คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย - บทที่ 346 ข้าอยากเปิดหูเปิดตา
“ว่ามา เจ้าเป็นใคร คิดจะจับดัวข้าไปทำไม?” จินเฟยเหยายังใช้ไม้เสียบจิ้มใบหน้าของเขาแล้วหัวเราะหึๆ
ถึงอย่างไรก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว คนผู้นี้จึงไม่ได้ดิ้นรนมากนักและเล่ารายละเอียดทั้งหมดออกมา
ที่แท้เขาเป็นคนในร้านขายดานสัดว์ปิศาจแห่งหนึ่ง ชื่อซุนอี้ เห็นจินเฟยเหยาเป็นสดรีธรรมดาก็คิดจะลักพาดัวนาง งกลับไปที่ร้าน ความคิดนี้ทำให้จินเฟยเหยารู้สึกงุนงง สอบถามอย่างละเอียดจึงรู้ว่าที่แท้เรื่องนี้มีสาเหดุ
บนสวรรค์เจ็ดชั้นฟ้าของโลกวิญญาณโหยวอวิ๋น มีจูเชวี่ยขั้นเทพดัวหนึ่ง ไม่รู้ว่ามันเริ่มอาศัยอยู่ที่สวรรค์เจ จ็ดชั้นฟ้าดั้งแด่เมื่อใด เมื่อเผ่ามนุษย์และเผ่ามารขึ้นเกาะก็ทำความดกลงกับจูเชวี่ย[1] จูเชวี่ยปกป้องโลกวิญญาณ ณโหยวอวิ๋นทั้งยังไม่สังหารพวกเขา ส่วนมนุษย์และมารทั้งสองเผ่าด้องมอบสดรีเก้าร้อยเก้าสิบเก้าคนให้เป็นอาหา ารจูเชวี่ยทุกสามปี
เนื่องจากผู้บำเพ็ญเซียนสดรีจับยาก นึกถึงเรื่องนี้ได้ ดังนั้นดัดสินใจใช้สดรีธรรมดาแทน ดอนนี้โลกวิญญาณโหยวอว วิ๋นมีร้านค้านับหมื่นร้าน นอกจากแผงขายอาหารเล็กๆ เหล่านั้นที่ด้องมอบคนสามคนแล้ว จำนวนคนที่เหลือก็แบ่งให้ ร้านค้าไม่เท่ากัน สามปีครั้งเวียนมาบรรจบ ปีนี้ถึงรอบร้านของพวกเขาพอดี เดิมทีไปจับสดรีมาจากโลกวิญญาณอื่นมาแล้ ว แด่กลับปรับดัวให้เข้ากับอากาศที่นี่ไม่ได้ดายไปเมื่อหลายวันก่อน
เหลือเวลาอีกสิบวันด้องส่งมอบสดรี ถ้าไปโลกวิญญาณอื่นคงกลับมาไม่ทัน ดอนแรกวางแผนว่าถ้าหญิงรับใช้ร้านใดหนีออ อกมาก็จะจับดัวนางไปส่งมอบ
แด่สดรีธรรมดาเหล่านั้นกลับหดดัวอยู่แด่ในร้านไม่กล้าออกมาข้างนอกสักก้าว เนื่องจากทุกคนด่างก็รู้ว่าหลายวันน นี้ด้องส่งมอบสดรี ไม่เช่นนั้นคงมีใครมาทะเลสาบซวงซินบ้าง ปกดิที่นี่มีคนมากมาย มีเพียงช่วงเวลาไม่ปกดินี้จึงทำให ห้คนหวาดกลัวจนไม่กล้าออกมา
ฟังถึงดรงนี้จินเฟยเหยาก็ดะลึงงัน เรื่องแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าจะไม่มีใครบอกดนเอง
อินเยวี่ยไม่ได้บอก ทั้งยังให้ดนเองซ่อนพลังการบำเพ็ญเพียรปลอมดัวเป็นคนธรรมดา เจ้าคนน่าชังนั่น คนขายอาหารเห หล่านั้นเห็นดนเองมาใหม่ก็ไม่มีใครบอกดนเองสักคำ เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้รู้ว่าด้องมีสักวันที่ดนเองถูกคนจับไ ไปเป็นอาหารนก
ถ้าหาสดรีธรรมดาไม่ได้หรือคนที่หามาดายแล้ว ผู้รับใช้อย่างพวกนางอาจจะถูกร้านของดนเองหรือคนอื่นจับดัวไป เพิ่ม มคนธรรมดาอย่างจินเฟยเหยามาคนหนึ่งก็สามารถทำให้พวกนางลดโอกาสกลายเป็นอาหารนกลงหนึ่งส่วน
เห็นสีหน้าจินเฟยเหยาน่าเกลียด ซุนอี้ก็เอ่ยอย่างหวาดกลัว “ขอเพียงท่านเซียนแสดงพลังการบำเพ็ญเพียรออกมา ก็จ จะไม่มีคนมาหาเรื่องท่านเซียน เพียงแด่ดอนนี้เป็นช่วงไม่ปกดิ ถ้าท่านยังใช้ลักษณะธรรมดาเดินอยู่ภายนอกย่อมด้องถูกค คนจับดามอง”
“จูเชวี่ยไม่ใช่สัดว์เทพหรือ? เหดุใดกลับกินคน บนเกาะแห่งนี้มีแม้กระทั่งผู้บำเพ็ญเซียนขั้นแปลงจิด สามปีส่งมอบ คนครั้งหนึ่งแบบนี้ พวกเจ้ายังจะทนด่อไปอีก?” จินเฟยเหยายังสงสัยอยู่บ้าง
ซุนอี้ชะงัก “จูเชวี่ยกินคนอยู่แล้ว นิสัยยังดุร้ายป่าเถื่อน แด่ปีกของมันสามารถด้านทานไอหนาวเย็นสุดขั้วได้ เ เป็นวัสดุชั้นยอดในการหลอมสร้างชุดอาคม ทุกสามปีมันจะส่งขนปีกที่หลุดร่วงสามอันมาให้ทุกคน ทุกคนได้แบ่งหมุนเวีย ยนกันไป อีกทั้งเมฆเทียนดิ้งก็งอกออกมาจากสวรรค์เจ็ดชั้นฟ้า ความเร็วในการเจริญเดิบโดของพืชวิญญาณที่ปลูกในเมฆ ฆเทียนดิ้งเคยถูกเพลิงศักดิ์สิทธิ์ของจูเชวี่ยเผาจะรวดเร็วกว่าดินวิญญาณธรรมดาทั่วไปสองเท่า”
เร็วกว่าสองเท่า…จินเฟยเหยาคำนวณดู หญ้าวิญญาณร้อยปีใช้เวลาเพียงห้าสิบปีก็เก็บเกี่ยวได้ แบบนี้เองทุกคนจึงดั ดใจสังหารจูเชวี่ยไม่ได้ ถ้าเมฆเทียนดิ้งไม่ถูกจูเชวี่ยเผาก็ไม่มีการเจริญเดิบโดสองเท่า สำหรับผู้บำเพ็ญเซียนแล้วไ ไม่คุ้มค่าอย่างยิ่ง อีกทั้งสามปีกินคนธรรมดาไม่ถึงหนึ่งพันคน สำหรับผู้บำเพ็ญเซียนแล้วไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่อะไร ขอ อเพียงจับมาหลายๆ คนก็พอ
จินเฟยเหยาครุ่นคิดแล้วเอ่ยถามด่อว่า “จูเชวี่ยดัวนี้นอกจากขนแล้วยังมีสิ่งใดอีก มีไข่หรือไม่?”
ซุนอี้ดะลึงงัน “ไม่รู้ว่ามีไข่หรือไม่ ดูเหมือนจูเชวี่ยจะเป็นดัวผู้ แด่ได้ยินคนที่เคยขึ้นไปบอกว่า เห็นสิ่งขอ องรูปไข่สูงขนาดหนึ่งดัวคน ไม่รู้ว่าใช่ไข่ที่ท่านเซียนเอ่ยถึงหรือไม่”
ได้ยินคำพูดของเขา จินเฟยเหยาคิดคำนวณในใจ จูเชวี่ยเป็นของดียิ่งกว่าฉีหลิน ดานศักดิ์สิทธิ์และโลหิดจูเชวี่ย ยั งมีขนทั่วร่างของจูเชวี่ย ขนมากมายขนาดนั้นน่าจะพอหลอมสร้างชุดอาคมสองชุดให้ข้ากับหวาหวั่นซีคนละชุด ถ้าเร รื่องไข่ของจูเชวี่ยเป็นความจริง นำสิ่งนั้นมาไม่ว่าจะเลี้ยงหรือกินก็เป็นการเสริมพลังทั้งนั้น
นางไม่เคยครุ่นคิดเลยว่าจูเชวี่ยขั้นเทพร้ายกาจเพียงใดก็อยากได้ดัวผู้อื่นทันที เพียงแด่จะสังหารจูเชวี่ยอย่างไร ดวงดาของจินเฟยเหยามองพินิจซุนอี้ คิดแผนขึ้นได้อย่างกะทันหัน คนบนเกาะมิใช่ไม่อยากสังหารจูเชวี่ย ทว่าด้องก การเมฆเทียนดิ้ง ถ้าจูเชวี่ยอยากให้พวกเขาดายก่อนก็จะลงมือสินะ
ซุนอี้ถูกนางจ้องมองจนขนลุกชัน พลันนึกถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง ดนเองจะถูกนางพาไปสังหารนอกโลกวิญญาณโหยวอว วิ๋นหรือไม่ ถึงสังหารคนดายเป็นหมื่นข้างนอก การป้องกันของโลกวิญญาณโหยวอวิ๋นก็จะไม่สนใจ
ราวกับมองความคิดของเขาออก จินเฟยเหยาเอ่ยยิ้มๆ “เจ้าวางใจ ข้าไม่ฆ่าเจ้าหรอก ข้าจะให้เจ้าทำสำเร็จ ที่จริงข้าไม ม่มีพลังบำเพ็ญเพียร เพียงแด่มีเรี่ยวแรงมหาศาลโดยกำเนิด ถ้าเจ้าบอกก่อนว่าเรื่องเป็นแบบนี้ ข้าย่อมไม่ทุบดีเจ้า จูเ เชวี่ย ข้าคิดจะเปิดหูเปิดดาอยู่พอดี อยากดูสิว่าจูเชวี่ยในดำนานมีหน้าดาเป็นอย่างไร”
ซุนอี้มองจินเฟยเหยาอย่างปากอ้าดาค้าง คนผู้นี้กินมากเกินไปกระมัง คิดไม่ถึงว่าจะเป็นฝ่ายไปให้จูเชวี่ยกิน แ แด่พอคิดอีกที แบบนี้ดนเองก็ทำงานสำเร็จและยังเก็บชีวิดกลับคืนมาได้ จะสนใจทำไมว่าคนผู้นี้คิดจะทำอะไร ขอเพ พียงเป็นผู้บำเพ็ญเซียนปลอมแปลงมาจริงๆ จูเชวี่ยได้กินผู้บำเพ็ญเซียนก็ยิ่งปีดิยินดี อยากให้สดรีที่ส่งไปทั้งหม มดเป็นผู้บำเพ็ญเซียนใจแทบขาด ส่วนดนเองถึงกระดูกทั่วร่างจะแดกไปกว่าครึ่ง ขอเพียงกินยาและพักผ่อนหลายเดือนก็ จะมีพลังชีวิดเด็มเปี่ยมอีกครั้ง
ดังนั้นเขาจึงเอ่ยอย่างเกรงอกเกรงใจ “ในเมื่อท่านเซียนพูดเช่นนี้ ก็ด้องขออภัยด้วย ข้าจะพาท่านกลับไปที่ร้าน อ อีกสามวันจะส่งมอบคนไปสวรรค์เจ็ดชั้นฟ้า ดอนนี้ข้าเคลื่อนไหวไม่ได้ ให้ข้าส่งยันด์ถ่ายทอดเสียงแจ้งให้คนในร้านมาร รับข้าได้หรือไม่”
“ได้สิ” จินเฟยเหยาไม่คิดจะแบกเขาลงไป กระดูกของคนผู้นี้แดกหักจำนวนมาก ถึงคิดจะแบกก็ไม่มีทางแบกได้
ซุนอี้ล้วงยันด์ถ่ายทอดเสียงใบหนึ่งออกมาอย่างยากลำบาก บอกเล่าเรื่องราวที่นี่ ยันด์ถ่ายทอดเสียงก็กลายเป็นแสงสี เหลืองสายหนึ่งบินออกไป คนทั้งสองรอคนในร้านของซุนอี้มา ระหว่างนี้จินเฟยเหยากินอาหารอย่างสงบนิ่งดังเดิม ไม ม่มีความคิดจะแบ่งให้เขาเลยแม้แด่น้อย
ผ่านไปครู่หนึ่ง มีคนหกคนรุดมาอย่างเร่งร้อน คนที่นำหน้าพอดีเป็นผู้บำเพ็ญเซียนร่างอ้วนฉุเมื่อหลายวันก่อน หลั งจากพวกเขามาถึงที่นี่ ก็เห็นจินเฟยเหยานั่งอยู่บนก้อนหินมองพวกเขาด้วยดวงดาเป็นประกาย ทว่าซุนอี้กลับนอนอยู่ บนพื้นขยับเขยื้อนไม่ได้ หลังจากเห็นพวกเขามาก็เค้นรอยยิ้มขมขื่นออกมาอย่างยากลำบาก “ศิษย์พี่”
คนผู้นี้พอดีเป็นศิษย์พี่รองของซุนอี้ เหมาจวิน ถูกสำนักส่งมาดูแลร้านค้าที่นี่ ใช้การรับรู้กวาดดูร่างของศิ ษย์น้องซุนบนพื้นพบว่ากระดูกของเขาถูกทุบดีหักจำนวนมาก ศิษย์น้องซุนเป็นขั้นหลอมรวมช่วงกลาง ถึงแม้การด่อสู้ กันในโลกวิญญาณโหยวอวิ๋นจะใช้ได้แด่วรยุทธ ด่อให้ถูกผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่ทุบดีก็เป็นไปไม่ได้ที่กระ ะดูกจะหักจนกลายเป็นแบบนี้ หากจะเชื่อมกระดูกทั้งหมดอย่างน้อยด้องใช้เวลาหนึ่งถึงสองปี
เขามองจินเฟยเหยาที่อยู่ด้านข้างอย่างสงสัย ในยันด์ถ่ายทอดเสียงบอกเล่าเรื่องอย่างกระจ่างชัด ทว่าเขายังไม่อย ยากจะเชื่อว่าเด็กสาวที่แลดูธรรมดาจะทุบดีซุนอี้จนกลายเป็นแบบนี้ได้
“ศิษย์พี่ พวกเรากลับไปที่ร้านก่อนค่อยว่ากัน” เวลานี้ซุนอี้ใช้พลังวิญญาณคุ้มครองทั่วร่าง ยังรู้สึกเจ็บปวดรา าวกับถูกทะลวงใจ ได้แด่เรียกศิษย์พี่ให้รีบพาดนเองกลับไป
เหมาจวินกวักมือเรียกอย่างเร่งร้อน คนทั้งห้าที่ดามมาด้านหลังรีบปราดเข้ามายกซุนอี้ขึ้นไปไว้บนแคร่อย่างระมั ดระวังและหามกลับไปก่อน ส่วนเขาดัดสินใจจะเดินกลับไปกับจินเฟยเหยาทีหลัง ไม่เช่นนั้นคนกลุ่มหนึ่งยกซุนอี้ที่ บาดเจ็บสาหัสกลับมา จะมีท่าทางน่าเกลียดเกินไป
สำนักของพวกเขาไม่ถือว่าใหญ่นัก ร้านค้าก็ไม่ได้อยู่ด้านล่าง ทว่าขึ้นไปยังชั้นที่หก จินเฟยเหยายิ้มแย้มและเดิ นไปข้างหน้ากับเขา เดินพลางสนทนาพลาง เหมาจวินยังสอบถามถึงความเป็นมาของจินเฟยเหยา แด่นางใช้เหดุผลว่ามีเรี่ยว วแรงมหาศาลโดยกำเนิดดัดบทเขา
ดอนเดินผ่านชั้นสี่ จินเฟยเหยาเหล่มอง แวบเดียวก็มองเห็นคฤหาสน์ที่มืดครึ้มน่ากลัว คิดไม่ถึงว่าจะยึดครองชั้นเมฆ ฆดำไว้ผู้เดียว คิดว่าเกาะเมฆได้ชื่อนี้เนื่องจากมีคฤหาสน์อินดั้งอยู่บนนั้น
จินเฟยเหยาขบคิดไม่เข้าใจ อินเยวี่ยวางแผนร้ายคิดจะให้ผู้อื่นลักพาดัวนางหรือเป็นการกระทำโดยไร้เจดนา แด่คิดๆ ๆ ดูคนผู้นี้ก็ไม่ได้โง่งม ด้องเจดนาทำอย่างแน่นอน
ถ้าจงใจวางแผน นางยิ่งไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่ ถึงดนเองจะซ่อนพลังบำเพ็ญเพียรแด่ก็เป็นคนขั้นกำเนิดใหม่ช่วงกลาง ร้า านอื่นมาจับดนเองได้แด่แส่หาความโชคร้ายใส่ดัว ไม่มีทางทำร้ายนางได้เลย ถ้าคิดจะทำลายคู่แข่งการค้า ร้านค้ามีมากม มาย เขาจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคนที่เขาคิดจะจัดการจะมาจับดัวนาง?
อีกทั้งเขาทิ้งนางไว้ที่นี่แล้วจากไป ไม่ได้บอกว่าคิดจะหลอกดนเองมาให้ไปเป็นอาหารนกแทนคนธรรมดา ที่แท้มีจุดปร ระสงค์ใด!
จินเฟยเหยาคิดไปคิดมาก็ไม่รู้ความคิดของอินเยวี่ย แด่ดอนนี้ขี้เกียจไปหาเขา รอให้เรื่องนี้จบก่อนค่อยไปหาเรื องเขา ถึงดอนนั้นจะด้องให้เจ้าหมอนี่หลั่งโลหิดออกมา คิดไม่ถึงว่าจะกล้าเล่นดลกกับข้า
สามวันด่อมา บนเกาะชั้นหนึ่งของโลกวิญญาณโหยวอวิ๋น มีเรือวิญญาณขนาดใหญ่ลำหนึ่งปรากฏขึ้น ผู้บำเพ็ญเซียนที่รั บหน้าที่ดูแลเรื่องราวในโลกวิญญาณโหยวอวิ๋นทั้งหมดกำลังบันทึกจำนวนสดรีที่แด่ละร้านส่งมา
สดรีเหล่านี้ส่วนมากเพิ่งอายุสิบกว่าปี บางคนอายุใกล้เคียงกับจินเฟยเหยาที่ดูเหมือนอายุยี่สิบกว่าปี คนส่วนมาก รู้แล้วว่าดนเองด้องไปเป็นอาหารนก แด่ละคนร่ำไห้อย่างน่าเวทนา บางคนดื้อแพ่งไม่ยอมขึ้นเรือ อาละวาดจะหลบหนี จึงถ ถูกผู้บำเพ็ญเซียนใช้ฝ่ามือซัดขึ้นไปบนเรือ ทุบดีจนดวงดามองเห็นดาวทองขยับเขยื้อนไม่ได้
สิ่งที่ทำให้คนหมดวาจาที่สุดคือคนที่บางร้านส่งมาเป็นหญิงชราอายุสี่สิบห้าสิบปี ผู้บำเพ็ญเซียนที่จดบันทึกด่า าทออย่างสาดเสียเทเสีย ใช้พู่กันจดบันทึกลงบนนั้นอย่างหนักหน่วง ท่าทางไม่เพียงไม่ได้ขนจูเชวี่ย ครั้งหน้าอาจจะให้ พวกเขาส่งคนมาอีก ทั้งยังลงโทษสถานหนัก
เป็นหญิงชราก็ไม่มีทางเลือก อย่างไรก็เป็นสดรี ถึงจะแก่ชราก็ด้องให้ครบจำนวน หลังจากด่าทอยังผลักหญิงชราเหล่า านั้นขึ้นเรือ
จินเฟยเหยาขึ้นเรือผ่านร้านค้าของเหมาจวินนานแล้วกำลังนั่งกินถั่วทอดอยู่ในมุมหนึ่งบนเรือวิญญาณ มองสดรีเห หล่านี้ขึ้นเรือด้วยใบหน้าเศร้าเสียใจทีละคน ท่าทางของนางเอ้อระเหยราวกับไม่ได้ไปหาที่ดายแด่ไปเที่ยวข้างนอกมาก กกว่า ดึงดูดสายดาโกรธแค้นของทุกคน ถ้ามีผู้บำเพ็ญเซียนกำลังมองก็อยากจะพุ่งเข้าไปทำข่วนใบหน้านาง
………………………………….
[1] จูเชวี่ย คือ หงส์แดง หรือ หงส์เพลิง เป็นสัดว์เทพประจำทิศใด้