ข้าแค่อยาก "กิน" อย่างเงียบๆ - บทที่ 34 ยาวิญญาณเลือด
“นายน้อย ท่านนิสัยไม่ดีจริงๆ ท่านเสนอไปได้ยังไงกัน หนึ่งเหรียญทองน่ะ”
เฉียวเว่ยที่ได้ยินก็บ่นอุบออกมาในทันที
“บัดซบ ไอ้คนในห้องนั้นมันรนหาที่ตายชัดๆ”
หม่าเหยาเก็บความโกรธของตนเอาไว้ไม่ได้อีกหลังจากที่เห็นการกระทำอันยุแหย่ของเจียงหยวน
เขาได้กอดซู่เม่ยเอาไว้กับกายอย่างแนบแน่นก่อนจะพูดออกมา “สามพันเหรียญทอง”
แต่เป็นเพียงสิ้นคำ เสียงของเจียงหยวนก็ได้ดังขึ้นมา สามพันหนึ่งเหรียญทอง
ชายแก่ที่อยู่ด้านข้างได้เร่งหยุดหม่าเหยาที่เตรียมจะเสนอราคาแข่งต่อเอาไว้ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึก “นายน้อย พวกเราจะเพิ่มต่อไปแบบนี้ไม่ได้นะ ตอนนี้ราคาพอๆกับราคาสองเท่าของตลาด ไม่ดีแน่หากเรื่องนี้เข้าหูนายท่าน”
“แม่งเอ๊ย”
หม่าเหยาในตอนนี้ทำเพียงแค่สบถด่าออกมาได้เท่านั้น เพราะสุดท้ายแล้ว เขาไม่มีเงินมากเท่ากับเจียงหยวน ไม่สิ เขาไม่มีเงินเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ
“สามพันหนึ่งเหรียญทอง มีท่านใดต้องการที่จะเพิ่มราคาหรือไม่”
“สามพันหนึ่งเหรียญทอง ครั้งที่หนึ่ง”
“สามพันหนึ่งเหรียญทอง ครั้งที่สอง”
“ขาย”
ที่ตรงกลางลานประมูล ชายแก่ได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความดีใจ
ในห้องพิเศษขอเจียงหยวน
“นายน้อย…ของชิ้นนี้ออกจากแพ..”
“ไม่ต้องห่วง ข้ามีเงินน่ะ”
เมื่อพูดจบ เจียงหยวนก็ได้เขย่าถุงเก็บของของตน
งานประมูลยังคงดำเนินต่อไป ของชิ้นต่างๆได้ถูกประมูลต่อไปเรื่อยๆ
“ของชิ้นที่หก เม็ดยาชุดสุดท้ายของวันนี้ มันคือเม็ดยาระดับเหลือง ยาเทพโลหิต ยานี้สามารถช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก มันสามารถเปลี่ยนเลือดเสียที่คั่งข้างไว้ในร่างให้เป็นเลือดดี หรือก็คือมันมีสรรพคุณในการรักษากับผู้มีอาการทางเลือด สามารถช่วยยืดชีวิตของผู้กินเข้าไปได้”
หลังจากพูดจบ ชายแก่ก็ได้ยกผ้าสีดำขึ้นมา เผยให้เห็นกล่องไม้ที่มีเม็ดยาสีแดงเข้มอยู่ภายใน
“ของดี”
เพียงแค่เห็นเม็ดยาแวบแรก เจียงหยวนก็อยากได้ยาเม็ดนี้มาครอบครองในทันที
“นี่สิ อาหารมือหลัก”
ในตอนนี้เอง หม่าเหยาก็จับจ้องไปที่ยาเม็ดนี้เช่นเดียวกัน พร้อมกับตั้งใจมั่นในทันที นอกจากหญ้าตะวันคลั่งที่กลายเป็นของเจียงหยวนไปแล้ว นี่คืออีกสิ่งที่หม่าเหยาหมายตาเอาไว้
“สี่พันเหรียญทอง”
หม่าเหยาเสนอราคาเป็นคนแรก
เป็นอีกครั้งที่ทุกคนถึงกับสะดุ้งเฮือกจนต้องถอนลมหายใจออกมา
“เปิดราคาที่สี่พัน ช่างเป็นเม็ดยาที่ราคาสูงล้ำจริงๆ”
“ยาเม็ดนี้สามารถช่วยชีวิตผู้คนเอาไว้ได้ ต่อให้เป็นผู้ฝึกยุทธที่ใกล้ตาย ขอเพียงได้กินยาเม็ดนี้ลงไปก็ยังฟื้นคืนกลับมาสู่สภาพปกติได้ในทันที”
“งานนี้ต้องมีเรื่องดีๆให้ดูอย่างแน่นอน ฮ่าฮ่าฮ๋า”
….
แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีใครเสนอราคาออกมา
“สี่พันหนึ่งเหรียญทอง”
เป็นตอนนี้ที่เสียงที่คุ้นหูได้ดังขึ้นมา
“ไอ้ฉิบ ไอ้เวรนี่ต้องการจะแข่งกับข้าจริงๆสินะ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ หม่าเหยาก็ตกสู่สภาพสติแตกเรียบร้อยแล้ว เขาได้ตะโกนออกไปอย่างสุดปอด “ห้าพันเหรียญทอง”
“ห้าพันหนึ่งเหรียญทอง”
“พี่ชาย โปรดเห็นแก่หน้าหม่าเหยาผู้นี้บ้างเถอะ พวกเราจะได้ไม่ต้องมีเรื่องกันเพียงเพราะยาเพียงเม็ดเดียว”
หม่าเหยาที่คิ้วขมวดกำหมัดแน่น เขาที่พยายามสะกดข่มความโกรธของตัวเองเอาไว้เพราะกลัวงานจะเสียจึงได้ตะโกนพูดออกไป
“หม่าเหยารึ”
เมื่อได้ยินแบบนี้ ดวงตาของเจียงหยวนก็เปล่งประกาย และเขาก็ไม่ได้เพิ่มเงินประมูลอีกหนึ่งเหรียญอีกต่อไป
“เจ็ดพันเหรียญทอง”
หม่าเหยากัดฟันแน่นพร้อมสภาพโกรธเป็นฟืนไฟ
อย่างไรก็ตาม เจียงหยวนยังไม่รีบร้อนที่จะทำอะไรออกมา เพียงแค่พูดออกไปอย่างช้าๆ “หนึ่งหมื่นเหรียญทอง”
“เด็กพวกนี้บ้าไปแล้วรึไง กับอีแค่ยาระดับเหลืองเพียงเม็ดเดียวให้ราคาตั้งหนึ่งหมื่นเหรียญทอง”
หม่าเหยาที่แต่เดิมคิดจะประมูลยาเทพโลหิตนี้ในราคาเจ็ดพันเหรียญทองที่ถือว่าเป็นราคาสูงมากแล้ว เขานึกไม่ถึงว่าเจียงหยวนจะเสนอราคาไว้ที่หนึ่งหมื่นเหรียญทองขึ้นมา
นี่ทำให้ชายชราที่ยืนอยู่ข้างๆขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วพูดออกมา “นายน้อย พวกเราไม่อาจแข่งราคาไปมากกว่านี้ พวกเราไม่ได้มีเงินมาก…”
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะจัดการไอ้เด็กนี่เอง”
“หนึ่งหมื่นหนึ่งเหรียญทอง”
หลังจากหม่าเหยาพูดออกมา เขาที่ในตอนแรกท่าทางโกรธเกรี้ยวจนควันออกหูได้มีท่าทางที่สงบเงียบราวกับกำลังพึงพอใจ
แต่…
เจ้าของเสียงก่อนหน้ากลับไม่เปล่งคำพูดอันใดออกมา
“หนึ่งหมื่นหนึ่งเหรียญทอง มีท่านใดต้องการที่จะเพิ่มราคาหรือไม่”
“หนึ่งหมื่นหนึ่งเหรียญทอง ครั้งที่หนึ่ง”
“หนึ่งหมื่นหนึ่งเหรียญทอง ครั้งที่สอง”
“ขาย ยาเม็ดนี้ตกเป็นของนายน้อยตระกูลหม่า”