คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย - บทที่ 373 โลหิตกลางทะเล
ห้องของจินเฟยเหยาตอนนี้เก็บกวาดแล้ว ครอบครัวนี้ช่างไม่เกรงกลัวนางเลยจริงๆ ทำความสะอาดลวกๆ ให้นางอยู่ นางก็ไม่จู้จี้ ถึงอย่างไรก็ต้องนั่งสมาธิฟื้นฟูพลังวิญญาณและขับพิษยาใน นร่างออกมา
หนึ่งคืนเต็มๆ พลังวิญญาณของนางก็ฟื้นฟูมาเกือบหมด พิษยายังตกค้างอยู่เล็กน้อย ผ่านไปอีกไม่กี่วันก็คงหายไปหมด เงยหน้าขึ้นมองเนื้อแห้งมังกรปิศาจที่อยู่ไกลๆ เส้นนั้น จินเฟ ฟยเหยาเดาไม่ออกว่าฮุ่นตุ้นหนีไปที่ใด นิสัยของยายนั่นแปลกประหลาดมาก ถ้าไปถึงดินแดนของเผ่าปิศาจก็ยังดี ถ้าไปดินแดนของเผ่าอื่นไม่รู้จะก่อเรื่องอะไรขึ้นอีก
สำนักหลิงเถี่ยวสูญเสียฮุ่นตุ้น ไม่รู้ว่าจะร้อนใจจนเป็นเช่นไร น่าจะส่งคนมาค้นหาทันที จินเฟยเหยานำกระจกสภาพโลกวิญญาณออกมาดู ทางออกฝั่งพวกเขาอยู่ห่างไกลจากที่นี่มาก นอกจาก ถูกพาตัวมาที่นี่โดยตรง ไม่เช่นนั้นคิดจะค้นหาฮุ่นตุ้นอย่างน้อยที่สุดก็ต้องเป็นอีกหลายสิบปีต่อมา
เมื่อครู่นางเพิ่งเปิดกล่องของวิเศษดูแวบหนึ่ง ของวิเศษที่วางอยู่ด้านในทำให้นางไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี วันหน้ามีเวลาว่างค่อยจัดการของวิเศษชั้นยอดชิ้นนั้น หากมิใช่บน นั้นสำแดงปราณวิญญาณของวิเศษชั้นยอดออกมา นางคงสงสัยว่าถูกสำนักหลิงเถี่ยวหลอกลวง คิดไม่ถึงว่าสิ่งของแบบนี้จะเป็นของวิเศษชั้นยอด
มุกภายนอกเริ่มสว่างขึ้นอีกครั้ง จมูกอันเฉียบไวของนางได้กลิ่นสาหร่ายที่ทำให้คนรู้สึกมวนท้อง ท่านแม่ของเยี่ยจื่อกำลังต้มสาหร่ายอีกแล้ว ถึงต้องกินเจ แต่ต้มให้รสชาติดีหน่อย ยไม่ได้หรือ อาหารรสชาติแย่ขนาดนี้คนทั้งบ้านกลับกินอย่างเอร็ดอร่อย
“ผู้อาวุโส ลุกขึ้นกินอาหารเช้า พวกเราจะออกไปแล้ว” เยี่ยจื่อยืนตะโกนเรียกอยู่นอกประตู
จินเฟยเหยาไม่ยอมไปกินของพรรค์นั้นหรอก จึงรีบหาข้ออ้างบอกว่าตนเองกำลังงดอาหารจริงๆ ไม่อยากกินให้พวกเขากินกันตามสบาย หลังจากนางล้างหน้าบ้วนปากลงบันไดมาก็เห็นเยี่ยจื่อที่ กินอาหารเสร็จแล้วกำลังรอนางอยู่ในร้าน
เยี่ยจื่อมอบร้านให้ท่านพ่อเยี่ยจื่อดูแลแล้วก็พานางเหาะไปข้างเมืองก่อน หลังออกจากวงเวทจึงเอ่ยถามว่า “ผู้อาวุโส ท่านมีปลาที่สามารถโดยสารได้หรือไม่?”
“ไม่มี” จินเฟยเหยาไม่มียามังกรคำรามสักเม็ด จะไปเอาปลามาจากไหน
เมื่อวานนางเห็นร้านสัตว์ภูติในเมืองมีปลาขาย มีมากมายหลากหลายชนิด มีม้าน้ำสูงเกือบเท่าม้าตัวโตๆ เอามาลากรถสักสามถึงห้าตัวก็ไม่เลว ปลาไป๋สุ่ยก็มี เพียงแต่ยังเป็นลูกปลา ตัว วโตเต็มวัยอย่างของผู้บำเพ็ญเซียนแซ่จางมีขายน้อยมาก
ทว่าสัตว์ภูติเหล่านี้ราคาแพง ปลาไป๋สุ่ยและม้าน้ำนั้นช่างเถอะ ขนาดปลาหัวแบนที่อัปลักษณ์ที่สุดก็ยังมีราคาถึงยามังกรคำรามขั้นหนึ่งห้าสิบเม็ด เมื่อวานจินเฟยเหยาเคยคำนวณราคา าสิ่งของที่นี่แล้ว ยามังกรคำรามขั้นหนึ่งหนึ่งเม็ดเท่ากับศิลาวิญญาณชั้นล่างร้อยก้อนในโลกระดับดิน หน่วยเงินตราที่ต่ำกว่ายามังกรคำรามคือของเหลวมังกรคำราม นั่นคือของเหลววิญญ ญาณหลังหลอมสร้างยามังกรคำรามเป็นเม็ดล้มเหลว สามารถเพิ่มพลังบำเพ็ญเพียรได้เช่นกัน ทว่าประสิทธิภาพค่อนข้างแย่ ตอนซื้อของราคาถูกใช้สะดวกมาก ใครจะตัดใจนำยามังกรคำรามออกมาซื อของราคาถูกสุดท้ายได้เงินทอนเป็นของเหลวมังกรคำรามหนึ่งขวดได้
จินเฟยเหยาซื้อปลาที่ใช้เป็นพาหนะไม่ไหวจึงมองเยี่ยจื่อ นางเป็นเผ่าปิศาจที่เกิดและเติบโตที่นี่ ทั้งยังมีพลังบำเพ็ญเพียรขั้นหลอมรวม คงไม่ได้ไม่มีปลาสักตัวหรอกนะ
“ผู้อาวุโส ปลาของข้าโดยสารได้เพียงคนเดียว…” เยี่ยจื่อเอ่ยอย่างลำบากใจ จากนั้นนำปลาตัวหนึ่งออกมาจากถุงสัตว์ภูติ
พอจินเฟยเหยาเห็น เป็นปลาหัวอ้วนพี่น้องที่ตรงกันข้ามกับปลาหัวแบนมิใช่หรือ หัวใหญ่ตัวเล็ก มีพื้นที่นั่งได้น้อยกว่าปลาหัวแบน โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครขี่ปลาชนิดนี้นอกจากคน ที่ยากจนข้นแค้น
“ปลาหัวอ้วนไม่ต้องใช้ยามังกรคำรามซื้อ!” ระหว่างที่พูดด้านข้างยังมีปลาหัวอ้วนจำนวนนับร้อยว่ายผ่านไป มีรูปร่างใหญ่กว่าตัวที่อยู่ในมือเยี่ยจื่อมากนัก
“ตัวที่เกิดในธรรมชาติขี่ไม่ได้ ต้องเลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก” เยี่ยจื่อเห็นจินเฟยเหยามองปลาหัวอ้วนที่ว่ายผ่านด้านข้าง จึงเข้าใจเจตนาของนางจึงรีบบอก
“ช่างเถอะ” จินเฟยเหยานำทงเทียนหรูอี้ออกมาติดบนแผ่นหลังของตนเองให้กลายเป็นครีบปลาขนาดใหญ่คู่หนึ่ง ขี่ปลาหัวอ้วนแบบนั้นมิสู้ใช้สิ่งนี้ว่ายไปเองดีกว่า เมื่อวานนางสอบถามม มาแล้ว ปลาหัวอ้วนขอเพียงบรรลุทุกคนก็จะมีครีบออกมาปกคลุม ความเร็วไปในการว่ายก็จะลดลงกว่าครึ่ง นั่นเป็นปลาที่จะขี่เมื่อหมดทางเลือกแล้ว
“วันนี้พวกเราไปเก็บมุกกัน มีมุกหลายชนิดเป็นวัตถุดิบหลอมยามังกรคำรามได้ มุกลวดลายสดใสเมื่อวานก็เป็นวัตถุดิบหลอมยา แต่พวกมันมีปริมาณน้อยมาก พวกเราไปเก็บตัวที่มีปริมาณมากเก กือบสิบเม็ดจึงขายได้ยามังกรคำรามหนึ่งเม็ด” เยี่ยจื่อนั่งอยู่บนปลาหัวอ้วนที่มีขนาดเท่านางสองคนก็เห็นครีบบนหลังปลาถูกกดลงไป ความเร็วลดลงจริงๆ ด้วย
จินเฟยเหยาให้ทงเทียนหรูอี้แหวกน้ำไปช้าๆ คิดไม่ถึงว่ายังเร็วกว่าเยี่ยจื่อ เพื่อให้ไม่พลัดหลงกันจึงให้ทงเทียนหรูอี้ว่ายรอเยี่ยจื่อเป็นพิเศษ ส่วนสถานที่ซึ่งเยี่ยจื่อพานางไป ปคือดงปะการังอันงดงามพวกนั้น
“มุกสิบเม็ดสามารถขายได้ยามังกรคำรามหนึ่งเม็ด วันหนึ่งอย่างน้อยที่สุดต้องเก็บให้ได้กี่ร้อยเม็ด เหตุใดยังยากจนแบบนี้” จินเฟยเหยาว่ายน้ำพลางถ่ายทอดเสียงถาม
นางไม่คุ้นเคยกับการพูดในน้ำทะเลจึงมักจะดื่มน้ำลงไปโดยไม่รู้ตัว คิดไปคิดมาจึงถ่ายทอดเสียงดีกว่า ทั้งชัดเจนทั้งไม่ต้องกลืนน้ำ
เยี่ยจื่อได้ยินคำพูดของนาง กลับส่ายศีรษะราวกับกลองป๋องแป๋ง “ไหนเลยมีเรื่องดีงามขนาดนั้น วันหนึ่งหาได้สิบเม็ดก็นับว่าไม่เลวแล้ว”
โง่งมขนาดนี้เชียว? จินเฟยเหยาจำได้ว่าตอนมาเมื่อวาน หอยนานาชนิดก็นอนอยู่บนพื้น ให้คนหยิบได้ตามสบาย เงินนอนอยู่บนพื้นก็เก็บไม่ได้ยังจะมีประโยชน์อะไร
ติดตามเยี่ยจื่อมาถึงป่าปะการังแถบหนึ่ง นางเก็บปลาหัวอ้วน จากนั้นว่ายไปค้นหารอบด้านบนพื้นท้องทะเล เยี่ยจื่อไม่เก็บเปลือกหอยที่วางอยู่เต็มพื้น ทว่าเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่า างอยู่ตลอดเวลา จินเฟยเหยาก็ตามไป จากนั้นเห็นเยี่ยจื่อซ่อนตัวอยู่ด้านหลังปะการังกองหนึ่ง กวักมือเรียกนางอย่างลับๆ ล่อๆ ทั้งยังบอกใบ้ให้จินเฟยเหยาเบาเสียงหน่อย
จับเปลือกหอยยังต้องเงียบๆ หรือ จินเฟยเหยาว่ายไปหาด้วยสีหน้าสงสัย มองผ่านปะการังออกไปตามที่เยี่ยจื่อชี้ ก็เห็นเบื้องหน้ามีปลายาวครึ่งคนตัวหนึ่งว่ายอยู่ในปะการังอย่างช้าๆ หากมิใช่เวลานี้มันกำลังว่ายอยู่พอดี จินเฟยเหยายังนึกว่ามันเป็นเพียงโขดหินที่เต็มไปด้วยปะการัง บนหลังของปลาตัวนั้นมีเปลือกหอยกว้างสองฝ่ามือ เปลือกหอยชิ้นนี้ค่อยๆ อ้าปาก ก บนเปลือกมีลายเส้นสีดำจำนวนมาก
เยี่ยจื่อทำท่าทางและถ่ายทอดเสียงมา “ผู้อาวุโส นี่คือปลาแบกหอย เปลือกหอยสองฝาบนร่างคือสิ่งที่พวกเราตามหา มุกสีดำในนั้นสามารถหลอมสร้างยามังกรคำรามได้ ปลาเปลือกหอยเฉลียวฉลา าดมาก พอมีความเคลื่อนไหวเล็กน้อยก็จะหลบหนี พวกเราต้องระวังหน่อย”
จินเฟยเหยามองเปลือกหอยลายเส้นสีดำนั่น ไม่มีอะไรแล่นมาบนหลังปลาขั้นสามทำไม ไม่เลียนแบบพรรคพวกของตนเอง ผู้อื่นเติบโตอยู่บนพื้นท้องทะเล แค่ปลาปิศาจขั้นสามเท่านั้น จำเป็นตึงเคร รียดขนาดนี้ด้วยหรือ จินเฟยเหยาว่ายออกจากด้านหลังปะการัง
ปลาแบกหอยที่ยังเอื่อยเฉื่อยตัวนั้นสะบัดหางทีเดียวก็พุ่งออกไปร้อยจั้ง รวดเร็วจนน่าตกใจ
“เร็วขนาดนี้เชียว!” จินเฟยเหยาคิดไม่ถึงว่าปฏิกิริยาของปลาพวกนี้จะว่องไวถึงเพียงนี้ หลบหนีได้ไวกว่าสัตว์ปิศาจบนบกมากนัก นางโยนพั่งจื่อออกไปโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง “ไล่ตามกลับม มา!” ถ้าปล่อยให้ปลาปิศาจขั้นสามตัวหนึ่งหนีรอดจากเงื้อมมือตนเองไปได้ นางยังมีหน้ามีตาอันใด คนยังหนีไม่พ้นนับประสาอะไรกับสัตว์ปิศาจ
พั่งจื่อพุ่งไปในน้ำ ใช้สองขากระทืบอย่างแรงก็พุ่งออกไปราวลูกธนูหลุดจากแล่ง จากนั้นตวัดลิ้นอย่างรวดเร็วไปรัดปลาแบกหอยที่กำลังหลบหนี ปลาแบกหอยถูกพั่งจื่อจับตัวไว้ หางปลา บนตัวก็ตั้งขึ้นคิดจะแทงลิ้นของพั่งจื่อให้ทะลุแล้วดิ้นหลุดออกมา แม้แต่เปลือกหอยสองฝาบนหลังมันยังพ่นน้ำสีดำ คิดจะทำให้ทัศนวิสัยของศัตรูด้านหลังไม่ชัดเจน
เรื่องนี้ทำให้พั่งจื่อเดือดดาล ครั้งที่แล้วลิ้นเกือบถูกคนฟัน คิดไม่ถึงว่าตอนนี้แม้แต่ปลาขั้นสามตัวหนึ่งก็คิดจะแทงลิ้นมันให้ทะลุ ขาสองข้างของมันเตะอย่างแรง ร่างพุ่งไป ปหา ยกฝ่ามือขึ้นฟาดร่างปลาแบกหอยอย่างหนักหน่วง แม้แต่ครีบหางที่ตั้งขึ้นของมันก็ถูกพั่งจื่อฟาดจนหักเป็นสองท่อน
จินเฟยเหยาเห็นพั่งจื่อโจมตีปลาแบกหอยจนเป็นสองท่อน ก็ยิ้มให้เยี่ยจื่อ “ไปเอาหอยสองฝาเถอะ จากนั้นค้นหาสิ่งมีค่าอื่นๆ ต่อ ให้ได้ยามังกรคำรามขั้นสามแปดเม็ดของเจ้าเร็วๆ”
เยี่ยจื่อจุปาก มิน่าเล่าผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่จึงร่ำรวยนัก เมื่อก่อนตนเองต้องไล่ตามปลาแบกหอยที่หลบหนีอยู่ครึ่งชั่วยามกว่าจึงอาจจะจับมันได้ อีกทั้งมันยังหลบหนีไปได ด้บ่อยๆ นางเลื่อนขึ้นเป็นขั้นหลอมรวมได้ไม่ถึงครึ่งปี ยังหาวิธีทำเงินของขั้นหลอมรวมไม่พบจึงยังใช้วิธีของขั้นสร้างฐานอยู่ มีความสามารถเสียเปล่าจริงๆ
เก็บร่างปลาครึ่งท่อนที่ร่วงลงบนพื้นท้องทะเลขึ้นมา เยี่ยจื่อเก็บหอยสองฝา มีผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่ช่วยเหลือ นางคิดจะพาจินเฟยเหยาไปลองล่าสัตว์ที่อยากล่าแต่ไม่กล้าม มาตลอด ถ้าสังหารสัตว์เหล่านั้นได้ก็สามารถเก็บเกี่ยวสัตว์ที่มีมูลค่าเท่ายามังกรคำรามขั้นหนึ่งหลายสิบเม็ดได้ในครั้งเดียว
“ผู้อาวุโส ข้ารู้จักสถานที่แห่งหนึ่ง ที่นั่นมีสัตว์ทะเลขั้นหก สามารถหายามังกรคำรามได้รวดเร็วกว่า พวกเราไปลองดูเป็นอย่างไร?” เยี่ยจื่อมองจินเฟยเหยาด้วยสีหน้าวาดหวัง คาดหวัง งว่านางอย่ากลัวความยุ่งยากจนไม่ไป
สำหรับจินเฟยเหยาแล้ว การหาเปลือกหอยไร้ค่าที่นี่จึงเป็นเรื่องยุ่งยากและเสียเวลา มีสัตว์ทะเลระดับสูงให้สังหารย่อมดีกว่าเป็นธรรมดา นางเพิ่งคิดจะตอบรับพลันขมวดคิ้ว รีบดึงเยี่ยจ จื่อมาซ่อนตัวหลังปะการัง
“ชู่ อย่าส่งเสียง มีกลิ่นโลหิตมนุษย์” จินเฟยเหยาถ่ายทอดเสียง
เยี่ยจื่อตะลึงงัน ผ่านไปครู่หนึ่งจึงได้กลิ่นโลหิตสดเล็กน้อยในน้ำ นางมองจินเฟยเหยาด้วยสีหน้าสงสัยทันที เนื่องจากในทะเลแทบจะมีสัตว์ทะเลถูกฆ่าไม่ขาดสาย มีกลิ่นคาวโลหิตก็เป็นเร รื่องปกติ ทว่ามีคนสามารถแยกแยะว่าเป็นเลือดปลาหรือเลือดมนุษย์ในน้ำได้ด้วยหรือ?
ในขณะที่นางกำลังสงสัยก็เห็นเบื้องหน้าปรากฏคนผู้หนึ่ง เห็นหน้าตาของเขาเป็นเผ่ามนุษย์ด้านหลังยังมีโลหิตสดกระจายอยู่ในน้ำ เยี่ยจื่อตกตะลึงพรึงเพริด คิดไม่ถึงว่ามีคนกำลังเลื อดออกจริงๆ แต่ก็รู้สึกคาดไม่ถึงอยู่บ้าง กลิ่นโลหิตมนุษย์กับโลหิตปลามีอะไรไม่เหมือนกัน คงไม่ได้ลิ้มรสทว่าใช้การรับรู้ตรวจสอบดูหรือไม่
จินเฟยเหยาตกตะลึงยิ่งกว่านาง เมื่อวานนางเพิ่งรู้ว่านี่คือโลกวิญญาณที่สามเผ่าอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ตอนนี้เห็นเผ่ามนุษย์ได้รับบาดเจ็บกะทันหัน คนที่เลือดออกคือผู้บำเพ็ญเซ ซียนขั้นหลอมรวมช่วงปลาย ส่วนในสถานที่ซึ่งตาเนื้อมองไม่เห็นด้านหลังเขายังมีเผ่ามารที่มีปราณมารเต็มเปี่ยมคนหนึ่งกำลังไล่ตามเขามาอย่างรวดเร็ว ปราณสังหารนั่นเห็นได้ชัดเจนว่า กำลังไล่ล่าคนเผ่ามนุษย์เบื้องหน้า
สถานการณ์ยังไม่ชัดเจน จินเฟยเหยาตัดสินใจซ่อนตัว ดูสถานการณ์ก่อนแล้วค่อยว่ากัน