ข้าแค่อยาก "กิน" อย่างเงียบๆ - บทที่ 6 สาวรับใช้
“ปล่อยข้านะ เจ้าจะทำอะไร ข้าเป็นสาวรับใช้ของนายน้อยนะ”
เจียงหยวนเมื่อกลับถึงบ้านก็ได้ยินเสียงกรีดร้องกระแทกหู
“ฮี่ฮี่ฮี่ ยัยตัวดี พ่อคนนี้เล็งเจ้ามาตั้งนานแล้ว ข้าจะใช้เจ้ามาชำระแค้นของข้าให้ได้ในวันนี้ เจียงหยวนนั่นไม่ต้องใช้เม็ดยารวมพลังถึงห้าเม็ดอย่างนั้นหรอก มันเหมาะกับข้ามากกว่า”
ภายในสวนของห้องพักเจียงหยวน มีชายหนุ่มคนหนุ่มที่มีใบหน้าชั่วร้ายและกระอยู่ทั่วทั้งใบหน้า เขาอยู่ในชุดผ้าไหมและกำลังล้อมสาวน้อยคนหนึ่งเอาไว้กับคนของตน
ส่วนสาวน้อยคนนี้ใบหน้าของนางดูมีทรงรีรูปไข่ ดวงตาเรียวคมราวกับเมล็ดอัลมอนด์ และสีของดวงตาที่กระจ่างใส พร้อมผมที่ยาวปกหัวไหล่ เรียกได้ว่าดูดีไม่เป็นลองใคร ขัดกับเสื้อผ้าพื้นๆอย่างไม่ลงตัว
“ไม่ อย่าได้คิดจะทำแบบนั้น ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรข้า นายน้อยจะไม่ไปล่อยเจ้าเอาไว้”
เสียงของสาวน้อยที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวได้พูดออกมาอย่างร้องลั่น
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้ขยะนั่นน่ะนะจะช่วยเจ้า แค่ตัวมันเองยังเอาตัวไม่รอดเลย”
“ลูกพี่ ข้าว่ายัยนี่น่าจะหอมหวานไม่น้อยเลยทีเดียว มองดีๆแล้วข้าว่ายัยนี่ยังดูดีกว่าสาวงามของหอฤดูใบไม้ผลิซะอีก ข้าว่าเป็นบุญของนางนะที่ได้พวกเราเป็นสามี ไม่ใช่ไอ้ขยะนั่น”
“เจ้า…ถ้าเจ้ากล้าทำอะไรข้าล่ะก็ ข้าจะฆ่าตัวตายให้พวกเจ้าได้เห็น”
สาวน้อยจ้องมองไปที่เหล่าผู้ชายที่รายล้อมไว้อย่างจงเกลียดจงชัง ก่อนที่จะทำใจแข็งวิ่งไปยังกำแพงหินที่อยู่ด้านหลัง
“นายน้อย ข้าหวังว่าชาติหน้า ข้าจะได้รับใช้ท่านอีก”
“ผลั๊ก”
สาวน้อยที่ในตอนแรกคิดจะวิ่งเอาหัวชนกำแพงหินนั้น เมื่อรับรู้ว่าสิ่งที่ชนนั้นอ่อนนุ่มและถูกคว้าข้อมือเอาไว้ นางที่ตื่นกลัวอยู่ก่อนก็ได้รีบดิ้นรนขัดขืน
“เฉียวเว่ย นี่ข้าเอง”
เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เฉียวเว่ยก็ได้เงยหน้าขึ้น และจ้องมองไปที่ดวงตาของคนตรงหน้าอย่างนิ่งลึก
เฉียวเว่ยเป็นสาวรับใช้ส่วนตัวของเจียงหยวน และนางเองก็ถือได้ว่าเป็นคนรักของเขาคนหนึ่งตั้งแต่เด็ก
อย่างไรก็ตาม ตัวนางที่เป็นเพียงสาวรับใช้ นี่ทำให้นางทำได้เพียงเป็นคนรับใช้ของเจียงหยวนเท่านั้น ภายหลัง แม้ว่าเจียงหยวนจะกลายเป็นเพียงคนธรรมดาไปแล้ว นางก็ยังคงดูแลรับใช้เขาอย่างไม่ห่างกาย จะเรียกว่าเป็นเพียงคนเดียวที่ยังไม่ทิ้งเขาไปก็ว่าได้
“ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้ตัวต้นเหตุมาแล้ว”
เมื่อเห็นเจียงหยวนมาปรากฎอยู่ตรงหน้า ชายท่าทางกักขฬะที่มีกะอยู่เต็มใบหน้าก็แสดงท่าทางหัวเราะออกมาอย่างสาสมใจ
เจียงหยวนได้หันกลับไปมองในทันที เขาเองคุ้นเคยกับชายตรงหน้าคนนี้ไม่น้อย เพราะชายคนนี้เป็นคนที่คอยรังแกเขาบ่อยครั้งอย่างที่สุดในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ลูกชายของเจียงหวู่ เจียงหมิง
“ส่งยาเม็ดรวมพลังของแกมาซะ แล้วให้ข้าอัดแกซะเพื่อระบายความโกรธแค้นในใจ แล้วก็ ส่งสาวรับใช้ของแกมาให้พวกเราด้วย”
ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเจียงหมิงได้ตะโกนออกมา
ชายคนนี้เองก็เจียงหยวนก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี คนคนนี้คือคนรับใช้ที่มาตามเขาไปโถงห้องประชุมก่อนหน้า และเป็นเพราะชายคนนี้ที่ทำให้เจียงหมิงมายืนอยู่ตรงนี้และต้องการปล้นชิงทุกอย่างไปจากเจียงหยวน
เจียงหยวนส่ายหน้าไปมาก่อนจะพูดตอบไปด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ “ข้ากินพวกมันไปหมดแล้ว จะให้ข้าสำรอกมาให้เจ้ากินไหมล่ะ”
“กินไปแล้ว ขยะอย่างแกเนี่ยนะกินมันไปจนหมด”
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจียงหมิงก็รู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาอย่างหน้าด้านๆ ยาเม็ดรวมพลังที่มันหมายที่จะได้รับมาครอบครองทั้งหมดหายไปแบบนี้ นี่ทำให้มันทำได้เพียงแค่โยนความขุ่นเคืองทั้งหมดที่มีไปหาเจียงหยวน
“หากตัวข้าไม่เหมาะสมแล้ว ขยะเช่นเจ้าจะไปเหมาะสมได้เช่นไร”
เจียงหยวนพูดออกมาด้วยสายตาที่เย็นเฉียบ เพราะสิ่งที่คนเหล่านี้ได้ทำมาทั้งหมดได้กระตุ้นความโกรธในใจของเขาแล้ว
เมื่อได้ยินแบบนี้ เจียงหมิงก็ได้ชี้หน้าด่าเจียงหยวนแล้วดุด่าออกมา
“เจ้ากล้าที่จะพูดจายอกย้อนกับข้ารึ ขนาดพ่อของเจ้ายังทำได้เพียงปล่อยเลยในสิ่งที่ข้าทำกับเจ้าเลย แล้วมาในตอนนี้เจ้ายังมีหน้ามาวางท่าทำตัวเป็นจอมยุทธผู้สูงส่งอีกอย่างนั้นเรอะ”
“ใช่ เจ้ามันก็แค่ขยะชิ้นหนึ่ง”
“เศษขยะอย่างเจ้าเนี่ยนะมาทำวางท่าใหญ่โตแบบนี้ หน้าไม่อายจริงๆ”
“ที่ลูกพี่ของพวกเราด่าเจ้าน่ะถูกแล้ว กล้าดียังไงที่ขยะอย่างเจ้ากินยาเม็ดรวมพลังไปจนหมด”
…
เมื่อเห็นเจียงหมิงที่ในตอนนี้ใช้นิ้วชี้มาที่หน้าของตน สายตาที่เย็นยะเยียบของเจียงหยานก็ราวกับจะฉายแสงที่เย็นยะเยียบไม่แพ้กันออกมาได้ และพูดว่า“ลดมือลงซะ ถ้าไม่อย่างนั้น ข้าจะหักนิ้วของเจ้าเสีย”