ข้าแค่อยาก "กิน" อย่างเงียบๆ - บทที่ 20 ข้าจะทำ
“หยวนเอ๋อร์”
เสียงหนึ่งได้ดังออกมาจากนอกประตูห้อง
เจียงหยวนได้ผลักประตูออกไปและมองผู้ที่อยู่ตรงหน้าประตู เป็นเวลาหนึ่งปีแล้วเจียงเหวิน พ่อของเขาไม่ได้เผยใบหน้าที่แสดงออกมาอย่างมีความสุขแบบนี้ เจียงหยวนได้ยิ้มตอบก่อนจะถามออกไป “ท่านพ่อ ท่านมาที่นี่ทำไมรึ”
เจียงเหวินไม่ได้พูดอะไรออกมาในทันที เขาเพียงจับไปที่แขนของเจียงหยวนอย่างกระชับ ก่อนจะพูดออกมาด้วยเสียงอันสั่นเทา “ข้ารู้ ว่าลูกของข้าจะต้องกลับมาได้”
เป็นตอนนี้ที่เจียงหยวนพึ่งจะสังเกตเห็นว่าชายวัยกลางคนตรงหน้าของเขานั้นมีผมหงอกเลาขึ้นมาอยู่หลายเส้น นี่แสดงให้เห็นว่าในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา เขาต้องผ่านเรื่องอะไรมาบ้าง
ชายคนนี้คืออีกหนึ่งคนที่คอยยืนอยู่เคียงข้างเขาในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา
“หยวนเอ๋อร์ นี่คือรางวัลของเจ้า รางวัลของผู้เป็นอันดับหนึ่งในงานล่าสัตว์วันนี้ ยาเม็ดรวมพลัง….ถึงแม้ว่าแต่เดิมมันจะเป็นของ…”
เจียงเหวินพูดพลางส่งเม็ดยาให้เจียงหยวนพร้อมหัวเราะออกมาอย่างแห้งๆ
“ขอบคุณขอรับ ท่านพ่อ”
เจียงหยวนรับเม็ดยาเอาไว้พร้อมรอยยิ้ม
ตอนนี้ อยู่ๆเจียงเหวินก็ได้กดเสียงต่ำและกระซิบถามเจียงหยวนที่ข้างหู “เจ้าลูกชาย เจ้ารู้อะไรเกี่ยวกับเจียงหมิงและเจียงจ๋านบ้างรึเปล่า”
“ข้าฆ่าพวกมันไปแล้ว พวกมันตั้งใจจะฆ่าข้าก่อนใน…”
“ฆ่าได้ดี อย่างที่คิดเอาไว้ ลูกของเจียงหวู่นั่นไม่คิดเล่นไม่ซื่อ พ่อรู้มานานแล้วว่าอาของเจ้ากับผู้อาวุโสสูงสุดลอบทำอะไรกันอยู่ในความมืด”
“พวกมันทั้งสองคนต้องการตำแหน่งผู้นำตระกูล แต่ตอนนี้พวกมันกลับกล้าลงมือกับเจ้า ช่างเลวระยำจริงๆ”
เจียงเหวินถอดถอนลมหายใจไปเล็กน้อยแต่กำหมัดแน่นจนเกือบเลือดจะออก
“แล้วทำไมท่านพ่อยังไม่ลงมือล่ะ พวกมันก็แค่หนอนแมลงในตระกูลของพวกเราเท่านั้น”
เจียงหยวนถามออกมาเบาๆอย่างสงสัย
“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาน่ะ ถึงแม้มันจะเป็นเพียงแค่หนอนแมลง แต่เส้นสายของพวกมันภายในตระกูลกลับกว้างขวางมากนัก หากไม่มีหลักฐานว่าพวกมันรวมกันทำอะไรล่ะก็ ไม่เพียงจะทำอะไรมันไม่ได้ ยังกลายเป็นโอกาสให้พวกมันแว้งกัดพวกเราเสียอีก”
เจียงเหวินถอดถอนลมหายใจอีกครั้งพลางส่ายหน้าออกมา
“หากท่านพ่อมั่นใจในตัวข้าอยู่ล่ะก็ ท่านพ่อ เรื่องนี้ขอข้าเป็นคนจัดการเองก็แล้วกัน”
เจียงหยวนพูดพลางตบลงบนอกตัวเองเบาๆพร้อมรอยยิ้มที่สุดแสนจะมั่นใจ
“ลูกข้าเติบโตขึ้นแล้วจริงๆ เอาเป็นว่าหากเจ้าต้องการให้พ่อช่วยทำอะไร เจ้าก็บอกพ่อมาแล้วกัน พ่อจะทำมันอย่างดีที่สุดเพื่อช่วยเหลือเจ้า”
เมื่อเจียงเหวินได้ยินคำพูดนี้ของเจียงหยวนที่พูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำ แม้เขาจะคิดว่าเจียงหยวนแค่พูดออกมาเพื่อให้เขาสบายใจ แต่ก็อดที่จะวางใจขึ้นมาได้อย่างบอกไม่ถูกเหมือนกัน
“ข้าต้องการเงิน”
เจียงหยวนพูดออกมาตรงๆอย่างไม่อ้อมค้อม
“เท่าไหร่ล่ะ ห้าพันเหรียญทองพอรึเปล่า”
เจียงเวิ่นถามออกมา พร้อมกับส่งถุงเก็บของวางไว้บนมือของเจียงเจียงหยวน
“พอขอรับ”
…
ร้านเก้าวิญญาณ
“นี่….นี่….แล้วก็นี่….ทั้งหมดหนึ่งชุด”
“ทั้งหมดนี่เลยรึ”
เมื่อเห็นเจียงหยวนชี้ไปที่สมุนไพรเกือบจะทั้งร้าน นี่ทำให้ผู้จัดการร้านอดจะถามย้ำออกมาเสียมิได้
“ใช่ ทั้งหมด อย่างละหนึ่งชุด”
เจียงหยวนพยักหน้ารับ
“นายน้อย ท่านคงจะไม่ได้มาแกล้งพวกเราหรอกใช่….ไหมท่าน..”
ผู้จัดการร้านที่แม้จะคิดว่าเจียงหยวนมากลั่นแกล้งร้านของเขา แต่ก็ยังฝืนยิ้มออกมาได้อยู่ดี
“ห้าพันทองนี่ไม่พอรึ”
เจียงหยวนพูดพลางสะบัดถุงเก็บของวางกองไว้บนโต๊ะ
“พอ นายน้อยช่างทำตัวสมกับเป็นนายน้อยตระกูลเจียงยิ่งนัก”
เมื่อเห็นเงินมากองอยู่บนโต๊ะ มีหรือที่คนค้าขายอย่างผู้จัดการร้านจะคิดปฏิเสธ
ไม่นานหลังจากนั้น ตัวยาเกือบร้อยได้ถูกห่อและวางเอาไว้ตรงหน้าของเจียงหยวน
“นายน้อย ท่านให้เงินเกินมารึเปล่า ในถุงนี้มีเงินห้าพันห้าร้อยเหรียญทอง ส่วนเกินห้าร้อยเหรียญทองนี่ทางเรารับไว้ไม่ได้จริงๆขอรับ”
ผู้จัดการร้านพูดนะขณะที่วางสมุนไพรทั้งหมดให้กับเจียงหยวนด้วยท่าทางเคารพอย่างที่สุด
“โอ้ ขอบคุณมาก ว่าแต่ ข้าขอถามหน่อยสิว่าร้านของเจ้ารับซื้อยาเม็ดรวมพลังบ้างรึเปล่า ราคาดีหรือไม่”
เจียงหยวนถามออกมาวางกล่องไม้ไว้ตรงหน้าผู้จัดการร้าน
“ยาเม็ดระดับเหลืองรึ รับสิ แน่นอนว่าร้านข้าต้องรับอย่างแน่นอน”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ดวงตาของผู้จัดการร้านก็เปล่งประกายในทันที หากจะให้เขาบอกออกมาตรงๆแล้วล่ะก็ เม็ดยาที่ขาดแคลนอย่างที่สุดในเมืองเทียนหยางแห่งนี้นั่นก็คือยาเม็ดรวมพลังนี่เอง