ข้าแค่อยาก "กิน" อย่างเงียบๆ - บทที่ 14 ฝูงหมาป่า
“ดิ้ง…ท่านกินสมุนไพรระดับเหลือง หญ้าประกายเลือด อัตราฟื้นฟูร่างกายเพิ่มขึ้น ร่างกายของท่านมีอัตราฟื้นฟูอยู่ที่ระดับสองดาว สีเหลือง ท่านได้รับทักษะระดับเหลือง ยอดวิชาฟื้นฟูร่างกาย”
“ดิ้ง…ระดับบ่มเพาะของท่านเพิ่มขึ้น ระดับบ่มเพาะเพิ่มขึ้นสองระดับ ท่านอยู่ในระดับนักรบสี่ดาว”
-มันมีผลต่อการฟื้นฟูร่างกายงั้นรึ-
ทักษะการฟื้นฟูร่างกายเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นทักษะช่วยชีวิต มันเป็นทักษะที่ผู้ฝึกยุทธชั้นสูงต่างก็ถวิลหา นั่นก็เพราะทักษะนี้จะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของร่างกายโดยไม่ต้องวุ่นวายไปหวังพึ่งสมุนไพรหรือเม็ดยาต่างๆ
และยาประกายเลือดนี้ได้ให้ในสิ่งที่เจียงหยวนไม่ได้คิดฝัน
การได้เรียนรู้ทักษะฟื้นฟูเช่นนี้ไม่ได้ต่างจากการที่เขามีชีวิตที่สองเพิ่มขึ้นมาแม้แต่น้อย
เมื่อรู้สึกได้ว่าตนเองมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมา เจียงหยวนก็เริ่มมีใจนึกอยากล่าเสียยิ่งกว่าเดิม นี่ทำให้เขาพุ่งเข้าสู่พื้นที่การล่าโดยตรงโดยไม่เหลือความรู้สึกหวาดกลัวอยู่อีก พร้อมใจที่ภาวนาให้เจอของดีๆ
อย่างไรก็ตาม เทพเจ้าแห่งโชคไม่ได้เข้าข้างเจียงหยวนไปเสียทุกครั้ง หลังจากค้นหาอยู่นาน เขาก็ไม่อาจจะหาสัตว์ปีศาจระดับหนึ่งหรือแม้แต่สมุนไพรใดๆเจออีก
“ดิ้ง…ท่านกินสัตว์ปีศาจระดับศูนย์ หมาป่า ค่าสถานะไฟเพิ่มขึ้น ระดับการบ่มเพาะเพิ่มขึ้น พลังภายในธาตุไฟเพิ่มขึ้น อาณุภาพทักษะธาตุไฟเพิ่มขึ้น”
“ดิ้ง…ชีพจรยุทธแข็งแกร่งขึ้น”
“ดิ้ง…ระดับบ่มเพาะเพิ่มขึ้น”
เจียงหยวนไม่รู้ว่าเขาในตอนนี้กินสัตว์ปีศาจตัวเล็กจ้อยพวกนี้ไปเท่าไหร่แล้ว แต่ไม่ว่าจะกินยังไง เขาก็ไม่เห็นว่าระดับบ่มเพาะของเขาจะเพิ่มึ้นมาสักที นี่ทำให้เขาเริ่มรู้สึกขี้เกียจจะกินแล้วขึ้นมา
ดูเหมือนว่าเขาจะไม่พบเจอสิ่งที่ช่วยยกระดับของเขาในพื้นที่ล่าสัตวแห่งนี้ได้อีก
“เจ้าได้ยินรึเปล่าว่าที่ทิศใต้ของขอบเขตการไล่ล่าเกิดเรื่องขึ้นน่ะ เมื่อไม่นานมานี้มีหน่วยองครักษ์จำนวนหนึ่งมากระจายข่าวไม่ให้พวกเรามุ่งลงใต้ไป”
“มีเรื่องรึ”
เจียงหยวนที่นั่งพักอยู่ในพุ่มไม้ เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาในทันที
“ไปดูหน่อยแล้วกัน”
เจียงหยวนได้เคลื่อนที่ออกจากพุ่มไม้ไปโดยที่แม้แต่คนพูดที่อยู่ข้างๆพุ่มไม้นี้ก็ยังไม่ทันที่จะรู้ตัว
….
พื้นที่ไล่ล่า ทิศใต้
ชายห้าคนในชุดพร้อมรบ กำลังต่อสู้กับหมาป่าขนสีแดงสิบกว่าตัว
ในหมู่หมาป่าทั้งสิบ มีตัวหนึ่งที่ตัวสูงใหญ่ราวกับมนุษย์คนหนึ่ง มันยืนอยู่ท่ามกลางหมาป่าตัวอื่น และคอยยืนเฝ้ามองเพื่อที่จะหาจังหวะลอบโจมตีออกไป
“เจียงหลง ไอ้ระยำ ข้ารับมือไม่ไหวแล้วนะ ไอ้ปีศาจโลหิตตัวนี้มันแข็งแกร่งเทียบเท่ากับนักรบแปดดาวเลย”
“เจียงต๋ง ต่อให้แกจะยันมันไม่ไหวก็ต้องทำ วันนี้เป็นวันล่าสัตว์ เดี๋ยวกำลังเสริมก็มาถึงแล้ว ขอเพียงพวกเราต้านทานพวกมันเอาไว้ได้ อีกเดี๋ยวก็จบเรื่องแล้ว”
ทั้งห้าคนที่กำลังต่อสู้กับฝูงหมาป่านี้คือองครักษ์ที่มีหน้าที่ป้องกันพื้นที่ล่าสัตว์ ทุกคนอยู่ในระดับนักรบแปดดาว และถือได้ว่าเป็นกองกำลังชั้นสูงสุดของเมืองเทียนหยาง
หลังจากปล่อยทักษะยุทธออกไปอย่างไม่ขาด การโจมตีของหมาป่าโลหิตเองก็เริ่มเขาถึงพวกเขาจนทำให้ทั้งห้าคนเริ่มจะตกอยู่ในอันตราย
และเป็นตอนนี้ที่จ่าฝูงหมาป่าโลหิตเริ่มลงมือ
“กรร”
“เจียงหลง ระวัง”
ฝุ่บ
สายลมกรรโชกได้ผัดผ่าน นี่ทำให้เจียงหลงผู้เป็นเป้าหมายสัมผัสได้ถึงสายลมที่หนักหน่วง เมื่อเขาหันหลังกลับไปยังต้นเสียง ก็เห็นเพียงปากที่แดงฉานอ้ากว้างมาที่ตน
และนี่ทำให้ใบหน้าของเขาซีดเผือดและหวาดกลัวใน…
*กร๊อบ*
ไม่มีโอกาสแม้จะส่งเสียงออกมา
ร่างของเจียงหลงที่ไร้เรี่ยวแรงได้ตกหล่น ร่างที่ไร้หัวถูกรุมล้อมด้วยฝูงหมาป่าตัวใหญ่ หลังจากนั้น เลือด เนื้อ และกระดูกของเขาก็กระจัดกระจายไปทั่วทุกที่
“อาหลง”
เมื่อทุกคนได้เห็นแบบนี้ ความกลัวในจิตใจได้แล่นเข้าไปถึงหัวสมอง พร้อมกับร้องบอกออกมาว่าต้านไม่อยู่แล้วจริงๆ