คนใสซื่ออย่างข้ามีเมตตาจะตาย - บทที่ 394 คนนับแสน
เนื่องจากจินเฟยเหยาใช้ผงกระตุ้นกำหนัด ในที่สุดก็ทำให้ผู้บำเพ็ญเซียนคนอื่นๆ เดือดดาล พวกเขาไปหาราชันสุ่ยจวิน เนื่องจากตอนนี้ทั้งสามเผ่าไม่ถูกกัน คนของเผ่ามารและเผ่ามนุษย์จ จึงไม่มาชั่วคราว วุ่นวายอยู่นานราชันสุ่ยจวินจึงฟังคำพูดของพวกเขาจบ ที่แท้ต้องการห้ามจินเฟยเหยาใช้ผงกระตุ้นกำหนัดในพื้นที่พันหลี่หรือให้ใช้ผงกระตุ้นกำหนัดด้วยกัน
ความหมายของพวกเขาคือใช้ผงกระตุ้นกำหนัดข้างร่องทะเลลึก ดึงดูดสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ขั้นแปดมา ให้ทุกคนร่วมมือกันโจมตีสังหาร จากนั้นแบ่งเหยื่อทั้งหมดให้ทุกคนเท่าๆ กัน เนื่องจากจิ นเฟยเหยาเป็นคนออกผงกระตุ้นกำหนัด ดังนั้นสามารถได้ส่วนแบ่งเพิ่มหนึ่งส่วน
พอราชันสุ่ยจวินได้ฟัง นี่เป็นเรื่องดี แต่กลับเรียกร้องให้ตนเองได้ส่วนแบ่งไปครึ่งหนึ่งก่อน ส่วนที่เหลือจึงให้พวกเขาแบ่งกันเอง ทุกคนจนปัญญา ถ้าราชันสุ่ยจวินไม่ได้ประโยชน์ ก็บี บให้จินเฟยเหยามอบผงกระตุ้นกำหนัดออกมาไม่ได้ จึงได้แต่ตกลง
จินเฟยเหยายังไม่ได้ถูกเรียกตัวมา เรื่องนี้ก็เผยแพร่ออกไปแล้ว นางไม่รู้จะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เจ้าตัวยังไม่ได้พูด ทั้งเมืองก็ตื่นเต้นกันยกใหญ่แล้ว เผ่ามนุษย์และเผ่ามารนั งไม่ติด พอใช้วิธีนี้คนอื่นๆ ก็ไม่มีทางล่าสัตว์ทะเลได้
ดังนั้นหัวหน้าเผ่ามารและเผ่ามนุษย์ในเมืองไป่เหอจึงไปหาราชันสุ่ยจวินด้วยกัน เจรจากันอยู่นานยิ่งเจรจาก็ยิ่งตึงเครียด สุดท้ายเกือบจะต่อสู้กันขึ้นมา คนเผ่ามารและเผ่ามนุษย์ สองเผ่าถูกกันไว้นอกแผนการนี้ เผ่าปิศาจแต่ละคนยินดีอย่างยิ่ง ขนาดเผ่าพิภพที่อยู่ข้างบ้านก็วิ่งมาเอ่ยขอบคุณอย่างมีความสุขที่บ้านจินเฟยเหยา
แม้แต่เยี่ยจื่อก็รุดมา เอ่ยขอบคุณจินเฟยเหยาด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ตอนนี้จึงรู้ว่าเหตุใดผู้อาวุโสจินจึงล่าสัตว์ส่งมามากมายขนาดนั้น ร้านเล็กๆ ของนางเป็นร้านขึ้นชื่อบนถนนสาหร่ ายแล้ว
จินเฟยเหยารอให้ราชันสุ่ยจวินส่งคนมาหานาง ไม่พูดกับตนเองสักหน่อยก็ตัดสินใจเองแบบนี้ไม่ได้ สิ่งของเป็นของตนเอง รออยู่หลายวัน ในที่สุดราชันสุ่ยจวินจึงนึกถึงต้นเรื่องขึ้นไ ได้จึงส่งคนไปเรียกนางมา
จินเฟยเหยานั่งอยู่บนพื้นเบื้องหน้าราชันสุ่ยจวินโดยไม่ส่งเสียงสักนิดและมีสีหน้าไม่พอใจ
“ได้ยินว่าเจ้ามีสิ่งที่สามารถเรียกสัตว์ทะเลมาได้ ข้าจะไม่ปล้นชิงของเจ้า ยืมเอามาใช้หน่อย” ราชันสุ่ยจวินพูดตรงๆ รู้สึกว่าตนเองไม่พูดว่าจะเอาตรงๆ คือไว้หน้านางแล้ว
จินเฟยเหยาทำปากยื่นเอ่ยว่า “ท่านก็รู้แต่แรกแล้วนี่ ถ้าไม่มีวิธี ข้าจะส่งมอบสิ่งที่ท่านเรียกร้องได้อย่างไร ตัวข้าเองเหลือไม่มากแล้ว ถ้านำออกมาใช้หมด ต่อไปข้าใช้หนี้ท่าน ไม่ได้จะทำอย่างไร”
“พูดจาไร้สาระมากขนาดนี้ทำไม นำออกมาใช้ก่อน มีอะไรต้องเป็นห่วง” ราชันสุ่ยจวินไม่ฟังคำพูดคนอื่นจนชินแล้ว จึงเอ่ยปากตามความเคยชิน
“ไม่ได้ ท่านต้องยกหนี้ให้ข้า ไม่เช่นนั้นถ้าต่อไปไม่มีผงนี้ ข้าจะไปล่าสัตว์ใช้หนี้ได้อย่างไร ถึงอย่างไรข้าก็ซ่อนของไว้แล้ว ท่านตีข้าให้ตายก็หาไม่เจอ” จินเฟยเหยาตัดสินใจ เด็ดขาด ถ้าไม่ยกหนี้ให้จะไม่ตกลง
“เจ้ายังเหลืออีกเท่าใด?” ในที่สุดราชันสุ่ยจวินก็เอ่ยถามอย่างอดกลั้น
เรื่องนี้จินเฟยเหยาคำนวณไว้ก่อนมาแล้ว จึงเบ้ปากเอ่ยว่า “ถ้าพวกท่านจะไปดึงดูดสัตว์ทะเลในร่องทะเลลึก อย่างมากใช้ได้แค่สิบครั้ง เนื่องจากปริมาณที่ใช้ต้องเพิ่มสิบกว่าเท่า”
“แค่สิบกว่าครั้งเจ้าก็คิดจะให้ยกหนี้?” ราชันสุ่ยจวินเอ่ยอย่างไม่พอใจ
จินเฟยเหยาเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ขอเพียงล่าครั้งหนึ่ง ท่านก็จะรู้ว่าส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งที่ได้ไปมากเพียงใด เผ่าปิศาจมากมายขนาดนี้ ส่วนแบ่งที่แต่ละคนได้ก็แค่เล็กน้อย อีกทั้งข้า ามีข้อเรียกร้อง ข้าขอแค่เน่ยตาน ส่วนอื่นๆ ข้าไม่ต้องการ”
“เจ้าจะกินเน่ยตานเลื่อนขั้น? ใช้ยามังกรคำรามไม่ดีกว่าหรือ” ราชันสุ่ยจวินเข้าใจเจตนาของนาง กลับไม่รู้ว่าสิ่งที่นางต้องการคือตานศักดิ์สิทธิ์
“เน่ยตานถูกกว่า กินยามังกรคำรามแล้วไม่คุ้ม” จินเฟยเหยามีคำอธิบายของตนเอง เผ่าปิศาจในอดีตล้วนดูดซับเน่ยตาน ทว่าตอนนี้ใช้ยามังกรคำรามเพิ่มพลังบำเพ็ญเพียรมากกว่าเน่ยตาน อ อีกทั้งในตำรับยามังกรคำราม มีเพียงขั้นหนึ่งถึงขั้นสามที่แย่ที่สุดจะใช้เน่ยตานมาหลอมสร้าง ส่วนในตำรับยาระดับสูงไม่ใช้เน่ยตาน กลายเป็นว่าราคาของเน่ยตานถูกกว่านิดหน่อย
ราชันสุ่ยจวินครุ่นคิด ในที่สุดก็ตกลง แต่กลับมีเงื่อนไขก่อน “ถ้าครั้งหนึ่งล่าสัตว์ทะเลได้ไม่ถึงหมื่นตัวก็ยกหนี้ให้เจ้าไม่ได้”
“แบบนั้นข้าก็ขาดทุนสิ ถ้าสัตว์ทะเลทุกตัวที่มาเป็นขั้นแปด แค่ร้อยตัวก็เท่ากับขั้นห้าขั้นหกนับหมื่นตัวแล้ว ท่านคิดบัญชีแบบนี้ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องจ่ายสินะ!” จินเฟยเห หยาทำปากยื่นอย่างไม่พอใจ ไม่กล้าตะโกนเสียงดัง แต่ยังกล้าเอ่ยคัดค้าน
“ไม่สน เรื่องนี้ตกลงตามนี้ เจ้าตกลงก็ตกลง ไม่ตกลงก็ต้องตกลง ออกไปได้ อีกเจ็ดวันเตรียมตัวทดลองครั้งหนึ่ง” ราชันสุ่ยจวินโบกมือ ไม่สนใจคำคัดค้านของจินเฟยเหยา เรื่องนี้ก็ถ ถูกกำหนดไว้แบบนี้
เห็นเจรจาไม่สำเร็จ จินเฟยเหยาก็ชี้ปลาหลิวที่อยู่ด้านข้างตัวนี้ “ราชัน เก็บปลาตัวนี้ได้หรือไม่?”
“ไม่ได้ สิบครั้งก่อนค่อยว่ากัน ถ้าเจ้าหนีไปกลางคัน ข้าจะอธิบายเผ่าปิศาจพวกนั้นว่าอย่างไร” ราชันสุ่ยจวินส่ายศีรษะเอ่ยปฏิเสธ
จินเฟยเหยากัดฟันอย่างแค้นเคือง ไม่เคยฟังคำพูดของคนอื่น ยังมีหน้ามาบอกว่าจะอธิบายกับคนอื่นอย่างไร เจ้าเคยอธิบายกับใครบ้าง คอยดูเถอะ พวกเจ้าต้องเสียใจภายหลัง! จินเฟยเหยาแอบ บด่าทอประโยคหนึ่ง ก็อำลาออกจากที่พักของราชันสุ่ยจวิน
กลับถึงบ้านนางก็บอกเรื่องในวันนี้กับหวาหวั่นซีและพั่งจื่อ
หวาหวั่นซีขมวดคิ้วเอ่ยว่า “สุดท้ายราชันสุ่ยจวินจะไม่ยกหนี้ให้พวกเราหรือไม่ อีกทั้งรับใช้เผ่าปิศาจแบบนี้ความสูญเสียมากเกินไป พวกเราได้เพิ่มมาแค่ส่วนเดียว แบบนี้ไม่คุ้มเลยสัก กนิด”
“ข้าเคยคิดแล้ว ถ้าจะสร้างศัตรู มิสู้ให้พวกเขาสังหารให้เพียงพอ สังหารเสร็จสิบครั้ง พวกเขาต้องเสียใจภายหลังแน่” จินเฟยเหยายิ้มแย้มอย่างอารมณ์ดี พวกเขาดูแคลนฤทธิ์ผงกระตุ้นกำหน นัด จึงเหลือไว้ถุงเดียวแล้วนำออกมาใช้ทั้งหมด ถึงได้ส่วนแบ่งหนึ่งส่วนก็ต้องทำเงินให้ได้ก้อนใหญ่
“เหลือเพียงถุงเดียว มือเติบยิ่งนัก เดิมทีเหลือไม่มากแล้วมิใช่หรือ” หวาหวั่นซีเอ่ยยิ้มๆ
เอ่ยถึงเรื่องนี้แล้วจินเฟยเหยาก็หงุดหงิดเอ่ยอย่างอารมณ์ไม่ดี “ก็จอมมารหลงนั่นแหละ หากมิใช่เขาชิงไปครึ่งหนึ่ง ข้ายังเหลืออีกมาก แต่ไม่เป็นไร รอจนมีเวลาว่างข้าจะกลับไปเมือง งวั่นเซียนสุ่ยแอบขโมยมาสักหลายถุง ขนาดจอมมารหลงข้าก็ไม่บอกว่าได้ของสิ่งนี้มาจากที่ใด เมืองวั่นเซียนสุ่ยเพียงแอบใช้ ไม่กล้าเปิดเผยออกไป”
“เอามาใหม่ได้เป็นดีที่สุด ของสิ่งนี้ใช้ได้ดีอย่างยิ่ง แต่ครั้งหน้าทางที่ดีพวกเราหาสถานที่ซึ่งมีสัตว์ปิศาจเยอะๆ และไม่มีคนใช้ดีกว่า แบบนี้จะได้ไม่ถูกคนอื่นเห็น และไม่ทำให้คน นอื่นริษยาด้วย” หวาหวั่นซีพยักหน้าเอ่ยวาจา
“แน่นอน แต่ต่อไปจะได้ใช้หรือไม่ยังเป็นปัญหา” จินเฟยเหยาหัวเราะหึๆ อย่างชั่วร้าย
หวาหวั่นซีจ้องมองนาง รู้ว่ายายนี่คิดแผนร้ายอะไรได้อีกแล้ว “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
จินเฟยเหยาแสร้งส่ายศีรษะอย่างลึกลับ “ถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง”
เห็นนางยังดึงดันแสร้งทำท่าลึกลับ หวาหวั่นซีก็ถามไม่ได้ความ จึงไม่ถามแล้วรอดูว่าต่อไปจะเกิดเรื่องอะไร
เดิมทีคิดจะพาพั่งจื่อไป แต่นึกถึงว่าสัตว์ภูติไม่ได้ส่วนแบ่งหนึ่งส่วน อีกทั้งเผ่าปิศาจในเมืองก็ออกไปทั้งหมด ถ้าคนเผ่ามนุษย์และเผ่ามารหมายตาเนื้อแห้งมังกรปิศาจจะทำอย่างไร ดังนั้นจินเฟยเหยาจึงทิ้งพั่งจื่อไว้ ให้มันจับตาดูมุกเปลือย ถ้าเห็นมีคนคิดจะเล่นลูกไม้ให้ใช้ยันต์ถ่ายทอดเสียงแจ้งตนเองทันที
พั่งจื่อมีความสุขที่ไม่ต้องออกไปทำงาน จึงตอบรับอย่างยินดี
เจ็ดวันให้หลัง จินเฟยเหยาก็เตรียมทุกอย่างพรักพร้อมและพาหวาหวั่นซีออกไป เพิ่งออกจากบ้านก็เห็นเผ่าปิศาจจำนวนมากข้างนอกกำลังรอคอยตนเองอยู่ ทะเลมนุษย์ทั้งหมดจับจ้องนางเหมือน พยัคฆ์จับจ้องเหยื่อ ส่วนเผ่าพิภพข้างบ้านก็ออกมาทั้งครอบครัว แม้แต่ขุนนางชราใกล้ตายก็พามาด้วย
ครั้งนี้ได้รับส่วนแบ่งเหยื่อตามพลังบำเพ็ญเพียร ขอเพียงไปก็จะได้ส่วนหนึ่ง แม้แต่ขั้นฝึกปราณก็มา จินเฟยเหยาเห็นขั้นฝึกปราณพวกนี้ก็ได้แต่ส่ายศีรษะ ไม่กลัวถูกพลั้งมือสังหาร รบ้าง คิดจะมาแบ่งของก็มา
จากนั้นนางก็มองปิศาจทั้งหมดแล้วเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “พวกเจ้าคงไม่ได้กลัวข้าหนีไปหรอกนะ?”
“จะเป็นไปได้อย่างไร พวกเรามารับท่านโดยเฉพาะต่างหาก ราชันสุ่ยจวินเลือกสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดแล้ว พวกเราเกรงว่าท่านจะไม่รู้จักทาง” คนเผ่าปิศาจขั้นกำเนิดใหม่ที่ยืนอยู่ด้านหน้ าสุดของฝูงชนซึ่งเคยพบที่บ้านราชันสุ่ยจวินหลายครั้ง เอ่ยวาจา
ครั้งนี้เขามาเก็บเหยื่อที่ล่าได้ครึ่งหนึ่ง อีกทั้งยังพาเผ่าปิศาจขั้นแปลงจิตมาหลายคน พวกเขาไม่เห็นค่าเหยื่อเล็กๆ น้อยๆ นี้เพียงแต่ราชันสุ่ยจวินเกรงว่าพวกจินเฟยเหยาจะสยบ สัตว์ทะเลขั้นแปดไม่ได้ ดังนั้นจึงส่งพวกเขามาช่วยเหลือ
“ในเมื่อทุกคนเตรียมตัวพร้อมแล้ว เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ” จินเฟยเหยาเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
ดังนั้นคนกลุ่มนี้จึงออกจากเมืองไป่เหออย่างยิ่งใหญ่เกรียงไกร เมืองไป่เหออันคึกคักเงียบเชียบลงในพริบตา เหลือเพียงผู้บำเพ็ญเซียนเผ่ามารและเผ่ามนุษย์จำนวนน้อย มองคนกลุ่มนี ด้วยสีหน้าอึมครึม เมืองว่างแล้ว ราชันสุ่ยจวินกลับมิได้ใช้ชีวิตอย่างเสียเปล่า ในเมืองที่ว่างเปล่าไม่รู้ว่ามีเผ่าปิศาจขั้นกำเนิดใหม่หลายสิบคนเพิ่มมาตั้งแต่เมื่อใด พวกเขาเหย ยียบของวิเศษเหาะเหินอยู่กลางอากาศหรือยืนอย่างสูงส่งเงียบๆ บนหลังคาบ้านทำการระแวดระวังภัย
จินเฟยเหยาเห็นที่นี่ก็หมดวาจาโดยสิ้นเชิง ที่นี่อยู่ไม่ห่างจากร่องทะเลลึก กลิ่นของผงกระตุ้นกำหนัดสามารถถ่ายทอดไปได้ อีกทั้งยังอยู่ใกล้กลุ่มสัตว์ทะเลในพื้นที่พันหลี่ ภูม มิประเทศยังเป็นที่ราบ วิสัยทัศน์เปิดกว้าง เผ่าปิศาจเกือบหนึ่งแสนคนยืนสังหารสัตว์ทะเลด้วยกันได้อย่างเพียงพอ
เดิมทีตรงประตูมีเผ่าปิศาจมารอนางเรือนหมื่น นางยังรู้สึกว่าคนมากไป ทว่าตอนนี้พอมองดูก็ตกใจ คนที่เบียดเสียดกันแน่นขนัดทั้งหมดคือเผ่าปิศาจ มีหมดทั้งเด็กคนชราบุรุษสตรี มีตั งแต่พลังบำเพ็ญเพียรขั้นกำเนิดใหม่ไปจนถึงขั้นฝึกปราณ ยังมีขั้นแปลงจิตจำนวนมากยืนอยู่ในสถานที่ซึ่งมีคนน้อยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง
จินเฟยเหยาและหวาหวั่นซีสบตากันแวบหนึ่ง ท่าทางแบบนี้ต่อให้สัตว์ปิศาจขั้นเก้ามาก็ต้องถูกสังหารในเสี้ยววินาที คนมากมายขนาดนี้ ถ้าสัตว์ปิศาจมาไม่เพียงพอ อย่าว่าแต่แบ่งเนื้อ ขนาดแบ่งน้ำแกงเนื้อก็ยังไม่ได้
“ต้องกางวงเวทอะไรหรือไม่ ไม่เช่นนั้นถ้าสัตว์ทะเลหนีไปจะทำอย่างไร” จินเฟยเหยาฝืนใจถามคนของราชันสุ่ยจวินที่อยู่ด้านข้าง
“ท่านไม่ต้องกังวล กางวงเวทเสร็จนานแล้ว” เขายิ้ม จากนั้นไม่รู้ว่าถ่ายทอดเสียงหาใคร ได้ยินเสียงดังวิ้งๆ เหนือศีรษะปรากฏม่านแสงขนาดยักษ์ในพริบตา
จากนั้นเขาเอ่ยว่า “วงเวทนี้สามารถกันน้ำทะเลออกไปได้ สัตว์ทะเลที่อยู่ด้านนอกจะเห็นด้านในเป็นน้ำทะเลผืนหนึ่ง ตอนนี้รอแต่ท่านเท่านั้น”
เห็นวงเวทนี้มีขนาดใหญ่เท่าเมืองแห่งหนึ่ง จินเฟยเหยาก็ได้แต่ถอนใจว่ามือเติบจริงๆ
“ได้” จินเฟยเหยาบอกใบ้ทุกคนรวมทั้งเผ่าปิศาจทะเลที่อยู่ด้านในว่าต้องใช้พลังปิศาจกั้นน้ำทะเลไว้ ไม่ให้สัมผัสทั้งห้าของตนเองสัมผัสน้ำทะเล
จากนั้นจินเฟยเหยานำถุงผงกระตุ้นกำหนัดขนาดครึ่งตัวคนออกมาจากถุงเฉียนคุน ผงกระตุ้นกำหนัดโดนน้ำทะเลก็ละลายและทะลักออกมาราวกับพ่นควันสีเหลือง