ข้าอาศัยทำนาให้ร่ำรวยมหาศาล - ตอนที่ 955 ปิดเป็นความลับ ตอนที่ 956 ตัวปลอม
ตอนที่ 955 ปิดเป็นความลับ / ตอนที่ 956 ตัวปลอม
ตอนที่ 955 ปิดเป็นความลับ
เทพชีมู่ได้ยินเช่นนั้นก็ตะลึงงันไปชั่วขณะ หลังจากครุ่นคิดจึงกล่าวตอบ “นางเป็นผู้หนึ่งที่ไร้เดียงสาโดยแท้จริง มิหนำซ้ำยังชอบเล่นสนุก ดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังเที่ยวเล่นอยู่ขุนเขาเซียนที่ใดสักแห่งในโลกเทพกระมัง”
“อาจารย์ตายไปทั้งคน นางยังไม่กลับมาอีกหรือ” ซ่งอิงถาม
“…” เทพชีมู่นึกถึงประเด็นนี้ก็เป็นอันตกตะลึง “ไม่…”
“เหอะ” ซ่งอิงแสยะยิ้มเยาะ “ท่านว่า เป็นไปได้หรือไม่ว่า…เมื่อตอนที่ลั่วเจินของข้าระเบิดตัว ที่อุ้มเอาไปด้วยคือร่างแยกของเขา”
ซ่งอิงลืมความสามารถของฟ่านโยวไปเสียสนิท
เขามีร่างแยกอยู่หนึ่งร่าง ไม่ต่างจากตัวจริงเลย ถึงขั้นที่ร่างแยกครอบครองพละกำลังของเขาประมาณเจ็ดในสิบ เพียงแต่เขาไม่ปล่อยให้ร่างแยกนี้ปรากฏตัวโดยง่าย ถือเป็นความสามารถที่มีเอกลักษณ์และยอดเยี่ยมยิ่ง มีคนที่รู้ไม่มาก
เป็นเพราะไม่ได้เจอกันนานเกินไป นางจึงไม่ทันนึกถึงข้อนี้
นางนึกตอนนั้น ตัวนางเองก็เคยพบร่างแยกของฟ่านโยวเพียงครั้งเดียว และแทบหาความแตกต่างไม่เจอเลย
หากตอนนั้นฟ่านโยวอาศัยร่างแยกมาเยือน เช่นนั้น…ก็อธิบายเรื่องทุกอย่างได้แล้วใช่หรือไม่
ประโยชน์ของการใช้ร่างแยกมีมากมาย ต่อให้ร่างแยกนี้ตายไปแล้ว ร่างหลักก็ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากร่างแยกลงมือ ก็จะหยั่งเชิงรู้ถึงพลังของนางในปัจจุบันได้เช่นกัน
เทพชีมู่ไม่รู้เรื่องนี้เลย หลังจากได้ยินก็ตะลึงระคนประหลาดใจอย่างยิ่ง “ฟ่านโยวยังมีร่างแยกด้วยหรือ”
“เช่น…เช่นนั้นหากฟ่านโยวยังไม่ตายจริงๆ ก็เป็นไปได้มากว่าคนที่หลอมเหล็กหมาดทะลวงฟ้าก็คือเขา ทำครั้งหนึ่งแล้วก็ยังทำอีกครั้ง สอดคล้องกับนิสัยของเขาผู้นี้เช่นกัน” เทพชีมู่กล่าวทันที
“ในตอนนี้ต้องขอบคุณเทพชีมู่มากที่บอกให้ข้าทราบ” ซ่งอิงยิ้มกล่าว
เทพชีมู่ขมวดคิ้ว “ไม่ๆๆ ไม่เกี่ยวอะไรกับข้า เป็นเจ้าเองที่เดาออก”
เขาไม่ใช่คนทรยศของโลกเทพ เพียงแต่…ไม่อยากไปรบกวนความสงบสุขของโลกปีศาจที่น่าสงสารก็เท่านั้น
เพียงแต่ว่ามองเห็นแววตาที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มของซ่งอิงนั่นแล้ว ชีมู่ก็ทำได้เพียงตอบรับอย่างประหม่า “ก็หวังว่าจักรพรรดิปีศาจ…จะปิดไว้เป็นความลับ ที่บ้านข้ายังมีลูกศิษย์ผู้ติดตามอีกมาก หากแพร่งพรายออกไป จะไม่เป็นผลดีต่อพวกเขา”
“แน่นอน เทพชีมู่อุตส่าห์คำนึงถึงมิตรภาพเมื่อตอนนั้น ข้าจะทำให้ท่านมีปัญหาได้อย่างไรเล่า” ซ่งอิงกล่าวตรงไปตรงมาอย่างมีความสุข
ชีมู่ยังคงเชื่อในคำพูดของซ่งอิงมาก
หากนางบอกว่าจะปิดเป็นความลับ เช่นนั้นก็แปลว่าแม้มีมีดจ่ออยู่ที่คอ นางก็จะไม่บอกใครอื่นแน่นอน
เพียงแต่ว่าเขาค่อนข้างไม่สบายใจ ต่อให้ไม่มีใครรู้ การกระทำเช่นนี้ของเขาก็ถือว่าทรยศต่อโลกเทพ ดังนั้นจึงกล่าวอย่างไร้ยางอาย “จักรพรรดิปีศาจ ทางด้านโลกเทพนี้…จริงๆ แล้วก็มีเทพเซียนมากมายที่บริสุทธิ์ ไม่รู้เรื่องเมื่อคราวนั้น ตอนนี้ข้าพาสัตว์ปีศาจมาส่งแล้ว เจ้าพอจะส่งตัวเทพเซียนและสัตว์เทพที่จับตัวมาก่อนหน้านี้คืนให้ข้าได้หรือไม่”
ซ่งอิงปรายตาขึ้นเล็กน้อย “เรื่องนี้เกรงว่าจะไม่ได้ พวกเขาถูกจับมาอยู่กับข้าทางด้านนี้ ก็ล้วนเป็นเพราะโลกเทพของพวกท่านไม่รู้ความ นอกจากนี้ ข้าเองก็ไม่ได้ทำอะไรพวกเขา เพียงแค่ให้ทำงานเท่านั้นเอง ก็ให้พวกเขาทำงานอยู่ที่นี่สักไม่กี่ปี หากภายภาคหน้าเปลี่ยนจักรพรรดิสวรรค์แล้ว ข้าเองก็พอจะพิจารณาข้อเสนอของท่านได้”
“…” เทพชีมู่เบิกตาโตชั่ววูบ
เปลี่ยนจักรพรรดิสวรรค์หรือ
เข้าใจคิดดีนี่
จักรพรรดิสวรรค์ทุกพระองค์ต้องมีดวงชะตา บารมีและการบำเพ็ญเพียรติดตัวโดยจะขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งไปไม่ได้ จักรพรรดิสวรรค์องค์ปัจจุบันผ่านประสบการณ์ในโลกมนุษย์มาเก้าสิบเก้าภพชาติกว่าจะได้รับการยอมรับจากจักรพรรดิสวรรค์องค์ก่อน ขึ้นรับช่วงตำแหน่งจักรพรรดิสวรรค์
ทุกครั้งที่จักรพรรดิสวรรค์ถือกำเนิดล้วนมีนิมิตประหลาด ทว่าจนถึงตอนนี้ยังไม่มีลางบอกเหตุใดในโลกเทพเลย
ซ่งอิงและเทพชีมู่คุยกันจบ ก็ส่งเขาไปพักผ่อน
เพียงไม่กี่วันก็ได้รับข่าวจากโลกเทพอีกครั้ง เป็นการกำหนดวันเวลาของสงครามนั่นเอง
สิบวันหลังจากนี้
ดูท่า เหล็กหมาดทะลวงฟ้าคงเสร็จสมบูรณ์แล้วจริงๆ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางมาเร่งเวลากะทันหันเช่นนี้แน่
ตอนที่ 956 ตัวปลอม
ซ่งอิงไม่กังวลเกี่ยวกับชีวิตของตนแต่อย่างใด แม้ว่าอีกสิบวันต่อจากนี้เป็นวันพระจันทร์เสี้ยวก็ตาม
นางพลาดไปแล้วครั้งหนึ่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะมีครั้งที่สองในลักษณะเดียวกัน
ทั้งสองฝ่ายจำนวนพลหนึ่งหมื่นนาย จำนวนนี้ออกจะดูถูกกันไปหน่อยจริงๆ
ต้นวัฏจักรเป็นของล้ำค่าที่เหนือกฎธรรมชาติ เวลาร้อยปีบนโลกมนุษย์ ผนวกกับวันเวลาที่อยู่ในโลกปีศาจนี้อีก ในโลกปีศาจจึงไม่ขาดแคลนปีศาจที่มีความสามารถด้านการต่อสู้
ก่อนวันศึกใหญ่หนึ่งวัน ชางเวยนำเหล็กหมาดทะลวงฟ้ามาให้นาง
ซ่งอิงพิจารณาของชิ้นนี้อย่างละเอียดครู่หนึ่ง
สิ่งนี้มองดูธรรมดามาก เพียงแต่เมื่อสัมผัสก็รู้สึกได้ถึงพลังมหาศาลในมือ อีกทั้ง แม้เห็นว่าที่กุมอยู่ในมือเป็นเพียงหนึ่งสิ่งเล็กๆ แต่ในความเป็นจริง ของล้ำค่าชิ้นนี้ปรับเป็นขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กได้ หากพลังเทพมหาศาล ของชิ้นนี้ถึงขั้นทำลายท้องนภาและปฐพีได้
แม้ว่าจะดูพูดเกินจริงไปหน่อย แต่ในอดีตก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความร้ายกาจของเหล็กหมาดทะลวงฟ้านี้แล้ว
ศึกใหญ่ใกล้เข้ามาแล้ว
ซ่งอิงตรวจนับปีศาจจำนวนหมื่นตน
ฉื่อเหยียนก็มาด้วยเช่นกัน
ทั้งสองฝ่ายมาถึงทะเลชางเซิง
ซ่งอิงกวาดตามอง แต่ไม่เห็นฟ่านโยว ทว่าในเมื่อนางมีเจตนาตามหา การจะหาตัวฟ่านโยวที่ซ่อนตัวอยู่ในเหล่าเทพเซียนหนึ่งหมื่นนั้นก็ไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
ท้ายที่สุดนางก็หยุดสายตาที่ตัวเทพชีมู่
เทพชีมู่ผู้นี้กลับไปยังโลกเทพเมื่อสองวันก่อน ก่อนจากไป แม้ว่าแสร้งทำเป็นไม่คุ้นเคยกับนาง แต่นางก็รู้สึกได้ว่าเทพชีมู่ไม่ได้มีเจตนาจะสังหารนาง
ในตอนนี้ แววตาเทพชีมู่ดูแข็งกร้าวเล็กน้อย มองดูเหมือนกับว่าเคียดแค้นเกลียดชังนางอย่างสุดซึ้งก็ไม่ปาน
ท่าทางเช่นนี้…
ดูไม่เหมือนเขา เช่นนั้นก็อาจจะเป็นคนอื่น
คนที่นำกองทัพคือเทพระดับเสินจวินคนหนึ่งที่ซ่งอิงไม่รู้จัก
สถานการณ์ตึงเครียด พร้อมระเบิดทุกขณะ
ทันใดนั้นท้องฟ้าและพื้นดินพลันเปลี่ยนสี การปะทะกันของพลังเทพและพลังปีศาจส่งผลไปถึงพื้นผิวทะเลชางเซิง สั่นสะเทือนเกิดเป็นคลื่นลูกใหญ่หลายระลอกในชั่วพริบตา สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง นกตื่นตระหนกโบยบินว่อน
เหล่าปีศาจดุร้ายมาก ทำเอาบรรดาเทพเซียนตระหนกตกใจ
สืออิ๋งเปลี่ยนร่างเป็นปีศาจสิบหัว ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า พ่นไฟออกมาจากปาก ผ่านไปตรงไหนก็เผาจนราบ ปีกใหญ่ปกคลุมราวเมฆดำ พลังดุร้ายจนชวนให้สะพรึงกลัว
ซ่งอิงต่อสู้กับเทพระดับเสินจวินผู้นั้น
ในมือของเทพระดับเสินจวินถือขวานปราบปีศาจเอาไว้ ทุกครั้งที่เหวี่ยงมันจะมีลมกระโชกแรง พัดลมมาจนทำให้ซ่งอิงหน้าซีด
แต่อย่างไรก็ตาม ก็แค่หน้าซีดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ถึงแม้นางดูตัวเล็ก แต่พละกำลังไม่เล็กตามตัว
ระหว่างสู้กับเสินจวินผู้นี้ นางกวาดตามองไปรอบๆ เห็นว่า ‘ชีมู่’ ผู้นั้นจู่ๆ ก็เปลี่ยนพื้นที่ต่อสู้ ราวกับว่าจะเข้ามาช่วยสนับสนุน นางจึงหัวเราะเยาะในใจ
ซ่งอิงแสร้งทำเป็นว่าจะเอาตัวไม่รอด
ปรากฏว่าเป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้ ชีมู่ตัวปลอมเข้ามาทางด้านหลังของนาง ยกเหล็กหมาดทะลวงฟ้าขึ้น เหล็กหมาดทะลวงฟ้านั้นเปลี่ยนเป็นหมื่นเป็นล้านอัน พุ่งเข้าใส่ซ่งอิงอย่างมืดฟ้ามัวดิน
ซ่งอิงหัวเราะเย็นชา ร่างของนางหายวับไปราวกับวิญญาณผีในชั่วพริบตา
ช่วงถัดมา กลายเป็นว่านางไปถึงด้านหลังของฟ่านโยว ยกเท้าขึ้นถีบหนึ่งทีแล้วลากชีมู่ตัวปลอมแต่เป็นฟ่านโยวตัวจริงไปอยู่ใต้เหล็กหมาดทะลวงฟ้า ก่อนจะครอบเอาไว้ด้วยพลังปีศาจบางอย่าง กักขังเขาอยู่ในนั้น
รูม่านตาของฟ่านโยวหดลง
ซ่งอิงจงใจยึดครองเหล็กหมาดทะลวงฟ้าของเขาไว้ จากนั้นปล่อยลงช้าๆ
เขาเกือบจะคาดการณ์ความตายของตนได้แล้ว
“อย่า…” ฟ่านโยวส่งเสียงอุทานออกมา
ซ่งอิงกระตุกมุมปากโค้งขึ้นอย่างไม่แยแส ทันใดนั้นก็เปลี่ยนทิศทาง เหล็กหมาดทะลวงฟ้าไม่ได้พุ่งตรงไปสู่จุดตายของฟ่านโยว แต่พุ่งเข้าใส่ขาและเท้าของเขา
“อ๊าก…” เสียงร้องลั่น ชวนหนวกหูจริงๆ
เหล็กหมาดทะลวงฟ้าพุ่งชนฟ่านโยวในชั่วพริบตา ทว่าซ่งอิงเลือกป้องกันตำแหน่งหัวใจของฟ่านโยวเอาไว้
เหล็กหมาดทะลวงฟ้านี้เป็นของร้ายกาจ ต่อให้เป็นเทพเซียน แต่หากถูกมันทิ่มแทงเข้าไป เทพเซียนก็ไม่อาจต้านทานไหวและจะถูกทำลายถึงรากฐานจนสิ้นซากแน่นอน
หากนางไม่ป้องกันหัวใจเขาเอาไว้ ชีวิตน้อยๆ ของฟ่านโยวก็คงเป็นอันจบสิ้นพอดี