คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย - บทที่ 369 ชดใช้
เส้นทางในพื้นที่ว่างและวงเวทส่งตัวคล้ายกัน ทว่ากลับแตกต่างกัน เมื่อจินเฟยเหยาที่หัวหมุนทรงตัวไม่อยู่ พอเห็นแสงสว่างในความมืดมิดคนก็อยู่เหนือผืนทะเลสีดำสนิทแล้ว นางอ อดหรี่ตาไม่ได้ อัสนีบาตกำลังวูบวาบไปรอบด้านอย่างมืดฟ้ามัวดิน
มองกลางอากาศแวบหนึ่ง เป็นเมฆดำ สายฟ้า และพายุฝนฟ้าคะนองเต็มตา ทั้งยังมีคลื่นพุ่งขึ้นมา นางนึกว่าตนเองข้ามเส้นทางล้มเหลวจึงร่วงลงในน่านน้ำอันดุร้ายผืนนั้น
กลางอากาศอันตรายเกินไป นางจึงสลายพลังวิญญาณอุ้มพั่งจื่อร่วงลงในน้ำ โผล่ออกมาบนผิวทะเลแค่ศีรษะ เวลานี้ไม่ว่าผิวทะเลหรือกลางนภาล้วนเป็นผืนสีดำสนิท ไม่เห็นศีรษะของจินเฟย ยเหยาที่ริมทะเลเลยสักนิด
นางเพิ่งลงในทะเล พื้นที่ว่างก็บิดตัวแล้วโยนฮุ่นตุ้นออกมา
ฮุ่นตุ้นกระพือปีกมองไปรอบด้านอย่างประหลาดใจก่อน จากนั้นพลันตระหนักเรื่องหนึ่งได้ นางเป็นอิสระแล้ว นี่เป็นเรื่องที่น่ายินดี ทว่าก่อนจากไปต้องคิดบัญชีเรื่องมู่อวี๋กับเทาเที่ย ก่อน ดังนั้นนางจึงใช้การรับรู้กวาดดูในทะเล บนผิวทะเลปราศจากสิ่งที่มีพลังวิญญาณ อย่างมากที่สุดก็มีสัตว์ทะเลบางตัวถูกตีสลบลอยอยู่ในน้ำ เคลื่อนไหวขึ้นลงตามคลื่น
จินเฟยเหยาลอยอยู่บนผิวน้ำ กำจัดพลังวิญญาณทั้งหมดในร่างปลอมตัวเป็นซากสัตว์ทะเลธรรมดา สภาพแวดล้อมที่นี่เลวร้ายฮุ่นตุ้นคงอยู่ไม่นานก็จะถูกสายฟ้าเหล่านี้ผ่าให้ตกลงมาในทะเลห หรือทำให้นางตกใจหนีไป
ค้นหาในสายฟ้าอยู่หลายรอบ ฮุ่นตุ้นก็ไม่พบเห็นเจ้าโง่เทาเที่ย สงสัยว่าเทาเที่ยจะถูกสะบัดออกจากเส้นทางกลางคัน ไม่ได้ถูกโยนมาไว้ที่นี่กับตนเอง
เวลานี้มีสายฟ้าฟาดมาข้างกาย สายฟ้าที่เหลือเหล่านั้นโจมตีลงบนปีกของนาง แบ่งแยกสมาธิของนางที่จดจ่ออยู่กับมู่อวี๋ออกมา คิดๆ ดูแล้วตนเองเพิ่งได้รับอิสระจะถูกฟ้าผ่าตายไม่ได้ ดังนั้นฮุ่นตุ้นที่ไม่ค่อยชอบน้ำทะเลจึงรีบบินเลียบผิวน้ำออกไปไกลๆ คิดจะออกจากใต้เมฆดำที่มีฟ้าผ่าไม่หยุดแถบนี้
เห็นฮุ่นตุ้นเหลียวซ้ายแลขวาแล้วบินจากไป จินเฟยเหยาก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า เมฆดำสีดำสนิทขนาดนี้ เกรงว่าในระยะเวลาสั้นๆ คงไม่สลายไป คิดถึงตรงนี้นางจึงนำกระจกสภาพโลกวิญญ ญาณออกมา คิดจะดูว่าตนเองถูกโยนมาไว้ที่ใดกันแน่ ส่วนพั่งจื่อมุดเข้าไปในเสื้อผ้าของนางนานแล้วเพราะกลัวว่าจะถูกคลื่นขนาดใหญ่ซัดไป
หลังจากกระจกสภาพโลกวิญญาณแสดงแผนที่ จินเฟยเหยาค้นพบว่าตนเองมิได้อยู่ที่น่านน้ำเลวร้ายแห่งนั้น เหนือศีรษะเป็นเช่นนี้น่าจะแค่โชคร้ายจึงมาเจอเข้าพอดี ที่นี่อยู่ห่างจากโลกว วิญญาณเหอเซี่ยสิบกว่าโลกวิญญาณ เวลาแค่ชั่วพริบตาก็ถูกเส้นทางที่ไม่เสถียรโยนมาไว้ที่นี่
ถือว่านางโชคดี ห่างจากนางไม่ไกลนักมีสถานที่ชื่อโลกวิญญาณชิงหลิว เพียงแต่ตำแหน่งแตกต่างจากโลกวิญญาณอื่นๆ อยู่บ้าง
“โลกวิญญาณชิงหลิว ในเมื่อมาแล้วก็ไปดูหน่อย ไม่รู้เรื่องโลกวิญญาณใหม่แห่งนี้เลยสักนิด ไปสำรวจสักรอบก็ดี ต่อไปจะได้ไม่ถูกคนขาย” จินเฟยเหยาใช้มือปาดน้ำบนใบหน้า หลังพูดกับ บพั่งจื่อก็นำยาเสริมพลังที่ถูกน้ำซัดจนเปียกเม็ดหนึ่งออกมากิน จากนั้นดำลงในทะเล
เนื่องจากอากาศไม่ดี นางดำลงไปประมาณสิบจั้ง ในน้ำทะเลจึงค่อยๆ สงบลง ทว่ารอบด้านยังเป็นผืนสีดำสนิท จินเฟยเหยาได้แต่นำหินแสงราตรีออกมาส่องสว่างภายในรัศมีสามจั้งรอบกาย
ว่าไปแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่จินเฟยเหยาดำลงก้นทะเล แตกต่างจากปีนั้นที่ถูกกักอยู่ในทางเดินน้ำ รอบด้านเงียบกริบจนทำให้ใจสั่น ความรู้สึกเหมือนจะมีสัตว์ปิศาจขนาดยักษ์พุ่งออกมา าอ้าปากกลืนกินตนเองได้ทุกเมื่อ
นางกำลังถือศิลาวิญญาณชั้นบนเสริมพลังวิญญาณ สำหรับผู้บำเพ็ญเซียน พลังวิญญาณคือชีวิต ต้องรักษาให้อยู่ในสภาวะเต็มเปี่ยมทุกเมื่อ
ใช้ยาเสริมพลังและศิลาวิญญาณเสริมพลังวิญญาณพร้อมกัน เมื่อฟื้นฟูได้พอสมควรแล้ว จินเฟยเหยาจึงเรียกทงเทียนหรูอี้ออกมา เปลี่ยนให้เป็นครีบติดอยู่บนแผ่นหลัง ตอนนี้ขาดแคลนพลัง งวิญญาณอย่างรุนแรง ใช้ทงเทียนหรูอี้แหวกน้ำจะสิ้นเปลืองพลังวิญญาณน้อยกว่า ใช้พลังวิญญาณผลักร่างให้ว่ายไปในน้ำโดยตรงจะใช้พลังวิญญาณมากกว่าอยู่กลางอากาศ
หางปลาผลักนางไปข้างหน้า สบายขึ้นมากจริงๆ จินเฟยเหยาพลันคิดได้ ในเมื่อสามารถกลายเป็นครีบปลา เหตุใดไม่กลายเป็นปีก วันหลังค่อยทดลองดู ตอนไม่รีบจะให้ทงเทียนหรูอี้กลายเป็นปี กโปร่งใส ต้องเด่นสะดุดตาแน่นอน
นางไม่คิดบ้างว่าถ้านางใช้ปีกบินช้าๆ อยู่กลางอากาศ ต้องทำให้ผู้บำเพ็ญเซียนที่ผ่านทางมานึกว่าเป็นสัตว์ปิศาจบางชิด และใช้เวทมนตร์โจมตี ถึงอย่างไรทงเทียนหรูอี้ก็ไม่ใช่ของวิเ เศษบินได้ ต่อให้เปลี่ยนให้มีรูปร่างเหมือนปีกได้ก็บินได้ไม่เร็วอยู่ดี
จินเฟยเหยาดำน้ำลงไปตามทิศทางในกระจกสภาพโลกวิญญาณ เนื่องจากสภาพอากาศไม่ดี ตรงที่น้ำทะเลตื่นมองไม่เห็นปลา ทว่าหลังจากนางดำลงไปลึกร้อยจั้ง รอบกายมักจะมีปลารูปร่างแปลกประหลาด ปรากฎขึ้นบ่อยๆ ส่วนโลกวิญญาณชิงหลิวก็อยู่ที่ก้นทะเล บนกระจกสภาพโลกวิญญาณเอ่ยไว้เป็นพิเศษ เกรงว่าพวกสมองใช้การไม่ค่อยได้จะค้นหาบนผิวทะเลอยู่นานจนนึกว่าแผนที่วาดผิด
ก่อนหน้านี้จินเฟยเหยาสนใจโลกวิญญาณใต้ทะเลแห่งนี้ จินตนาการไม่ออกว่าโลกวิญญาณใต้ทะเลเป็นเช่นไร เป็นไปได้ว่าสิ่งที่อาศัยอยู่ในนั้นเป็นสัตว์ปิศาจหรือเผ่าปิศาจในทะเลทั้งหมด เพราะนอกจากเผ่าปิศาจเหล่านี้ เผ่ามารและเผ่ามนุษย์ล้วนไม่เหมาะจะอาศัยอยู่ใต้ทะเล ลองคิดดู จะกินยายังต้องกรอกน้ำทะเลลงไปเต็มท้อง ไม่ใช่สถานที่ที่น่าอยู่เลยจริงๆ
ถึงผู้บำเพ็ญเซียนไม่ต้องหายใจชั่วคราวและอยู่ใต้น้ำได้เป็นเวลานาน ทว่าผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่ก็ทำได้ประมาณหนึ่งปี ถ้าคิดจะเคลื่อนไหววิ่งไปวิ่งมา บวกกับใช้พลังวิญญาณสั งหารสัตว์ปิศาจคงอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งปี ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงพวกขั้นสร้างฐานและขั้นหลอมรวม ตอนนั้นตนเองใช้ฟองแสงนรกจึงมีชีวิตอยู่ในทางน้ำได้
แต่มีฟองแสงนรกเป็นตัวอย่างก่อนหน้านี้ จินเฟยเหยาอดคาดเดาไม่ได้ โลกวิญญาณชิงหลิวจะมีคนอยู่ในฟองอากาศหรือไม่? แบบนั้นก็น่าขำเกินไป บนศีรษะของผู้บำเพ็ญเซียนมีฟองอากาศ คิดถึง งภาพอันน่าขบขันนางก็อารมณ์ดี รุดไปยังโลกวิญญาณชิงหลิวอย่างตื่นเต้น
แสงสว่างของหินแสงราตรีดึงดูดปลาและทำให้ปลาตกใจ บางตัวหน้าตาน่าเกลียดเหมือนก้อนหิน ทว่าปลาจำนวนมากมีสีสันสดใสและงดงามอย่างยิ่ง ตลอดทางปลอดภัยเกินคาด ในน้ำทะเลอันมืดมิดไม่มี สัตว์ปิศาจดุร้ายโผล่ออกมา คาดว่าอยู่ใกล้โลกวิญญาณชิงหลิวมาก มีผู้บำเพ็ญเซียนเข้าออก ดังนั้นสัตว์ปิศาจกินคนล้วนอยู่ห่างจากที่นี่
เวลานี้จินเฟยเหยาผ่านหน้าผาก้นทะเลแถบหนึ่ง บนหน้าผามีสาหร่ายนานาชนิดงอกอยู่จำนวนมาก ยังมีหอยทากทะเลจำนวนมากเติบโตอยู่บนนั้น มีจำนวนไม่น้อยเรืองแสงได้ มีแสงสีฟ้ากะพริบในท ทะเลอันมืดมิด
ทันใดนั้น การรับรู้ของนางพบปราณปิศาจอยู่ห่างออกไปร้อยจั้ง นางตกใจเก็บการรับรู้กลับมาทันทีแล้วชะงักร่าง “มีเผ่าปิศาจ!”
เผ่าปิศาจ นั่นเป็นสัตว์ปิศาจที่เข้าสู่ขั้นเทพ เกรงว่าตนเองจะสู้ไม่ได้ ทว่าเมื่อครู่ตนเองใช้การรับรู้กวาดดูเขา ต้องถูกพบเห็นแน่ ถ้าหนีไปทันทีมิทำให้คนรู้สึกว่าตนเองเป็นวัว วสันหลังหวะจนพุ่งมาสังหารหรือ ทำอย่างไรดี!
จินเฟยเหยาลังเลนิดหนึ่ง คิดแผนขึ้นได้กะทันหัน เขาของเทาเที่ยงอกยาวออกมา จากนั้นแลบลิ้นเสียปาก นำปราณปิศาจของเทาเที่ยออกมาเล็กน้อย พองอกเขาและปลดปล่อยปราณปิศาจออกมาก็ปล ลอมตัวเป็นเผ่าปิศาจคนหนึ่งทันที
นางลอบยิ้ม ตนเองร้ายกาจจริงๆ ปกติเป็นเผ่ามนุษย์ ปล่อยเขาของเทาเที่ยออกมาก็ปลอมตัวเป็นเผ่ามารได้ เค้นปราณปิศาจออกมาเล็กน้อยก็กลายเป็นเผ่าปิศาจ อีกทั้งตอนปลอมเป็นเผ่ามาร รก็ใช้ไฟนรกออกมาเล็กน้อยก็ยิ่งเหมือนจริง สัตว์ร้ายตัวอื่นๆ ปลอมตัวเป็นเผ่าปิศาจไม่ได้
ทงเทียนหรูอี้พกพาปราณปิศาจเล็กน้อยแหวกน้ำพานางว่ายไปยังสถานที่ซึ่งพบเห็นเผ่าปิศาจ ครั้งนี้นางใช้การรับรู้กวาดไปอย่างเปิดเผย กลับพบว่าเผ่าปิศาจคนนั้นยังอยู่ที่เดิมไม่ได้จา ากไปหรือระแวดระวังขึ้นมา เรื่องนี้ทำให้จินเฟยเหยาแปลกใจเล็กน้อย ตนเองเปิดเผยขนาดนี้เหตุใดเขาจึงไม่มีความเคลื่อนไหวเลยสักนิด
หรือว่านี่คือเผ่าปิศาจที่บาดเจ็บสาหัส? มิใช่สามารถเก็บสมบัติและยึดครองได้หรือ พอคิดแบบนี้ จินเฟยเหยาจึงรีบเหาะไป ต่อให้เก็บสิ่งของไม่ได้ ช่วยชีวิตเขาส่งกลับโลกวิญญาณชิงหลิว วก็สามารถซื้อน้ำใจได้
พอว่ายเข้าไปใกล้ จินเฟยเหยาพบว่าในสาหร่ายที่งอกยาวผืนนั้น มีสตรีเผ่าปิศาจคนหนึ่งกำลังอยู่นิ่งๆ ในสาหร่าย ใช้การรับรู้กวาดไปตรวจสอบพลังบำเพ็ญเพียรก็ทำให้นางตกใจหน้าซีด ทันที สตรีเผ่าปิศาจผู้นี้ไม่ได้มีพลังบำเพ็ญเพียรขั้นเทพ ทว่ามีพลังบำเพ็ญเพียรขั้นหลอมรวม
เพราะเหตุใด! เรื่องนี้แตกต่างจากสิ่งที่รู้ หรือว่าเผ่าปิศาจไม่ได้ฝึกบำเพ็ญออกมา ทว่าเดิมทีก็มีชนเผ่าเช่นนี้ ดังนั้นจึงไม่มีเผ่าปิศาจในโลกวิญญาณสิบสองแห่ง สัตว์ปิศาจฝึกบำเพ็ญ จนกลายเป็นเผ่าปิศาจไม่ได้ จุดกำเนิดของเผ่าปิศาจเป็นเรื่องหลอกลวงหรือ?
“นี่ เจ้ากำลังทำอะไรอยู่!” จินเฟยเหยาแน่ใจแล้วว่าสตรีเผ่าปิศาจคนนี้มีพลังบำเพ็ญเพียรขั้นหลอมรวม ไม่ต้องเกรงกลัวเลย อีกทั้งนางยังไม่ตาย เพียงแต่ไม่รู้ว่ากำลังตั้งใจทำเร รื่องอะไรอยู่
นางตะโกนเสียงดังอย่างกะทันหันทำให้สตรีเผ่าปิศาจตกใจจนมือสั่น ได้ยินสตรีเผ่าปิศาจผู้นี้ร้องอย่างชิงชัง “อา! หมดกันมุกลวดลายสดใสของข้า!”
“เอ๋?” จินเฟยเหยาตะลึงงัน หรือว่าผู้อื่นกำลังเก็บมุก
จากนั้นก็เห็นสตรีเผ่าปิศาจผู้นี้หันกายมา เป็นเพียงเด็กหญิงอายุสิบห้าสิบหกปีคนหนึ่ง หน้าตาไม่แตกต่างอะไรจากเผ่ามนุษย์ เพียงแต่หูมีลักษณะครีบปลา
มือของนางโอบเปลือกหอยลวดลายสดใสขนาดเท่าศีรษะชิ้นหนึ่ง ถลึงตาใส่จินเฟยเหยาด้วยสีหน้าเดือดดาลและตะโกนว่า “เจ้าคนไร้มารยาท ทำให้ข้าตกใจจากด้านหลังทำไม อีกนิดเดียวก็จะเก็บ มุกลวดลายสดใสได้แล้ว ตอนนี้ดียิ่งนัก แก่นมุกทั้งหมดหายไป เจ้าจะชดใช้ข้าอย่างไร!”
“อา กี่ศิลาวิญญาณ ข้าจะชดใช้ให้เจ้า” จินเฟยเหยาพูดไม่ออก เหตุใดจึงเจอเด็กหญิงคนหนึ่งได้ ตีก้นแล้วหนีไปดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก ถึงอย่างไรก็แค่มุกเม็ดเดียวตนเองยังจ่ายไหว ที่นี่อยู่ห่างจากโลกวิญญาณชิงหลิวไม่ไกล คาดว่าเผ่าปิศาจคนนี้เป็นคนของโลกวิญญาณชิงหลิว สามารถสอบถามสภาพการณ์ของโลกวิญญาณชิงหลิวได้พอดี
ทว่าสิ่งที่คาดไม่ถึงคือ สตรีเผ่าปิศาจทำปากยื่นเอ่ยอย่างไม่พอใจ “ศิลาวิญญาณ? เจ้าคิดจะใช้ศิลาวิญญาณที่ไร้ค่ามาชดใช้ เจ้าเห็นว่าข้าอายุยังน้อยจึงคิดจะรังแกข้าใช่หรือไม่!”
ศิลาวิญญาณเป็นสิ่งไร้ค่า? จินเฟยเหยาคิดไม่ถึงว่าศิลาวิญญาณที่ทุกแห่งล้วนใช้เป็นเงินตราจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่าที่นี่ แล้วที่นี่ใช้สิ่งใดเป็นเงินตรา!
“แล้วต้องใช้อะไรชดเชย?” จินเฟยเหยาได้แต่เอ่ยถาม
สตรีเผ่าปิศาจเอ่ยอย่างเดือดดาล “หญ้าวิญญาณอายุห้าร้อยปีหนึ่งต้นหรือยามังกรคำรามสองขวดจำนวนแปดเม็ด”
หญ้าวิญญาณ! จินเฟยเหยาตะลึงไปทันที นางมีทุกอย่าง เพียงแต่ไม่มีหญ้าวิญญาณ ขนาดหญ้าวิญญาณที่ปลูกไว้ในเกาะลอยได้เล็กๆ ยังอายุไม่ถึงห้าร้อยปีเลย