ข้าแค่อยาก "กิน" อย่างเงียบๆ - บทที่ 33 เริ่มประมูล
“น่าสนใจแหะ”
ด้วยการที่นี่เป็นครั้งแรกของเจียงหยวนในการเข้าร่วมการประมูลของหอมังกรศักดิ์สิทธิ์ เขาจึงได้รับความรู้บางอย่างจากคำอธิบายของสาวงามตรงหน้า
หญิงสาวคนของหอมังกรศักดิ์สิทธิ์ได้เผยรอยยิ้มหวานก่อนจะพูดต่อ “ทุกห้องพิเศษในหอมังกรศักดิ์สิทธิ์จะมีคนของเราประจำอยู่ที่ด้านนอก หากท่านต้องการสิ่งใด ท่านสามารถร้องขอได้จากพวกเขาตามที่ท่านต้องการ”
“อื้ม เจ้าออกไปได้แล้วล่ะ”
ที่เขาพูดออกมาแบบนี้เพราะงานประมูลได้เริ่มขึ้นแล้ว
ในตอนนี้เขาเห็นว่าผ้าผืนสีขาวที่แขวนอยู่ในห้องของเขาได้บังเกิดแสงจ้าขึ้นมา พร้อมกับภาพฉากเหตุการณ์ที่ได้ปรากฎ
เสียงหนึ่งได้ดังขึ้นมาจากด้านนอกห้องมาเข้าหูของเขา
“ทุกท่าน งานประมูลในวันนี้ ได้เริ่มขึ้น ณ บัดนี้”
ในทันทีที่สิ้นเสียง ภาพก็ได้ฉายให้เห็นเป็นคนแก่ผู้หนึ่งที่เต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้ายืนอยู่กลางเวที ตรงหน้าของเขาได้มีสิ่งของที่ถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าสีดำ
“ข้าได้ยินมาว่าวันนี้มีของดีๆหลุดเข้ามา ข้าคิดว่าต้องมีบางคนเสียเงินเป็นพันๆอีกแน่ๆ”
“เจ้าไม่ได้อ่านรายชื่อนั่นรึ วันนี้มีทั้งตระกูลเจียง ตระกูลหม่า ตระกูลซู แถมยังมีกลุ่มหัวเสือเข้าร่วมด้วยนา”
….
“ของชิ้นแรก สมุนไพรระดับเหลือง ผลไม้จันทรา สามารถเพิ่มความเยาว์วัยของผู้คนได้ หลังจากกลืนกินเข้าไปแล้ว อายุขัยของคนๆนั้นจะเพิ่มขึ้นไปสิบปี หากเป็นผู้บ่มเพาะได้กลืนกินเข้า คนผู้นั้นสามารถคงความเยาว์วัยได้ถึงยี่สิบปี”
หลังจากชายแก่ได้พูดออกมา เขาก็ได้ดึงผ้าสีดำขึ้นไปไว้ในมือ
ผลไม้สีเหลืองอมเขียวได้ปรากฎขึ้นมาต่อหน้าทุกคน พร้อมกับคลื่นพลังที่แผ่ซ่านออกมาจากผลไม้ลูกนี้
“ผลไม้จันทรารึ ไม่น่าสนใจเท่าไหร่เลยแหะ”
“มันก็แค่ของเรียกน้ำย่อยเท่านั้นล่ะน่า”
เมื่อได้เห็นสิ่งของชิ้นแรกนี้ ไม่มีใครที่คิดสนใจมันเลยสักคน
เป็นตอนนี้ที่เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากห้องพิเศษ
“ห้าร้อยเหรียญทอง”
เมื่อเจียงหยวนได้ยินแบบนั้น เขาก็หันไปมองที่เฉียวเว่ยปราดหนึ่ง หลังจากที่ได้เห็นท่าทางราวกับเหม่อลอยของเธอแล้ว เขาก็เสนอราคาขึ้นมาในทันที “หนึ่งพันเหรียญทอง”
“อ้ะ ถ้านายน้อยไม่ต้องการมันไปปรุงยาล่ะก็ เฉียวเว่ยก็ไม่อยากได้มันหรอกนะคะ”
เฉียวเว่ยที่ราวกับรู้ความคิดของเจียงหยวนรีบส่ายหน้าออกมาในทันที
เจียงหยวนเมื่อได้ยินก็ยิ้มแล้วพูดออกมา “เว่ยเอ๋อ เจ้าไม่อาจบ่มเพาะได้ ถ้าเจ้าไม่กินของวิเศษเช่นนี้ลงไปแล้วเจ้าจะอยู่เคียงข้างข้าไปตลอดได้เยี่ยงใดกัน ฮื้ม”
“นายน้อย…”
เฉียวเว่ยเมื่อได้ยินก็มีแก้มแดงขึ้นมาเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาไม่กล้าจ้องมองตาของเจียงหยวนในตอนนี้อีก
แต่นี่เองก็ทำให้ผู้ที่เสนอราคาประมูลคนแรกไม่พอใจขึ้นมา
“ใครกันที่ต้องการแย่งผลไม้นี้กับข้า”
หม่าเหยาได้ขมวดคิ้วแน่นก่อนจะพูดกับหญิงสาวที่อยู่ในห้องเดียวกัน
กลายเป็นว่าผู้ประมูลคนแรกก็คือหม่าเหยา
“นายน้อย ข้าจะไม่ได้มันมาเหรอคะ”
ข้างๆหม่าเหยา หญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อผ้าที่เผยเรือนร่างออกมาอย่างที่สุดและแต่งหน้าอย่างหนักหน่วงได้ออเซาะอยู่ในอ้อมแขนของหม่าเหยา ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างยั่วยวนอีกครั้ง
ไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกเรียกว่าลูกผู้ชายได้เห็นหญิงสาวคนนี้ย่อมต้องจดจำนางได้ในทันที นางคือนางคณิกาอันดับหนึ่งแห่งหอโคมเขียวในเมืองเทียนหยาง ซูเม่ย
“ไม่ต้องห่วง ผลจันทราต้องเป็นของข้า”
หลังจากนั้นหม่าเหยาก็ได้ตะโกนออกไป “พันห้าร้อยเหรียญทอง”
“หึ หนึ่งพันห้าร้อยเหรียญทองนี่เป็นราคาสูงสุดของตลาดแล้ว ดูสิว่ามันจะกล้าแย่งชิงนายน้อยผู้นี้อีกรึเปล่า”
หม่าเหยาพูดออกมาอย่างภูมิอกภูมิใจ พร้อมกับสัมผัสอ่อนนุ่มที่แนบชิดแขนของเขาในตอนนี้
“นายน้อยใหญ่ช่างเก่งกาจนัก ิเสี่ยวเม่ยรักท่านมากจริงๆเจ้าค่ะ นายน้อย…”
“สองพันเหรียญทอง”
หม่าเหยาไม่คิดว่าเจียงหยวนจะหมายตาผลจันทรานี้เอาไว้แล้วเหมือนกัน
“ไอ้ฉิบ”
เมื่อหม่าเหยาได้ยินแบบนี้ เขาได้มีใบหน้าที่ถมึงทึงก่อนจะพูดบ่นออกมา “ผลไม้ผลนี้ ข้า นายน้อยสูงสุดแห่งตระกูลหม่า หม่าเหยาต้องการมัน ขอให้แขกทรงเกียรติห้องนั้นเห็นแก่หน้าข้าด้วย สองพันห้าร้อยเหรียญทอง”
“สองพันห้าร้อยหนึ่งเหรียญทอง”
เมื่อเจียงหยวนได้ยิน เขาก็พูดออกไปโดยไม่คิด หากว่ากันตรงๆ เขาไม่ได้ฟังด้วยซ้ำว่าคนที่กำลังแข่งกับเขานั้นก็คือหม่าเหยา