คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย - บทที่ 384 สัตว์ทะเล
กลับมาจากตรงมังกรปิศาจ นางเตรียมตัวอยู่หลายวันก็เก็บวงเวทวิญญาณสิบสองปิศาจแล้วนำวงเวทสำรองมาวางป้องกันในเรือน จากนั้นพาพั่งจื่อและหวาหวั่นซีออกจากบ้าน
นางนำพวกเขามาถึงนอกเมืองไป่เหอ หาพื้นที่ซึ่งไม่มีคนแห่งหนึ่ง พื้นท้องทะเลรอบพื้นที่นั้นเป็นทรายสีขาวทั้งหมด มีปะการังไม่น้อย ไม่มีสาหร่ายทะเลบดบังวิสัยทัศน์ ดีทุกอย่าง แต่มีป ปัญหาอยู่อย่างเดียว ไม่มีสัตว์เทพและทายาทสัตว์เทพ มีเพียงปลาทะเลไม่กี่ตัวว่ายผ่านมาเป็นบางครั้ง
จินเฟยเหยากางวงเวทวิญญาณสิบสองปิศาจตามตำแหน่งภายในรัศมีหนึ่งพันจั้ง เพื่อกำหนดพื้นที่แน่นอนของตนเองและเพื่อจำกัดการหลบหนีของสัตว์ทะเล คนจำนวนมากต่างกางวงเวทในพื้นที่ จินเฟยเหยาคิดจะจับสัตว์ทะเลให้ได้มากหน่อยจึงต้องกางวงเวทป้องกันสัตว์ทะเลหลบหนีไปยังพื้นที่ของผู้อื่น
พั่งจื่อนั่งอยู่กลางพื้นที่โดยไม่ขยับตัว มองรอบด้านอันเวิ้งว้าง ครุ่นคิดว่าสัตว์ทะเลจะมาจากที่ใด ส่วนหวาหวั่นซีใช้สองมือกอดอก มองจินเฟยเหยายุ่งอยู่กับการทำงาน ในที่สุดก็ ถามอย่างอดรนทนไม่ไหว “พวกเรามาทำอะไรที่นี่? ที่นี่ไม่มีสัตว์ทะเลสักตัว เฝ้าอยู่ที่นี่ก็เปล่าประโยชน์ ใช้แผนสาวงามดีกว่า ข้าจะไปยั่วผู้บำเพ็ญเซียนหลายคนมา ทำให้พวกเขาให้ยืมใช ช้พื้นที่”
จินเฟยเหยากำลังยุ่งอยู่กับการกางวงเวท อยู่ห่างไกลจากนาง ทั้งยังไม่ได้ใช้การถ่ายทอดเสียง จึงได้ยินนางพูดไม่ชัด คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรจึงแสร้งเป็นไม่ได้ยิน แล้วง่ว วนอยู่กับงานของตนเองต่อ
“อ๊บๆ” พั่งจื่อนั่งอยู่ข้างหวาหวั่นซีจึงพูดกับนาง
หวาหวั่นซีมองมันแวบหนึ่งจึงเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ข้าไม่ใช่เสี่ยวหวั่นเสียหน่อย ฟังไม่เข้าใจว่าเจ้าพูดอะไร”
พั่งจื่อเบ้ปากใหญ่ๆ ของมันแล้วค้นป้ายออกมาจากถุงเฉียนคุนบนร่าง คิดจะใช้หมึกวิญญาณเขียนลงบนนั้น ทว่าพอพู่กันวิญญาณปรากฏในน้ำ ของเหลววิญญาณบนนั้นก็ลอยกระจายอยู่ในน้ำ ำทะเล เขียนอะไรบนป้ายไม่ได้เลย
เห็นหมึกวิญญาณที่ลอยกระจายอยู่ในน้ำทะเล หวาหวั่นซีก็เย้ยหยัน “เจ้าโง่ จะเขียนอักษรในน้ำทะเลได้อย่างไร”
พั่งจื่อมองนาง เก็บของกลับเข้าถุงเฉียนคุน จากนั้นเอ่ยเรียบๆ “อ๊บ”
หวาหวั่นซีกลับขมวดคิ้ว ชี้หน้ามันแล้วถามว่า “เมื่อครู่เจ้าหมายความว่าอย่างไร กำลังหัวเราะเยาะข้าใช่หรือไม่!”
“อ๊บ?” พั่งจื่อยักไหล่ แสดงท่าทางว่าเจ้าเข้าใจผิดแล้วออกมา ทั้งยังทำท่าทำทาง ความหมายคือเจ้าฟังไม่เข้าใจมิใช่หรือ ตอนนี้มาว่าผู้อื่นสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร
“เมื่อครู่เจ้าต้องว่าข้าแน่” หวาหวั่นซีชี้หน้าด่าทอพั่งจื่อ ท่าทางเมื่อครู่ของเจ้านี่ต้องกำลังว่าร้ายตนเอง เพียงแต่ฟังภาษากบไม่เข้าใจจึงไม่มีหลักฐาน
“อ๊บ!”
“เจ้าว่าข้าหาเรื่องทะเลาะโดยไร้เหตุผล!”
“อ๊บ...”
“ใครพัวพันเจ้าไม่ยอมปล่อย!”
“อ๊บๆๆ!”
“พอแล้ว พวกเจ้าสองคนทะเลาะกันทำไม!” จินเฟยเหยากางวงเวทเสร็จแล้ว กลับมาก็เห็นหวาหวั่นซีกับพั่งจื่อทะเลาะกันจึงด่าอย่างไม่สบอารมณ์ “เจ้าฟังภาษากบไม่เข้าใจมิใช่หรือ ทำไมยังท ทะเลาะกันได้? เงียบหน่อย เจ้ามีพลังบำเพ็ญเพียรขั้นนี้แล้ว ฟังไม่ออกก็อย่าแต่งเรื่องขึ้นเองสิ”
จากนั้นนางก็ถลึงตาใส่พั่งจื่อ “นางฟังไม่เข้าใจ แต่ข้าฟังเข้าใจ ยอมใจพวกเจ้าสองคนเลย พูดกันคนละภาษาแต่ก็ทะเลาะกันได้”
หลังด่าทอทั้งสองคนอย่างเที่ยงธรรม จินเฟยเหยาก็นำทงเทียนหรูอี้ออกมา “พวกเจ้าสองคนเตรียมตัวให้พร้อม เดี๋ยวจะสังหารสัตว์ทะเล อย่าให้พวกมันหนีรอดไปได้สักตัว”
หลังจากพั่งจื่อได้ยินก็เตรียมพร้อมจะเผชิญหน้า ส่วนหวาหวั่นซีเห็นสองคนนี้ทำราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูร้ายกาจก็รู้สึกงุนงง ได้แต่เริ่มเตรียมตัวต่อสู้เช่นเดียวกัน
ภายใต้ฤทธิ์ของพลังวิญญาณ เล็บบนมือของนางเริ่มงอกยาวอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ลอยอยู่ในน้ำทะเลเหมือนแถบผ้าเล็กๆ อันอ่อนนุ่ม แต่ละเส้นยาวถึงห้าหกจั้ง
หวาหวั่นซีที่เตรียมตัวพร้อมแล้วมองจินเฟยเหยาด้วยสีหน้างุนงง ไม่มีอะไรสักอย่าง หรือว่าจะมาตกกุ้ง?
จินเฟยเหยาหัวเราะหึๆ ให้หวาหวั่นซี จากนั้นล้วงถุงผ้าใบเล็กๆ ขนาดเท่าฝ่ามือออกมาจากถุงเฉียนคุนในอก พอถุงเจอน้ำ สีเหลืองจางๆ ก็ลอยออกมาจากในถุง น้ำสีเหลืองค่อยๆ ผสมในน้ ำทะเลอย่างช้าๆ จินเฟยเหยายังบีบถุงอย่างแรง คิดจะให้สิ่งของด้านในละลายจนหมด
พั่งจื่อที่เดิมทียังนั่งอย่างสงบนิ่งอยู่ด้านข้างนึกอะไรขึ้นได้ รีบตะโกนบอกจินเฟยเหยาทันที “อ๊บๆๆ!”
เห็นพั่งจื่อกรีดมือวาดเท้า หลังจากได้ยินคำพูดของมันชัดเจน จินเฟยเหยาก็โบกไม้โบกมือให้มันอย่างเยือกเย็น “วางใจเถอะ เจ้าไม่เห็นหรือว่าประสาทสัมผัสทั้งห้าของข้ากั้นน้ำทะเลไว ว้ข้างนอก จริงสิ เจ้าก็ใช้ปราณปิศาจกั้นน้ำทะเลไว้ ถ้านิสัยสัตว์ป่ากำเริบ ที่นี่ก็ไม่มีกบตัวอื่น จะให้ข้าช่วยครอบฟองแสงนรกไว้บนหัวหรือไม่?”
“อ๊บ” พั่งจื่อโบกไม้โบกมือ รีบใช้ปราณปิศาจกั้นน้ำทะเลไว้ เกือบจะไม่ระวังหายใจเอาน้ำทะเลผสมผงกระตุ้นกำหนัดเข้าไปแล้ว ถ้าหายใจสิ่งนี้เข้าไปต้องขายหน้าแน่นอน
“พวกเจ้าทำอะไรอยู่ ข้าต้องใช้น้ำทะเลกั้นหรือไม่?” หวาหวั่นซีขมวดคิ้วเอ่ยถามอย่างสงสัย
พั่งจื่อและจินเฟยเหยามองนางในเวลาเดียวกัน หลังจินเฟยเหยาตะลึงงันก็เอ่ยยิ้มๆ ว่า “ไม่ต้องหรอก ตอนนี้เจ้าไม่หายใจแล้ว ถึงหายใจเอาน้ำทะเลที่ปนเปื้อนเข้าไปก็ไม่เป็นไร ถึงอย่างไ ไรเจ้าก็ไม่มีปฏิกิริยา”
“เจ้าใส่อะไรลงไปกันแน่” หวาหวั่นซีเอ่ยถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ผงกระตุ้นกำหนัดที่ใช้กับพวกสัตว์ทะเล สามารถดึงดูดพวกมันมาที่นี่ได้ ดังนั้นถึงพื้นที่ที่ยึดครองไม่มีสัตว์ทะเลใดๆ ขอเพียงนำสิ่งนี้ออกมา ทั้งเพศผู้เพศเมียก็จะมากันเป็นโขย ยง พวกเราแค่รอร่ำรวย” จินเฟยเหยาหัวเราะหึๆ
หวาหวั่นซีมองนางแบบใบ้กิน คิดไม่ถึงว่าจะมีของแบบนี้ บรรดาสัตว์ปิศาจต้องติดกับแน่ ทันใดนั้น นางพลันตระหนักได้ถึงปัญหาหนึ่ง “สิ่งนี้มีผลกับเผ่าปิศาจหรือไม่?”
“…” จินเฟยเหยาตะลึงงัน ลูบใบหน้าแล้วเบือนหน้าไป ดวงตามองสถานที่อื่นพลางเอ่ยว่า “ข้าคิดว่าน่าจะไม่ได้ผลนะ”
“ถ้าไม่ได้ผล ทำไมเจ้าต้องกั้นน้ำทะเลด้วย ตัวเจ้าเองก็กลัวสินะ” หวาหวั่นซีเอ่ยต่อโดยไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไป
“เป็นอย่างนั้นที่ไหน ข้าแค่รู้สึกว่าน้ำทะเลสกปรกเกินไป ถ้าดื่มเข้าไปโดยไม่ระวังจะมวนท้อง” จินเฟยเหยาตอบอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่มีอะไรหรอก ต้องไม่มีอะไรแน่ ข้าใช้ปริมาณนิดเดียว เผ่ าปิศาจทุกคนมีพลังบำเพ็ญเพียร น่าจะไม่ได้รับผลกระทบ”
หวาหวั่นซียังคิดจะพูดอะไรอีก จินเฟยเหยาจึงด่าทออย่างหมดความอดทน “หนวกหูแทบตายแล้ว! เจ้าไม่ใช่เผ่าปิศาจเสียหน่อย จะเป็นห่วงเรื่องนี้ไปทำไม มีเวลาว่างก็รีบเตรียมตัวให้พร้อม สั ตว์ทะเลใกล้จะมาแล้ว”
“ข้ากลัวว่าจะมีเผ่าปิศาจที่มีพลังบำเพ็ญเพียรสูงกว่าเจ้าผ่านมา จากนั้นนิสัยสัตว์ป่ากำเริบพุ่งมา ที่นี่มีพวกเราสามคน มีเพียงเจ้าที่เป็นเป้าหมายได้คนเดียว” หวาหวั่นซีลูบเส้นผมท ที่ลอยอยู่ในน้ำ เอ่ยวาจาอย่างเย็นชา
“เจ้าน่าจะเชื่อว่าผู้บำเพ็ญเซียนยังมีการควบคุมตนเองเรื่องนี้อยู่ อีกทั้งข้านำวงเวทวิญญาณสิบสองปิศาจมาด้วย ถ้ามีคนพุ่งมาจริงก็สามารถกันไว้ด้านนอกได้ จินเฟยเหยาเอ่ยอย่าง สงบนิ่ง
เห็นท่าทางของนาง หวาหวั่นซีจึงแน่ใจว่านางจงใจ อย่าเห็นว่านางทำสีหน้าใสซื่อ ที่จริงอยากจะให้เผ่าปิศาจมีผลกระทบใจแทบขาด คิดจะชมดูเรื่องสนุกล้วนๆ พั่งจื่อที่มีสีหน้าโง่งมทาง งด้านข้างก็คิดเช่นนี้ เจ้าสองคนนี้ชั่วร้ายจริงๆ
ไม่รู้ว่าเผ่าปิศาจอะไรจะโชคร้ายขนาดนี้ ถึงอย่างไรพวกเขาก็เฝ้ารอให้สัตว์ทะเลมาอยู่ในวงเวทวิญญาณสิบสองปิศาจ รออยู่ครู่หนึ่งก็ยังไม่มีสัตว์ทะเลมาสักตัว จินเฟยเหยาเอ่ยอย่าง สงสัย “หรือว่าปริมาณยาไม่เพียงพอ? ข้านำออกมาอีกถุงก็ได้”
เนื่องจากที่นี่ไม่เหมือนบนบก ถ้านำยาปลุกกำหนัดถุงใหญ่ออกมาโดยตรงก็จะละลายในน้ำทะเลหมด ปริมาณยามากเกินไปหรือน้อยเกินไปก็ไม่ดีทั้งนั้น ดังนั้นนางจึงแบ่งผงยาปลุกกำหนัดเป็น ส่วนเล็กๆ และใช้ถุงผ้าธรรมดาบรรจุที่บ้าน ถ้าถุงเดียวไม่พอก็นำมาอีกถุงได้
ลูบคลำถุงเฉียนคุนในอก สิ่งนี้กันน้ำได้ แช่ในน้ำทะเลได้โดยไม่ต้องกลัว จินเฟยเหยาครุ่นคิดแล้วนำออกมาอีกถุง บางทีสัตว์ทะเลทางฝั่งนี้อาจจะแตกต่างกับทางฝั่งนั้น ถ้าไม่ใช้ปริม มาณมากก็จะไม่ออกมา ตอนนั้นเรือศิลาทะเลใช้หนึ่งถุงใหญ่
ในเวลานี้เอง หวาหวั่นซีชี้ไปยังที่ไกลๆ แล้วเอ่ยว่า “รีบดูเร็ว นั่นคืออะไร!”
จินเฟยเหยารีบเงยหน้าขึ้นมอง เห็นแถบสีดำแน่นขนัดปรากฏขึ้นไกลๆ กำลังว่ายมาทางพวกเขาอย่างรวดเร็ว
“ล่อสัตว์ทะเลมามากมายขนาดนี้ หรือว่าแม้แต่เจ้าตัวใหญ่ในร่องทะเลลึกนอกพันหลี่ก็เรียกมาด้วย?” นางรู้สึกว่าเกินจริงไปหน่อย เหตุใดจึงมีตัวใหญ่ขนาดนี้ ตัวใหญ่กว่าวาฬภูเขา โดดเดี่ยวอีก
รอจนเงาดำว่ายเข้ามาใกล้ จินเฟยเหยาจึงมองเห็นชัดเจน ที่แท้เป็นฝูงสัตว์ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของสัตว์ทะเลนานาชนิด มีถึงสองสามร้อยตัวเต็มๆ เนื่องจากร่างกายมีขนาดแตกต่างก กัน ดังนั้นจึงแลดูมหึมา อีกทั้งสัตว์ทะเลในนั้นยังมีสัตว์เทพปะปนอยู่ไม่น้อย
“รีบเตรียมตัว!” นางคำรามลั่น ถ่ายเทการรับรู้เข้าสู่วงเวทวิญญาณสิบสองปิศาจทันที พั่งจื่อและหวาหวั่นซีก็คิดไม่ถึงว่าจะมีสัตว์ทะเลมามากขนาดนี้จึงตกตะลึงและเตรียมตัวต่อสู้โดยพลั น
เสียงดังวิ้งๆ บรรดาสัตว์ทะเลพุ่งเข้ามาในวงเวทวิญญาณสิบสองปิศาจอย่างบ้าคลั่ง ในวงเวทปรากฏภาพมายาทันที เบื้องหน้าบรรดาสัตว์ทะเลปรากฏเพศตรงข้ามที่คิดไว้ในใจเป็นจำนวนมาก สิ่ งที่เพศผู้เห็นคือสัตว์เพศเมียที่รอให้มันแสดงความรักอยู่เต็มไปหมด ส่วนสิ่งที่ในดวงตาสัตว์เพศเมียมองเห็นคือสัตว์เพศผู้อันแข็งแกร่ง ภายในวงเวทจึงคึกคักขึ้นชั่วขณะ
“พวกเจ้าสองคนรีบลงมือ ขอเพียงทั้งหมดเข้าสู่วงเวท ข้าก็จะปิดวงเวท” สัตว์ทะเลเข้ามาครั้งหนึ่งมากมายจริงๆ จินเฟยเหยาพยายามควบคุมวงเวทวิญญาณสิบสองปิศาจอย่างสุดกำลัง ให้พั่ง งจื่อและหวาหวั่นซีรีบลงมือ
เนื่องจากที่นี่ไม่มีสัตว์ทะเลระดับขั้นสูงๆ ตัวที่มาทั้งหมดคือสัตว์ทะเลขั้นห้าขั้นหก พั่งจื่อยังต้องใช้เวลาสังหารอยู่บ้าง ทว่าหวาหวั่นซีแตกต่างออกไป นางเป็นขั้นกำเนิดใหม่ ช่วงปลาย จัดการกับพวกสัตว์ทะเลที่กำลังจมอยู่ในภาพมายาการจับคู่ผสมพันธุ์ได้ง่ายดายราวกับหั่นผัก เห็นนางร่ายรำนิ้วทั้งสิบ เล็บที่หลอมสร้างขึ้นจากเล็บมังกรปิศาจขยับในทะเ เลอย่างว่องไว
เล็บยาวห้าหกจั้งสิบสายผ่านตรงที่ใดก็ปรากฏสีแดงเข้มเป็นแถบๆ สัตว์ทะเลที่กำลังมีความสุขก็ถูกนางหั่นเป็นชิ้นๆ
“หวาหวั่นซี! เจ้าทำอะไรน่ะ ฆ่าแบบนี้จะขายหาเงินได้อย่างไร หนังก็แลกเงินได้ ตอนโจมตีเจ้าช้าๆ หน่อยได้หรือไม่ แยกส่วนซากเป็นชิ้นๆ แล้ว!” พอจินเฟยเหยาเห็นก็ด่าทออย่างไม่สบอา ารมณ์
“พลั้งมือไปชั่วขณะ ข้าจะระวัง” หวาหวั่นซีเอ่ยอย่างไม่จริงใจเลยสักนิด ลดพลังในมือลง ไม่แสดงความสามารถของตนเองอีก เล็บพวกนี้โจมตีตรงจุดตายอย่างหนักแน่น แม่นยำ และอำมหิตโดย ไม่มีการร่ายรำให้คนตาลาย เห็นสัตว์ทะเลตายไปทีละตัวและแทบจะมองไม่เห็นบาดแผลบนร่าง
เห็นในที่สุดนางก็ทำงานอย่างจริงใจ จินเฟยเหยาจึงโล่งอก “ใกล้จะได้แล้ว ไม่มีเรื่องอะไรจะแสดงความสามารถทำไม!”