงานเบื้องบนเถอะ นี่หลายพันหมื่นปีที่ผ่านมา นอกจากเทพรุ่นใหญ่ที่ลงไปจุติโลกมนุษย์ไม่กี่ตนหรือเป็นบุตรของเทพสวรรค์ ก็ไม่เคยปรากฏเหตุการณ์ประเภทนี้มาก่อน”
“แต่…จะรายงานกับใครหรือ”
วังลับสวรรค์ของพวกเขากำกับดูแลเรื่องชะตาชีวิตมนุษย์ ดังนั้นจึงไม่มีตำแหน่งในโลกเทพเซียนที่สูงส่งเป็นพิเศษ
“ในเมื่อเทพฉางเวยเป็นศิษย์พี่ของเทพฟ่านโยวกลับชาติมาเกิด เช่นนั้น…ถามไถ่ความเห็นของเขาจะดีกว่า”
ครั้นเอ่ยถ้อยคำนี้ สหายทุกคนต่างก็พยักหน้าระรัว
ดังนั้นเรื่องนี้จึงส่งไปถึงเบื้องหน้าของเทพฟ่านโยวในทันทีทันใด
เทพฟ่านโยวท่านนี้ถือว่าเป็นเทพเซียนที่ดำรงชีวิตมายาวนานที่สุดในโลกเทพ ต่อให้เป็นจักรพรรดิสวรรค์องค์ปัจจุบันก็ยังอายุน้อยกว่าเขามาก
เพียงแต่คนผู้นี้ไม่ชอบข้องเกี่ยวเรื่องภายนอก คล้ายว่าสุขภาพร่างกายก็ไม่ค่อยดีด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นใบหน้ายังเสียโฉมไปครึ่งหนึ่ง ดังนั้นแทบจะไม่ออกจากสถานที่สถิต หลบบำเพ็ญตบะอยู่ข้างในนั้นมาโดยตลอด
แต่ถึงแม้เป็นเช่นนี้ ท่านผู้นี้ก็คือผู้หนึ่งที่จัดอยู่อันดับหน้าสุดในโลกเทพเซียน ทุกครั้งที่มีงานเลี้ยงใหญ่ ถึงแม้เขาไม่โผล่ออกมา ก็จำเป็นต้องส่งของขวัญไปให้เขาจำนวนหนึ่งเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อคนของวังลับสวรรค์มาเยือน ผลปรากฏว่าไม่ได้เจอคนเขาแต่อย่างใด เพียงแค่ทิ้งคำพูดเอาไว้เท่านั้น
ท้ายที่สุดจึงทำได้เพียงนำเรื่องนี้รายงานไปยังหัวหน้าสำนักสูงสุดของวังลับสวรรค์
หัวหน้าสำนักสูงสุดผู้นี้ก็จนใจมากเช่นกัน สุดท้ายตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะส่งเซียนลงไปโลกมนุษย์อีกสองคน ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ต้องทำให้กู้หมิงเป่าและฮั่วเจ้ายวนอยู่ร่วมกันให้ได้ ถึงแม้ทำให้อยู่ร่วมกันไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องคิดหาวิธีทำให้กู้หมิงเป่าระเบิดไอชั่วร้ายออกมาภายนอก แล้วชักนำให้ฮั่วเจ้ายวนลงมือสังหารนางเสีย!
สาเหตุที่ให้คนอื่นกระทำแทนไม่ได้ นั่นเป็นเพราะกายสังขารฮั่วเจ้ายวนมีความแตกต่างออกไป
เทพเซียนรุ่นเล็กคนอื่นที่ลงมาจุติ ยังไม่มีความสามารถในการกำจัดราชันปีศาจตนหนึ่งให้สิ้นซากได้ อย่างมากสุดก็แค่ปราบปรามวิญญาณปีศาจให้แตกกระจายเท่านั้นเอง
แน่นอนว่า เทพเซียนรุ่นใหญ่คนอื่นก็มีความสามารถอยู่บ้างเช่นกัน…
แต่นอกจากเทพฉางเวยผู้นี้ที่เพิ่งกลับชาติมาเกิดเป็นเซียน จิตใจและสติปัญญายังไม่สุกงอมมากพอ ความนึกคิดแข็งทื่อดุจศิลา จึงถูกหลอกล่อได้ง่าย เทพเซียนคนอื่นๆ ต่างก็ไม่มีความสนใจในโลกมนุษย์เลยสักนิด
ก็เช่นเทพฟ่านโยว หากเขาออกโรง มีหรือจะเปลืองแรงตั้งหลายวันขนาดนั้น พลังเซียนแข็งแกร่งกว่าชางเวยที่กลับชาติมาเกิดอย่างมากโข แค่ลงมือส่งเดช ราชันปีศาจนั่นก็จะต้องดับสูญไปได้อย่างแน่นอน!
แต่ปัญหาคือคนเขาไม่ยินยอมน่ะสิ!
แล้วยังมีเซียนรุ่นเล็กโชคร้ายสองคนที่ถูกส่งลงไปโลกมนุษย์นั่นอีก
โซวโซวจึงเหาะไปถึงข้างกายของฮั่วเจ้ายวน
ครั้งนี้ฮั่วเจ้ายวน…มองเห็นแล้ว
เขาปฏิบัติตามวิธีการบำเพ็ญตนเป็นเซียนอยู่หลายวัน ไม่นึกเลยว่าจะรู้สึกผ่อนคลายสบายตัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เพียงแต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ใช้งาน บัดนี้จู่ๆ ปรากฏเซียนสองตนอยู่ตรงหน้า เขามีพลังเทพคุ้มกาย นี่จึงสัมผัสได้
“หรือไม่…เราสองคนทำให้ท่านเทพล้มหมดสติ รอกระทั่งตกดึกค่อยแบกไปบนเตียงของกู้หมิงเป่า”
ฮั่วเจ้ายวนกำลังแสร้งทำเป็นมองไม่เห็น กลับได้ยินคำพูดนี้ จึงเผยสีหน้าถมึงทึงในชั่วพริบตา