คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย - บทที่ 376 ลากลงน้ำ
คนทั้งสองดำลงไปลึกขึ้นทุกที เบื้องหน้าพลันสว่างวาบ ในน้ำทะเลไกลๆ มีแสงรัศมีของวิเศษปรากฏขึ้น ทั้งยังมีแสงของวัตถุจำพวกมุกกวงหมิงส่องสว่าง มองเห็นแม้แต่ผู้บำเพ็ญเซียนที่ ถูกห่อหุ้มอยู่ในม่านแสง
มีผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่ห้าคนล้อมสัตว์ทะเลขั้นแปดร่างมหึมาตัวหนึ่ง ร่างของสัตว์ทะเลยาวห้าสิบกว่าจั้ง ทั่วร่างมีสีดำลายจุดขาว ปากแบนกว้างมีขนาดใหญ่อย่างยิ่ง ดูเหม มือนยังมีริมฝีปากหนา สองด้านของริมฝีปากมีหนวดยาวๆ สองเส้น ดวงตาเล็กจนแทบมองไม่เห็น ตรงรอยต่อระหว่างส่วนหางกับครีบ มีตุ้มขนาดยักษ์ซึ่งมีเปลือกแข็ง ตุ้มยักษ์ยาวหนึ่งถึงสอง จั้งเต็มๆ บนนั้นนอกจากเปลือกแข็งแล้วยังมีหนามแหลมยาวเท่าหนึ่งคนกว่าจำนวนมาก
“วาฬภูเขาโดดเดี่ยว!” คนทั้งสองหยุดอยู่ไกลๆ เยี่ยจื่ออดร้องอย่างยินดีไม่ได้
“วาฬภูเขาโดดเดี่ยวมีค่ามากหรือ?” จินเฟยเหยาถามก่อนจากนั้นมองพินิจคนทั้งห้า เห็นพวกเขาทั้งหมดเป็นเผ่ามนุษย์ร่วมมือกันอย่างช่ำชอง น่าจะล่าสัตว์ด้วยกันมานาน
เยี่ยจื่อมองวาฬภูเขาโดดเดี่ยวและเอ่ยอย่างอิจฉายิ่ง “มีค่ามาก เน่ยตานของมันมีขนาดใหญ่เท่าศีรษะ หนึ่งเม็ดสามารถขายได้ยามังกรคำรามขั้นสี่หลายสิบเม็ด หนังบนร่างก็ราคาแพงย ยิ่ง เพียงพอจะทำใบเรือวิญญาณได้สามลำ ถึงแม้โลหิตและเนื้อจะไร้ประโยชน์ กระดูกใช้ทำกระดูกงูเรือและโครงค้ำจุนล้วนเป็นวัสดุที่ดีอย่างยิ่ง”
“เจ้าบอกมาตรงๆ เถอะว่าถ้าเอากลับไปทั้งตัวจะสามารถทำเงินได้เท่าใด?” จินเฟยเหยาไม่อยากฟังเรื่องพวกนี้ จึงถามราคาทั้งตัวตรงๆ
เยี่ยจื่อเปรียบเทียบร่างของวาฬภูเขาโดดเดี่ยว เริ่มคิดบัญชี ยิ่งคิดก็ยิ่งตกตะลึงพรึงเพริด จากนั้นนางก็อ้าปากกว้างเอ่ยอย่างตกใจ “ผู้อาวุโสจิน บัญชีนี้ข้าคิดไม่ออก ถึงอย่างไรก ก็เป็นเงินก้อนใหญ่มาก ถึงดึงหางออกมาอันเดียว ต่อไปข้าก็สามารถมีเงินทุนซื้อของและไม่ต้องออกไปล่าสัตว์อีก”
ถึงด้านอื่นนางจะใช้ไม่ได้ ทว่ากลับคิดบัญชีเป็น ยามนี้กลับถูกวาฬภูเขาโดดเดี่ยวตัวนี้ทำให้สับสน คำนวณไม่ออกว่าถ้าลากวาฬภูเขาโดดเดี่ยวตัวนี้กลับไปจะขายได้ยามังกรคำรามกี่เ เม็ด เหยื่อตัวใหญ่ขนาดนี้ เป็นไปได้ว่าต้องแลกเป็นหญ้าวิญญาณอายุหลายร้อยจนถึงพันปีจำนวนมาก จึงทำให้เยี่ยจื่อตื่นเต้นจนคิดบัญชีได้ไม่กระจ่าง
ถึงไม่ใช่สัตว์เทพ ทว่าวาฬภูเขาโดดเดี่ยวตัวนี้ก็เป็นทรัพย์สินขนาดใหญ่ จินเฟยเหยามีความคิดจะเอากลับไปทั้งหมด เพียงแต่ตอนนี้วาฬภูเขาโดดเดี่ยวถูกห้าคนนี้แย่งชิงไปแล้ว หรี่ตามอ องฝั่งตนเองมีเพียงผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่ช่วงกลางกับมือใหม่ขั้นหลอมรวมช่วงต้นที่ขี้ขลาด อาศัยแค่เยี่ยจื่อที่ใช้ไม่ได้เป็นตัวถ่วง คิดจะชิงวาฬภูเขาโดดเดี่ยวมาเกรงว่าคง ไม่ง่ายดาย
“พวกเราดูก่อน ถ้าวาฬภูเขาโดดเดี่ยวสังหารผู้บำเพ็ญเซียนหลายคนนี้ พวกเราก็สามารถฉวยโอกาสปล้นเจ้าของตอนบ้านไฟไหม้ได้วาฬภูเขาโดดเดี่ยวมาอยู่ในมือพอดี” จินเฟยเหยาถ่ายทอดเสียง งไปหาเยี่ยจื่อให้นางอย่าหุนหันพลันแล่น
ถึงนางไม่เอ่ยเตือน เยี่ยจื่อก็ไม่มีความคิดจะลงมือ อีกฝ่ายเป็นผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำเนิดใหม่ห้าคน นอกจากนางสมองเสื่อม ไม่เช่นนั้นจะคิดแย่งชิงกับห้าคนนี้ได้อย่างไร
แต่แบบนี้จะไร้คุณธรรมเกินไปหรือไม่ เยี่ยจื่อรู้สึกผิดอยู่บ้างจึงเอ่ยถามเสียงเบา “ผู้อาวุโสจิน ทำเช่นนี้จะไม่ค่อยดีหรือไม่?”
“มีอะไรไม่ดี?” จินเฟยเหยามีสีหน้าสงบนิ่ง “พวกเราเป็นเผ่าปิศาจ เป็นศัตรูกับเผ่ามนุษย์ ที่นี่ก็เป็นสถานที่ปล้นชิง ทำแบบนี้ไม่มีปัญหาเลยสักนิด”
“ถึงจะพูดแบบนี้ แต่เมื่อครู่ข้าพบว่ามีการรับรู้กวาดมา พวกเขาจะพุ่งมาสังหารพวกเราหรือไม่” เยี่ยจื่อเอ่ยอย่างกังวล
จินเฟยเหยารู้สึกได้นานแล้วว่าคนกลุ่มนี้ใช้การรับรู้กวาดมา เพียงแต่ตอนนี้พวกเขากำลังยุ่งอยู่กับการจัดการวาฬภูเขาโดดเดี่ยวขั้นแปด ไหนเลยจะมีเวลาว่างมายุ่งเกี่ยวกับพวกนางส สองคน ดังนั้นนางจึงเอ่ยปลอบโยนว่า “วางใจเถอะ พวกเขาร่วมมือกันได้พอดี ถ้ายื่นมือมาจัดการพวกเรา วาฬภูเขาโดดเดี่ยวหนีไปยังเป็นเรื่องเล็ก สังหารพวกเขาจนเกลี้ยงคงต้องจ่ายค่าตอบแ แทนอย่างหนัก”
“จ่ายค่าตอบแทนอย่างหนักจริงๆ แม้แต่ชีวิตก็ไม่เหลือ” หลังจากเยี่ยจื่อได้ฟังจึงพยักหน้าอย่างวางใจ
คนทั้งห้าหาเวลาว่างมาจัดการพวกนางไม่ได้จริงๆ ตุ้มหนามแหลมบนหางวาฬภูเขาโดดเดี่ยวฟาดใส่พวกเขาอย่างดุร้าย ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลสักนิด ความเร็วก็รวดเร็วการโจมตีก็รุนแรง ง อีกทั้งขอเพียงมันอ้าปาก น้ำทะเลรอบด้านก็จะถูกมันสูบเข้าปาก ถ้าไม่ใช้พลังวิญญาณควบคุมร่างไว้คงเข้าปากมันอย่างง่ายดาย
ในปากของวาฬภูเขาโดดเดี่ยวไม่ใช่สถานที่ที่ดีอะไร ภายในปากของมัน ทั้งด้านบนและด้านล่างต่างมีฟันแหลมคมสูงเท่าฝ่ามืองอกออกมาด้านละสิบแถวราวกับใบเลื่อย สามารถบดและตัดทุกสิ งที่เข้าสู่ปากให้กลายเป็นชิ้นๆ ปริมาณตัวคนผู้หนึ่งที่เข้าไปยังไม่พอให้มันกัดคำหนึ่งด้วยซ้ำ ไม่มีใครอยากถูกดูดเข้าไป
รอจนวาฬภูเขาโดดเดี่ยวสูบน้ำทะเลเพียงพอมันก็พ่นน้ำใส่รอบด้านราวกับลูกธนู ลำน้ำทะเลที่ถูกยิงออกมาเต็มไปด้วยฟองอากาศ เนื่องจากปะปนอยู่ในน้ำทะเลจึงเห็นเพียงน้ำทะเลถูกผลักออก ก ทว่ากลับมองไม่เห็นสิ่งที่โจมตีมา
วิธีการการโจมตีสัตว์ทะเลที่ดีที่สุดคือใช้เวทอัคคี ทว่าปัญหาใหญ่ที่สุดคือตอนนี้พวกเขาอยู่ก้นทะเล ไม่ใช่เปลวเพลิงที่ผู้บำเพ็ญเซียนทุกคนควบคุมจะไม่กลัวน้ำ เพียงแต่เปลวเพลิงธร รรมดาหรือเพลิงแท้ต่อให้ไม่ถูกน้ำทะเลรดดับที่นี่ก็จะสูญเสียพลังโจมตีที่มีอยู่เดิม จินเฟยเหยากอดอกยืนมองผู้บำเพ็ญเซียนห้าคนจัดการกับวาฬภูเขาโดดเดี่ยวด้วยดวงตาเย็นชาอยู่ ด้านข้าง
นางและเยี่ยจื่อยืนอยู่เป็นเวลานาน เด่นสะดุดตาอย่างยิ่ง ผู้บำเพ็ญเซียนห้าคนอดด่าทออย่างรุนแรงไม่ได้ “มีคนละโมบคิดจะเอาเปรียบอีกแล้ว เผ่าปิศาจพวกนี้หน้าไม่อายจริงๆ ให้พวกนา างดูจนพอ หลังสังหารวาฬภูเขาโดดเดี่ยวก็กำจัดเผ่าปิศาจสองคนนี้ด้วยเสียเลย!”
จินเฟยเหยากำลังเบิกบานเช่นนี้ ถ้าคนเหล่านี้มาขับไล่พวกนางอย่างนี้ก็ต้องลงมือล่วงหน้า ตอนนี้สิ่งที่นางรอคือโอกาส ขอเพียงโอกาสมาถึงก็จะแย่งชิงวาฬภูเขาโดดเดี่ยว
วาฬภูเขาโดดเดี่ยวเรือนร่างใหญ่โต ผิวหนังดูเรียบลื่นแต่หอกดาบกลับฟันแทงไม่เข้า ของวิเศษจำนวนมากฟันลงบนร่างของมันก็ไร้ประสิทธิภาพโดยสิ้นเชิง โชคดีที่ผู้บำเพ็ญเซียนขั้นกำ ำเนิดใหม่ห้าคนก็มิใช่ชนชั้นอันอ่อนด้อย ความแข็งแกร่งของทั้งสองฝ่ายเท่ากันจึงกินกันไม่ลงอยู่บ้าง
ในเวลานี้เอง คนทั้งห้าพลันสีหน้าแปรเปลี่ยน จินเฟยเหยาก็ขมวดคิ้วเช่นเดียวกัน มีปราณมารสามสายกำลังพุ่งมาที่นี่อย่างรวดเร็ว ดูท่าทางเป้าหมายคือวาฬภูเขาโดดเดี่ยว ในจำนวนนั้นยั งมีคนเผ่ามารขั้นแปลงจิตหนึ่งคน ถ้าให้คนเผ่ามารขั้นแปลงจิตแย่งชิงวาฬภูเขาโดดเดี่ยวไปได้ ตนเองคงไม่ได้ประโยชน์จากมือคนขั้นแปลงจิต
“ผู้อาวุโส มีคนเผ่ามารขั้นแปลงจิตมา” เยี่ยจื่อคิดว่าแค่ชมดูความครึกครื้นก็ทำให้คนรู้สึกแผ่นหลังหนาวเหน็บแล้ว ตอนนี้ยังมีเผ่ามารขั้นแปลงจิตปรากฏตัวขึ้น ดูอย่างไรตอนนี้กล ลุ่มที่อ่อนแอที่สุดคือตนเองกับจินเฟยเหยา
“สงบนิ่ง อย่าลนลาน” สายตาของจินเฟยเหยาตกลงบนร่างของคนเผ่ามนุษย์ทั้งห้า ตอนนี้เหยื่ออยู่ในมือพวกเขา คนที่น่าจะร้อนใจที่สุดคือห้าคนนี้
เห็นคนทั้งห้าเริ่มนำของวิเศษแก่นชีวิตหรือของวิเศษขั้นสุดออกมา ท่าทางคิดจะรีบสังหารวาฬภูเขาโดดเดี่ยว แล้วหลบหนีออกจากที่นี่ทันที พวกเขาฟันวาฬภูเขาโดดเดี่ยวอย่างสุดกำลัง ทำให้มันอาละวาดหนักขึ้นและเห็นว่าถูกสะกดไว้มาตลอดมันจึงใช้ด้วยกระบวนท่าที่เชี่ยวชาญที่สุด
วาฬภูเขาโดดเดี่ยวพลิกตัวในทะเลอย่างรวดเร็ว หนวดข้างปากก็หมุนตาม พลิกตัวเพื่อทำให้เกิดกระแสน้ำวน ทำให้ทุกสิ่งมาข้างกาย บรรดาสิ่งของที่น้ำวนพามาพอโดนหนวดสัมผัสก็ถูกตัดเป ป็นชิ้นๆ ทันที
น้ำวนหมุนวนเร็วขึ้นทุกที แม้แต่จินเฟยเหยาที่ยืนอยู่ห่างไกลยังรู้สึกถึงแรงดูด และยามนี้สามารถมองเห็นเผ่ามารที่ห้อตะบึงมาแล้ว จินเฟยเหยารีบกำชับเยี่ยจื่ออย่างรวดเร็ว “เ เจ้ารีบไป หนีไปทางเมืองไป่เหอ ยิ่งเร็วยิ่งดี ข้าจะไปตามหาเจ้าบนเส้นทางที่พวกเรามาทันที ต้องหนีอย่างสุดกำลังอย่าประหยัดพลังวิญญาณเด็ดขาด”
เยี่ยจื่อนิ่งอึ้ง ไม่รู้ว่าจินเฟยเหยาคิดจะทำอะไร ทว่าก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง ในเมื่อต้องหนีเอาชีวิตรอด คงขี่ปลาหัวอ้วนไม่ได้ นางหมุนตัวและถอดกางเกงใต้กระโปรงออกอย่างร รวดเร็ว
จากนั้นก็เห็นข้างเท้าของนางมีครีบโปร่งใสอันใหญ่ปรากฏขึ้น เห็นเยี่ยจื่อเริ่มแผ่หางปลา คนก็ว่ายออกไปอย่างรวดเร็ว ความเร็วนี้เร็วกว่านั่งปลาหัวอ้วนมากนัก
“เดี๋ยวก่อน!” จินเฟยเหยาพลันนึกเรื่องหนึ่งได้จึงรีบถ่ายทอดเสียงไปตะโกนเรียกนาง
เยี่ยจื่อรีบหยุดว่ายอย่างลนลาน “มีเรื่องอะไร!”
“ส่วนไหนบนร่างของวาฬภูเขาโดดเดี่ยวที่มีมูลค่าที่สุด?”
“หา?” เยี่ยจื่อนิ่งอึ้งไปนิด แล้วเอ่ยตอบทันที “ส่วนหัวมีมูลค่ามากที่สุด เน่ยตานก็อยู่ตรงตำแหน่งนั้น พวกดวงตาก็มีประโยชน์!”
“เอาละ เจ้ารีบไปได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี” จินเฟยเหยารู้สิ่งที่ต้องการแล้วจึงโบกมือไล่นางไป
ส่วนเยี่ยจื่อเข้าใจแล้วว่านางคิดจะแย่งชิงส่วนหนึ่งจากคนเหล่านั้น ต้องล่วงเกินคนพวกนี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องให้นางเอ่ยเตือนตนเองก็หลบหนีอย่างสุดชีวิต ดังนั้นหางปลาบนเท้า าจึงว่ายสุดแรงอย่างไม่คิดชีวิต อยากให้ตนเองออกจากร่องลึกในทะเลแห่งนี้เร็วๆ ใจแทบขาด
เห็นเยี่ยจื่อว่ายไปอย่างรวดเร็ว จินเฟยเหยามองคนเผ่ามารทั้งสามที่เข้ามาใกล้แวบหนึ่ง จากนั้นร่างก็ส่ายไหวหยิบยืมน้ำวนที่วาฬภูเขาโดดเดี่ยวสร้างขึ้นว่ายไปทางวาฬ นางพยายาม ว่ายไปตามทิศทางของกระแสน้ำอย่างสุดกำลัง บางครั้งยังทำท่าทางดิ้นรน พยายามทำให้ตนเองเหมือนถูกดูดไปไม่ใช่เป็นฝ่ายไปเอง
ขนาดขั้นหลอมรวมยังหลบหนี ขั้นกำเนิดใหม่จะถูกน้ำวนดูดมาได้อย่างไร ทว่าผู้บำเพ็ญเซียนเผ่ามนุษย์ทั้งห้ากลับไม่ว่างมายุ่งกับนาง เนื่องจากคนเผ่ามารสามคนเข้ามาใกล้แล้ว เทียบ บกับจินเฟยเหยาคนเดียว เผ่ามารขั้นแปลงจิตที่มีไอสังหารพวยพุ่งอันตรายกว่ามาก
ดวงตาของจินเฟยเหยาก็สังเกตคนเผ่ามารเหล่านั้น เส้นผมสีแดงเพลิงภายใต้การส่องสว่างของมุกกวงหมิง สะดุดตาอย่างน่าประหลาด ปราณมารสีดำบนร่างพลิกตลบเตรียมพร้อมต่อสู้ได้ทุกเมื่ อ
“รีบไสหัวไปแล้วจะเหลือทางรอดให้พวกเจ้าสายหนึ่ง” เผ่ามารที่พุ่งมาไม่เอ่ยวาจาไร้สาระ ตะโกนบอกคนทั้งห้าตรงๆ อย่างหยิ่งผยองทันที
จะปล่อยเหยื่อที่ใกล้จะได้มาไว้ในมือไปได้อย่างไร พวกเขาใช้พลังวิญญาณควบคุมร่างไม่ให้น้ำวนพัดตนเองไปอย่างแน่นหนา จากนั้นสะกดโทสะในใจตอบว่า “นี่คือเหยื่อของพวกเรา ถ้าผู้อาวุ โสต้องการ พวกเราแบ่งส่วนหนึ่งให้ผู้อาวุโสได้”
“แบ่ง? พวกเจ้ามีคุณสมบัติอะไรมาแย่งชิงกับข้า! รีบไสหัวไป ไม่เช่นนั้นจะสังหารพวกเจ้าด้วย” เผ่ามารฝ่ายตรงข้ามอาศัยที่ตนเองเป็นขั้นแปลงจิตจึงไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด
ในเมื่อเจรจาไม่สำเร็จอย่างนั้นก็ไม่ต้องเกรงใจแล้ว ผู้บำเพ็ญเซียนเผ่ามนุษย์ทางฝั่งนี้ด่าทอด้วยโทสะ “ถุย พวกมารร้าย ทุกคนลุยพร้อมกัน! พวกเรามีห้าคน พวกเขามีสามคน ฟันตายคน หนึ่งก็ถือว่าได้กำไร”
เผ่ามนุษย์คนหนึ่งในนั้นตะโกนบอกจินเฟยเหยา “เผ่าปิศาจคนนั้น ทำตามที่เจ้าว่า สังหารเผ่ามารแล้วจะแบ่งวาฬภูเขาโดดเดี่ยวให้เจ้าหนึ่งส่วน!”
จินเฟยเหยาตกตะลึง นี่คือจะฉุดลากข้าลงน้ำดึงดูดการโจมตีของเผ่ามารไปส่วนหนึ่ง!