ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 901 สิ่งแปลกๆ ตอนที่ 902 บ่อนทำลายราชสำนัก
ตอนที่ 901 สิ่งแปลกๆ / ตอนที่ 902 บ่อนทำลายราชสำนัก
ตอนที่ 901 สิ่งแปลกๆ
หลังจากได้ยินคำพูดของสืออิ๋ง ซ่งอิงก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
“เจ้ากล่าวว่าเมื่อก่อนเทพชางเวยเลื่อมใสในตัวข้าหรือ เราสองรู้จักกันด้วยหรือ” ซ่งอิงประหลาดใจมาก
“รู้จักๆ คนคุ้นเคยเก่าแก่” สืออิ๋งรีบพยักหน้าทันที “เพียงแต่ว่าเมื่อก่อนท่านไม่ชอบเล่นกับเขา จริงๆ แล้วเขาเก็บตัวเกินไปและไม่รู้จักเอาอกเอาใจคนอื่นเลยสักนิด ไม่เหมือนศิษย์น้องเขาผู้นั้นน่าสนใจกว่าเยอะ ดังนั้นท่านก็เลยให้ความสนใจเขาเป็นครั้งคราวและโน้มน้าวให้เขาพูดคุยเยอะๆ อะไรทำนองนี้ แต่เขาก็ยังห่างชั้นกับการสนทนาระบายความในใจอย่างเปิดอกมากพอสมควร”
“…” ซ่งอิงเม้มปาก รู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง
ในสมองปรากฏเค้าเงาร่างแวบผ่านเข้ามาเล็กน้อย คล้ายกับว่ามีเรื่องอย่างนี้อยู่จริง
หลังจากได้บำเพ็ญเพียร ในสมองนางก็ปรากฏภาพบางส่วนวาบเข้ามาอย่างขาดหายเป็นช่วงๆ เพียงแต่ว่าเกินกว่าครึ่งล้วนเป็นทิวทัศน์ คาดว่าเป็นโลกปีศาจในอดีต ส่วนตัวคนปรากฏให้เห็นเพียงไม่กี่คน ต่อให้ปรากฏก็เป็นเพียงเงาแผ่นหลังที่เรือนร่าง นางจึงจำได้ไม่ชัดเจน
“ดาบแห่งความเมตตา…ชื่อนี้ดูเหมือนคุ้นๆ อยู่สักหน่อย…” ซ่งอิงนวดๆ หว่างคิ้ว
“มันทำจากกระดูกปีศาจของท่านในภพชาติใดชาติหนึ่ง ท่านแตกต่างกับปีศาจอย่างพวกเราอยู่เล็กน้อย ท่านเป็นพลังหลิงชี่ที่กลายเป็นปีศาจ ตัวท่านจึงมีการผสมผสานกันระหว่างหยินหยางและธาตุทั้งห้า ดังนั้นวิญญาณปีศาจของท่านจึงไม่มีรูปร่าง อยากจะหลบซ่อนเสมือนอากาศเป็นเรื่องง่ายดายเสียยิ่งกว่าอะไร จะเปลี่ยนร่างเป็นปีศาจหรือเป็นคนก็เพียงแค่ต้องบำเพ็ญเพียรสักหน่อยเป็นอันใช้ได้
หลายปีก่อนท่านเลื่อมใสในมังกรบินผู้แข็งแกร่ง จึงสิ้นเปลืองเวลาไปไม่น้อยจนได้กลายเป็นลักษณะอย่างปีศาจมังกรบิน เป็นมังกรบินอยู่ช่วงหนึ่ง ดังนั้นจึงได้รับกระดูกปีศาจนี้มา ต่อมาภายหลังก็เอามาทำเป็นดาบเล่มหนึ่ง…”
เมื่อนึกถึงเรื่องราวในตอนนั้นขึ้นมา สืออิ๋งก็ยังคงรู้สึกว่าน่าสนใจ
จักรพรรดิปีศาจเพียงแค่ชอบในความแข็งแกร่งและความสง่างามของมังกรบิน กลับลืมไปว่ามังกรนิสัยตัณหาจัด ถึงแม้จักรพรรดิปีศาจนิสัยใจคอออกจะเรียบร้อยและไม่ได้มีความปรารถนาอันแรงกล้าต่อสิ่งใด บางครั้งก็จะมองบุรุษที่รูปลักษณ์หล่อเหล่าพวกนั้นไม่วางตาอยู่บ้างเช่นกัน
ดังนั้นอดทนไปได้ไม่กี่ปี นางก็ไม่อยากได้ร่างปีศาจนี้แล้ว
การสร้างกระดูกปีศาจไม่ถือว่าเป็นเรื่องง่าย ฉะนั้นการออกจากกระดูกปีศาจจึงเป็นเรื่องเปลืองแรงเล็กน้อยเช่นกัน โดยสรุปคือต้องตายครั้งหนึ่งจึงจะได้
โดยเฉพาะมังกรตัวนี้แข็งแกร่งเช่นนี้ คิดจะฆ่าตัวตายย่อมต้องแบกรับความเจ็บปวดทรมานที่ไม่ธรรมดาเช่นกัน ด้วยเหตุนี้ในภพชาตินั้น หลังจากจักรพรรดิปีศาจละทิ้งร่างมังกรแล้ว ก็รู้สึกว่าตนเป็นมังกรด้วยความลำบากเหลือเกิน นางจึงต้องการเอากระดูกของร่างนี้มาทำเป็นดาบสักเล่ม หลังจากนั้นจะได้เอาไว้มองดูบ่อยๆ เพื่อที่ครั้งหน้าตนเองจะได้ไม่ถลำซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังตั้งชื่อให้ดาบด้วยว่า ดาบแห่งความเมตตา
“ดาบแห่งความเมตตา ดูท่าตอนนั้นข้าก็เป็นปีศาจที่จิตใจดีงามมีเมตตาอย่างยิ่งนี่! ไม่ต้องบอกข้าก็รู้ได้ว่าต้องเป็นเพราะข้าสงสารผู้คนทุกข์ยากมากมายใต้หล้านี้ ดังนั้นจึงได้มีการตระหนักรู้เช่นนี้!” ซ่งอิงกล่าวด้วยความมั่นใจ
“ใช่ ตอนนั้นท่านก็บอกกล่าวกับคนอื่นเช่นนี้” สืออิ๋งตะลึงไปชั่วครู่ จากนั้นก็คลี่ยิ้มกว้าง
ที่แท้หัวหน้าก็แก้นิสัยเสียอย่างการพูดจาซี้ซั้วไปเรื่อยไม่หายจริงๆ
“เป็นเช่นนี้นี่เอง” ซ่งอิงพยักหน้าด้วยความพอใจ
น่าเสียดายที่ฮั่วเจ้ายวนไม่อยู่ มิเช่นนั้นนางยังพอได้คุยถึงเรื่องราวในอดีตกับเขา ซักถามดูหน่อยสิว่าตอนนั้นเขารู้สึกอย่างไรที่ไม่ได้รับการเห็นความสำคัญ
…
ขณะเดียวกัน ครั้นซ่งสวินจากไป ปีศาจน้อยในหมู่บ้านสวนพากันเสียใจยกใหญ่ พวกเขารู้สึกว่าไม่มีคนเล่นกับพวกเขาแล้ว
ซ่งอิงกลับไม่ได้อยู่อย่างเบื่อหน่าย นางคิดค้นการละเล่นเล็กๆ น้อยๆ เหมือนแม่นางน้อยทั่วไปอยู่กับกู้หมิงเป่า เช่นการดีดฉิน เล่นหมากรุก อ่านตำราและวาดภาพ
แต๊ง! เสียงใสกังวานดังขึ้นอีกครั้ง
กู้หมิงเป่าสองมือเท้าแก้ม ใบหน้าเผยถึงอารมณ์หมดหวัง “ท่านดีดเก่งเห็นๆ ทำไมแรกเริ่มดีดได้ดี ดีดไปดีมาก็เหมือนกับกำลังต่อสู้กันอย่างไรอย่างนั้นเล่า”
การปักผ้าก็เช่นกัน ซ่งอิงฝีมือดีมาก หากตั้งใจปักดีๆ เกรงว่าจะเรียกว่าเป็นอาจารย์คนหนึ่งก็ได้ แต่ตอนแรกนางให้ความสนใจ จากนั้นปักไปปักมาก็แปลกๆ ชอบกล ประเดี๋ยวปักหัวไชเท้า ประเดี๋ยวปักก้อนหิน และอยู่ดีๆ ก็ปักม้าเคลื่อนที่อยู่กลางท้องนภาและปักสัตว์แปลกๆ น่ากลัวที่มีถึงสิบหัว!
สิ่งเหล่านั้นที่นางปัก แม้ว่าสวยงามดีแต่มันไม่เหมาะเอาไปใช้งานน่ะสิ!
สตรีทั่วไปก็จะปักจำพวกดอกไม้ใบหญ้า หรือแม้กระทั่งสมุดหนังสือ เช่นนั้นเมื่อออกไปข้างนอกก็ยังพอเอาไปใช้พูดคุยได้บ้าง นี่หากคนอื่นเห็นสิ่งที่ซ่งอิงปัก เกรงว่าหันมาเห็นก็คงตกใจวิ่งหนีกันพอดี
ตอนที่ 902 บ่อนทำลายราชสำนัก
กู้หมิงเป่าในตอนนี้รู้สึกเพียงเสียดายเป็นพิเศษ
“พี่ซ่ง ท่านก็รู้ว่าหากท่านทำใจให้สงบหันมาปักสิ่งที่ผู้คนดูได้สักรูป เอาไปวางไว้ตามตลาดคงขายได้เป็นร้อยเป็นพันตึงเงินเชียวนะเจ้าคะ! ไหนจะการดีดฉินของท่านนี้อีก หากไปดีดบรรเลงสักเพลงที่หอจืออี่แห่งนั้น ย่อมต้องมีคนจำนวนมากชื่นชมและท่านย่อมมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นแน่” รู้ว่าซ่งอิงชอบเงิน กู้หมิงเป่าจึงบอกกล่าวอีกครั้ง
“ไม่เอาหรอก เรื่องพวกนี้ทำให้ง่วงง่ายจะตาย เจ้าฟังทำนองเพลงนี้ที่ข้าดีดสิมั นน่าสนใจขนาดไหนเชียว” ซ่งอิงส่ายหน้า แล้วแสดงออกอย่างมีความมั่นใจในตัวเอง
กู้หมิงเป่าถึงกับเบิกตาโตทันที “น่าสนใจเจ้าค่ะ นกบนฟ้ายังถึงกับบินเตลิดด้วยความตกใจเพราะท่าน”
“ผิดแล้ว เห็นๆ อยู่ว่านกพวกนี้มีจำนวนมากกว่าเมื่อครู่เสียอีก เจ้าดูสิ พวกมันคงรู้สึกว่าเพลงที่ข้าดีดไพเราะ ทุกตัวก็เลยบินไปบินมาร่ายระบำอยู่!” ซ่งอิงหลับหูหลับตาพูดไปเรื่อย
กู้หมิงเป่ามองดูท้องฟ้าพลางถอนหายใจออกมา
นกพวกนี้…เยอะกว่าก่อนหน้านี้มาก แต่นั่นอาจเป็นพราะอากาศอุ่นแล้ว และทางด้านนี้ต้นไม้เยอะ ดังนั้นพวกมันจึงพากันออกมาสร้างรัง
“เจ้าเอาแต่อยู่ที่หมู่บ้านสวนข้าแห่งนี้ พี่ชายเจ้าไม่ร้อนใจแย่แล้วหรือ” ซ่งอิงพลันเปลี่ยนหัวข้าสนทนาเอ่ยถามขึ้นมากะทันหัน
กู้หมิงเป่าเป็นที่แม่นางวัยออกเรือน เวลานี้น่าจะออกไปข้างนอกเข้าสังคมให้มากๆ จะได้เจอหน้าค่าตาและทำความรู้จักคนจากตระกูลผู้ร่ำรวยสูงสูงศักดิ์ในเมืองหลวงให้มากหน่อย แต่บัดนี้วันๆ เอาแต่ขลุกอยู่ในหมู่บ้านสวนชานเมืองของนาง ไล่ก็ไม่ไป คนของตระกูลจงกั๋วกงจะวางใจได้หรือ
กู้หมิงเป่ากระบิดกระบวนเล็กน้อย “ไม่อยากกลับบ้าน”
นางอยากอาศัยอยู่ในหมู่บ้านสวนแห่งนี้กับซ่งอิงให้รู้แล้วรู้รอด และดำรงชีวิตเป็นอิสระในแต่ละวันไปชั่วชีวิต
แต่งงานจะไปมีความน่าสนใจอันใดเล่า
ซ่งอิงรู้สึกว่าตนเองพากู้หมิงเป่าเสียคนแล้ว จึงรู้สึกละอายใจเล็กน้อย คิดว่าเดี๋ยวต้องส่งข้าวสารอาหารแห้งไปให้ทางด้านจงกั๋วกงมากๆ หน่อยเพื่อแสดงถึงความรู้สึกละอายใจของตนเองดีหรือไม่
เพียงแต่ซ่งอิงเพิ่งพูดคุยกับกู้หมิงเป่า ไม่นึกเลยว่าจะมีคนจากภายนอกมารับตัวนางแล้ว
กู้หมิงชูมองซ่งอิงปราดหนึ่ง ยังคงจดจำความหวาดกลัวจากการตัดขนแกะได้แม่นยำ เขาจึงก้าวถอยไปด้านหลังหนึ่งฝีก้าว “พระชายาอ๋องฮั่ว ข้ามารับน้องสาวกลับ…นอกจากนี้…มีเรื่องอยากพูดคุยกับท่านด้วย”
ซ่งอิงตะลึงงัน “คุยกับข้าหรือ”
ไม่ผิดแน่นะ
“ใช่” กู้หมิงชูลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังกล่าวออกไป “ในราชสำนัก…มีคนอภิปรายถึงฮั่วเจ้ายวน ข้าคิดว่าท่านคงยังไม่รู้เรื่องนี้”
“อภิปรายถึงฮั่วเจ้ายวนหรือ ด้วยเหตุอันใด” ซ่งอิงถาม
“อภิปรายว่าเขาเลี้ยงปีศาจ วางแผนการบ่อนทำลายราชสำนัก” กู้หมิงชูกล่าวอีกครั้ง
เมื่อได้ยินดังนี้ สีหน้าซ่งอิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เรื่องที่นางเลี้ยงปีศาจถูกเปิดเผยแล้วหรือ มิหนำซ้ำฮั่วเจ้ายวนยังรับกรรมแทนนางอีกด้วย
ไม่น่าเป็นไปได้นี่ บรรดาปีศาจของนางล้วนเชื่อฟังทั้งนั้น ปีศาจที่ปล่อยออกไปไม่เคยเปลี่ยนร่างต่อหน้าผู้อื่นมาก่อน
“เลี้ยงปีศาจหรือ! เรื่องที่เหลวไหลขนาดนี้ฮ่องเต้ก็เชื่อด้วยหรือ!” กู้หมิงเป่าเอ่ยทันที
“แรกเริ่มฮ่องเต้ไม่เชื่อเรื่องนี้ แต่องค์ชายใหญ่นำหลักฐานมาแสดงต่อหน้าฮ่องเต้ ฮ่องเต้จึงอดเชื่อไม่ได้” กู้หมิงเป่ากล่าวอีกครั้ง “ก่อนหน้านี้เมืองยงเคยปรากฏปีศาจจิ้งจอกออกมาตัวหนึ่ง พระชายาอ๋องฮั่วน่าจะยังจำได้กระมัง”
ซ่งอิงพยักหน้า
“ก็เป็นเรื่องของปีศาจจิ้งจอกตนนั้นละ ตอนแรกอ๋องฮั่วจัดการปีศาจจิ้งจอกด้วยตนเอง เรื่องนี้เดิมทีก็ไม่ค่อยเหมาะสม ตอนนั้นจึงมีคนจำนวนมากเอาเรื่องนี้มาเล่นงานท่านอ๋องฮั่ว ต่อมาฮ่องเต้สยบเอาไว้ให้ ครานี้ ปีศาจจิ้งจอกตัวนั้นปรากฏตัวกะทันหันแล้วถูกนักบวชสมณศักดิ์สูงจับตัวไว้ได้ องค์ชายใหญ่จึงแบกปีศาจจิ้งจอกมาถึงเบื้องหน้าฮ่องเต้ด้วยตนเอง”
“จะว่าไปก็แปลกมาก ไม่นึกเลยว่าปีศาจจิ้งจอกตัวนั้นจะพูดภาษาคนได้ด้วย ไม่เพียงเท่านี้ มันยังเปลี่ยนร่างเป็นคนได้ ยามที่ฮ่องเต้ถาม นางยอมรับว่าตนเองถูกท่านอ๋องฮั่วปล่อยตัว นอกจากนี้ยังกล่าวว่าช่วงที่ผ่านมาท่านอ๋องฮั่วเลี้ยงนางและอบรมสั่งสอนอยู่ในจวนตลอด รอส่งเข้าวังหลวงในวันใดวันหนึ่ง…”